ตอนที่ 467 วางกับดักหลิ่วอวี่เจ๋อ

เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)

ตอนที่ 467 วางกับดักหลิ่วอวี่เจ๋อ!

ซูหมิงเจ๋อเดินไปหาซูเจิ้นหางแล้วกล่าวเสียงเบา “คุณพ่อ ตอนนี้จะให้ทิ้งเย่เฉินอาจจะเร็วเกินไป ผมคิดว่าน่าจะต้องรออีกวักหน่อย ไม่แน่ว่าอนาคตเย่เฉินอาจจะเกิดการเปลี่ยนแปลง”

ท่าทีของพ่อตาแม่ยายอย่างซูหมิงเจ๋อและจางเชี่ยนจือปฏิบัติต่อเย่เฉินแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

ซูหมิงเจ๋อค่อยข้างอะลุ่มอล่วยกับเย่เฉินมากกว่า แน่นอนว่าเขาเองก็ต้องโกรธเย่เฉินที่ทำร้ายร่างกายลูกชายเขา

ทว่าซูหมิงเจ๋อกับอาสาวของเย่เฉินเคยมีสายสัมพันธ์กันมาก่อนในอดีต

ซูเจิ้นหางเองก็อยากให้ตระกูลซูเกี่ยวดองกับตระกูลเย่ ในตอนที่ซูหมิงเจ๋ออยู่ในช่วงวัยเหมาะกับการแต่งงาน ซูเจิ้นหางเองก็อยากให้ซูหมิงเจ๋อกับอาสาวของเย่เฉินแต่งงานกัน อาสาวที่ว่านี้คือน้องสาวพ่อของเย่เฉิน

ทั้งสองคนเคยมีสายสัมพันธ์กันมาก่อน ซูหมิงเจ๋อเองก็ติดใจในใบหน้าและรูปลักษณ์และท่าทางที่องอาจกว่าใครๆ เขาก็ตกหลุมรักอีกฝ่ายทันที

เสียดายก็แต่พวกเขาสองคนกลับไม่ได้ลงเอยกัน

ซูเจิ้นหางพยักหน้ารับ “ถูกต้อง อย่าปล่อยเย่เฉินไปง่ายๆ เลย”

ซูมู่ชิงประคองเย่เฉินไปนั่งที่เก้าอี้ จางเชี่ยนจือเห็นท่าทางโวยวายของเย่เฉินเมื่อครู่ ในใจก็รู้สึกผิดอย่างมาก รู้สึกผิดกับลูกเขยอย่างมาก

เขาตาบอดแล้ว และมีแค่ซูมู่ชิงเท่านั้น แต่จางเชี่ยนจือยังอยากจะพรากหญิงสาวไปจากเขา

“นี่”

อย่างไรเสียจางเชี่ยนจือก็เป็นผู้หญิงจึงรู้สึกว่าเย่เฉินน่าสงสาร จึงรินชาให้เย่เฉินแล้วเป็นฝ่ายส่งให้เขา “เย่เฉิน ดื่มชาหน่อยเถอะ อย่าเสียใจไปเลย”

ถ้าหากว่าเป็นปกติ แม่ยายที่ใจยักษ์ใจมารมารินชาให้ตนเองแบบนี้เย่เฉินจึงรู้สึกดีใจและภูมิใจมากทีเดียว

แต่ว่าตอนนี้เย่เฉินไม่มีแก่ใจจะมาสนใจอีกฝ่ายด้วยซ้ำ

เพราะตอนนี้มีแต่เรื่องของฉินหงเหยียนวนเวียนอยู่ในหัวเขา!

“ซีกวา นายจะต้องตามฉินหงเหยียนให้ทันนะ!”

ตอนนี้จู่ๆ ซูมู่เสวี่ยก็กระแอมออกมา “แค่กๆ แม่ใหญ่ค่ะ การแสดงยังไม่จบเลยนะคะ แม่ใหญ่เป็นคนเชิญคุณชายทั้งหลายพวกนี้มาเองนะคะ อย่าเข้าข้างใครเป็นพิเศษสิคะ ให้เขามาแสดงด้วยสิ”

จางเชี่ยนจือชะงักไป หล่อนยังคิดว่าการแสดงทั้งหมดสิ้นสุดลงแล้วเสียอีก แล้วติดขึ้นมาได้ว่าหลิ่วอวี่เจ๋อที่ดีเลิศที่สุดคนนั้นยังไม่ได้ทำการแสดง!

“จริงสิ หลิ่วอวี่เจ๋อจากกตระกูลหลิ่ว!”

หลิ่วอวี่เจ๋อให้ของขวัญเป็นอุกกาบาตมูลค่าแสนแพง เป็นแขกผู้มีเกียรติของงานเลยทีเดียว

จางเชี่ยนจือรีบร้อนอธิบายกับหลิ่วอวี่เจ๋อ แล้วเชื้อเชิญอีกฝ่าย

หลิ่วอวี่เจ๋อมาหยุดตรงหน้าซูเจิ้นหางแล้วกล่าว “ท่านซู ผมเรียนมาก็น้อย ไม่มีความสามารถอะไรเป็นพิเศษ ผมไม่ขอแสดงอะไรให้ขายหน้าเปล่าๆ แล้วกันครับ”

เดิมทีหลิ่วอวี่เจ๋อยังคิดจะแสดงความสามารถพิเศษบางอย่าง แต่ว่าตอนนี้เขาไม่อยากทำแล้ว

เพราะที่เย่เฉินดังก์บาสและเล่นเปียโนทั้งๆ ที่มองไม่เห็นย่อมทิ้งการแสดงของเขาจนไม่เห็นฝุ่น!

หหลิ่วอวี่เจ๋อกล่าว “แต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัยผมเรียนสถาปนิก ในช่วงเวลาว่างๆ ผมเคยออกแบบวิลล่าที่เมืองหลวง จนได้รับรางวัลสถาปนิกจากอเมริกามาสามรางวัล อย่างการออกแบบภายใน สิ่งปลูกสร้างแล้วก็การออกแบบสวน”

จางเชี่ยนจือตาเป็นประกายในทันที “ว้าว ได้รางวัลที่เมืองนอกเลยเหรอ เธอจะต้องออกแบบได้สวยมากเลย มีรูปถ่ายไหม? รีบเอามาให้ฉันดูหน่อย”

“มีครับ”

หลิ่วอวี่เจ๋อเดินกลับไปที่นั่งแล้วหยิบเอานิตยสารฉบับหนึ่งมา ด้านในมีรายละเอียดเกี่ยวกับข้อมูลและรูปภาพของวิลล่าที่หลิ่วอวี่เจ๋อออกแบบ

จางเชี่ยนจือรับนิตยสารมา หลังจากพลิกดูก็เห็นภาพวิลล่าที่ทั้งสวยและทันสมัย

“มู่ชิง ลูกมาดูสิ วิลล่าที่หลิ่วอวี่เจ๋อออกแบบสวยมากเลย”

จางเชี่ยนจือเอนตัวลงพิงลูกสาว

ซูมู่ชิงเองเป็นคนชอบการออกแบบมาก แต่คิดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายไม่เพียงแต่หล่อเหลา แต่ยังมีความสามารถด้วย

หล่อนมองอย่างละเอียดรีบร้อนเออออเห็นด้วย “อืม สวยจริงๆ ด้วย อุปกรณ์ที่เลือกใช้เป็นไม้ ก้อนหินและกระจก ฉันชอบการออกแบบแบบสไตล์นี้”

หลิ่วอวี่เจ๋อได้ยินคำชมเชยของซูมู่ชิง ในใจก็ปลื้มปิติอย่างยิ่งจึงเป็นฝ่ายแนะนำก่อน “ใช่แล้ว ไม่ว่าจะโครงสร้างหรือว่าพื้นที่ใช้สอย รวมไปถึงเฟอร์นิเจอร์และการตกแต่งภายในก็เรียบง่าย คลาสสิคแล้วก็เรียบง่าย คุณหนูซูครับ ดูไปแล้วเราชอบอะไรเหมือนๆ กัน”

ซูมู่ชิงสัมผัสได้ถึงแววตาที่แสนลึกซึ้งของหลิ่วอวี่เจ๋อ ถึงแม้ว่าเขาจะพูดจาเกรงอกเกรงใจหล่อนอยู่บ้าง ไม่ทำตัวน่าเกลียด แต่ในแววตานั้นกลับฉายแววกรุ้มกริ่ม เปิดเผยอย่าชัดเจนว่ากำลังสนใจในตัวหล่อน

ที่เขากล้าส่งสายตาให้ซูมู่ชิงอย่างเปิดเผยเพราะคิดว่าเย่เฉินตาบอดมองไม่เห็นอะไร

“หลิ่วอวี่เจ๋อไอ้คนน่ารังเกียจ กล้าส่งสายตาอ่อยเมียฉันขนาดนี้เลยเรอะ!”

ที่จริงแล้วเย่เฉินเห็นทุกอย่าง ในตอนนี้ถึงได้เลิกคิดเรื่องฉินหงเหยียน

ในตอนนี้เองจางเชี่ยนจือมองดูนิตยสารแล้วอุทานออกมาอย่าางตกใจ “ว้าว ลูกแม่หนูดูสิ ชื่อวิลล่าที่หลิ่วอวี่เจ๋อออกแบบชื่อสุ่ยมู่รื่อชิง นั่นมันชื่อลูกไม่ใช่เหรอ? นี่มันตั้งตามชื่อลูกเลยนี่นา!”

ซูมู่ชิงตกใจแล้วมองดูดีๆ แล้วก็พบว่าเป็นชื่อสุ่ยมู่รื่อชิงจริงๆ ด้วย!

“สุ่ยมู่รื่อชิงเหรอ?”

เย่เฉินเองก็ตะลึงค้างไป คิดไม่ถึงว่าหลิ่วอวี่เจ๋อจะตั้งชื่อวิลล่าตามชื่อของมู่ชิง

ทันใดนั้นเองเย่เฉินก็นึกถึงอีผิ่นเจียเหยาที่ตั้งชื่อตามหวังเจียเหยา ดูแล้วหลิ่วอวี่เจ๋ออยากจะเลียนแบบเย่เฉินนี่เอง

เย่เฉินรู้สึกหึงหวงภรรยาทันทีเขาเอ่ยถาม “หลิ่วอวี่เจ๋อ คุณใช้ชื่อภรรยาของผมมาตั้งชื่อผลงานออกแบบที่ได้รับรางวัล เพราะตั้งใจจะยกวิลล่าหลังนี้ให้ภรรยาของผมล่ะสิ?”

หลิ่วอวี่เจ๋อหันมองเย่เฉินแต่กลับไม่ได้มีท่าทีโอหังเหมือนคนอื่นๆ ที่ผ่านมาแต่กลับพูดจานอบน้อมอย่างยิ่ง

“เย่เฉิน ผมตั้งใจจะมอบวิลล่าหลังนี้ให้คุณหนูซูกับนาย ให้อยู่ด้วยกัน”

เย่เฉินตกตะลึง หมอนี่ใจกว้างขนาดนี้ถึงขนาดที่ยกวิลล่าให้กับตนเองเลยเนี่ยนะ?

“คุณแน่ใจเหรอว่าจะยกให้ผม?” เย่เฉินกล่าวถาม

หลิ่วอวี่เจ๋อกล่าวด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม “ก็นายคือสามีของคุณหนูซู ของขวัญที่จะยกให้คุณหนูซูก็ต้องมีชื่อนายอยู่แล้ว ฉันเอาสัญญามาด้วย คุณหนูซูครับทันทีที่เซ็นสัญญาฉบับนี้ วิลล่าสุ่ยมู่รื่อชิงก็จะตกเป็นของคุณสองคนสามีภรรยา”

แผนการของหลิ่วอวี่เจ๋อทำให้เย่เฉินประหลาดใจอย่างมาก!

“บ้าชิบ หลิ่วอวี่เจ๋อปลอมได้ขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย รับมือยากจังแฮะ!”

เย่เฉินรู้ว่าหลิ่วอวี่เจ๋อโดนตนเองทำร้ายจนกลายเป็นแบบนี้ เขาไม่มีทางยกวิลล่าให้ตนเอง แถมยังออกแบบรังรักให้เขาและซูมู่ชิงอย่างใจกว้างด้วยตัวเองเลยทีเดียว

วิลล่าหลังนั้นที่เขาออกแบบตั้งใจทำเพื่อซูมู่ชิงโดยเฉพาะ!

เพียงแต่ว่าหลิ่วอวี่เจ๋ออยากจะใช้เจ้านี่เอาใจเย่เฉินเพื่อลบล้างความสงสัยที่อีกฝ่ายมีในตัวเขา!

แต่ว่ายิ่งหลิ่วอวี่เจ๋อทำแบบนี้เย่เฉินยิ่งสงสัยในตัวอีกฝ่ายมากกว่าเดิม!

“ฉันจะต้องรีบหาตัวคนร้ายที่ทำร้ายฉันให้ได้เร็วที่สุด แล้วจะได้ไปตามหาฉินหงเหยียน!”

เย่เฉินอยากจะรีบจัดการเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด ดังนั้นเขาจึงกล่าวกับหลิ่วอวี่เจ๋อว่า “หลิ่วอวี่เจ๋อ คุณช่วยประคองผมไปนั่งในโรงแรมได้ไหม?”

“อ้อได้สิ”

หลิ่วอวี่เจ๋อเองไม่ได้เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น จึงแสร้งทำตัวดีกับอีกฝ่าย แล้วประคองเย่เฉินไปที่ล็อบบี้ของโรงแรม ระหว่างนั้นก็ไม่ได้ทำร้ายเย่เฉินแต่อย่างใด

หลังจากที่ทั้งสองคนนั่งลงเย่เฉินก็ถาม “มีบุหรี่ไหม?”

หลิ่วอวี่เจ๋อส่งบุหรี่ให้อีกฝ่ายแล้วจุดไฟให้เขา

สูบบุหรี่ไปได้สองที เย่เฉินก็ถอนหายใจ “หลิ่วอวี่เจ๋อเราสองคนกรู้จักกันมานานแล้ว ผมค่อนข้างรู้จักคุณดีมากนะ เรื่องที่ตระกูลซูจะเลือกเขยคนใหม่เนี่ย ถ้าพวกเขาจะเลือกสามีให้ซูมู่ชิงล่ะก็ ผมหวังว่าคนๆ นั้นจะเป็นคุณ!”