บทที่ 73 คิดบัญชีกับหลินจือ

อยากง้อเหรอ คุณสามี(เก่า)

เมื่อพินอินเห็นอาการของวีนาแล้ว ก็รู้ว่าเทาเท่ยังคงยืนยันที่จะส่งเธอไปต่างประเทศ

เธอหย่อนก้นนั่งลงบนโซฟาทันที แล้วร้องไห้โฮออกมาเสียงดัง

“แม่ หนูไม่อยากไปต่างประเทศจริงๆนะ…..” พินอินร้องไห้ไปพลางเอ่ยพูดขึ้นมา “หนูทำใจไปอยู่ห่างจากแม่ไม่ได้หรอกค่ะ ไม่มีแม่หนูอยู่ไม่ได้หรอก”

พินอินรู้ว่าวีนาก็ทำใจไม่ได้เช่นกัน เพราะฉะนั้นจึงตั้งใจพูดแบบนี้ออกมาทำให้วีนารู้สึกสงสาร

วีนาเห็นเธอร้องไห้จนหัวใจแหลกสลายแล้ว สองสามปีนี้สามีของเธอออกนอกลู่นางทาง ไปต่างประเทศ ลูกชายก็งานยุ่ง เธอก็มีเพียงพินอินลูกสาวคนนี้อยู่เป็นเพื่อนเท่านั้น

แล้วก็เป็นเพราะลูกสาวคนนี้ ในแต่ละวันของเธอถึงได้ไม่ต้องมาทนทุกข์ทรมานขนาดนั้น

นี่ก็เป็นสาเหตุว่าทำไมเธอถึงได้ตามใจพินอินเสียจนเหลิงแบบนี้ เป็นเพราะพินอินเป็นความหวังในชีวิตจิตใจทั้งหมดของเธอ

คิดมาถึงตรงนี้แล้ว ในใจของวีนาก็รู้สึกเจ็บแปลบ ดวงตาแดงแล้วกัดฟันเอ่ยพูดขึ้นมา : “แกวางใจได้ แม่จะไม่ยอมให้พี่ส่งแกไปต่างประเทศหรอก!”

พินอินเช็ดน้ำตา แล้วเอ่ยพูดขึ้นมาอย่างเคียดแค้น : “จะต้องเป็นหลินจือวางแผนไว้แน่ๆ!”

“แม่ พี่หนูจะส่งหนูไปต่างประเทศก็เพื่อหลินจือนั่น หนูทนกับการไม่ได้รับความเป็นธรรมแบบนี้ไม่ได้หรอก!”

วีนารู้สึกงุนงง : “ทำไมไปดึงหลินจือมาเกี่ยวด้วยอีกแล้วล่ะ?”

วีนารู้ว่าตอนนี้หลินจือกลับประเทศมาแล้วจากเรื่องที่ซูซีวางแผนทำร้ายหลินจือครั้งที่แล้ว

แต่เธอไม่ได้คิดว่าลูกชายตัวเองจะไปมีอะไรเกี่ยวข้องกับหลินจืออีก และยิ่งไม่เชื่อด้วยว่าลูกชายจะไปทำอะไรเพื่อหลินจือ

พินอินจึงบอกกับวีนาเรื่องที่เธอกับซูซีร่วมกันวางแผนบอกกับเรียวจิ หลังจากนั้นก็เอ่ยขึ้นมาด้วยความเกลียดชัง : “พี่จะต้องรู้เรื่องนี้แล้วแน่ๆ ก็เลยจะไล่หนูไป!”

วีนาไม่คิดแบบนี้ : “เป็นไปไม่ได้หรอก!”

“พี่ชายของแกไม่มีทางทำแบบนี้กับแกเพื่อหลินจือหรอก แกเป็นน้องสาวแท้ๆของเขา หลินจือนั่นก็เป็นอดีตภรรยา เขาจะปกป้องคนนอกแล้วไม่สนใจความเป็นความตายของแกเนี่ยนะ?”

“เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้!”

แล้วพินอินก็ร้องไห้ขึ้นมาอีกครั้ง : “แม่!”

พินอินคิดว่าเทาเท่เล่นงานเธอก็เพื่อหลินจือ ไม่อย่างนั้นทำไมเขาไม่ส่งเธอไปต่างประเทศเร็วกว่านี้ จะต้องเป็นตอนหลังจากที่เธอแอบวางแผนร้ายกับหลินจือแล้วค่อยส่งเธอไปกัน?

“หลินจือนังผู้หญิงแผนสูง!” พินอินด่าว่าหลินจือ “ถ้าไม่อย่างนั้นแม่ว่าทำไมเธอเพิ่งจะกลับมาบทละครเรื่องแรกก็ต้องมาร่วมงานกับบริษัทของพี่ด้วยล่ะคะ? ไม่อย่างนั้นทำไมเธอจะต้องแต่งบทที่พรรณนาถึงซีด้วยล่ะ?”

วีนารู้สึกรำคาญใจที่เธอร้องไห้ จึงเอ่ยถามขึ้น : “แกมีเบอร์โทรของหลินจือไหม?”

“แม่จะโทรไปด่าให้ ว่าทำไมหน้าไม่อายแบบนี้ หย่ากันเป็นปีกว่าแล้ว ยังจะมาพัวพันกับพี่แกอีก!”

พอพินอินได้ยินแล้วนั้น ก็ลุกขึ้นมานั่งบนโซฟาทันที เธอหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาแล้วเอาเบอร์โทรใหม่ของหลินจือให้กับวีนา

ในเมื่อเธอสามารถหาที่อยู่ของหลินจือได้ ก็สามารถหาเบอร์โทรศัพท์ของหลินจือได้อยู่แล้ว

วีนาหยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองมา แล้วกดโทรออกอย่างโมโห

หลินจือกำลังนั่งทำงานอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ หลังจากที่โทรศัพท์มือถือของเธอดังขึ้นมานั้นก็กดรับสาย

“หลินจือ!”หลังจากที่รับสายแล้ว เสียงที่ดุรุนแรงแบบนี้ก็ดังขึ้นมาข้างหู

หลินจือขมวดคิ้วขึ้นมาเล็กน้อย เสียงนี้…..ฟังดูแล้วทำไมเหมือนกับวีนาเลย?

และวีนาหาเธอมีธุระอะไรอีกอย่างนั้นหรือ?

แต่เธอก็เอ่ยถามกลับไปอย่างมีมารยาท : “สวัสดีค่ะ ใครคะ?”

“เธอนี่มันเป็นของเล่นที่น่าไม่อายเลยนะ–”วีนาเปิดคำด่าออกมาอย่างไม่มีความเกรงใจเลยแม้แต่นิดเดียว แล้วหลินจือก็วางสายไปเลยโดยไม่ต้องคิด อีกทั้งยังบล็อกเบอร์นี้ในทันทีเลยอีกด้วย

ตอนนี้เธอกับเทาเท่ไม่มีความสัมพันธ์ใดๆต่อกันแล้ว วีนามาด่าเธอ ทำไมเธอจะต้องอดทนด้วยกัน?

อีกทั้งเธอไม่ได้ทำผิดต่อพวกเขา แล้วทำไมเธอจะต้องโดนด่าด้วย?

วีนาอยากจะระบายความโมโหนี้กับหลินจือ ผลปรากฏว่าเพิ่งจะตะคอกออกไปหลินจือก็วางสายใส่ไปแล้ว อีกนิดเดียววีนาแทบจะคับอกคับใจตายอยู่แล้ว

คิดไม่ถึงเลยว่าหลินจือจะกล้าวางสายเธอไปอย่างไม่มีเหตุผลแบบนี้?

วีนาอายุขนาดนี้แล้ว ใช้ชีวิตที่มีเกียรติมั่งคั่งร่ำรวยมาโดยตลอด เคยได้รับความคับอกคับใจแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน

เธอลูบหน้าอกพลางหายใจหอบด้วยความโมโห พินอินรีบเข้ามาพยุงเธอนั่งลงบนโซฟา

“เกิดอะไรขึ้นคะ?” พินอินไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

วีนามือสั่นพลางเอ่ยพูดขึ้น : “เธอวางสายไปแล้ว!”

“อะไรนะ?” พินอินเองก็โมโหอย่างเหลืออดเช่นกัน แล้วเอ่ยขึ้นด้วยความเกลียดชัง “นับวันจะยิ่งอวดดีมากขึ้นแล้วจริงๆ ครั้งที่แล้วก็สาดกาแฟใส่หน้าหนู”

“แม่คะ แม่รู้ไหม? เต็มหน้าเลยนะ!” พินอินนึกถึงเรื่องครั้งที่แล้วก็โมโหขึ้นมา

วีนาสูดหายใจเข้าลึกๆอีกครั้ง มิเช่นนั้นแล้วเธอกลัวว่าจะถูกหลินจือทำให้โมโหตายไปเสียก่อน

หลินจือในความทรงจำของวีนานั้น เป็นคนเงียบพูดน้อย อ่อนแอ ในช่วงสามปีนั้นไม่รู้ว่าเธอดูถูกถากถางหลินจือไปมากขนาดไหน เธอก็ไม่กล้าที่จะตอบโต้กลับเลยซักประโยคเดียว

“หนูจะโทรหาพี่ ให้พี่เห็นท่าทางแบบนั้นของหลินจือ!” พินอินรู้สึกโมโหเป็นอย่างมาก

วีนาห้ามเธอเอาไว้ :“เอาล่ะ อยากจะให้เขารู้ว่าพวกเราไปด่าเธอรึยังไง?”

“แม่จัดการเอง” วีนาส่งเสียงฮึดฮัดออกมา ตอนนั้นเธอสามารถฉีกหน้าผู้หญิงที่อยู่ข้างนอกของไกอาได้ ตอนนี้ยังจะจัดการกับหลินจือคนเดียวไม่ได้อย่างนั้นหรือ?

อารมณ์วีนากลับมาเป็นปกติแล้วเอ่ยขึ้น : “ไม่ใช่ว่าแกรู้ที่อยู่ของเธอหรอกหรือ? ไปสิ เราไปหาเธอกัน”

พินอินยังไม่ได้มีปฏิกิริยาตอบสนองกลับ : “อา? ตอนนี้?”

“อืม” วีนาเอ่ยพูดพลางลุกขึ้นมาด้วย “วันนี้ฉันไม่ได้สั่งสอนเธอเสียหน่อย ฉันก็คงจะยอมเก็บความโมโหนี้เอาไว้ไม่ได้หรอก”

แน่นอนว่าพินอินยอมที่จะเห็นหลินจือถูกสั่งสอนอยู่แล้ว จึงลุกขึ้นขับรถพาวีนาไปยังที่ที่หลินจือพักอยู่ทันที

เพียงแต่ทั้งสองคนเคาะประตูอยู่เป็นเวลานาน ด้านนั้นก็ไม่มีคนตอบรับเลย

เพื่อนบ้านที่อยู่ตรงข้ามอออกมาบอกทั้งสองคน : “แม่หนูที่พักอยู่ที่นี่ ไม่ได้กลับมาสองสามวันแล้ว”

ทั้งสองคนงุนงง : “เกิดอะไรขึ้น?”

เพื่อนบ้านเอ่ยพูดขึ้น : “เมื่อวานมีผู้ชายคนนึงมาก่อเรื่องวุ่นวายที่นี่ ดูเหมือนกับว่าเธอไปพักที่บ้านเพื่อนแล้ว”

พินอินรีบเอ่ยถาม : “แล้วรู้ไหมว่าเพื่อนเธอมีลักษณะเป็นยังไง?”

เพื่อนบ้านคนนั้นเห็นหลินจือกับควีนออกไปด้วยกัน จึงอธิบายลักษณะรูปร่างหน้าตาของควีนกับทั้งสองคน

พินอินเอ่ยพูดกับวีนาอย่างไม่อยากจะเชื่อ : “คงจะไม่ใช่ควีนหรอกใช่ไหม?”

นิสัยของควีนนั่นเป็นคนเย็นชา เป็นไปได้อย่างไรที่จะรับหลินจือไปอยู่ด้วย? แล้วอีกอย่างเธอกับหลินจือก็คงจะไม่คุ้นเคยกันสิ?

วีนาจึงเอ่ยขึ้นมา : “ถ้าอย่างนั้นก็ไปดูที่ควีนพักอยู่สิ”

ไม่ว่าจะใช่ควีนหรือเปล่า วีนาคิดเพียงแค่อยากจะหาหลินจือให้เจอเท่านั้น

ที่อยู่ของควีนนั้นพินอินรู้ เนื่องจากว่าเมื่อนานมาแล้วซูซีให้คนเคยตามควีน

ซูซีสงสัยความสัมพันธ์ที่ดูคลุมเครือของเทาเท่กับควีน ดังนั้นก็เลยอยากจะดูว่าเป็นแบบนี้จริงหรือเปล่า

ถึงแม้ว่าควีนจะมีฐานะยากจน แต่จิตใจมีคุณธรรม ควีนมีหน้าตาที่เย็นชา มีความเป็นเอกลักษณ์ รูปร่างสูง นับว่าเป็นคนที่โดดเด่นคนหนึ่งในบรรดาผู้หญิง

เทาเท่จะเอาเธอมาคนรัก ก็ไม่ใช่เป็นเรื่องที่จะเป็นไปไม่ได้

ที่อยู่ของควีน ถึงแม้ว่าจะเป็นพื้นที่ที่มีระดับ คนอย่างเรียวจิเข้ามาไม่ได้ แต่พินอินกับวีนานั้นสามารถเข้ามาได้อย่างง่ายดาย เนื่องจากว่าพินอินกับวีนาก็มีบ้านและที่ดินอยู่ที่นี่เช่นกัน

ทั้งสองคนมายังสถานที่พักของควีน แล้วพินอินก็เคาะประตูขึ้นอย่างไม่มีความเกรงใจเลยแม้แต่นิดเดียว

วีนาจัดแจงกับเสื้อผ้าและหน้าตาของตัวเอง ปรับท่าทางให้ดูสง่างามและสูงส่ง