แดนนิรมิตเทพ บทที่ 426
หลี่ซู่เฟินกลับไม่ตื่นตระหนก หัวเราะเยาะว่า “ดีสิ ในเมื่อคุณซุนไล่ฉันไป แล้วจะกล้าไม่ฟังได้อย่างไร? ฉันจะไปเดี๋ยวนี้เลย”

ซุนเฟยเยว่กับว่านฉางหรูและคนอื่นๆตะลึง หลี่ซู่เฟินยอมแพ้แบบนี้เลยหรือ? นี่มันไม่เหมือนกับนิสัยของเธอเลยนะ!

เวินฉิงและเฉินโม่ก็ขมวดคิ้วมองไปที่หลี่ซู่เฟิน ไม่เข้าใจว่าหลี่ซู่เฟินกำลังวางแผนอะไรอยู่กันแน่

“แต่ว่าฉันจะร้องเรียนตามความจริงต่อผู้นำระดับสูง ฉันมาเพื่อจัดการเรื่องที่เป็นการเป็นงาน แต่กลับถูกคุณซุนไล่ออกมา เวลานั้นฉันก็คงจะไม่ถือว่าร้องเรียนเกินไปสินะ?” หลี่ซู่เฟินยิ้มเย้ยแล้วกล่าว

นัยน์ตาของเวินฉิงเป็นประกาย แอบชื่นชมอยู่ในใจว่า “ท่านประธานช่างเป็นคนที่มีไหวพริบจริงๆ!”

หนานกงหลงและมู่เจิ้งเฟิงเป็นคนที่อยู่ในโลกแห่งบู๊ ไม่เข้าใจกฎข้อบังคับต่างๆของโลกมนุษย์ จึงไม่รู้สึกอะไรต่อคำข่มขู่ของหลี่ซู่เฟิน

แต่ว่าใบหน้าของว่านฉางหรูหม่นหมองลง เขารู้ว่าหลี่ซู่เฟินกล่าวคำพูดนี้ออกมา ซุนเฟยเยว่จะต้องประนีประนอมอย่างแน่นอน

จริงตามนั้น ซุนเฟยเยว่รีบเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มในทันใด “หึหึ ประธานหลี่ล้อเล่นแล้ว ผมจะไล่ประธานหลี่ออกไปได้อย่างไรกัน? นี่ก็ไม่ใช่ว่าการสนทนาของผมกับประธานว่านกำลังแล้วเสร็จอยู่พอดี ถ้าหากประธานหลี่มีธุระ ก็เชิญเข้ามาคุยได้”

หลี่ซู่เฟินฮึ่มเสียงหนึ่ง “งั้นก็ขอบคุณแล้ว”

หลังจากพูดจบ ก็พาเวินฉิงและคนอื่นๆเดินเข้าไปในห้องทำงาน

ซุนเฟยเยว่แอบโกรธเกลียดอยู่ในใจ ถ้าหากว่าวันนี้เปลี่ยนเป็นคนธรรมดาคนหนึ่งมาข่มขู่เขาแบบนี้ เขาจะต้องโกรธเป็นฟืนเป็นไฟแน่ๆ แต่ฐานะของหลี่ซู่เฟินกลับเป็นบอสของบริษัทที่มีมูลค่ามากกว่าหนึ่งพันล้าน อยู่ในขอบเขตอำนาจ ซุนเฟยเยว่สามารถทนฝืนกดดันเอาไว้ได้ แต่ถ้าหากว่าเกินกว่าอำนาจในมือ เขาก็ไม่กล้าโอหังอวดดี

หลี่ซู่เฟินก็ไม่เกรงใจเช่นกัน พาเวินฉิงและคนอื่นๆไปนั่งบนเก้าอี้ตรงข้ามกับว่านฉางหรูสามคน

ไม่รอให้ซุนเฟยเยว่กล่าวทักทาย หลี่ซู่เฟินก็ริเริ่มถามขึ้นว่า “ขอถามคุณซุน หอเซียงหม่านที่อยู่ภายใต้บริษัทในเครือของฉันฝ่าฝืนกฎระเบียบข้อบังคับและกฎหมายข้อใด จึงต้องหยุดกิจการปรับปรุงร้านด้วย?”

ทันทีที่หลี่ซู่เฟินพูดขึ้น ก็เป็นการจู่โจมแบบต่อเนื่อง โจมตีจนซุนเฟยเยว่ตั้งตัวไม่ทันเล็กน้อย

แต่ว่า ซุนเฟยเยว่ได้คิดหาวิธีต่อกรไว้นานแล้ว จึงไม่ได้ตื่นตระหนก

“ส่วนผสมอาหารรักษาสุขภาพรอบด้านที่หอเซียงหม่านเปิดตัว ต้องสงสัยว่ารักษาโรคที่ไม่มีใบอนุญาต ด้วยเหตุนี้จึงมีคำสั่งให้หยุดกิจการเพื่อจัดการให้เป็นระเบียบ ทั้งหมดเป็นไปตามระเบียบข้อบังคับและข้อกฎหมาย หากประธานหลี่มีความคิดเห็นอันใด ก็สามารถร้องเรียนได้แผนกระดับสูงได้” ซุนเฟยเยว่กล่าวด้วยน้ำเสียงอย่างเป็นทางการ

หลี่ซู่เฟินชี้ไปที่หมอฟางที่เชิญมาด้วยเงินเดือนที่สูงข้างกายแล้วกล่าวว่า “นี่คือที่ปรึกษาทั่วไปของส่วนผสมอาหารดูแลสุขภาพรอบด้านของหอเซียงหม่าน คุณหมอฟางหนาน ส่วนผสมอาหารทั้งหมดที่หอเซียงหม่านเปิดตัว ได้รับการตรวจสอบอย่างเข้มงวดโดยหมอฟาง ดังนั้นจึงไม่อยู่ในประเด็นที่ว่าใช้หมอที่ไม่มีใบอนุญาต ถ้าหากคุณซุนไม่เชื่อ รบกวนหมอฟางนำใบอนุญาตแพทย์ออกมาแสดงให้คุณซุนดูสักหน่อย”

หมอฟางได้รับคำแนะนำจากหลี่ซู่เฟินมาแต่แรกแล้ว จึงรีบหยิบใบอนุญาตวิชาชีพแพทย์ออกมาจากกระเป๋าในทันทีแล้วกล่าวว่า “นี่คือใบอนุญาตคุณสมบัติแพทย์ของผม เชิญผู้นำลองดูครับ!”

รอยยิ้มบนใบหน้าของซุนเฟยเยว่ยังคงไม่แปรเปลี่ยน แล้วเอ่ยขึ้นอย่างราบเรียบว่า “ไม่ต้องดูแล้ว ผมเชื่อในตัวประธานหลี่ได้”

หลี่ซู่เฟินยิ้มอย่างเย็นชา “ขอบคุณคุณซุนที่เชื่อใจ ทำให้ฉันได้รับความสำคัญจนน่าตกใจ เช่นนั้นก็รบกวนเชิญคุณซุนเก็บข้อความปิดกิจการเหล่านั้นของหอเซียงหม่านด้วย เพื่อที่ฉันจะได้ดำเนินกิจการต่อไป สำหรับความเสียหายด้านเศรษฐกิจของหอเซียงหม่านที่ได้รับในช่วงที่หยุดกิจการ ฉันจะไม่ถือสากับคุณซุน”

ในแววตาที่เวินฉิงมองไปที่หลี่ซู่เฟิน ความรู้สึกชื่นชมเคารพก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น คิดไม่ถึงว่าเผชิญหน้ากับคุณซุน หลี่ซู่เฟินกลับยังสามารถหัวแข็งได้ขนาดนี้!

นิ้วมือว่านฉางหรูถูแหวนหยกวงหนึ่งอยู่เงียบๆ บนใบหน้านั้นยิ้มเรียบเฉย จึงมองความคิดภายในใจไม่ออก

สีหน้าหนานกงหลงดูโมโหเล็กน้อย มองดูหลังคาอย่างหยิ่งยะโส ลักษณะท่าทางเย่อหยิ่งเช่นนั้น

มู่เจิ้งเฟิงเหลือบมองเฉินโม่ด้วยสายตาครุ่นคิดเป็นครั้งคราว ราวกับว่าไม่ได้นำคำพูดปะทะคารมของหลี่ซู่เฟินและซุนเฟยเยว่มาใส่ใจเลยสักนิด