โจวเฉินจุนต้องการจะเชิญ หลินฟานไปทานอาหารเย็นเพื่อเป็นการรับผิดชอบสำหรับเรื่องนี้

แต่ตอนนี้หลินฟาน ต้องการไปซื้อยาเพื่อที่จะเอามาทาหน้าของหลินเสี่ยวเหยาที่ตอนนี้มันยังคงแดงและบวมอยู่ไม่น้อยเลย

หลินฟานก็เลยปฏิเสธเขาไป

พวกเขากลับไปขึ้นรถลัมโบร์กินี่

หลินเสี่ยวเหยา ดูเหมือนพึ่งจะมานึกถึงเหตุการณ์นั้นได้และพูดกับหลินฟานอย่างตื่นเต้น “พี่ชาย พี่ไปเรียนรู้ทักษะการต่อสู้มาตั้งแต่เมื่อไหร่กันหรอ? ทั้งการกระทำและท่าทางต่างๆที่พี่ใช้ปกป้องน้อง มันหล่อมากๆเลยนะ!”

มันสุดยอดมากจริงๆ เธอชมพี่ของเธอไม่หยุดหย่อน ขณะพูดก็ได้ทำให้แผลบนใบหน้านั้นกลับมารู้สึกเจ็บอีกครั้ง

หลินฟานรีบพูด “เสี่ยวเหยา น้องเป็นไรไหม หยุดอยู่นิ่งๆไม่ต้องพูดเลย เดี๋ยวพี่จะรีบไปซื้อยามาให้นะ”

หลินเสี่ยวเหยาพูด “ไม่ต้องถึงขั้นใช้ยาก็ได้ แค่เอาน้ำแข็งประคบก็พอแล้ว”

แต่สุดท้ายหลินฟานก็ซื้อทั้งยาและน้ำแข็งมาให้หลินเสี่ยวเหยาอยู่ดี

เมื่อใช้ทั้งสองอย่างรักษา ผลที่ได้ก็ค่อนข้างดีเยี่ยมทีเดียว

เมื่อพวกเขาได้กลับมาถึงโรงพยาบาลกลางชิงเฉิง ความแดงและความบวมบนใบหน้าของหลินเสี่ยวเหยาก็หายไปอย่างสมบูรณ์

ในขณะนั้นเอง โทรศัพท์มือถือของหลินฟานก็ดังขึ้นมาอย่างรวดเร็ว

“คุณหลิน ผมต้องขอโทษสำหรับเรื่องในวันนี้จริงๆ เดี๋ยวผมจะจัดการกับบุคคลที่เกี่ยวข้องกับเรื่องในห้างสรรพสินค้าหยินซานในชิงซีอย่างจริงจัง” ซงจื้อเฟิงพูดด้วยความรู้สึกเกรงกลัว

หลินฟานพูดตอบ “ไม่เป็นไร โจวเฉิงจุน นายทำงานได้ดีแล้วหล่ะ แต่ในอนาคตฉันไม่ต้องการให้มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับครอบครัวของฉันอีก”

“ได้เลยครับ คุณหลิน โปรดวางใจผมได้เลยครับ!” ซงจื้อเฟิงถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอก

หลังจากวางสายโทรศัพท์

จู่ๆหลินเสี่ยวเหยาก็ถามขึ้นมา “พี่ชาย พี่เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของ ห้างสรรพสินค้าหยินซานจริงๆหรอ”

“ใช่แล้ว และถ้าหากในอนาคตน้องอยากจะซื้อเสื้อผ้า ไม่ต้องไปสนใจเรื่องราคาเลยนะ เดินไปหยิบมันได้เลย พี่ชายของน้องก็พอจะมีเงินอยู่บ้าง” หลินฟานกล่าว

หลินเสี่ยวเหยาจุ๊บที่แก้มของหลินฟานอย่างมีความสุข และพูดออกมาว่า “พี่ชายสุดยอดที่สุดในโลกเลย!”

เมื่อทั้งสองมาถึงหน้าห้องวีไอพี ก็เห็นหลินเถาที่อยู่ในห้องคนไข้กำลังเดินไปเดินมา

และต้าเหว่ยสัวก็กำลังพับเสื้อผ้าทั้งหมดเก็บลงไปในกระเป๋า

“พ่อกับแม่ กำลังทำอะไรกันอยู่ครับ” หลินฟานถาม

หลินเถากล่าว “พ่ออยู่ในโรงพยาบาลนี้มานานแล้ว พ่อรู้สึกเบื่อมากๆ และในช่วงสองวันที่ผ่านมานั้น ได้มีลูกค้าประจำหลายคนโทรมาถามว่าร้านเสื้อผ้าของเราจะกลับมาเปิดได้เมื่อไหร่…เราเลยคิดที่จะออกจากโรงพยาบาลกันวันนี้ .”

“ออกจากโรงพยาบาลกันวันนี้?” หลินฟานรู้สึกกังวลและพูด “พ่อครับ แต่พ่อพึ่งทำการผ่าตัดมาได้ไม่นานเองนะ ดังนั้นผมว่าพ่อควรจะอยู่พักผ่อนต่ออีกสักสองสามวัน”

หลิน เถากล่าวว่า “พ่อไม่อยากอยู่ที่นี่แล้วหล่ะ หมอก็อนุญาตที่จะให้พ่อออกจากโรงพยาบาลแล้วด้วย หากพ่ออยู่ต่อ เกรงว่ารักษาอาการป่วยนี้หายได้ แต่ก็จะได้เป็นโรคอื่นอีกแน่”

หลินฟานคิดว่ามันก็สมเหตุสมผลอยู่ หลังจากนั้นเขาก็คิดทบทวนเกี่ยวกับเรื่องนี้ซ้ำไปซ้ำมา แล้วจึงพูดออกไป “ออกจากโรงพยาบาลได้ แต่ร้านเสื้อผ้าห้ามเปิดเลยนะ และผมว่าจะซื้อบ้านพักตากอากาศในชิงซีหรือเจียงเป่ยให้พ่ออยู่ด้วย…”

“อย่าเลยลูก…บ้านของเราตอนนี้ก็ค่อนข้างดีอยู่แล้ว แค่ต้องปรับเปลี่ยนอะไรนิดหน่อย?” หลินเถาโบกมือครั้งแล้วครั้งเล่า “การขายเสื้อผ้าก็ไม่ได้ใช้แรงมากมายนักหรอก เปิดขายไปก็คงไม่เป็นไรหรอกลูก”

ต้าเหว่ยสัวก็พูดขึ้นเช่นกัน “เสี่ยวฟานลูก พ่อกับแม่รู้ว่าลูกเป็นคนกตัญญูและเป็นเด็กดีมาโดยตลอด”

“แต่พ่อกับแม่อาศัยอยู่ที่ถนนซือเตียวในชิงซีมาตลอดชีวิต และที่นี่ก็มีคนที่พ่อกับแม่รู้จักอยู่เยอะ ถ้าจู่ๆพวกเราต้องย้ายไปที่อื่น เราคงจะไม่ชินกับมันแน่เลย”

“นอกจากนี้ พ่อกับแม่ก็ยังหนุ่มยังสาวอยู่เลย หากเอาแต่อยู่ในบ้านเฉยๆและไม่ทำอะไรเลยทุกวัน มันคงน่าเบื่อมากแน่ๆเลย”

“พ่อกับแม่จะไม่ย้ายไปไหนและร้านเสื้อผ้าของเราก็จะเปิดต่อเหมือนเดิม เพราะฉะนั้นก็ปล่อยให้พ่อกับแม่ทำเถอะนะลูก”

ได้ยินดังนั้น หลินฟานก็ต้องพูดอย่างจนใจ “ถ้าอย่างนั้น… พ่อกับแม่และก็น้องห้ามทำงานหนักจนเหนื่อยเกินไปนะ อย่าลืมกินข้าวกันด้วย และดูแลตัวเองดีๆด้วย”

“ไม่ต้องกังวลนะลูก” ต้าเหว่ยสัวยิ้ม

สามวันต่อมา หลินฟานยังอาศัยอยู่กับพ่อแม่ของเขาที่ถนนซือเตียว

ตลอดสามวันมานี้ หลินฟานเปิดซองแดงทั้งหมดช่วงเที่ยงคืนของทุกวัน บวกกับเงินสดที่เขาได้รับจากการนอน ทุกลมหายใจ และการกระทำมาเป็นเวลาทั้งหมดสามวัน รวมๆแล้วหลินฟาน ได้เพิ่มมาอีกกว่า 3 ล้านหยวน

ในขณะนี้ยอดเงินทั้งหมดของหลินฟาน มีถึง 13.2 ล้านหยวน

และวันนี้ ตามคำขอของพ่อและแม่ หลินฟานกำลังขับรถลัมโบร์กินีไปตามถนนเพื่อกลับไปยังที่ เจียงเป่ย

เหตุผลของหลินเถาและต้าเหว่ยสัวนั้นง่ายมาก เพราะตอนนี้หลินฟานได้รับเลือกเป็นกรณีพิเศษเพื่อศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยเจียงเป่ย เขาต้องไม่ปล่อยให้เหล่าอาจารย์มีความรู้สึกแย่ๆต่อเขา

หากหลินฟานถูกไล่ออกจากมหาวิทยาลัย เพราะหลินเถากับต้าเหว่ยสัวเป็นเหตุหล่ะก็ พวกเขาคงจะรู้สึกเสียใจไปตลอดชีวิต

หลินฟานเองก็ไม่สามารถหาเหตุผลอะไรมาโต้เถียงกับพ่อแม่ของเขาได้

ดังนั้นเขาจึงต้องกลับไปที่เจียงเป่ย

เมื่อไม่กี่วันก่อน หลินฟานขับรถไปที่ชิงซีพร้อมกับความรู้สึกกังวลอยู่ในใจ เขาเลยขับรถมาด้วยความเร็วที่เร็วที่สุดตลอดทาง ทำให้เขามาถึงชิงซีในเวลาอันสั้น

แต่ตอนนี้ หลินฟานกำลังขับรถกลับมาที่เจียงเป่ยด้วยความเร็วคงที่ตลอดทาง

เขาขับรถต่อไปเรื่อยๆอย่างสบายๆ

แต่หลังจากขับรถมาเป็นเวลานาน เขารู้สึกว่าเอวของเขาค่อยๆ รู้สึกเจ็บ

หลินฟานอดไม่ได้ที่จะบ่นพึมพำ “ถ้าฉันมีเวลา ฉันคงต้องไปซื้อรถที่ใหญ่กว่านี้แล้วหล่ะ”

เมื่อหลินฟาน กลับมาถึงที่โรงแรมฮิลตันก็เป็นเวลา 12 นาฬิกาพอดี

โทรศัพท์สั่นเล็กน้อย และซองแดงก็ปรากฏขึ้นทันที

“ติ๊ง! ยินดีด้วย คุณได้รับเงิน 5,000 หยวน”

“ติ๊ง! ยินดีด้วย คุณได้รับเงิน 10,000 หยวน”

“ติ๊ง! ยินดีด้วย คุณได้รับเงิน 5 หยวน”

“ติ๊ง! ยินดีด้วย คุณได้รับทักษะ ดวงตาแห่งความจริง”

ในที่สุดเวลาก็เปลี่ยนเป็น 12:01 น.

หลินฟานพูดอย่างประหลาดใจ “ตอนฉันอยู่ที่ชิงซีก็เปิดได้แต่เงินที่ดูไร้ประโยชน์ แต่ตอนนี้กลับเปิดได้ทักษะใหม่ทันทีเมื่อมาถึงที่เจียงเป่ย เจียงเป่ยคงเป็นสถานที่แห่งโชคของฉันจริงๆ”

ในขณะที่พูด หลินฟาน ให้ความสนใจไปที่ดวงตาแห่งความจริง

【ดวงตาแห่งความจริง 1 คุณสามารถเห็นความงามที่แท้จริงของผู้หญิง (คะแนนเต็ม 100 หมายเหตุ: เสื้อผ้าการแต่การมีผลต่อการให้คะแนน) 2. จะเห็นคะแนนความประทับใจที่ผู้หญิงมีต่อเรา (คะแนนเต็ม 100) 】

หลินฟานพูด “ดวงตาแห่งความจริง? น่าสนใจไม่เบา”

ในทางกลับกัน เฉียวซีหยา ได้ใช้ความพยายามอย่างมาก จนสุดท้ายก็ย้ายสิ่งของของน้องชายทั้งหมดไปที่คอนโดว่านเจีย

จากนั้นเธอก็พาร่างที่เหนื่อยล้ากลับบ้าน

ในตอนนี้ เฉินหมิงเฟินเดินมาอย่างมีความสุขและพูด “ซีหยา ลูกควรเก็บของไปอยู่กับผู้ชายได้แล้วนะ”

เฉียวซีหยาพูดอย่างช่วยไม่ได้ “แม่ ไปนัดบอดให้หนูอีกแล้วเหรอ?”

เฉินหมินเฟินดูไม่พอใจหลังจากที่เห็นท่าทีของลูกสาว และกล่าวว่า “หนุ่มคนนี้ต่างจากหลิน ฟาน คนที่แล้วนะ! ครอบครัวของหลินฟานนั้นยากจน แต่เด็กคนนี้เขาเปิดโรงงานเป็นของตนเอง และเขายังมีรถเบนซ์ขับตั้งสองคัน!”

เมื่อเฉินหมินเฟินกล่าวเช่นนี้ ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยรอยยิ้ม

เฉียวซีหยาพึมพำ “ถ้าครอบครัวของหลินฟานเรียกว่ายากจน ในโลกนี้ก็คงไม่มีคนรวยแล้วหล่ะ”

“หลินฟานเนี่ยนะรวย คุณกำลังพูดถึงเรื่องอะไร” เฉินหมินเฟินพูด

เมื่อได้ยินสิ่งที่แม่พูด เฉียวซีหยาจึงเล่าให้แม่ฟังว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อไม่นานมานี้

เฉินหมินเฟินรีบพูดทันที “ซีหยา นี่ลูกกำลังถูกหลินฟานหลอกแล้วหล่ะ! เขาจะมีรถหรูและคอนโดทั้งหลังในว่านเจียได้อย่างไร แม่รู้จักครอบครัวของพวกเขาดีมากๆเลยนะ”

“ลูกไม่รู้หรอว่าพ่อของ หลินฟานล้มป่วยเมื่อไม่กี่วันก่อน และแม่ของเขาก็พึ่งโทรมาขอยืมเงินแม่!”

“ถ้าครอบครัวของหลินฟานมีเงินมากขนาดนั้นจริงๆ พวกเขาจะโทรมาขอยืมเงินแม่ไปทำไม”

เมื่อได้ยินคำพูดของแม่ของเธอ เฉียวซีหยาอดไม่ได้ที่จะประหลาดใจ

หลังจากนั้นไม่นาน เธอพูดออกมาด้วยความไม่ค่อยเชื่อ “แม่ของหลินฟาน… ขอยืมเงินแม่จริง ๆ หรอ?”

“เรื่องจริงสิ” เฉินหมินเฟินหยิบโทรศัพท์มือถือของเขาออกมาและเปิดให้ดูบันทึกการโทร

แน่นอนว่ามีหมายเลขโทรศัพท์ของต้าเหว่ยสัว อยู่ในรายชื่อพวกนั้น

เฉียวซีหยาเข้าใจในทันที

ที่แท้หลินฟานก็เช่าลัมโบร์กินีมาจริงๆด้วย

นอกจากนี้ หลินฟานไม่ได้มีคอนโดในว่านเจีย เขาแค่ขอให้พนักงานช่วยเขาในการโกหก

หลินฟานไม่ใช่คนที่ร่ำรวยอะไรเลย แต่เป็นแค่คนจนๆที่ชอบโกหกคนไปทั่ว