ในสำนักมังกรม้วนซีเฉินโจกำลังฟังรายงานจากสายลับของเขา “ศาลาหยวนเฮงได้รวบรวมคนถึงสามร้อยคนเพียงเพราะแค่เล่นเกมที่มีชื่อว่าเจ้ากระบี่ขั้นเทพมันมีอะไรพิเศษ”
การเคลื่อนไหวของกองกำลังขนาดใหญ่อย่างกลุ่มศาลาหยวนเฮงนั้นได้ดึงดูดความสนใจจากกองกำลังอื่นๆ มากมายนอกเหนือจากสำนักมังกรม้วน
ปีศาจดำเองคือหนึ่งในนั้น!
“หวังเจ้ากำลังทำอะไร ..” ชายผิวคล้ำวัยกลางคนไว้ผมยาวปลายไหล่นั่งลงในห้องโถ่งใหญ่พลางเอ่ยถาม “เจ้าคิดยังไงกับคนจากศาลาหยวนเฮงถึงสามร้อยคนเดินทางไปที่ร้านแห่งนั้น?”
“ท่านหัวหน้า” ผู้ปลูกฝังผ้าคลุมสีเทาตอบด้วยรอยยิ้ม “เราได้ตรวจสอบปัญหานี้แล้ว มีการกล่าวว่าที่นั้นสามารถพาเราก้าวเข้าสู่อีกโลกหนึ่งที่ให้ความรู้สึกราวกับชีวิตจริงโดยร้านนั้นเป็นประตูและผู้คนที่นั่นยังค้นพบสมบัติอันล้ำค่าแถมยังเพิ่มความแข็งแกร่งในการเพาะปลูก ผลที่ออกมานั้นยอดเยี่ยมเกินคาดเดา!”
“เจ้าหมายความว่าพวกเขาได้พบบางอย่างที่ควรค่าต่อกำลังคนมากมายงั้นหรือ?” หัวห้นาปีศาจดำถามด้วยน้ำเสียงสงสัย
“มีความเป็นไปได้อย่างมาก” ผู้ปลูกฝังชุดคลุมสีเทาพยักหน้า
“ร้านเล็กๆ แห่งนั้นมีชื่อว่า ‘ต้นกำเนิดอินเตอร์เน็ตคาเฟ่’ ช่างชื่อแปลกมาก” หัวห้นาปีศาจดำหัวเราะ “เราควรพาคนไปที่นั้นบ้างมั้ย?”
นอกเหนือจากคนในสำนักมังกรม้วนและกลุ่มปีศาจดำแล้ว กองกำลังอื่นๆ ในเมืองครึ่งก็สังเกตเห็นการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติของกลุ่มศาลาหยวนเฮงเช่นกัน พวกเขาต่างส่งสายลับไปลาดตระเวนยังสถานที่ใกล้เคียงกับร้านค้าของฟางฉีเพื่อสืบข้อมูล
ในขณะเดียวกันตอนนี้พื้นที่เต็มไปด้วยศพที่นอนเกลื่อนกาดทั้งคนที่กำลังเล่นเกมและคนที่เพิ่งออกจากเกม ทุกคนล้วนตายและวนกลับไปเกิดใหม่ยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุด! หากเปิดเข้าเกมไปในตอนนี้จะพบว่ามีคนจากกองทัพจิวหัวอยู่ในนั้นมากกว่าสองร้อยคน!
ผู้เล่นเกมอื่นนอกเหนือจากเจ้ากระบี่ขั้นเทพก็เข้าร่วมช่องพูดคุยนี้เพื่อรับชมและฟังการพูดคุยอันดุเดือดที่มีผู้ต่อสู้อยู่ในสงครามเกมถึงสองร้อยคน
คนจากสองฝั่งทั้งฝั่งหยวนเฮงเองและจิวหัวเองรวมกันในเกมเหยียบสี่ร้อยคน ต่างฝ่ายต่างเปลี่ยนผลัดกันตาย
ขณะเดียวกันผู้คนกลุ่มหนึ่งได้เดินทางเข้ามาในคาเฟ่ที่เมืองครึ่ง คนจำนวนหนึ่งนั้นรวมไปถึงสายลับจากกองทัพอื่นๆ ซีเฉินโจวพร้อมด้วยยามจากสำนักงานมังกรม้วนและกลุ่มปีศาจดำเองได้เดินเข้ามาดูเหตุการณ์
เมื่อพวกเขาก้าวเข้ามาต่างได้ยินเสียงตะโกน “ตอบกลับเมื่อนับสาม!”
“สาม! สอง! หนึ่ง!”
“เหล่านักเวทยท์อย่ากลัวความตาย! จัดการ!”
“โจมตี!”
“โจมตีพวกเขาเหมือนที่พวกเจาโจมดีพวกเรา!”
“ไปข้างหน้า!”
“…”
เสียงตะโกนดังลั่นร้าน .. ทำให้คนที่เฝ้าดูจากด้านหลังนั้นงงงวย
ซีเฉินโจมองชายผิวคล้ำวัยกลางคนผมปะบ่า “ปีศาจดำ?”
“ท่านซี? ข้าช่างดีใจที่ได้พบท่าน!” ปีศาจดำจับมือเขาแล้วชี้ไปที่ผู้คนที่กำลังโวยวาย “พวกเขากำลังทำอะไร?”
ซีเฉินโจพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม “ ข้าเดาว่าพวกเขาน่าจะกำลังต่อสู้เพื่อสมบัติบางอย่าง”
พวกเขามองดูกลุ่มคนที่กำลังโหวกเหวกกันอย่างดุเดือดหลังหน้าจอ .. ใบหน้าของพวกเขากระตุกขณะดู
“เราจะลองเล่นมั้ย?” หัวหน้าปีศาจดำถาม “เจ้าของอยู่ไหน?”
ซูโมรู้สึกไม่สบายใจ เขามองดูผู้คนเหล่านี้ที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขารู้สึกว่าพวกเขาช่างล้วนมีอิทธิผลและงดงามแต่เขาเองก็ไม่รู้ว่าคนที่อยู่ตรงหน้าเป็นใครกัน
เขาบังคับให้ตัวเองตอบลูกค้า “ขอโทษ แต่ตอนนี้คอมพิวเตอร์ทุกเครื่องเต็มหมดแล้ว หากท่านต้องการเล่นโปรดรอก่อน”
“…”
“เจ้ารู้มั้ยว่าเจ้ากำลังพูดอยุ่กับใคร!?” ลูกสมุนคนหนึ่งที่ยืนข้างหลังเขาเดินออกมาและเอ่ยถาม
“เอ่อ .. ใครหรอ?” โมน้อยเหงื่อกแตกซิก
“นี่โมน้อย!” ฟางฉีตะโกนขึ้นระหว่างจับตามองสิ่งที่เกิดขึ้น “ครั้งหน้าถ้าเจ้าเจอคนแบบนี้อีกก็ตอบพวกเขาไปว่า ถ้าเล่นก็อยู่รอเล่น ถ้าไม่ก็ออกไป!”
“เจ้า!” ชายคนนั้นโกรธแค้นทันที แต่เขาก็ถอยหลังกลับไปเมื่อมองหน้าหัวหน้าตัวเอง
“เจ้าเป็นหัวหน้าสมาคมหรือ?” หัวหน้ากลุ่มปีศาจดำจ้องมองฟางฉีที่กำลังเล่นเกม เขารู้ว่าฉินฮงหลินถูกทำลายร้างโดยร้านนี้อย่างลึกลับ เขาจึงเอ่ยถามโดยแกล้งทำเป็นไม่รู้
“เจ้าอยากเข้าร่วมหรือ?”
โดยไม่มีคำตอบใดเขารู้สึกพูดไม่ออก เขาจึงตัดสินใจที่จะหันกลับไปยืนดูผู้คนจากหยวนเฮงที่กำลังเมามัน
สงครามระหว่างผู้คนของศาลาหยวนเฮงกับจิวหัวนั้นดูบ้าคลั่ง พวกเขาสลับกันเป็นกลุ่มๆ และใช้คอมพวิเตอร์สลับกันอย่างนั้นจนถึงเที่ยงคืน ในตอนแรกกลุ่มศาลาหยวนเฮงคิดว่าการทำแบบนี้จะทำให้พวกเขาเสียเปรียบในการต่อสู้ แต่พวกเขาก็ยังคงดำเนินการต่อไป เพราะพวกเขาตระหนักได้ว่าพวกเขาสามารถเกิดได้โดยไม่จำกัดครั้ง
เมื่อเวลาผ่านไปจำนวนของกองทัพจิวหัวก็เพิ่มขึ้นและพวกเขาก็ถูกแทนที่ด้วยทหารชั้นยอดที่มีทักษะการต่อสู้ที่ดุเดือดมากขึ้น แต่้ทายที่สุดเมื่อถึงเวลาเที่ยงคืนคาเฟ่ที่จิวหัวได้เวลาปิด กองทัพฝั่งหยวนเฮงจึงถูกฝังอยู่ที่นั้น
จากชัยชนะไปสู่การถูกฝังในจุดเกิดใหม่หยวนเฮงไม่เต็มใจที่จะยอมรับความพ่ายแพ้ แต่เมืองเห็นว่ากลุ่มปีศาจดำและคนอื่นๆ นั้นอยู่ในร้านเขาจึงดึงคนพวกนั้นมาเข้าร่วมกลุ่มของเขา
ขณะเดียวกันร้านใหม่ของฟางฉีได้บรรลุเป้าหมายของการขยายร้านในวันที่สองเป็นที่เรียบร้อย ตอนนี้ที่นี่มีคิวยาวเหยียด!
สองวันที่ผ่านมาสงครามเกิดขึ้นโดยที่ศาลาหยวนเฮงได้เป็นผู้เริ่มต้นด้วยความตั้งใจว่าจะพาชัยชนะกลับคืน ด้วยการใช้คอมพิวเตอร์ที่ระบบเพิ่มขึ้นให้ถึงห้าร้อยเครื่องในชั่วข้ามคืน พวกเขารวบร่วมกองกำลังกับผู้คนอย่างปีศาจดำเพื่อจะกลับไปคว้าชัยชนะ!
ด้วยร้านค้าทั้งสองที่เต็มไปด้วยผู้คนมากมาย ร้านค้าเก่าในเวลานี้ใครที่เล่นเกมอื่นอยู่จะถูกรวบและดึงเข้ามาเล่นเกมเจ้ากระบี่ขั้นเทพทุกคน
หลังจากใช้เวลาต่อสู้เป็นเวลาสองวันทั้งสองฝ่ายพบว่าไม่มีใครสามารถได้รับตำแหน่งสูงได้เลยเพราะนี่ไม่ใช่โลกแห่งความจริง มันสามารถเกิดใหม่ได้ทุกครั้งหลังจากถูกฆ่า!
พวกเขาไม่สามารถนับแต้มกันได้อย่างตรงไปตรงมา เมื่อพวกเขาต่างฝ่ายต่างฆ่ากันหลังจากนั้นต่างคนก็ต่างเกิดใหม่ทุกรอบ หลังจากต่อสู้เป็นเวลาสองวันและเมื่อพิจารณาสถานการณ์ในช่วงกลางคืนที่ผ่านมาแล้ว พวกเขาก็เริ่มเข้าใจมากขึ้น
เฉพาะคนที่มีจุดแข็งเท่ากันเท่านั้นถึงจะมีสิทธิ์พอๆ กัน ในสงครมของทั้งสองฝ่ายพวกเขาต่างได้เห็นจุดแข็งของกันและกัน ในไม่ช้าช่องทางการประชุมกันระหว่างอาณาจักรทะเลดวงดาวและตาจินได้ถูกก่อตั้งขึ้น
ไม่มีใครรู้เกี่ยวกับการเจรจาของพวกเขา แต่ในที่สุดพวกเขาก็บรรลุในข้อตกลงสัติภาพชั่วคราวและเริ่มสำรวจในโลกเพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้ง
ท้ายที่สุดแล้วไม่มีฝ่ายใดได้รับประโยชน์ในสงครามครั้งนี้ แถมพวกเขายังใช้กำลังคนและทรัพยากรมากเกินไปโดยไม่ได้ตั้งใจ การมีผู้เล่นจำนวนมากส่งผลให้ทรัพยากรในเกมไม่พอเช่นกัน
ขณะเดียวกันหลังจากเหตุการณ์สงครามในเกมก่อให้เกิดกองกำลังขนาดใหญ่เริ่มสร้างตัวขึ้นสองกลุ่มในนั้นคือหวังหลิวหยุนและกลุ่มโอเชียน ในตอนแรกพวกเขาก็เฉยๆ แต่ตอนนี้รวมไปถึงกองกำลังของกลุ่มราชวงศ์, กลุ่มปีศาจดำและสำนักมังกรม้วน และอีกมากมาย ก็ได้ให้ความสนใจไม่แพ้กัน