ตอนที่ 1776 รนหาที่ตาย (4) / ตอนที่ 1777 นางคืออวิ๋นลั่วเฟิง (1)

ยอดชายาจักรพรรดิปีศาจ

ตอนที่ 1776 รนหาที่ตาย (4)

จังมั่วมองโอวเฟยและโอวหลานอย่างเย็นชา และประกายในดวงตาของเขาปรากฏความเหยียดหยาม คนขี้ขลาดแบบเขาจะคู่ควรกับหงหลวนได้อย่างไร

เมื่อโอวเฟยเห็นร่างพวกเขาคอยๆ หายไป เขาก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก เขากลัวว่าหงหลวนอาจจะสร้างความลำบากให้เขาเพราะเขาพูดคำพวกนั้นต่อหน้านาง โชคดีที่หงหลวนไม่ได้สนใจเขามากนัก…

“ท่านพี่!” เมื่อโอวหลานเห็นว่าโอวเฟยกำลังจะจากไป นางก็รีบเรียกเขาไว้ “ข้ามีเรื่องอยากให้ท่านช่วย”

โอวเฟยหลุดแล้วขมวดคิ้ว “เพราะเจ้า ข้าเลยไปทำให้หงหลวนขุ่นเคืองและเสียโอกาสที่จะเข้าหานาง ตอนนี้เจ้ายังจะมาขอให้ช่วยอีกรึ เจ้าจะสร้างปัญหาให้ข้าอีกรึ”

“ท่านพี่ ไม่ต้องเป็นห่วงเจ้าค่ะ เรื่องนี้เป็นเรื่องง่ายๆ สำหรับท่าน คนที่ข้าเกลียดเป็นแค่ศิษย์ใหม่เจ้าค่ะ…”

“ศิษย์ใหม่งั้นหรือ”

โอวเฟยก็รู้สึกโล่งอกที่ได้ยินอย่างนั้น ถ้าเป็นแค่ศิษย์ใหม่ ก็เป็นเรื่องง่ายๆ สำหรับเขาที่จะทำให้คนผู้นั้นมีช่วงเวลาที่ยากลำบากในสำนักศึกษาเมืองประจิม!

“ถึงอย่างไรเจ้าก็เป็นน้องสาวของข้า ข้าช่วยเจ้าได้ถ้าเรื่องนี้ไม่ทำให้ข้ามีปัญหา…”

เมื่อได้ยินคำพูดของเขา โอวหลานก็ยิ้ม นางพึ่งถูกหงหลวน ‘รังแก’ ดังนั้นนางต้องหาใครบางคนมาเอาความรู้สึกนี้ออกไป ศิษย์คนนั้นเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด…

ตอนนี้ทั้งโอวเฟยและโอวหลานยังไม่รู้ว่า ‘ศิษย์ใหม่’ ที่จริงไม่ใช่คนที่พวกเขาจะสามารถยั่วโมโหได้

เพราะความไม่รู้นี้เองที่ทำให้พวกเขาจะทำเรื่องผิดพลาดที่พวกเขาจะต้องเสียใจไปทั้งชีวิต …

“เจ้าได้ข่าวหรือยัง ศิษย์อันดับหนึ่งของศิษย์ระดับสวรรค์เมื่อห้าปีที่แล้ว ศิษย์พี่หญิงหงหลวนกลับมาที่สำนักแล้ว”

“ชิ ข้ารู้เรื่องนี้แล้ว มีคนบอกว่าศิษย์พี่โอวเฟยมีเรื่องขัดแย้งกับศิษย์พี่หญิงหงหลวนและเพื่อนของข้าก็เป็นพยานในเหตุการณ์ด้วย”

“อันที่จริงแล้ว ยังมีข่าวที่ใหญ่กว่านั้นอีก ผู้อาวุโสหูหลี เจ้ารู้จักเขาหรือไม่ ผู้อาวุโสที่อายุน้อยและหล่อเหลาที่สุดในสำนักศึกษา”

“แน่นอน ข้ารู้จัก เกิดอะไรขึ้นกับเขา”

“สองสามวันก่อน มีศิษย์ใหม่สองคนเข้ามาในสำนัก ทั้งคู่มีใบหน้าที่งดงามมากและพวกเขาก็รู้จักผู้อาวุโสหูหลี ทั้งคู่เป็นคนรักกัน ผู้อาวุโสหูหลีและฝ่ายสามีเป็นพี่น้องที่ดีต่อกัน ขณะที่เขาและฝ่ายภรรยาเป็นคนรักกัน”

“นี่…เรื่องนี้เป็นไปได้อย่างไร นี่มันน่าขยะแขยงมาก! เจ้ามั่นใจหรือว่าเป็นเรื่องจริง”

“ต้องเป็นเรื่องจริงอยู่แล้ว มีใครบางคนได้ยินมาจากศิษย์พี่หญิงจางเซี่ย นางยังบอกอีกว่านางเห็นสตรีผู้นั้นกับผู้อาวุโสหูหลีมีอะไรกันในป่าด้วย ซึ่งเป็นเรื่องจริงแน่นอน…”

ในสำนักศึกษา ศิษย์ต่างจับกลุ่มนินทากันแต่ว่าจู่ๆ พวกเขาก็สัมผัสได้ถึงสายตาเย็นชาจากด้านหลัง พวกเขารู้สึกหวาดกลัวจึงรีบหันหลังไปก็เห็นบุรุษในชุดคลุมสีดำยืนอยู่ข้างหลังพวกเขาด้วยใบหน้าเย็นชา

สายตาของเขาดูน่ากลัวมากจนทำให้หัวใจของพวกเขาอดไม่ได้ที่จะสั่นสะท้าน

“หงหลวนกลับมาที่สำนักศึกษาเมืองประจิมงั้นหรือ” อวิ๋นลั่วเฟิงแปลกใจ เหตุใดหงหลวนถึงไม่ได้บอกนาง “จางเซี่ย นางเป็นใครกัน”

ดวงตาสีดำสนิทของอวิ๋นเซียวเต็มไปด้วยจิตสังหาร เขาเม้มริมฝีปากบางของเขาแน่นมากและกลิ่นอายทรงพลังและน่ากลัวก็แผ่ออกมาจากร่างของเขา

ใครก็ตามที่ใส่ร้ายอวิ๋นลั่วเฟิงต้องตาย!

ตอนนั้นเอง ก็มีเสียงฝีเท้าดังมาจากด้านหน้า อวิ๋นลั่วเฟิงเลิกคิ้วเล็กน้อยและมองคนกลุ่มหนึ่งที่มีบุรุษและสตรีคู่หนึ่งเดินเข้ามาหานางอย่างรวดเร็ว

“ท่านพี่ นางคือสตรีผู้นี้เจ้าค่ะ” โอวหลานชี้นิ้วไปที่อวิ๋นลั่วเฟิงและพูดว่า “นางไม่อยากเข้าร่วมการสอบดังนั้นนางจึงยั่วยวนผู้อาวุโสหูหลี ในฐานะที่นางเป็นสตรีที่แต่งงานแล้ว นางมีเพศสัมพันธ์กับผู้อาวุโสหูหลีอย่างหน้าไม่อาย! พวกเราควรสังหารนางทันทีเจ้าค่ะ!”

โอวหลานเชิดหน้าแต่สายตาของนางยังคงจ้องไปที่อวิ๋นเซียว

…………………………

ตอนที่ 1777 นางคืออวิ๋นลั่วเฟิง (1)

ตอนนั้นคนจำนวนมากก็มุงอยู่รอบๆ โอวหลานรู้สึกได้ถึงจากคนที่มองอยู่และเชิดหน้ามากขึ้น

“ที่โอวหลานพูดเป็นเรื่องจริงหรือ” สายตาของโอวเฟยมืดครึ้มและใบหน้าอ่อนโยนของเขาก็เปลี่ยนเป็นเย็นชา “ผู้อาวุโสหูหลีทำเรื่องแบบนั้นได้อย่างไร ดูเหมือนว่าชื่อเสียงของสำนักศึกษาเมืองประจิมจะถูกหูหลีทำให้มัวหมองแล้ว!”

จากคำพูดของโอวเฟยทุกคนก็ได้ยินเสียงดูถูกและเหยียดหยามหูหลี ก่อนที่หูหลีจะกลับมาที่สำนักศึกษา เขาเป็นศิษย์ที่มีชื่อเสียงที่สุดของสำนักแต่ว่า…

เมื่อหูหลีปรากฏตัว สตรีส่วนใหญ่ก็ที่ติดตามเขาก็หันสายตาไปมองหูหลี

เรื่องนี้ทำให้เขาโกรธมาก

หูหลีแค่มีใบหน้างดงามยิ่งกว่าสตรี นอกจากนั้นแล้วเขายังมีอะไรอีก อ้อ ใช่ หูหลีเข้ามาที่สำนักศึกษาเมืองประจิมก่อนเขา ไม่อย่างนั้นหูหลีก็คงอยู่ต่ำกว่าเขาแล้ว! แต่เรื่องนั้นไม่สำคัญ เมื่อเขาจบการศึกษาจากสำนักเมื่อไหร่ ความสำเร็จของเขาต้องเอาชนะหูหลีได้แน่นอน

สายตาอำมหิตของเขาย้ายจากโอวหลานไปที่โอวเฟย

ตอนนั้นเองโอวเฟยก็รู้สึกหายใจไม่ออกราวกับว่ามีมือที่มองไม่เห็นมาบีบหัวใจเขาอย่างแรง เขารู้สึกเหมือนหัวใจของเขากำลังจะแตกละเอียดทันที! ความเจ็บปวดนี้รุนแรงมากจนทำให้โอวเฟยหน้าซีดและดวงตาก็เต็มไปด้วยความตื่นตระหนก

ไม่ใช่ว่าโอวหลานบอกว่าคนทั้งคู่เป็นแค่ศิษย์ใหม่หรอกหรือ

ศิษย์ใหม่จะแข็งแกร่งขนาดนี้ได้อย่างไร

“บอกข้ามา ว่าใครเป็นคนปล่อยข่าวลือ”

เสียงของชายหนุ่มทุ้มและเย็นชา แต่ก็เต็มไปด้วยความโกรธที่ควบคุมไม่ได้

อวิ๋นลั่วเฟิงเอนตัวพิงต้นไม้ที่อยู่ใกล้ๆ อย่างเกียจคร้านและดูการแสดงเงียบๆ ราวกับว่าเรื่องที่เกิดขึ้นที่นี่ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับนาง

โอวหลานคิดว่าสตรีผู้นี้จะโกรธและกังวลเกี่ยวกับข่าวลือที่ถูกแพร่ออกไป แต่ว่านางดูใจเย็นและยังมีรอยยิ้มบนใบหน้าอีกต่างหาก ราวกับว่าอวิ๋นลั่วเฟิงกำลังเยาะเย้ยนาง

“เรื่องนี้ไม่ใช่ข่าวลือนะ!” โอวหลานโกรธเคืองและมองอวิ๋นลั่วเฟิงอย่างอิจฉาริษยา “จางเซี่ยเห็นนางมีเพศสัมพันธ์กับหูหลีด้วยตาตัวเอง ท่านอย่าโดนสตรีผู้นี้หลอก สตรีสำส่อนอย่างนางไม่คู่ควรกับความรักของท่าน…”

ปัง!

เมื่ออวิ๋นเซียวได้ยินคำพูดดูถูกอวิ๋นลั่วเฟิง ดวงตาของเขาก็เปลี่ยนเป็นเย็นชา เขายกมือขึ้นและพายุหมุนก็ถูกพัดไปที่โอวหลานจนทำให้ร่างของนางปลิวออกไป

ทั่วทั้งสำนักเงียบกริบ

ทุกคนจ้องฉากตรงหน้าอย่างประหลาดใจ

โอวหลานเป็นศิษย์ระดับปฐพีแต่ศิษย์ใหม่คนนี้กลับโจมตีนางด้วยการยกมือขึ้นมาเท่านั้นงั้นหรือ

ความจริงแล้วโอวหลานไม่ใช่แค่แพ้ นางรู้สึกแย่มากราวกับมีเปลวเพลิงกำลังเผาผลาญตัวนางจากข้างใน นางเจ็บปวดมากจนใบหน้าซีดเผือดและมีเหงื่อเย็นๆ ไหลออกมา

สิ่งที่ทำให้นางแปลกใจคือ อวิ๋นเซียว ในฐานะบุรุษกล้าทำร้ายนางสตรีที่บอบบาง

เขาสมควรทำร้ายสตรีหรือ

อีกอย่างพวกเขาทำผิด พวกเขาทำเรื่องที่ผิดและไม่ยอมให้คนอื่นพูดถึงอย่างนั้นหรือ

“ข้าไม่เคยพูดอะไรอย่างนั้น!” ที่ด้านหลังฝูงชนมีเสียงวิตกกังวลดังขึ้น จางเซี่ยรีบมาด้วยใบหน้าวิตกกังวล “ข้าไม่เคยเห็นนางมีอะไรกับชายคนอื่นและข้าก็ไม่ได้เป็นคนปล่อยข่าวลือด้วย”

ใบหน้าของโอวหลานดำมืด ปกติแล้วพี่ชายของนางไม่มีทางยอมให้นางโดนคนอื่นรังแกแน่ เหตุใดเขาถึงยืนอยู่ตรงนั้นเฉยๆ

แต่ว่าตอนนี้นางไม่สามารถถอยหลังได้แล้วดังนั้นนางจึงยืนขึ้นแล้วอดทนต่อความเจ็บปวด “จางเซี่ย ข้ารู้ว่าเจ้าปฏิเสธเพราะกลัวความแข็งแกร่งของผู้ชายคนนี้ แต่คำพูดพวกนี้ล้วนออกมาจากปากเจ้า ข้าแค่พยายามจะกำจัดความชั่วร้ายออกจากสำนักศึกษา”