ในช่วงเวลานี้ กองทัพยานอวกาศขนาดใหญ่กำลังเดินทางอยู่ในจักรวาล ยานอวกาศจักรวาลเหล่านี้มีประมาณ1,300ลำ แต่ละลำนั้นมีผู้คนประมาณหนึ่งพันคน นี่คือกลุ่มโจรสลัดจักรวาลที่มีพลังการต่อสู้ที่น่าสะพรึงกลัว

พวกเขาก็คือกลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดงนั่นเอง ทว่าผู้ที่เป็นผู้นำนั้นก็คืออวี๋โค่วผู้บ่มเพาะในระดับเปลวไฟที่แท้จริง

ทว่าพลังอำนาจของกองทัพนี้น่าสะพรึงกลัวอย่างมาก ทรงพลังพอที่จะทำลายดาวเคราะห์พื้นเมืองได้นับสิบดวง สำหรับชาวพื้นเมืองที่ไม่มีความสามารถในการต่อสู้ภายในจักรวาลนั้น ต่อหน้ากองทัพเช่นนี้ก็มีเพียงแค่ความตายเท่านั้นที่รออยู่ ต่อให้มีผู้คนเป็นจำนวนมากแค่ไหนก็ยังคงเป็นเหมือนกับมดปลวกเท่านั้น

ในช่วงเวลาที่เทคโนโลยีรุ่งเรืองเช่นนี้นั้น จำนวนของผู้คนไม่ได้มีความหมายใดๆ!

ดังนั้น บรรยากาศในตอนนี้ของกองทัพกลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดงจึงสบายๆอย่างมาก เป็นสงครามที่เหมือนดั่งการออกไปเดินเล่นก็ว่าได้

“ในที่สุดก็ใกล้ที่จะถึง สถานที่ที่ครั้งนี้พวกเรากำลังจะไปดูเหมือนว่าจะเป็นดินแดนพื้นเมืองที่มีชื่อว่าโลกแห่งเมฆา” เหล่าโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดงกำลังพูดคุยกัน

“ใช่ โลกแห่งเมฆา ข้าก็เคยได้ยินกัปตันพูดถึงชื่อของสถานที่แห่งนี้”

“เหตุผลที่ครั้งนี้พวกเราเดินทางไปยังสถานที่แห่งนั้น เป็นเพราะว่าลูกชายของผู้อาวุโสอวี๋โค่วได้ตายไปอย่างน่าสลดภายในโลกแห่งเมฆา ถูกสังหารไปโดยกลุ่มของชาวพื้นเมือง ดังนั้นจึงได้ส่งกองทัพออกมาล้างแค้น”

โจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดงหลายคนได้พูดคุยกันและบอกถึงข้อมูลที่ตนเองได้รู้มา

“ไม่มีทาง? ไม่ใช่ว่าลูกชายของผู้อาวุโสอวี๋โค่วมียานอวกาศจักรวาลหรือ? เป็นไปได้อย่างไรที่เขาจะถูกชาวพื้นเมืองสังหารได้? หรือว่าในดินแดนพื้นเมืองแห่งนั้นจะมีอันตรายที่ไม่พวกเราไม่รู้อยู่”

โจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดงบางคนที่พูดออกมาอย่างกังวล

“ไม่จำเป็นต้องหวาดกลัว จากการสำรวจพบว่าวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของดินแดนพื้นเมืองแห่งนั้นล้าสมัยมาก ไม่สามารถที่จะออกเดินทางในจักรวาลได้ แกนพลังฉีของแต่ละคนอย่างมากก็อยู่ในระดับกายาศักดิ์สิทธิ์เช่นกัน ไม่ใช่คู่มือของพวกเรากลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดงแม้แต่น้อย สงครามครั้งนี้เป็นเหมือนกับการที่พวกเราออกมาเดินเตร่ก็ว่าได้ เมื่อไปถึงที่นั่น ก็สามารถที่จะสังหารชาวพื้นเมืองเหล่านั้นไปจนถึงคนสุดท้ายได้อย่างง่ายดาย”

หัวหน้าหน่วยของกลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดงได้ตะโกนออกมา เขามีความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยม คิดว่าสงครามครั้งนี้คงจะไม่ได้เกิดเหตุร้ายใดๆ การที่ส่งยานอวกาศจักรวาลออกมาถึง1,300ลำนั้น เพียงพอที่จะทำลายอิทธิพลทุกๆอย่างของชาวพื้นเมืองเหล่านั้น

“ทำไมถึงต้องสังหารทั้งหมด”

โจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดงคนหนึ่งพูดโต้แย้งออกมา “ว่ากันว่าดินแดนพื้นเมืองแห่งนั้นมีสิ่งมีชีวิตจำนวนนับไม่ถ้วน เผ่าพันธุ์มนุษย์นั้นมีเกือบแสนล้านคน อีกทั้งยังมีเผ่าพันธุ์อื่นๆอีกที่ถูกเรียกว่าเผ่าพันธุ์ปีศาจและเผ่าพันธุ์ปีศาจใต้ท้องทะเล สถานที่แห่งนั้นมีผู้หญิงที่งดงามมากมายดั่งก้อนเมฆบนฟากฟ้า”

“ข้าคิดว่าพวกเราควรที่จะสังหารผู้ชายไปทั้งหมดและหลงเหลือไว้เพียงแค่ผู้หญิง”

เขาได้เสนอความคิดเห็นของตนเองออกมา

โจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดงที่หัวโล้นคนหนึ่งก็พูดออกมา “พูดถูก สังหารผู้ชายให้หมด หลงเหลือไว้เพียงแค่ผู้หญิง ทำให้กลุ่มของชาวพื้นเมืองเหล่านั้นกลายเป็นทาสทั้งหมด บางทีอาจจะสามารถหาทาสผู้หญิงนับสิบมาเติมเต็มฮาเร็มของพวกเราได้ พวกเราจะได้เพลิดเพลินกับการมีภรรยาหลายคน”

ดวงตาของเขานั้นเต็มไปด้วยเปลวไฟที่เร่าร้อน

เดิมทีเหตุผลที่เขาต้องการจะกลายเป็นโจรสลัดจักรวาลนั้น ก็เป็นเพราะว่าผลประโยชน์เช่นนี้ เมื่อใดที่สามารถพิชิตดินแดนพื้นเมืองได้ พวกเขาก็จะมีอำนาจในการเลือกผู้หญิงที่งดงามของเผ่าพันธุ์ต่างๆได้เช่นกัน

ในอดีตมีโจรสลัดชราคนหนึ่งที่ได้ออกเดินทางสำรวจหลายครั้งและได้ฮาเร็มมานับสามพันคน มีฮาเร็มเหมือนดั่งจำนวนก้อนเมฆบนท้องฟ้า เพลิดเพลินกับช่วงชีวิตที่เหลืออย่างมีความสุข

ถึงแม้ว่าโจรสลัดส่วนใหญ่ที่ออกเดินทางสำรวจนั้นจะประมาทและท้ายที่สุดก็ถูกศัตรูสังหาร ทว่าการเทียบความเสี่ยงนี้กับผลประโยชน์ที่จะได้รับนั้น พวกเขาก็โหยหาการที่จะได้ออกเดินทางสำรวจอย่างมาก

สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ ครั้งนี้ที่ไปทำสงครามกับดาวเคราะห์พื้นเมืองนั้น พลังอำนาจของฝ่ายตรงข้ามอ่อนแอจริงๆ ไม่มีทางที่จะเทียบกับพวกเขากลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดงได้ คาดการณ์ได้ว่าเพียงแค่ค่ำคืนเดียวก็สามารถที่จะเอาชนะกลุ่มของชาวพื้นเมืองได้และยึดครองดินแดนของพวกเขามา

“อย่าเพ้อฝันไป”

กัปตันของกลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดงเปล่งเสียงออกมาในลำคอ “ชาวพื้นเมืองเหล่านี้จะถูกจับตัวไปที่สำนักงานใหญ่ทั้งหมด ถือว่าเป็นทาสสำหรับการค้าขาย เป็นทรัพย์สินส่วนตัวของกลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดง”

“หากพวกเจ้าต้องการทาสเหล่านี้ ก็จะต้องซื้อด้วยเงินของตนเอง การที่ต้องการจะครอบครองทาสนับสิบคนโดยที่ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆนั้น มันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้”

ได้ยินคำเหล่านี้ โจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดงจำนวนมากก็รู้สึกโศกเศร้า

“ไม่ต้องกังวลไป”

กัปตันอีกคนเห็นว่าขวัญกำลังใจลดฮวบลง ทันใดนั้นก็เริ่มพูดออกมา “หากพวกเราชนะสงครามครั้งนี้ พวกเจ้าแต่ละคนก็จะได้รับรางวัลไปอย่างมหาศาล เมื่อถึงเวลานั้นพวกเจ้าก็สามารถที่จะใช้เงินนี้ในการซื้อทาสไม่ใช่หรือ?”

“กัปตันพูดถูก”’

ผู้คนต่างก็พยักหน้า ขวัญและกำลังใจเพิ่มขึ้นมาทันที แต่ละคนต่างก็จินตนาการถึงอนาคต

……………..

ในตอนนี้ ณ ห้องบัญชาการ หัวหน้าอวี๋โค่วกำลังอยู่ในห้องแห่งนี้ ข้างกายของเขามีลูกน้องยอดฝีมือมากมาย อีกทั้งยังมีเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบในการบัญชาการยานอวกาศต่างๆปรากฏขึ้นมาที่นี่เช่นกัน

“ในที่สุดก็ใกล้ที่จะไปถึง กลุ่มชาวพื้นเมืองที่สังหารลูกชายของข้า ครั้งนี้จะต้องฆ่าล้างพวกเขาให้ได้อย่างแน่นอน ผู้ชายจะต้องกลายเป็นทาส ส่วนผู้หญิงจะต้องกลายเป็นโสเภณี” ดวงตาของอวี๋โค่วเผยให้เห็นถึงออร่าจิตสังหารที่หนาแน่น

ในการที่จะตามหาตัวฆาตกรที่สังหารลูกชายของตนเองนั้น เขาก็ได้ใช้อำนาจทั้งหมดของตนเอง ส่งกองทัพของยานอวกาศจักรวาลจำนวน1,300ลำมาที่นี่ เป้าหมายก็เพื่อรับประกันความปลอดภัยของภารกิจนี้

ไม่ว่าดินแดนพื้นเมืองแห่งนั้นจะมีพลังอำนาจแค่ไหน ต่อหน้ายานอวกาศจักรวาลจำนวนมากเช่นนี้ จะต้องกลายเป็นผุยผงทั้งหมด ภายใต้พลังอำนาจที่แท้จริง ไม่ว่ากลอุบายหรือว่าลูกไม้ใดๆก็เป็นเพียงแค่เรื่องตลก

“ผู้อาวุโส”

ลูกน้องคนหนึ่งเริ่มพูดขึ้นมา “ข้าคิดว่าการไม่ประมาทก็เป็นสิ่งที่ดี เพราะว่าถึงอย่างไรพวกเราก็ไม่ได้รู้อย่างแน่ชัดว่าดินแดนพื้นเมืองแห่งนั้นมีพลังอำนาจที่แท้จริงแค่ไหน”

“หากพวกเราประมาทขึ้นมา บางทีอาจจะถูกฝังอยู่ในสถานที่แห่งนั้นได้”

เขามองไปที่ผู้อาวุโสอวี๋โค่วและเสนอความคิดเห็นของตนเองออกมา

“พูดถูก ต่อให้จะล่องเรือมานานนับหมื่นปี ก็ยังคงจมหายไปกับพายุได้”

“ในจักรวาลนั้นมีอันตรายนับไม่ถ้วน ถึงแม้ว่าฝ่ายตรงข้ามนั้นจะเป็นเพียงแค่ชาวพื้นเมือง ทว่าก็ยังเป็นไปได้ยากที่จะล่วงรู้ว่าพวกเขามีไพ่อะไรอยู่ในมือ บางทีหากพวกเราประมาทเกินไป อาจจะถูกกำจัดไปเสียเอง”

“ใช่ ข้าขอแนะนำให้ส่งยานอวกาศจักรวาลไปจำนวนหนึ่งก่อนเพื่อดูสถานการณ์ภายในดินแดนพื้นเมืองแห่งนั้น หลังจากที่รอให้หน่วยที่พวกเราส่งออกไปได้ทำการยืนยันพลังอำนาจของฝ่ายตรงข้ามอีกครั้งนั้น จากนั้นพวกเราก็สามารถที่จะส่งกองทัพทั้งหมดออกไปได้ กำจัดพวกเขาให้สิ้นซาก”

ลูกน้องหลายๆคนก็เห็นด้วยกับจุดๆนี้ พวกเขานั้นเป็นโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดง เป็นโจรสลัดจักรวาล คุ้นชินกับวิธีการที่ชั่วร้ายและเล่ห์เหลี่ยมต่างๆ ล่วงรู้ถึงสิ่งที่เรียกว่าการระมัดระวังและการรอบคอบ

หากพวกเขาไม่ได้มีความระมัดระวังตัวล่ะก็ ก็คงจะถูกกลุ่มอิทธิพลของจักรวาลสังหารไปนานแล้ว มีที่ไหนที่จะอาละวาดอยู่ในจักรวาลมาได้ถึงทุกวันนี้ กลายเป็นเผด็จการของจักรวาล

“เอาล่ะ อันดับแรกส่งยานอวกาศออกไปสามลำเพื่อหยั่งเชิงก่อน ชายชราผู้นี้จะดูสิว่ากลุ่มของชาวพื้นเมืองเหล่านั้นจะมีความสามารถแค่ไหน” ถึงแม้ว่าภายในส่วนลึกของความรู้สึกอวี๋โค่วจะเต็มไปด้วยจิตสังหาร ปรารถนาที่จะฆ่าล้างชาวพื้นเมืองเหล่านั้นให้สิ้นซาก ทว่าเขาก็ล่วงรู้ว่าในสถานที่แปลกประหลาดเช่นนี้ ไม่มีใครรู้ว่าจะมีอันตรายอะไรปรากฏขึ้นมา

ในการที่จะรับประกันว่าจะสามารถสังหารชาวพื้นเมืองเหล่านี้ได้อย่างไม่สงสัยนั้น เขาก็ไม่รังเกียจที่จะปล่อยให้ฝ่ายตรงข้ามได้รอความตายของตนเองไปอีกระยะเวลาหนึ่ง

หลังจากรอให้พวกเขาได้ทำการสืบสวนและสำรวจพลังอำนาจของชาวพื้นเมืองเหล่านี้จนละเอียดครบถ้วนนั้น ในตอนนั้นก็จะถึงเวลาการตายของพวกเขา

“รับทราบ ผู้อาวุโส!”

ลูกน้องจำนวนมากได้รับคำสั่งไปทันที

หลังจากนั้นก็ผ่านไปหนึ่งวัน ในที่สุดกองทัพขนาดใหญ่นี้ก็ได้เข้ามาใกล้ในระยะหนึ่งปีแสงของโลกแห่งเมฆา

บึ้ซ~

ทันใดนั้นดาวเทียมตรวจจับของระบบตาข่ายแห่งสวรรค์ก็เริ่มต้นทำงานทันที ถ่ายทอดคลื่นผันผวนออกไป กระจายออกไปที่ดาวเทียมทั้ง108,000ดวง ข้อมูลนับไม่ถ้วนได้เชื่อมโยงซึ่งกันและกัน

ทว่ากลุ่มของโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดงเหล่านี้ไม่สามารถที่จะตรวจจับสิ่งใดๆได้ เพราะว่าระดับของระบบตาข่ายแห่งสวรรค์นั้นอยู่สูงกว่าระบบตรวจจับของพวกเขามาก

“สัญญาณเตือน สัญญาณเตือน มีศัตรูบุกรุกเข้ามา”

“ยานอวกาศจำนวน1,300ลำ จำนวนของศัตรูมีประมาณสองแสนคน ระดับความอันตรายอยู่ในระดับต่ำ ไม่ทราบว่าเจ้านายต้องการที่จะทำการกวาดล้างศัตรูหรือไม่?!”

เสียงของระบบตาข่ายแห่สวรรค์ได้ดังขึ้นมาทันที ถ่ายทอดมาสู่ความคิดของเซี่ยปิงโดยตรง

“หืมม?!”

เซี่ยปิงที่อยู่ในภายในดาวหยานหวงก็ได้รับข้อมูลที่ถ่ายทอดมาจากระบบตาข่ายแห่งสวรรค์อย่างกะทันหัน มีศัตรูจำนวนมหาศาลที่กำลังเข้ามาใกล้โลกแห่งเมฆา