แดนนิรมิตเทพ บทที่ 425
ที่ห้องโถงสำนักงาน ชั้นหนึ่ง หลี่ซู่เฟินและพรรคพวกนั่งรอเงียบๆอยู่ที่บริเวณนั่งรอ

ชายหนุ่มที่ไปรายงานก่อนหน้าคนนั้นเดินเข้ามาด้วยใบหน้ารู้สึกผิดแล้วกล่าวว่า “ขออภัยด้วยประธานหลี่ คุณซุนกำลังรับแขกอยู่ ขอคุณโปรดรอสักครู่ครับ”

“ไม่เป็นไร งั้นฉันจะรอสักครู่ ลำบากคุณแล้ว!” หลี่ซู่เฟินกล่าวด้วยความสุภาพ

ชายหนุ่มคนนั้นกล่าวด้วยความสุภาพ แล้วหันหลังจากไป

เวินฉิงพูดเสียงเบาว่า “ท่านประธานคะ คุณซุนคนนี้ต้องการที่จะแสดงอำนาจต่อเราก่อนสินะ!”

หลี่ซู่เฟินแววตาสงบนิ่ง แล้วพูดเรียบเฉยว่า “อย่าได้ใจร้อน หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง ถ้าหากเขายังไม่ออกมา งั้นพวกเราก็ไปที่ห้องทำงานของเขาเลยโดยตรง”

ในห้องทำงานของซุนเฟยเยว่ ทั้งสี่คนคุยกันอย่างมีความสุขไร้ที่เปรียบ ดูเหมือนรู้ว่าหลี่ซู่เฟินในเวลานี้กำลังถูกทิ้งไว้ด้านนอก ทั้งสี่คนแอบรู้สึกถึงความเหนือกว่าอย่างหนึ่ง

ในบริเวณนั่งรอ เวินฉิงมองดูเวลาแล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “ท่านประธาน ผ่านไปครึ่งชั่วโมงแล้วค่ะ”

หลี่ซู่เฟินลุกยืนขึ้นช้าๆ ใบหน้าฉายแววแน่วแน่ “ตามฉันมา!”

ลุกยืนขึ้น แล้วเดินไปที่ห้องทำงานของซุนเฟยเยว่

เฉินโม่เดินตามอยู่ด้านหลังด้วยสีหน้าเรียบเฉย ทว่าในใจแอบชื่นชมว่า “แม่สามารถยืนหยัดเหม่ยหวา กรุ๊ปที่ใหญ่โตได้โดยลำพัง มีความกล้าหาญอยู่จริงๆ”

ในห้องทำงานว่านฉางหรูกำลังยิ้มแล้วถามว่า “ผ่านไปครึ่งชั่วโมงแล้ว พี่ซุนวางแผนที่จะพบเธอเมื่อไหร่?”

ซุนเฟยเยว่พูดด้วยหน้าตาเฉยเมยว่า “ไม่ต้องรีบร้อน ให้เธอรออีกหน่อย”

“คุณซุนท่าทีหยิ่งผยองมากนัก คุณวางแผนว่าจะให้ฉันรอจนถึงเมื่อไหร่?” นอกประตู หลี่ซู่เฟินที่ได้ยินการสนทนาระหว่างทั้งสองคนโดยบังเอิญ นำคนมายืนอยู่ตรงหน้าประตูห้องทำงานและมองที่ซุนเฟยเยว่ด้วยความเยือกเย็น

ดวงตาของว่านฉางหรูและคนอื่นๆจับจ้องไปที่หลี่ซู่เฟินทันที แล้วตกตะลึงเล็กน้อย

ใบหน้าของซุนเฟยเยว่ฉายแววเขินอาย แต่ก็กลับคืนความสงบนิ่งอย่างรวดเร็ว แล้วยิ้มเจื่อนๆและกล่าวว่า “ต้องขอโทษด้วยจริงๆ ผมกำลังคุยธุระอยู่กับแขกสองสามคน ให้ประธานหลี่รอนานแล้ว”

เฉินโม่มองไปที่ซุนเฟยเยว่ที่ใบหน้าอ้วนพี แววตาเย็นยะเยือก เพียงแค่เหลือบมองเท่านั้นเอง เฉินโม่ได้ประเมินซุนเฟยเยว่เอาไว้แล้ว ไร้ยางอายอย่างที่สุด ถูกคนทำลายแผนการร้ายหมดแล้ว ยังจะพูดโดยที่ไม่เปลี่ยนสีหน้าว่าตัวเองคุยธุระอยู่

เมื่อมองหน้าตาที่มีความเย้ยหยันของว่านฉางหรู หลี่ซู่เฟินก็ไม่เกรงใจ แล้วพูดอย่างตรงไปตรงมาว่า “คุณซุน ทุกคนล้วนไม่ใช่คนโง่กันทั้งนั้น คำพูดบางอย่างก็เปิดอกพูดกันเลยดีกว่า!”

ดูเหมือนว่าไม่ได้คาดคิดว่าหลี่ซู่เฟินจะหัวแข็งแบบนี้ ซุนเฟยเยว่ฉายแววตาหมองหม่น “ผมไม่เข้าใจว่าประธานหลี่กำลังพูดถึงอะไร ผมกำลังพบแขกคนสำคัญอยู่ รบกวนประธานหลี่เชิญออกไปก่อนด้วย”

แผนการณ์ร้ายไม่ได้ นี่ซุนเฟยเยว่เตรียมใช้แผนการณ์ดีเสียแล้ว

เมื่อมองไปที่หลี่ซู่เฟิน ซุนเฟยเยว่เผยรอยยิ้มที่หมองหม่นบนหน้าราวกับจะพูดว่า “ผมก็แค่จงใจแสดงอำนาจกับคุณ แล้วคุณจะทำอะไรผมได้? ที่นี่คือถิ่นของผม ไม่ใช่เหม่ยหวา กรุ๊ปของคุณ ที่นี่ผมพูดถึงจะนับ”

ว่านฉางหรูกับหนานกงหลง มองไปที่หลี่ซู่เฟินและคนอื่นๆ ฉายรอยยิ้มจางๆขึ้นที่ริมฝีปาก หน้าตาเยาะเย้ย

สายตาของมู่เจิ้งเฟิง กลับมองทะลุผ่านหลี่ซู่เฟินและคนอื่นๆ จ้องมองที่เฉินโม่ซึ่งยืนอยู่ด้านหลังสุดที่ก้มศีรษะอยู่เล็กน้อย

เวินฉิงรู้สึกประหม่าเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าซุนเฟยเยว่ใช้อำนาจในมือกดขี่ผู้คน ประโยคนี้ดูเหมือนจะพูดออกมาสบายๆ แต่ที่จริงแล้วถูกจัดการเอาไว้เป็นอย่างดี

ถ้าหากหลี่ซู่เฟินถอยออกไป ก็จะเสียหน้าและกลายเป็นตัวตลก แต่ถ้าหากว่าไม่ถอย ก็เท่ากับดื้อดึงบุกรุกห้องทำงานของเจ้าหน้าที่ทางการ ทำให้ซุนเฟยเยว่จับผิดเอาได้

เวินชิงไม่รู้ว่าหลี่ซู่เฟินจะต่อกรอย่างไร? อย่างไรก็ตามเธอนั้นไร้ซึ่งกำลัง

เฉินโม่ก้มศีรษะลง ฉายแววสายตาแห่งเจตนาฆ่า ซุนเฟยเยว่จิตใจโหดเหี้ยมนักหนา ทำแบบนี้เป็นการทำให้หลี่ซู่เฟินอับอายต่อหน้าผู้คนอย่างไม่ต้องสงสัย นี่ได้แตะขีดจำกัดของเฉินโม่แล้ว