คุณสามี แห่ง ปาฏิหาริย์ บทที่ 443
แดร์ริลยักไหล่และจากไป เขาไม่มีเวลาโต้เถียงกับเอเวอลิน เพราะเขามีเรื่องสำคัญกว่านั้น ต้องไปครอบครองคัมภีร์มาให้ได้!

ไซออนมองไปหาเอเวอลินหลังจากเห็นแดร์ริลจากไปนานแล้วและตำหนิเธอเบา ๆ “เอเวอลิน มิสเตอร์แดร์ริล ช่วยชีวิตฉันไว้ถึงสองครั้ง ไปหยาบคายกับเขาขนาดนั้นได้ยังไง?”

เอเวอลินยักคิ้วขึ้นและกร่นด่าอย่างเย็นชา “คุณปู่ ชายคนนี้เป็นคนสารเลว ตอนนี้ถือว่าหนูทำตัวค่อนข้างสุภาพกับเขาแล้ว”

ในเวลาเพียงแค่วันเดียว ไอ้เวรนี่คอยตามสั่งใช้เอเวอลินไปรอบ ๆ และทำให้เธออับอายหลายครั้งหลายหน

ส่วนที่เลวร้ายที่สุดคือเอเวอลินได้พาเขาเข้าไปในห้องน้ำด้วยกัน

เอเวอลินจะไม่มีวันลืมความอัปยศที่เธอได้เผชิญไปตลอดชีวิต

เธออยากจะฆ่าแดร์ริล ถ้าหากไม่ใช่เพราะว่าคุณปู่ของเธอจำเป็นต้องพักผ่อนหลังจากได้รับการปล่อยตัว แดร์ริลควรถือว่าตัวเองโชคดีที่เอเวอลินปล่อยเขาไป!

เอเวอลินจะเอาคืนให้ได้ในท้ายที่สุด!

ในภูเขาทางตอนเหนือของเมืองตงไห่

แดร์ริลกำลังเดินไปตามทางเดินในป่าบนภูเขาขนาดใหญ่แห่งนี้เพียงคนเดียว ท่ามกลางเสียงแมลงและนกรอบ ๆ ตัวเขา

ฟ้ามืดมัวและดูทำท่าเหมือนฝนจะตก แต่อากาศยังค่อนข้างร้อนอบอ้าว

“เร็วเข้า ฝนตกสักที…” แดร์ริลปาดเหงื่อออกจากหัว อากาศมันร้อนเกินไป และแดร์ริลหวังว่าฝนจะเทลงมาอย่างรวดเร็วเพื่อที่เขาจะได้คลายร้อน แดร์ริลรู้สึกห่อเหี่ยวเล็กน้อย ในขณะที่เขาคิดว่าสถานที่ที่ไซออนกล่าวถึงนั้นจะหาง่าย แต่เขากลับพบว่ามันยากเย็นจริง ๆ เมื่อเขามาถึง

‘ให้ตายสิ ภูเขาเหล่านี้กว้างใหญ่ไพศาลมาก ฉันจะหาหุบเขาเจอได้ยังไงกัน?’

แดร์ริลบ่นพึมพัมขณะเขาเดินผ่านพุ่มไม้ข้างหน้าเขา ดวงตาของเขาก็เปิดกว้างขึ้นทันใด!

แดร์ริลได้พบกับซากปรักหักพังของหิน!

เขายิ้มในทันทีเมื่อเห็นทิวทัศน์ต่อหน้าต่อตาและรีบเร่งก้าวย่าง ไซออนกล่าวถูกต้อง มีซากปรักหักพังของหินอยู่ในหุบเขาจริง ๆ!

บรรดาซากเหล่านี้ต้องเป็นของพระราชวังโบราณที่พังทลายลงและมีเพียงซากปรักหักพังของเสาหินเหล่านี้เท่านั้นที่หลงเหลืออยู่

แดร์ริลรู้สึกราวกับว่าเขาได้ก้าวข้ามเข้าไปในอดีตกาล เมื่อมาถึงสถานที่แห่งนี้

“เทคนิคการแกะสลักและศิลปะบนเสาหินเหล่านี้คล้ายคลึงกับสมัยราชวงศ์ถังโบราณ…”

แดร์ริลมองไปรอบ ๆ และพึมพำกับตัวเอง จากนั้นเขาเดินไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือตามที่ไซออน กล่าวถึงที่ซ่อนของคัมภีร์

‘หนึ่ง สอง สาม นี่คือเสาที่สาม คัมภีร์ควรจะอยู่ตรงนี้’

แดร์ริลคุกเข่าลงและดึงหีบห่อที่ห่อด้วยกระดาษน้ำมันออกมาจากรอยแตกร้าวใต้เสา เขารู้สึกปลาบปลื้มใจในทันทีเมื่อกำลังแกะหีบห่อของมันออกมา!

มันเป็นหนังสือปกสีเหลืองที่มีคำเขียนว่าคัมภีร์มหาปริศนาเขียนอยู่ข้างบน

คัมภีร์ทำให้แดร์ริลมีความรู้สึกแปลกตาและเพียงแวบตาเดียวก็เพียงพอแล้วที่จะตัดสินว่าคัมภีร์เป็นของแท้ ในที่สุดแดร์ริลก็มีมันไว้ครอบครองอยู่ในมือ

แดร์ริลนึกขึ้นได้ว่านิกายตำหนักอมตะได้มอบคัมภีร์ปลอมให้แก่เจ้านิกายในวันเกิดของเขา เมื่อเห็นปกสีเหลืองเล่มของปลอมก็มีปกสีเหลืองด้วย

มือของแดร์ริลสั่นระรัวเมื่อเขาเปิดคัมภีร์โดยไม่จำเป็นต้องคิดไตร่ตรอง

คัมภีร์มหาปริศนานี้บรรจุความลับอันมโหฬาร ใครก็ตามที่สามารถค้นพบมันจะสามารถหลอมรวมและควบคุมยุทธภพได้ นี่คือสมบัติล้ำค่าที่ผู้บ่มเพาะจำนวนมากปราถนาจะต้องการมาไว้ครอบครอง!

ไม่มีใครสามารถจะหักห้ามใจไม่ให้อ่านคัมภีร์ได้ และแดร์ริลนั้นก็ไม่ต่างกัน!

อย่างไรก็ตามแดร์ริลรู้สึกผิดหวังเพราะมันไม่มีอะไรน่าสนใจในคัมภีร์เลย มันเต็มไปด้วยคำคมของลัทธิเต๋าที่มีชื่อเสียง และไม่มีเทคนิควิชายุทธปรากฏอยู่ในนั้นเลยแม้แต่นิดเดียว

‘ให้ตายสิ ความลี้ลับมันอยู่ตรงไหน? เป็นไปได้ไหมที่ฉันต้องรวบรวมให้ครบทั้งเจ็ดเล่มเพื่อดูมัน?’

ตู้ม!

ในเวลานั้น สายฟ้าก็ปรากฏขึ้นมาตามด้วยฝนที่ตกลงมา

‘ในที่สุดฝนก็ตกลงมา ความอบอ้าวกำลังจะฆ่าฉัน!’ แดร์ริลบ่นในใจขณะที่เขารีบห่อคลุมคัมภีร์และมองหาที่พัก’

ในทันใดนั้น แดร์ริลก็ตกกะลึงงันในทันที!

เขาสังเกตเห็นในความประหลาดใจของเขาคืองานเขียนแกะสลักบางอย่างปรากฏขึ้นบนเสาหินก้อนแรกหลังจากที่มันเปียกฝน!

‘ให้ตายสิ มีคำเขียนสลักอยู่บนเสาหินนี้จริง ๆ หรอ?’

แดร์ริล สงสัยอยากรู้อยากเห็นและเดินไปที่เสาหินเพื่อดูให้ถี่ถ้วนชัดเจน

‘สาม, ฉัน, สอง, ท้องฟ้า, ภูเขา, คัมภีร์, ราชา… นี่มันหมายความว่ายังไง? คำเหล่านี้ไม่สมเหตุผลเลย! บางทีมันอาจจะจำเป็นต้องจัดเรียงประโยคใหม่?’