บทที่ 511 ตระกูลที่สิ้นหวัง
บทที่ 511 ตระกูลที่สิ้นหวัง
การเผชิญหน้ากันระหว่างอวี้ฮ่าวหรานและศัตรูใช้เวลาเพียงครู่เดียวเท่านั้น ชายวัยกลางคนจากตระกูลเฝิงไม่อาจเอาชนะได้ แขนของเขาอาบไปด้วยเลือดและกระเด็นถอยไปไกล!
เมื่อถึงพื้นเขาก็หมดสติทันที!
ทุกคนต่างก็หวาดผวาเพราะเขาเป็นหนึ่งในผู้ฝึกตนเพียงไม่กี่คนในตระกูลเฝิงที่เข้าสู่ขั้นก่อรากฐานระดับกลางได้สำเร็จ
ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียวเท่านั้น!
แม้แต่หัวหน้าตระกูลเฝิงก็ได้แต่ขนหัวลุกซู่!
เขากำลังจะเข้าสู่ขั้นก่อรากฐานระดับสูง แต่ก็เป็นไปไม่ได้เลยที่จะเอาชนะพลังนั้นได้
พละกำลังของชายหนุ่มตรงหน้าน่าเหลือเชื่อจริง ๆ!
“ตระกูลเฝิงของฉันไปทำอะไรให้แก? ทำไมต้องมาฆ่ากันถึงหน้าประตูบ้านแบบนี้!”
เขาหยุดความคิดที่จะเผชิญหน้าและเอ่ยถามขึ้นแทน
อวี้ฮ่าวหรานหันไปมองอีกฝ่ายด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความรังเกียจ
“พวกมดปลวกถูกฆ่าตอนที่ต้องถูกฆ่า ยังจะต้องถามอะไรเพิ่มอีกเหรอ?”
ตระกูลเช่นนี้ควบคุมกองกำลังต่าง ๆ และสังหารกองกำลังฝ่ายตรงข้ามอย่างโหดเหี้ยมไปมากมาย พวกเขาชั่วร้ายอยู่แล้วย่อมไม่มีเหตุผลอะไรให้ต้องสุภาพด้วยแม้แต่น้อย
ต่างไปจากสำนักเมฆาครามที่แทบจะปลีกตัวออกจากโลก และไร้ซึ่งการเข่นฆ่า
“แก! คิดว่าตระกูลเฝิงของฉันมีคนแค่นี้หรือไง?!”
หัวหน้าตระกูลเฝิงเป็นคนโหดเหี้ยมมาตลอด เขาสังหารกองกำลังขนาดเล็กแ ละทำให้ผู้คนต้องร้องขอเมตตาไปนับไม่ถ้วน
“ไอ้เด็กอวดดี! ตายซะ!”
หลังจากนั้นเขาก็มองเห็นพลังจิตวิญญาณรอบกายได้อย่างชัดเจน
“ฮะ ๆ บุกเข้ามาโดยไม่คิดหน้าคิดหลังสินะ”
อวี้ฮ่าวหรานหัวเราะเยาะและรู้ถึงเจตนาของอีกฝ่ายในพริบตา
แต่ผู้อาวุโสตระกูลเฝิงในห้องโถงก็สร้างเขตพลังขึ้นและยืนขวางหน้าเขา!
“ป้องกันการเลื่อนขั้นของหัวหน้า!”
“รอหัวหน้าเลื่อนขั้นสำเร็จก่อนเถอะ ไอ้เด็กนี่จะไม่ได้แผลงฤทธิ์อีกแล้ว!”
“…”
หลังจากเสียงตะโกนดังลั่น ทุกคนก็ระเบิดพลังจิตวิญญาณออกมา!
พลังจิตวิญญาณนับไม่ถ้วนกลับกลายเป็นภูติกระบี่โบราณ และฟาดฟันไปยังอวี้ฮ่าวหรานในทันใด!
แต่เขาก็ยังคงใจเย็นและยกมือขึ้นมาทำลายมันโดยตรง!
ด้วยพลังของพระเจ้า เพียงแค่การโจมตีเดียวก็สามารถทำลายทุกสิ่งได้!
ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!
เมื่อพลังของทั้งสองฝ่ายปะทะกัน เสียงสะเทือนเลือนลั่นก็ดังขึ้นในทันใด!
ด้วยการปะทะที่ทรงพลังนี้ แผ่นหินบนพื้นดินพลันแหลกสลายเป็นผุยผง โต๊ะและเก้าอี้โดยรอบกลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยทันที!
ฝุ่นและควันฟุ้งไปทั่วทุกหนแห่ง!
ทุกคนปล่อยการโจมตีที่ทรงพลังที่สุดออกมาแต่ก็ยังรู้สึกว่าพลังจิตวิญญาณเหล่านั้นอ่อนแอเกินไป
“มัน…มันควรจะตายแล้วใช่ไหม?”
“การโจมตีที่รุนแรงแบบนั้นเทียบได้กับขั้นก่อรากฐานระดับสูงเลยนะ ถึงไม่ตายก็ต้องบาดเจ็บหนักแน่”
“ฮึ ยังไงตระกูลเฝิงก็ต้องมีไพ่ตายอยู่แล้ว!”
“…”
ผู้คนเริ่มพูดคุยกันและต่างก็เป็นกังวล
ชายหนุ่มที่น่าสะพรึงกลัวเช่นนี้ถูกพวกเขาขัดขวางเอาไว้
แต่ตอนนั้นเอง ชายคนหนึ่งก็เดินออกมาจากกลุ่มควัน เสื้อผ้าของเขาไม่เสียหายแม้แต่น้อย และถึงอยู่ในควันมันก็ไม่เปื้อนฝุ่นแม้แต่น้อย!
“เป็นไปได้ยังไงกัน!!”
เมื่อเห็นภาพนี้คนในฝูงชนก็อดอุทานไม่ได้!
ใบหน้าปลื้มปีติของทุกคนแข็งทื่อทันที ต่างก็อ้าปากค้างด้วยความตกตะลึง
เมื่ออวี้ฮ่าวหรานเห็นดังนั้นก็เผยรอยยิ้มออกมาเล็กน้อย
“มีแค่นี้เหรอ? น่าเสียดายนะ…ยังอ่อนหัดไป!”
ทันทีที่พูดจบ เขาก็ดูราวกับสายฟ้าและไปปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าทุกคนภายในชั่วพริบตา!
ผู้คนจำนวนหนึ่งถูกมวลพลังระเบิดเข้าใส่ทันทีโดยไม่มีเวลาให้ตั้งตัวด้วยซ้ำ!
ด้วยพลังจิตวิญญาณที่ทรงพลังนี้ ไม่มีใครรู้ได้ว่ามีกระดูกหักไปกี่ท่อนแล้วกันแน่!
และที่สำคัญคือไม่มีใครสู้เขาได้ทั้งนั้น!
“ไอ้เด็กอวดดี! ไปตายซะ!”
ตอนนั้นเอง พละกำลังของหัวหน้าตระกูลเฝิงก็เพิ่มขึ้นถึงขีดสุดก่อนที่เขาจะฟันกระบี่ลงมาด้วยพลังมหาศาล!
อวี้ฮ่าวหรานขมวดคิ้วและโรมรันฟันแทงต่อไป พลังจิตวิญญาณในร่างกายของเขาเริ่มต่ำแล้ว จำต้องรีบจบการต่อสู้ให้เร็วที่สุด
ท่ามกลางสายฟ้าและก้อนหิน เขาหลบหลีกการโจมตีของศัตรูด้วยความสามารถในการตอบสนองเหนือชั้น
เมื่อเห็นดังนั้น หัวหน้าตระกูลเฝิงก็เผยสีหน้าหวาดผวาและรีบตั้งรับ แต่ก็สายไปเสียแล้ว!
ตู้ม!
พลังจิตวิญญาณอันรุนแรงทิ้งร่องรอยสีแดงฉานไว้บนเอวของอีกฝ่าย!
การโจมตีนั้นใช้พลังแทบทั้งหมดที่เหลืออยู่ของอวี้ฮ่าวหรานและกำจัดศัตรูได้ในทันที!
พลังอันน่าสะพรึงกลัวไม่สนใจกำแพงตรงหน้าและระเบิดศัตรูออกไปจากห้องโถงทันที!
เขายังไม่หยุดเพียงแค่นั้น อวี้ฮ่าวหรานเตะเท้าข้างหนึ่งออกไปเกิดเป็นระเบิดที่สร้างหลุมขนาดเล็กบนพื้นดิน และเขาก็รีบพุ่งตัวออกไปทันที!
ปัง! ปัง! ปัง!
การโจมตีมากมายเข้ามาจากด้านนอกทำให้หวังเหยียนรู้สึกหวาดกลัวเล็กน้อย
ยังมีมนุษย์ที่ทรงพลังขนาดนี้อยู่บนโลกด้วย!
ในขณะเดียวกันเขาก็ขอบคุณที่ไม่ต้องมาแก้แค้นด้วยตัวคนเดียว
ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่รอดแน่…!
เสียงด้านนอกห้องโถงเงียบสงบลงอย่างรวดเร็ว
อวี้ฮ่าวหรานคว้าตัวหัวหน้าตระกูลเฝิงผู้อ่อนแอขึ้นมาด้วยมือเดียว ตอนนี้ศัตรูถูกทำให้กลับไปสู่ระดับกลางแล้ว
“ตอนนี้แกมีโอกาสเอาชีวิตรอด ขึ้นอยู่กับว่าแกจะคว้าเอาไว้ได้ไหม?”
“โอกาสเหรอ? โอกาสอะไร?”
ใบหน้าของหัวหน้าตระกูลเฝิงเต็มไปด้วยความอับอายและไม่มีความหวังแม้แต่น้อย
“ตระกูลเฝิงของฉันยินดีทำงานรับใช้คุณ!”
“ไม่ ฉันไม่อยากได้หมาลอบกัด”
อวี้ฮ่าวหรานปฏิเสธอย่าวไร้เยื่อใย
“ทีนี้ฉันจะถามแก รู้อะไรเกี่ยวกับกองกำลังแม่ชีไหม?”
“รู้! รู้! ฉันรู้ ฉันรู้!”
หัวหน้าตระกูลเฝิงรีบคว้าฝางเส้นสุดท้ายเอาไว้และตอบคำถามของชายหนุ่มทันที
“คนพวกนั้นฝึกตนอยู่ที่ทางเหนือของเมืองเจียงหนานและชอบฝึกคนเดียว แต่พวกเขาไม่ค่อยออกมาจากเมืองเจียงหนานเท่าไหร่”
“แน่ใจเหรอ?”
อวี้ฮ่าวหรานเลิกคิ้วเหมือนกับตอนที่ได้รับข้อมูลจากสำนักเมฆาครามคราวก่อน
“มั่นใจสิ! ฉันมั่นใจมาก!”
หัวหน้าตระกูลเฝิงรีบพูดเพื่อเอาตัวรอด
“ได้ งั้นแกรอด”
อวี้ฮ่าวหรานพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ แต่แล้วก็เงื้อมือขึ้นเพื่อกำจัดแหล่งพลังในร่างกายของเขา
“ฉันไม่ชอบให้ใครมาตามแก้แค้น เพราะฉะนั้น ถ้าแกไม่ตายก็ต้องไม่มีประโยชน์อีกต่อ”
แล้วเขาก็เดินจากไป
เมื่อกลับไปยังห้องโถง อวี้ฮ่าวหรานก็ไล่ทุกคนที่ยังมีเรี่ยวแรงกลับไป หลังจากที่มองไปรอบ ๆ เขาก็ส่งไม้ต่อให้กับหวังเหยียน
“ทุกคนนอกจากหัวหน้าตระกูล เสร็จแล้วให้กลับมาที่นี่”
หลังจากที่พูดจบเขาก็หลังหัน เดินออกจากห้องโถงไป
ตอนนี้ไม่มีผู้ใดในตระกูลเฝิงต้านทานเขาได้อีกแล้ว
…
กว่าอวี้ฮ่าวหรานจะกลับไปถึงโรงแรมก็เลยเวลา 5 ทุ่มไปแล้ว
หลี่หรงยังคงนั่งดูทีวีกับคนอื่น ๆ อย่างอารมณ์ดี…
“ยังไม่นอนเหรอ?”
เมื่อเห็นดังนั้นเขาก็ประหลาดใจเล็กน้อย
“ไม่ล่ะ ฉันจะนั่งรอ ฉันจะออกไปตั้งแต่ตี 2 เลย!”
หลี่หรงตอบด้วยความร่าเริง
ตอนนี้เด็กสาวมีพลังเหลือล้น
“คุณพ่อก็ไปด้วยสิ! ถวนถวนอยากให้คุณพ่อไปดูด้วย”
“โอเค! พ่อจะไม่นอนแล้วกัน”
อวี้ฮ่าวหรานนั่งลงบนโซฟาและโอบกอดลูกสาวไว้ในอ้อมแขนด้วยสีหน้าอ่อนโยน
สำหรับเขาแล้ว การนอนหลับไม่ใช่สิ่งจำเป็น แม้ว่ามันจะช่วยผ่อนคลายความเหนื่อยล้าได้บ้าง แต่หากเขาก็ไม่นอนก็จะไม่ส่งผลอะไรทั้งนั้น
จากนั้นไม่นานนัก หวังเหยียนก็กลับมาถึงโรงแรม พร้อมกับที่อวี้ฮ่าวหรานผลักประตูเปิดออกมา