แดนนิรมิตเทพ บทที่ 427
ในใจซุนเฟยเยว่โกรธเคืองมาก ยังเป็นครั้งแรกที่มีคนกล้าอวดดีแบบนี้ต่อหน้าเขา!

โดยเฉพาะอย่างยิ่งประโยคนั้นที่ว่า “ความสูญเสียที่หอเซียงหม่านประสบในช่วงหยุดกิจการจัดการให้เป็นระเบียบก็จะไม่ถือสากับคุณแล้ว”ของหลี่ซู่เฟิน ยิ่งทำให้ซุนเฟยเยว่ซึ่งอยู่ในตำแหน่งที่สูงมาเป็นเวลานานรู้สึกอับอาย

หากว่าเปลี่ยนเป็นคนธรรมดาคนหนึ่ง เขาคงจะโกรธเป็นฟืนเป็นไฟตั้งนานแล้ว กระทั่งว่าไล่คนออกไปโดยตรงแล้ว

แต่หลี่ซู่เฟินไม่ใช่คนธรรมดา ไม่ว่าความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจหรือความสัมพันธ์ของเส้นสาย ก็ใหญ่โตมากกว่าเขารองผู้อำนวยการคนนี้ด้วย

ถ้าไม่ใช่เพราะของขวัญมูลค่าสูงจากว่านฉางหรู ซุนเฟยเยว่จะไม่มีวันหาคู่ต่อสู้ที่ยากจะรับมือคนหนึ่งแบบนี้ให้ตัวเองอย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตามแม้ว่าหลี่ซู่เฟินจะพูดฉอดๆ ซุนเฟยเยว่ก็ไม่ได้ตื่นตระหนก การพัฒนาของเรื่องราวยังคงอยู่ท่ามกลางการคาดการณ์ของเขา และก็อยู่ภายใต้การควบคุมของเขาด้วยเช่นกัน

ซุนเฟยเยว่หัวเราะหึหึแล้วพูดว่า “ประธานหลี่ล้อเล่นแล้ว แม้ว่าส่วนผสมอาหารที่หอเซียงหม่านเปิดตัวเหล่านั้นจะได้รับการตรวจสอบโดยแพทย์มืออาชีพ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าส่วนผสมอาหารจะไม่มีปัญหา อย่างไรแพทย์ก็ใช่ว่าจะทำทุกสิ่งทุกอย่างได้หมด”

“ต้องการจะดำเนินกิจการต่อไป จะต้องรอจนกว่าผลของการตรวจสอบของพวกเราออกมา อย่างไรพวกเราก็เป็นตัวแทนของอำนาจ หากว่าส่วนผสมอาหารของพวกคุณมั่นใจว่าไม่เป็นไร งั้นก็สามารถดำเนินกิจการได้ต่อไปเป็นธรรมดา”

“ผมคิดว่าประธานหลี่ก็ต้องหวังว่าส่วนผสมอาหารของพวกคุณผ่านทางการที่มีกลไกการตรวจสอบของอำนาจที่สูงที่สุดเป็นแน่ ถูกต้องสินะ?”

หลี่ซู่เฟินและเวินฉิงจิตใจหม่นหมองลง ผลลัพธ์ที่เลวร้ายที่สุดก็ปรากฏออกมาแล้ว คุณซุนคนนี้รับมือได้ยากจริงๆ และเขาก็เตรียมพร้อมใช้การดึงเวลาซะแล้ว

“ได้ แต่ว่าคุณซุนจำต้องให้กำหนดเวลาที่แน่นอนแก่ฉัน หากว่าในหนึ่งปีพวกคุณตรวจสอบออกมาไม่ได้ งั้นความเสียหายของหอเซียงหม่านในเครือของฉันใครจะมารับผิดชอบ?”

นี่เป็นมาตรการตอบโต้ครั้งสุดท้ายของหลี่ซู่เฟิน ต้องการกำหนดเวลาหนึ่งที่แน่นอน เมื่อเจ้าหน้าที่ทางการดึงเวลา นอกจากว่าจะมีผู้นำระดับสูงกดดันลงมา ไม่งั้นก็ไม่มีใครที่จะสามารถแก้ไขได้

รัฐบาลเกียจคร้าน ล้วนเป็นพฤติกรรมที่ทั้งประชาชนและทางการเกลียดชังร่วมกันมาโดยตลอด และก็เป็นพฤติกรรมที่เอือมระอาที่สุดด้วย

ซุนเฟยเยว่หัวเราะหึหึ “ท่านประธานหลี่ อันนี้ผมไม่กล้ารับประกันกับคุณ หากว่ากาตรวจสอบเร็ว บางทีผลอาจจะออกมาในวันพรุ่งนี้ แต่ถ้าตรวจสอบช้า ก็อาจจะต้องรอเป็นเวลาหลายวัน ผมก็ไม่มีทางควบคุมได้นี่นา! ”

หลี่ซู่เฟินมองไปที่ซุนเฟยเยว่ที่ราวกับคนโกงเช่นนั้น สีหน้าหมองหม่น ในแววตาเผยความเอือมระอา

เรื่องมาจนถึงตอนนี้ หลี่ซู่เฟินก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากปล่อยให้ซุนเฟยเยว่ดึงไว้ นอกเสียจากจะใช้เส้นสาย แล้วหาผู้นำระดับสูงของซุนเฟยเยว่ มากดดันให้ซุนเฟยเยว่จัดการโดยเร็ว

แต่ว่า หลี่ซู่เฟินจะไม่ทำแบบนี้ แม้ว่าหอเซียงหม่านจะประสบความเสียหายอย่างหนัก เนื่องจากนี่เป็นพฤติกรรมที่แตะขีดจำกัด

ว่านฉางหรูสีหน้าได้ใจ มองไปที่หลี่ซู่เฟินแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ประธานหลี่ ผมขอโทษจริงๆ โชคดีที่ผมเพิ่งได้รับผลตรวจสอบของคุณซุน ลูกค้ามากมายของผมกำลังจะกลับมาก็จะสามารถกลับมารุ่งเรืองได้อีกครั้งแล้ว!”

หลี่ซู่เฟินกำหมัดแน่น แล้วยิ้มเยาะและกล่าวว่า “งั้นก็ขอแสดงความยินดีกับประธานว่านแล้ว!”

ซุนเฟยเยว่สีหน้าได้ใจ แล้วกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ประธานหลี่ยังมีธุระอีกหริอเปล่า?หากว่าไม่มีก็เชิญกลับเถอะ! ผมไม่ส่งแล้ว”

หนานกงหลงมองไปที่หลี่ซู่เฟินและคนอื่นๆ ใบหน้าเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน สายตาที่มองไปที่เฉินโม่เต็มไปด้วยความอำมหิต แล้วแอบพูดว่า “ไอ้หนู แกฆ่าลูกชายที่มีความสามารถที่สุดของกู กูจะให้ทั้งครอบครัวของแกฝังไปกับเทียนเอ๋อร์!”

หลี่ซู่เฟินสีหน้าซีดเซียว กัดฟันแน่นด้วยความโมโห แม้จะรู้ว่าอยู่ที่นี่ต่อไปก็ไม่มีประโยชน์ แต่ก็ยังไม่สามารถพูดคำว่าจากไปสองคำนี้ได้

เมื่อเห็นหลี่ซู่เฟินถูกทำให้โกรธจนท่าทีเป็นแบบนี้ ในใจเฉินโม่ก็เต็มไปด้วยเจตนาฆ่าท่วมแผ่นฟ้า และก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป มือทั้งสองข้างแอบกุมวิชา หากว่าเขาต้องการฆ่าซุนเฟยเยว่ ก็สามารถทำได้โดยไม่เหลือร่องรอยใดๆไว้เลยแม้แต่นิดเดียว แม้แต่ทางนิติเวชก็ไม่สามารถระบุออกมาได้

ทว่าในเวลานี้ โทรศัพท์มือถือของหลี่ซู่เฟินจู่ๆก็ได้ดังขึ้น