แดนนิรมิตเทพ บทที่ 424
“งั้นพวกเราจะทำอย่างไร? ทางการนั้น พูดอย่างไรก็ล้วนมีเหตุผลทั้งสิ้น ไม่เช่นนั้นพวกเราก็ไปหาหมอจริงๆสักคนมายืนยัน บอกว่าส่วนผสมทั้งหมดของพวกเราล้วนได้ผ่านการตรวจสอบตามเกณฑ์จากแพทย์แล้วถึงเปิดตัวออกมา”

หลี่ซู่เฟินถอนหายใจ “ใบรับรองแพทย์จัดการได้ง่าย แต่ฉันเกรงว่าพวกเขาจะหาข้ออ้างเลื่อนเวลาออกไป เพียงแค่ดึงเวลาเราออกไปสามวัน ความพยายามทั้งหมดที่พวกเราทำมาก่อนหน้านี้ ก็จะสูญสิ้นไปหมด!”

เวินฉิงก็หมดปัญญาเล็กน้อย “งั้นจะทำอย่างไร? ไม่งั้นลองหาเส้นสายมาจัดการสักหน่อยไหมคะ?”

หลี่ซู่เฟินยกมือขึ้นห้ามโดยเด็ดขาด “ไม่ พวกเราจะต้องไม่เดินเส้นทางนี้ ฉันมีหลักการในการทำธุรกิจ สามารถที่จะไม่มีเส้นสายกับเจ้าหน้าที่ทางการได้ก็จะพยายามหลีกเลี่ยง เหมือนเรื่องที่แตะขีดจำกัดประเภทนี้ จะทำไม่ได้เด็ดขาด”

เวินฉิงพยักหน้า ในแววตาฉายประกายความชื่นชม ในฐานะนักธุรกิจ หลี่ซู่เฟินเป็นผู้มีคุณธรรมต้านทานในหมู่นักธุรกิจอย่างไม่ต้องสงสัย

“แต่หากว่าเราไม่ใช้เส้นสาย พวกเราก็ไม่สามารถสู้ชนะพวกเขาได้เลย!” เวินฉิงรู้สึกเอือมระอาอยู่บ้าง

หลี่ซู่เฟินเผยสายตาดื้อดึงหนึ่งออกมา “ฉันไม่เชื่อหรอกว่าพวกเขาจะสามารถปิดปังได้ด้วยคนเดียว!”

“เวินฉิง เธอไปหาหมอที่มีชื่อเสียงและมีศักดิ์ศรีคนหนึ่ง บอกไปว่าส่วนผสมอาหารทั้งหมดของเราได้เปิดตัวออกมาหลังจากที่ได้รับการอนุมัติจากเขา จากนั้นพวกเราก็ไปสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาด้วยกัน เพื่อขอคำชี้แจง!”

เวินฉิงพยักหน้า “ค่ะ”

เฉินโม่ซึ่งนั่งอยู่บนโซฟาอยู่เงียบๆ มองดูฉากนี้ด้วยสายตาที่เย็นชาอยู่บ้าง “ตระกูลว่านนี้ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตาจริงๆนะ!”

“แม่ ต้องให้ผมลงมือช่วยแม่หน่อยไหม?” เฉินโม่เลิกคิ้วขึ้นแล้วเอ่ยขึ้น

หลี่ซู่เฟินมองเฉินโม่อย่างล้ำลึกแว๊บหนึ่งแล้วยิ้มเยาะและพูดว่า “ลูกคิดจะช่วยยังไง? ข่มขู่หัวหน้าที่แซ่ซุนคนนั้น?”

เฉินโม่ยักไหล่ แล้วยิ้มอย่างทำตัวไม่ถูก “งั้นก็ช่างเถอะ”

เขาไม่ใช่ว่าข่มขู่ แต่ต้องการที่จะฆ่าให้หมดเรื่องโดยตรง แต่เมื่อดูท่าทีของหลี่ซู่เฟิน ไม่เห็นด้วยอย่างแน่นอน

เมื่อเห็นเฉินโม่รู้สึกไม่มีความสุขเล็กน้อยหลี่ซู่เฟินก็พูดอย่างจริงใจว่า “เสี่ยวโม่ แม่รู้ว่าลูกต่างไปจากแต่ก่อนแล้ว แต่ไม่ว่าลูกจะแข็งแกร่งแค่ไหนก็มีขีดจำกัด ลูกสามารถขวางปืนได้ แต่ลูกสามารถขวางระเบิดขวางเครื่องบิน หรือแม้แต่ขีปนาวุธนิวเคลียร์ได้หรือ?”

“ดังนั้นเรื่องที่สามารถแก้ไขโดยไม่ต้องใช้กำลัง ก็พยายามอย่าได้ใช้มัน จำหลักการไม้เด่นเกินไพร ลมพัดหักโค่นได้เอาไว้”

“วางใจได้แม่ ผมมีขอบเขต” เฉินโม่ยิ้มเรียบเฉย สีหน้าราบเรียบ

หลี่ซู่เฟินพยักหน้า และจัดการเอกสารต่อไป

เฉินโม่มองหลี่ซู่เฟินด้วยแววตาที่ลึกล้ำ “แม่ ตอนนี้พละกำลังที่ผมแสดงออกมา แม่เห็นเพียงส่วนปลายของภูเขาน้ำแข็ง แม่รู้จักแค่เพียงความน่ากลัวของระเบิด ขีปนาวุธและอาวุธนิวเคลียร์ แต่ไม่เข้าใจความสยดสยองของผู้บำเพ็ญคนหนึ่ง”

“ถ้าวันหนึ่งผมฟื้นฟูยาทองใหม่ อาวุธนิวเคลียร์สำหรับผม จะเหมือนประทัดในวัยเด็ก แค่ฟังเสียงดังก็เท่านั้นเอง!”

เช้าวันรุ่งขึ้น เวินฉิงจ้างแพทย์ที่มีชื่อเสียงคนหนึ่งด้วยเงินเดือนที่สูง แล้วพาไปที่ห้องทำงานของหลี่ซู่เฟิน

หลังจากหารือกันเสร็จสิ้นแล้ว หลี่ซู่เฟินก็พาเวินฉิงและแพทย์คนนั้นพร้อมกับเฉินโม่ เดินหน้าไปที่อย.โดยพร้อมกัน

ในอาคารสำนักงานของอย. ซุนเฟยเยว่กำลังนั่งคุยอยู่ในห้องทำงานกับว่านฉางหรูและหนานกงหลงกันสามคน

ทันใดนั้นผู้ใต้บังคับบัญชาก็เคาะประตูแล้วเข้ามา “คุณซุน หลี่ซู่เฟินจากเหม่ยหวา กรุ๊ปต้องการพบท่านครับ?”

ซุนเฟยเยว่กับว่านฉางหรูหลายคนมองหน้ากัน สายตาขยับเขยื้อน ฉายแววตาแท้ที่จริงแบบนี้ขึ้นบนใบหน้า

ซุนเฟยเยว่ยิ้มหึหึ แล้วพูดเรียบเฉยว่า “ก็บอกว่าผมมีธุระ ให้เธอรอไป”

ผู้ใต้บังคับบัญชาคนนั้นพยักหน้าด้วยความเคารพ “ครับ”

ซุนเฟยเยว่จิบชาคำหนึ่ง ยิ้มอย่างเรียบเฉยและกล่าวว่า “น้องว่าน เมื่อครู่พวกเราคุยกันไปถึงไหนแล้ว? ต่อกันเถอะ!”

ว่านฉางหรูหัวเราะหึหึ “ถูกต้อง ต่อกันๆ”