บทที่ 509 อริเก่า

บทที่ 509 อริเก่า

“แกเป็นใคร?”

เมื่อชายชราคนนั้นเดินเข้ามา ใบหน้าของเขาก็เคร่งขหรือมขึ้นทันทีที่เห็นสมาชิกตระกูลเฝิงมากมายนอนอยู่บนพื้น

“ตระกูลเฝิงของฉันจะไม่ปล่อยให้แกเหยียดหยามอีกแล้ว!”

ในขณะเดียวกัน ชายวัยกลางคนจากตระกูลเฝิงที่ถูกกำจัดพลังจิตวิญญาณไปเห็นว่าชายชรากำลังมาและรีบวิ่งเข้าไปร้องขอความช่วยเหลือทันที

“พวกนั้นคือคนที่ฆ่าสามคนเมื่อวาน! ผู้อาวุโสชิงเฉิง อย่าปล่อยให้พวกมันรอดไปได้!!”

ชายคนนี้ไม่มีพลังจิตวิญญาณอีกต่อไปแล้ว ตอนนี้เขากลายเป็นคนไร้ประโยชน์และเกลียดชังทั้งสองเป็นอย่างมากอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

“โอ้? งั้นก็น่าสนใจเข้าไปอีก!”

แสงเย็นยะเยือกฉายออกมาจากดวงตาของเฝิงชิงเฉิงและพลังจิตวิญญาณในมือของเขาพลุ่งพล่าน

ในตอนนั้นเอง หวังเหยียนพลันลุกขึ้นยืนและชี้ไปยังชายหนุ่มในหมู่ศัตรูด้วยความเกลียดชังขั้นสุด!

“แกนั่นแหละ!”

เสียงกรีดร้องดังลั่นดึงดูดความสนใจของทุกคนไปทันที

อวี้ฮ่าวหรานหันไปมองและพบว่าเขาเป็นเพียงเด็กหนุ่มคนหนึ่งเท่านั้น สิ่งที่น่าอัศจรรย์คืออีกฝ่ายอยู่ในขอบเขตก่อรากฐานขั้นต้น!

พรสวรรค์อันน่าทึ่งนี้ทำให้หลายคนต้องอับอาย แต่ชายหนุ่มคนนั้นยังงุนงงเล็กน้อย

“แกเป็นใคร? ฉันไม่รู้จักแก”

เห็นได้ชัดว่าการสังหารเมื่อ 4-5 ปีก่อนเป็นเพียงแค่เรื่องไร้สาระสำหรับเขา

“ฮ่าฮ่า! ฮ่าฮ่า…!!!”

หวังเหยียนไม่อาจใจเย็นลงได้ในตอนนี้และหัวเราะออกมาเสียงดังลั่น

“เฝิงเส่าอวิ๋น! แกจำองค์กรเพลิงม่วงเมื่อ 4 ปีก่อนได้ไหม?”

แต่ชายหนุ่มคนนั้นก็ยังคงงุนงง

“เพลิงม่วงเหรอ? ขอโทษที ฉันจำไม่ได้เลย”

เมื่อหวังเหยียนได้ยินดังนั้นก็สั่นสะท้านไปทั้งร่าง

นี่มันแดกดันกันเกินไปแล้ว! ความอาฆาตแค้นที่ฝังอยู่ในหัวใจของเขาไม่อยู่ในความทรงจำของอีกฝ่ายแม้แต่นิดเดียว!

“ดี! เยี่ยมเลย!”

เขากล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ…

เมื่อเห็นภาพนี้ ชายหนุ่มก็คิดหนักและนึกบางสิ่งขึ้นได้หลังจากผ่านไปสักพัก

“อ้อ ฉันนึกได้บ้างแล้ว ชายแก่ในองค์กรนั้นแก่กว่านิดหน่อยแต่ไม่แข็งแกร่งเท่าฉัน แค่ไม่กี่ทีก็ฆ่าเขาได้แล้วใช่ไหมล่ะ?”

“ไม่! หุบปาก! แก! ปากดีนักนะ!”

หวังเหยียนอดตอกกลับไม่ได้เมื่อได้ยินคำพูดของอีกฝ่าย ความโกรธแค้นในใจของเขามาถึงขีดสุดแล้ว

แต่เด็กหนุ่มก็เอาแต่หัวเราะ

“ถ้าอย่างนั้นแกก็เป็นปลาที่หลุดรอดไปจากองค์รขยะนั่นได้เหรอ? เฮอะ ยังไงขยะก็คือขยะ ไม่รู้จักซ่อนตัวและมาตายที่นี่ซะอย่างงั้น!”

เขามองอีกฝ่ายและพยายามขุดคุ้มความทรงจำในอดีต

ความจำไร้สาระ…

“อ้อ อีกอย่าง ฉันเริ่มจำได้แล้ว แกมีน้องสาวอีกคนไม่ใช่เหรอ?”

คำยั่วยุของเฝิงเส่าอวิ๋นไร้สารนะอย่างถึงที่สุด

“ผู้หญิงคนนั้นดูดีทีเดียวแต่เธอโง่เกินไป เธอยอมป้องกันกระบี่ของฉันแทนชายแก่”

“จิ๊จิ๊! ฉันจำตอนนั้นได้ ฉันแทงเธอด้วยกระบี่ 3 เล่มก่อนจะปล่อยให้ร่วงลงไป หน้าตาน่าสมเพชและบิดเบี้ยวนั้น ฉันพอจำได้อยู่”

“แก! หุบปาก!”

หวังเหยียนคำรามลั่น ทั่วทั้งร่างกายของเขารุ่มร้อนจนแทบระเบิด

แต่เด็กหนุ่มยังไม่หยุดเพียงแค่นั้น

“กระบี่ 2 เล่มที่ท้องกับ 1 เล่มที่ปากใช่ไหมนะ? สายตาสับสนของเธอน่าสนใจทีเดียว ฉันอยากใช้เวลาแทงกระบี่เพิ่มอีกสักหน่อย แต่โชคไม่ดีเท่าไหร่ที่มีคนมาช่วยไปได้ตอนที่ฉันไม่ทันสังเกต”

“ดูเธอค่อย ๆ ตายแบบนั้นคงอึดอัดมากใช่ไหมล่ะ? ฉันละชอบความโกรธแค้นของคนไร้ความสามารถจริง ๆ”

ในตอนนั้นเอง อวี้ฮ่าวหรานก็ยกมือขึ้นห้ามหวังเหยียนที่กำลังจะระเบิดเอาไว้ก่อนที่เขาจะลงมือ

ด้วงสายตาแสนเยือกเย็น เขาหันไปมองชายหนุ่มผู้ภาคภูมิใจในชัยชนะ

“แกรู้ไหม เพราะเหตุการณ์นั้นแหละ ตระกูลเฝิงของแกจะพังทลาย!”

ภายในประโยคเดียว จิตสังหารที่น่าสะพรึงกลัวโหมกระหน่ำไปยังชายหนุ่มผู้ภาคภูมิราวกับคลื่นน้ำ!

เฝิงเส่าอวิ๋นสัมผัสได้ว่าหัวใจของตนแข็งทื่อราวกับว่ากำลังถูกบีบและทั่วทั้งร่างกายก็เย็นยะเยือกราวกับเข้าไปในถ้ำน้ำแข็ง!

“แก…แกเป็นใคร?!”

เขาก้าวถอยหลังด้วยความหวาดผวา

“คนที่จะทำลายตระกูลเฝิงของแกไง!”

อวี้ฮ่าวหรานไม่พูดมากให้เสียเวลาและยกมือขึ้นโจมตีจากอากาศ ชายหนุ่มสัมผัสได้ถึงอันตรายและส่งพลังจิตวิญญาณออกมาป้องกันทันที

น่าเสียดายที่ไม่ว่าเขาจะมีพรสวรรค์ขนาดไหน เขาก็อยู่ในขั้นก่อรากฐานเท่านั้น

ตู้ม!

พร้อมเสียงสะเทือนเลื่อนลั่น เฝิงเส่าอวิ๋นกระเด็นถอยหลังไปมากกว่าสิบก้าว!

“กล้าดีนัก!”

เมื่อเห็นดังนั้นเฝิงชิงเฉิงก็โกรธจัด อีกฝ่ายเป็นถึงความหวังของตระกูลเฝิง จะปล่อยให้คนนอกโจมตีเขาได้อย่างไร?

หลังจากนั้น ร่างกายของเขาก็ขยายใหญ่ขึ้นมากกว่า 10 เมตรและฟันกระบี่ลงไปยังชายหนุ่มผู้ไร้การป้องกันทันที

“ตายซะ!”

เขาตะโกนลั่นด้วยความภูมิใจในอก

ยังไงเขาก็เป็นชายหนุ่มผู้อวดดี พลังจิตวิญญาณระเบิดออกมาจากกระบี่และกระทั่งคนในขั้นก่อรากฐานระดับสูงก็ต้องได้รับบาดเจ็บสาหัส!

แต่วินาทีต่อมา ภาพที่น่าตกตะลึงและแทบจะทำให้หน้าของเขาบิดเบี้ยวก็ปรากฏขึ้น!

กระบี่ไร้ที่เปรียบถูกรับเอาไว้ด้วยมือเพียงข้างเดียว!

ในแรงกดดันมหาศาลนั้น พลังจิตวิญญาณของกระบี่แพร่กระจายออกมาในทันที!

“เป็นไปได้ยังไงกัน!!”

หัวใจของเฝิงชิงเฉิงเต็มไปด้วยความคลื่นปั่นป่วน!

แต่ภาพต่อจากนั้นก็ทำให้เขาต้องหวาดผวายิ่งกว่าเก่า!

เขามองเห็นปากของเด็กหนุ่มยิ้มเล็กน้อยและด้วยกำลังของมือเพียงข้างเดียว กระบี่เล่มยาวพังลงทันที!

ตอนที่เขาเสียสมาธิอยู่นั่นเอง อวี้ฮ่าวหรานก็โจมตีด้วยฝ่ามือ!

อั่ก!

เฝิงชิงเฉิงผู้ไม่ทันตั้งตัวกระอักเลือดและกระเด็นถอยหลังไปในทันใด!

สมาชิกตระกูลเฝิงโดยรอบล้วนตกตะลึง ดวงตาของพวกเขาเบิกกว้างด้วยความเหลือเชื่อ

“ผู้อาวุโสชิงเฉิง…เขา…แพ้เหรอ?”

“พระเจ้า…ชายหนุ่มคนนี้มาจากไหนกัน? น่ากลัวเกินไปแล้ว!!”

“ตระกูลเฝิงไปมีปัญหากับคนแบบนี้ได้ยังไงกัน?”

“…”

เมื่อนึกได้ พวกเขาก็ลุกฮือและตกตะลึง

เพราะผู้อาวุโสเฝิงชิงเฉิงแทบจะเป็นตัวแทนของพละกำลังที่แข็งแกร่งที่สุดในตระกูลเฝิงแล้ว! แม้แต่หัวหน้าก็ไม่อาจแข็งแกร่งไปได้มากกว่านี้

อวี้ฮ่าวหรานทำให้พวกเขาบาดเจ็บได้อย่างง่ายดายโดยไม่สะทกสะท้าน

“ตอนนี้แหละ ไปฆ่าพวกมันได้แล้ว!”

เพียงแค่ประโยคเดียวก็ทำให้หวังเหยียนข้างกายเขาสั่นสะท้าน!

“บุญคุณในวันนี้ ฉันจะตอบแทนไปจนวันตาย!”

แต่ในตอนนั้นเอง สมาชิกตระกูลเฝิงมากมายก็เข้ามาสนับสนุนจนมีคนอยู่ในพื้นที่ราว 100 คน!

คนที่อ่อนแอที่สุดในหมู่คนเหล่านี้มีกำลังภายในระดับเบื้องต้น

“ฆ่ามัน! ไปกันเถอะ!”

“ฆ่าผู้บุกรุก!”

เสียงตะโกนค่อย ๆ ดังกึกก้องขึ้นอีกครั้ง ความได้เปรียบทางจำนวนทำให้ทุกคนมั่นใจมากขึ้นและพุ่งตรงไปยังชายหนุ่ม 2 คนที่ใจกลางสนามรบพร้อมกระบี่ในกำมือ!

แต่มันไร้สาระเหลือเกินในสายตาของฮ่าวหราน!

“ฮึ! ไม่ว่าจะมีมดกี่ตัว มันก็ยังเป็นมด!”

หลังจากที่พ่นลมหายใจอย่างเยือกเย็น เขาก็ยกมือขึ้นเตรียมพร้อมเผชิญหน้ากับผู้คนราว 100 ชีวิตที่ถือดาบตรงเข้ามาอย่างไร้ความกลัว!

หลังจากที่พลังจิตวิญญาณถูกอัดฉีดเข้าไปในฝ่ามือกลางอากาศ รัศมีแสนทรงพลังก็แพร่กระจายออกมาทันที

ก้อนอิฐหินบนพื้นดินใกล้เคียงไม่อาจต้านทานแรงกดดันได้และแตกเป็นเสี่ยง ๆ ก้อนแล้วก้อนเล่า!

ผู้คนที่พรั่งพรูเข้ามาดูราวกับถูกรถบรรทุกชนเข้าโดยตรงและต่างก็กระอักเลือดออกมาพร้อมกระเด็นถอยหลังไป!

ราวกับสายลมพัดโหมพาใบไม้ร่วงโณย พื้นที่โดยรอบถูกกวาดล้างในพริบตา!

แม้แต่ชายร่างกำยำในขั้นก่อรากฐานระดับต้นก็ถูกระเบิดไปพร้อม ๆ กัน!

ตอนนี้มีแค่พวกเขาเท่านั้นที่ยังคงยืนอยู่

พลังของการโจมตีเพียงครั้งเดียวนี้น่าหวาดกลัวยิ่งนัก!!

คนที่เหลือต่างก็ตกตะลึงและมองดูชายหนุ่มตรงกลางด้วยความหวาดผวาราวกับว่าเห็นผี