หลังจากการปรับปรุงร้านเก่าและกำเนิดร้านใหม่ สถานะการณ์โดยรวมการเปิดร้านของเขาในตอนนี้ไม่ได้ยุ่งยากและใช้พนักงานมากนัก กฏของสมาคมก็ออกมาแล้วเช่นกัน
แน่นอนว่าหากลูกทำการฝากเงิน แปดร้อยคริสตัลจะกลายเป็นสมาชิกของสมาคมโดยทันที
เช้ารุ่งขึ้น … ฟางฉีที่กำลังเตรียมบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปพลางดูซูโมที่กำลังฝึกฝนเทคนิคควบคุมดาบ
“แปดร้อยคริสตัล!?” รวนหนิงอยากเล่นเกม แต่เมื่อเห็นราคาเธอรู้สึกหมดหวัง ทั้งราคาที่แพงและเวลาที่น้อยที่ต้องเฝ้าร้านก่อนค่อยเจียดเวลามา
ตอนนี้โทเค็นที่มีรูปดาบมังกรแบบคาเฟ่ก็ได้แขวนอยู่ที่ประตูร้านของเธอเช่นกัน ซึ่งมันถือเป็นสิ่งที่น่าเตะตา
ขณะเดียวกันในตอนที่เธอเห็นคุณสมบัติแลกเข้าของการเป็นสมาชิกเธอแทบตาแตก “แพงมาก! นี่ประธาน ไม่มีส่วนลดในฐานะสมาชิกสมาคมบ้างหรือ?”
ฟางฉีกล่าวด้วยความสงสาร “ขออภัยไม่มีส่วนลด!”
รวนหนิงทำหน้ามุ่ยการเข้าเป็นสมาชิกใช้คริสตัลถึงแปดร้อยก้อนแถมเธอยังไม่ได้รับส่วนลดในฐานะสมาชิกอีก!
ช่างไม่สมเหตุสมผล! เธอคิดในหัว
ณ คาเฟ่ ในจิวหัว
ซงฉิงเฟิงและคนอื่นๆ เดินเข้าไปในคาเฟ่และเห็นคำอธิบายบนกระดานดำเล็ก “ใครก็ตามที่ฝากคริสตัลถึงแปดร้อนก้อนหรือมากว่านั้นจะได้รับเข้าเป็นสมาชิกฟรี!”
ในการเป็นสมาชิกของร้านท่านจะมีเวลาเล่นเพิ่มได้สองชั่วโมง สมาชิกที่สนใจเข้ารุ่นทดลองในตอนนี้จะได้รับเวลาเล่นเพิ่มอีกสองชั่วโมงต่อวันในทันที .. รวมเป็นสิบ!
พวกเขามองหน้ากัน พวกเขาจะมีเวลาเล่นถึงสิบชั่วโมงและขั้นตอนการสมัครนั้นไม่ได้ซับซ้อนเพียงแค่ต้องเซ็นชื่อบนการ์ดที่ทำจากวัสดุพิเศษ
การใช้จ่ายของซงฉิงเฟิงนั้นเกินกว่าแปดร้อนคริสตัล ขณะนี้ในมือเขากำลังถือการ์ดสีดำหลังจากสมัครเสร็จสิ้น เขาสามารถเล่นได้ถึงสิบชั่วโมงต่อวัน เขาร่างเริงจนเก็บไม่อยู่!
ขณะเดียวกันเถากุนและหัวงชานเองก็เดินเข้ามาในร้านพร้อมกับคนกลุ่มใหญ่และเห็นป้ายประกาศบรกระดานดำเล็ก ในการได้ชั่วโมงเล่นเพิ่มอีกสองชั่วโมงพวกเขาต้องทำการฝากคริสตัลแปดร้อยก้อน ซึ่งมันดี แต่หากจ่ายคนละแปดร้อยในตอนนี้พร้อมกันกลุ่มใหญ่คงหมดนับหมื่น ..
แม้ว่าพวกเขาจะได้ชมพลังของร้านเมื่อวานไปแล้ว แต่มันก็ยังคงเป็ฦนเรื่องแปลกใหญ่ เขารู้สึกว่ารากฐานยังไม่มั่นคงสาแก่ใจพอ!
“เอ่อ .. ศิษย์พี่เถาท่านมีความเห้นว่าไง” หวังชานถาม
เถากุนมองไปที่ผู้ปลูกฝังวัยกลางคนที่สวมเสื้อคลุมสีน้ำเงินเข้ม
“ข้าจะลองก่อนถ้ามันยิ่งใหญ่อย่างที่เขาพูดกันจริงข้าก็คิดว่าสมาชิกระดับสูงของศาลาหยวนเฮงควรได้รับการเป็นสมาชิกนี้!” ตังหยวนอาขารย์คนแรกของศาลาหยวนเฮงกล่าว หลังจากที่เขาได้ยินเกี่ยวกับการถูกทำลายของร้านยา เขาจึงตัดสินใจมากับเถากุนและศิษย์เพื่อดูว่าที่นี่มีประสิทธิภาพเพียงใด
ใบหน้าของหวังชายกระตุกเขาจินตนาการว่าที่นี่ต้องร่ำรวยแน่ หากพวกเขาฝากคริสตัลรวมกัน มันคงนับได้เป็นหมื่น!
เถากุนเห็นศิษย์น้องที่ยืนอยู่ข้างหลังเฉย เขาจึงดุว่า “ยืนอยู่ทำไม ไปช่วยอาจารย์หาค่าประสบการณ์สิ!”
“โอ้ . ใช่ๆ” เหล่าศิษย์น้องที่มากับเขาดึงสติอีกครั้งจากความงุนงง
จากนั้นเถากุนเดินไปที่เคาน์เตอร์และจ่ายเงินในฟางฉี “นี่ท่าน หากพวกเราสนใจเป็นสมาชิกกันหลายคนมีส่วนลดบ้างมั้ย?”
“ขออภัยไม่มีส่วนลด!” ฟางฉีตอบแม้ว่าพวกเขาจะมากันเป็นกลุ่มใหญ่
เถากุนดูขุ่นเคืองเล็กน้อย “นี่มันไม่เหมาะสมจะทำธุรกิจเลย! ”
ฟางฉีชี้นิ้วไปที่กระดานดำ [ถ้าเล่นก็อยู่ ไม่เล่นก็ออกไป]
“…”
“ใช้เวลานานเท่าไรกว่าจะได้แปดร้อนคริสตัล!?” รวนหนิงบ่น “การเก็บเงินไว้กับตัวเองน่าจะดีกว่าเก็บไว้ในที่ของเจ้า ถ้าเจ้าใช้เงินหมดละ?”
ขณะเดียวกันบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปของฟางฉีพร้อมรับประทานแล้ว เขาเปิดฝาขึ้นมากลิ่นฟุ้ง!
“นั่นอะไร? กลิ่นมันหอมมาก!” รวนหนิงสูดดม “เจ้ากินอะไร?”
“บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป” ฟางฉีตอบพลางแกะขนมแท่งรสเผ็ด กลิ่นของมันหอมไม่แพ้กันมันหอมจนลอยไปเตะจมูกของเธอ “ถ้าข้าเป็นสมาชิกของสมาคมแล้ว ท่านแบ่งอาหารให้ข้าบ้างได้มั้ย?”
“แค่แท่งเดียว!” ฟางฉีเอ่ย “ถ้าเจ้าต้องการมากกว่านี้เจ้าต้องซื้อ!”
“งก!” แม้ว่าจะตำหนิเขาแต่เธอก็รีบคว้าขนมแท่งเดียวมาอย่างรวดเร็ว!
ฟางฉีเรียกโมน้อยให้มาร่วมกิน เขาแบ่งแท่งเผ็ดให้ไปสองสามชิ้น
“มันจะอร่อยยังไง!?” รวนหนิงบ่นก่อนจะใส่ปาก มันเป็นรสเผ็ดที่อร่อยแบบไม่เคยกินมาก่อน มันพิเศษจนเธอเกือบกรีดร้อง
“กล่องเดียวเท่าไร!?”
“คริสตัลสิบห้าก้อน!” ฟางฉีตอบขณะเคี้ยงตุ้ย
“ข้าเอาหนึ่งกล่อง” เธอชั่งใจและตอบอีกครั้ง “และบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปหนึ่งชาม!”
“เจ้าต้องการไส้กรอกด้วยมั้ย?” ฟางฉีหยิบไส้กรอกในชามของเขาแล้วคีบขึ้นมากัด
“มันเท่าไรหรอ?”
“ยี่สิบเอ็ดคริสตัล”
ทันใดนั้นเธอก็เริ่มรู้สึกว่าแปดร้อยคริสตัลคงจะหมดไปในไม่ช้า
“กลิ่นหอมนี่อะไร?” เวลานี่เถากุน, หวังชานและผู้คนที่มาด้วยได้กลิ่นพวกเขากำลังถูกล่อลวงเช่นกัน “ท่าน! เราทุกอยากได้คนละหนึ่งถ้วยและหนึ่งกล่อง!”
ในไม่ช้ากลิ่นของบะหมี่และขนมเป็ดได้อบอวลไปทั้งคาเฟ่
“อ่า กลิ่นมันหอมมาก!”
“อร่อยมาก!”
…
หลังจากฟางฉีซัดบะหมี่กึ่งสำเร็จรุปเสร็จ เขาก็กลับมาออนไลน์และเล่นเกมอีกครั้ง
ขณะนี้มีคนประมาณเจ็ดสิบคนยืนอยู่หน้าหมู่บ้านมือใหม่ด้วยความเรียบคนส่วนใหญ่อยู่ในชุดผ้าฝ้ายพร้อมในมือถือดาบไม้
“น้องหวัง!” เถากุนดูจริงจัง “กองทับจิวหัวที่ฆ่าเจ้าเมื่อวานนี้อยู่ที่ไหน? พวกเขาอ้างว่าพวกเขาจะฆ่าใครก็ตามที่มาจากอาณาจักรดวงดาวของเรา! ข้าละอยากจะเห็นว่าพวกเขาจะทำอะไรได้แค่ไหน”
ตรงกลองของกลุ่มคือชายวัยกลางคนที่สวมชุดผ้าฝ้ายพร้อมดาบไม้เล็กๆ เขาคือหยวนเฮง “อย่างที่เจ้าพูดข้าสามารถเพิ่มพลังการฝึกฝนจากการฆ่าสัตว์ประหลาดที่นี่! ข้าลองแล้วพบว่ามันได้ผลดีมาก ไม่มีใครรู้ว่ามีขุมทรัพย์ซ่อนอยู่ในโลกนี้ หมายความว่าเราเองก็จะต้องสร้างกำลังของเราให้ดีที่สุดเช่นกัน”
“ด้วยวิธีนี้เราสามารถเพิ่มจุดแข็งของตัวเองได้ดียิ่งขึ้น!”
“เนื่องจากคนเหล่านั้นอ้างว่าพวกเจาจะฆ่าเราทุกคนจากอาณาจักรดวงดาวของเรา เราจะต้องให้พวกเขาได้ลิ้มรสความแข็งแกร่งของเรา!” เขายกดาบไม้เล็กๆ ของเขาและตะโกนขึ้น “ฆ่า! ทุกคนที่เป็นส่วนหนึ่งของกองทัพจิวหัว อย่าปล่อยให้ใครหลุดไป”
“อืม .. ท่านอาจารย์ตัง แล้วเราจะทำอะไรกันในตอนนี้?” เถากุนถาม
“ส่งพวกชั้นสูงมาสองสามคนแล้วพาข้าไปกวาดปีศาจแมวที!” ตังหยวนตะโกนเรียกพลัง