ตอนที่ 1409 ขอเงินสนับสนุน (3)
เฉียวฉู่มองเล่ยเฉินที่ทำหน้าสีหน้าอึ้งตะลึง แล้วรู้สึกพอใจมาก
ถ้าเล่ยเฉินรู้ว่าสิ่งที่เขาเห็นเป็นแค่ยอดภูเขาน้ำแข็ง ไม่รู้ว่าเขาจะคิดยังไง?
ก่อนที่พวกเขาจะออกจากสุสานจักรพรรดิแห่งความมืด เย่เจี๋ยได้ให้หนูนรกกลืนสมบัติทั้งหมดในสุสานเข้าไปในท้องของมัน ตอนนี้สุสานจักรพรรดิแห่งความมืดเป็นเพียงโพรงที่ว่างเปล่าไปแล้ว กระทั่งโลงศพของจักรพรรดิแห่งความมืดก็ถูกหนูนรกกลืนเข้าไปเช่นกัน
พอคิดว่าคนจากอาณาจักรกลางยังคงค้นหาสมบัติในตำนานพวกนั้นอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร บุกกันเข้ามาเรื่อยๆไม่หยุดหย่อน เฉียวฉู่ก็รู้สึกถึงความพอใจที่ชั่วร้ายในใจเขา
ใครจะคิดว่าสมบัติทั้งหมดที่จักรพรรดิแห่งความมืดเคยครอบครอง ตอนนี้จะอยู่ในท้องของหนูนรกตัวจิ๋วที่ดูไร้เดียงสาตัวหนึ่ง
ด้วยความร่ำรวยของจักรพรรดิแห่งความมืด ไม่ต้องพูดถึงการช่วยท้องพระคลังของแคว้นเหยียนเลย แม้ว่าพวกเขาจะอยากติดอาวุธชุดเกราะให้กับทุกคนในอาณาจักรล่างตั้งแต่หัวจรดเท้า ก็สามารถทำได้อย่างง่ายดาย!
ด้วยทองคำแท่งที่กองเป็นภูเขาจากจวินอู๋เสีย ในที่สุดเล่ยเฉินก็สามารถถอนหายใจด้วยความโล่งอกออกมาได้ และไม่ต้องกังวลเรื่องเงินแล้ว
สถานการณ์ของแคว้นเหยียนยังค่อนข้างมั่นคง เหวินหยูจึงรายงานสถานการณ์ของแคว้นฉีและแคว้นเฉียวให้จวินอู๋เสียฟังต่อ
กองทัพของแคว้นฉีได้รับความสูญเสียอย่างมากจากสงครามครั้งก่อน โชคดีที่พวกเขายังมีกองทัพรุ่ยหลินคอยป้องกันอยู่ ในระยะเวลาสั้นๆแค่หนึ่งปี ความแข็งแกร่งของกองทัพแคว้นฉีก็เพิ่มขึ้นเป็นสิบเท่า พลังในการรบไม่ได้ด้อยไปกว่าแคว้นเหยียนเลย แคว้นเฉียวมีความแข็งแกร่งทางด้านจำนวนคนมากพอ แต่ในด้านของการฝึกฝนนั้น ยังไม่ดีเท่ากับทางวังหลินอ๋อง ดังนั้นฉูหลิงเย่จึงส่งเล่ยซีไปช่วยที่แคว้นเฉียว เล่ยซีทนเก็บตัวเงียบมาเป็นเวลาหลายปีเพื่อหาโอกาสแก้แค้น จริงๆแล้วเขามีพรสวรรค์ที่ยอดเยี่ยมและมีความเข้าใจในยุทธวิธีและกลยุทธ์ทางทหารเป็นพิเศษ แคว้นฉีก็ส่งหลงฉีไปช่วยแคว้นเฉียวเป็นการชั่วคราวเช่นกัน เมื่อมีสองคนนี้มาเพิ่ม จึงทำให้กองทัพแคว้นเฉียวยกระดับความแข็งแกร่งขึ้นไปอีกสองสามขั้น
“พวกคนพิษมีจำนวนมากเกินไป จะกำจัดพวกมันให้หมดในเวลาสั้นๆจึงเป็นเรื่องยาก เรื่องที่ทำให้เราปวดหัวมากที่สุดในตอนนี้ก็คือ เราไม่สามารถระบุได้ว่ารังของพวกคนพิษอยู่ที่ไหน ข้าเชื่อว่าเบื้องหลังการโจมตีจากคนพิษพวกนี้ จะต้องมีคนชักใยอยู่เบื้องหลังอย่างแน่นอน เดิมทีคนพิษพวกนั้นเป็นเพียงชาวบ้านธรรมดา แต่เพราะโดนพิษเข้า พวกเขาจึงสูญเสียความเป็นมนุษย์ไปและกลายเป็นหุ่นเชิดที่ถูกคนอื่นควบคุม ถ้าเราไม่สามารถกำจัดคนบงการที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมดนี้ได้ ถึงเราจะเอาชนะกองทัพคนพิษได้ทุกครั้ง แต่ตราบใดที่คนผู้นั้นยังอยู่ เขาก็สามารถใช้ประโยชน์จากความวุ่นวายโกลาหลที่เกิดขึ้นทั่วโลก สร้างคนพิษเพิ่มขึ้นอีกได้” เหวินหยูถอนหายใจแผ่วเบา หายนะที่เกิดขึ้นในอาณาจักรล่างครั้งนี้ เขามีการคาดเดาเกี่ยวกับเรื่องนี้เอาไว้ในใจอยู่แล้ว แต่เขาไม่สะดวกที่จะบอกเรื่องนี้กับฉูหลิงเย่และคนอื่นๆ แต่ว่าจวินอู๋เสียจะต้องเข้าใจแน่ว่าเขาพูดถึงเรื่องอะไร
ในขณะที่ทั้งโลกเกิดกลียุคขึ้น ทุกแคว้นต่างต้องดิ้นรนต่อสู้อย่างขมขื่น เมื่อควันไฟแห่งสงครามพวยพุ่ง ผู้คนทั่วดินแดนก็ไม่สามารถอยู่ได้และต้องหลบหนีไปทั่วทุกหนทุกแห่ง ผู้ลี้ภัยพวกนี้จะตกเป็นเป้าของใครบางคนได้อย่างง่ายดาย
“เรื่องนี้ข้าจะจัดการเอง” จวินอู๋เสียหรี่ตา นางเข้าใจสิ่งที่เหวินหยูกำลังบอก
หากไม่กำจัดแหล่งที่มา มันก็จะเป็นแค่การรักษาตามอาการเท่านั้น ไม่ใช่สาเหตุของโรค
“เจ้าทึ่มเฉียว” จวินอู๋เสียพูดขึ้น
“อยู่นี่!” เฉียวฉู่ก้าวออกมาทันที
“เจ้ากับพี่ฮัวอยู่ที่นี่คอยปกป้องแคว้นเหยียน เหยียนเอ๋อร์กับเสี่ยวรั่วไปที่แคว้นฉี ฟ่านจั๋ว เจ้าพาเสี่ยวเจว๋ไปที่แคว้นเฉียวก่อน ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นพวกเจ้าก็ลงมือได้เลย และถ้าได้ข่าวอะไรเกี่ยวกับผู้บงการที่อยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมดนี้ ก็ตรวจสอบอย่างละเอียดด้วย” จวินอู๋เสียสั่งอย่างหนักแน่นเด็ดขาด
“ได้!” เฉียวฉู่และคนอื่นๆรับคำทันที!
ด้วยความแข็งแกร่งของพวกเขาในตอนนี้ แม้ว่าพวกเขาจะติดอยู่กลางกองทัพคนพิษ พวกเขาก็สามารถหลบหนีออกมาได้อย่างปลอดภัย
“อู๋เหยา ท่านไปกับข้า ไปตรวจสอบพลังของคนที่อยู่เบื้องหลังกองทัพคนพิษกัน” จวินอู๋เสียยิ้มมุมปากอย่างเยือกเย็น บังอาจมาก่อเรื่องในอาณาจักรล่าง อย่าโทษนางที่ทำรุนแรงก็แล้วกัน