ตอนที่ 248 แก้ปัญหา

ลัวย่าวหัวเคยอยู่ในสายงานพวกนี้มาก่อนนอกจากนี้เป็นเพราะพ่อของเขาที่รู้จักคนเป็นจำนวนมากและเป็นเพราะเคยฝึกงานในตำแหน่งรากหญ้ามาก่อนจึงทำให้เขารู้จักกับผู้กำกับและหัวหน้างานจำนวนไม่น้อย

” อย่าเรียกผมแบบนั้นเลยครับ ผมลาออกตั้งนานแล้ว ” ลัวย่าวหัวเดินเข้าไป

ผู้กำกับข่งเดินเข้ามาพร้อมกับยิ้ม ” ลาออกแล้วแต่ก็ยังเป็นผู้บัญชาการลัวอยู่ดีนิ ! “

ผู้กำกับข่งเองก็ต้อนรับอย่างเป็นมิตรถึงแม้ว่าลัวย่าวหัวจะลาออกไปแล้วแต่เขาก็ยังสนิทกับอีกฝ่ายอยู่ดี พ่อของลัวย่าวหัวทำงานที่นี่มาหลายปีและเขาเองก็มีนักเรียนและเพื่อนเก่าของเขาอยู่ไม่น้อยและคนเหล่านั้นก็เป็นหัวหน้าของเขาอีกที เขาจึงต้องวางตัวอย่างระมัดระวัง

 

” ผู้บัญชาการลัวมาทำอะไรที่นี่เนี่ย ? ” ผู้กำกับข่งถาม

ลัวย่าวหัวชี้ไปที่หยางโป ” นี่เพื่อนของผมเองพ่อกับพี่ของเขาเพิ่งจะถูกจับมาเมื่อคืน พวกเราเลยต้องมาเคลียร์น่ะ “

ลัวย่าวหัวพูดแบบนี้ผู้กำกับข่งก็เข้าใจในทันที เรื่องการจับกุมคนเป็นเรื่องที่จะต้องนำมารายงานผ่านเขาก่อนแต่เขาไม่ได้เข้าใจเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดเขาจึงหันไปถามตำรวจหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างหยางโป ” เสี่ยวหวางเกิดอะไรขึ้น ? “

เสี่ยวหวางรีบอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นอีกรอบ

ผู้กำกับข่งได้ยินเรื่องที่เกิดขึ้นก็มองไปที่หยางโปด้วยสายตาและสีหน้าที่ยากจะคาดเดาได้ อันที่จริงมันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรแต่เมื่อมันเข้าสู่รูปคดีโทษฐานลักทรัพย์แล้วมันไม่ใช่เรื่องที่จะสามารถปล่อยออกไปได้ง่ายๆ

 

หยางโปรู้ดีว่าอีกฝ่ายก็คงจะลำบากใจเขาจึงรีบพูดขึ้นมาว่า ” ผู้กำกับข่ง ตอนนี้ พวกเราแค่อยากจะดูว่ามันเกิดอะไรขึ้นบ้างแล้วก็ดูว่าผู้เสียหายต้องการให้ชดใช้ตรงไหน ถ้าให้ดีก็อยากจะให้ลดโทษให้เบาลงน่ะครับ “

การดูแลเขามาตลอดเวลายี่สิบปีถ้าหากจะบอกให้เขาทอดทิ้งคนที่เคยดูแลเขามันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะฉะนั้น

หยางโปจึงทำได้เพียงแค่ช่วยอย่างเต็มที่

ผู้กำกับข่งพยักหน้า ” ความคิดของพวกคุณถูกต้องแล้ว เรื่องนี้ยังไงก็ต้องติดต่อกับผู้เสียหายก่อนและถ้าให้ดีก็ต้องให้พวกเขาให้การโดยใช้คำที่เบาที่สุด “

พูดจบผู้กำกับข่งก็หันไปหาเสี่ยวหวาง ” เสี่ยวหวางเรื่องนี้ฝากนายดูแลด้วยนะ หวังว่านายจะสามารถทำให้อีกฝ่ายยอมเจรจาแต่โดยดีได้นะ “

 

เสี่ยวหวางพยักหน้า ” ครับผม ! “

หลังจากพูดไม่กี่ประโยคผู้กำกับข่งก็ขอตัวออกไปก่อน หยางโปหันไปหาลัวย่าวหัว ” นายเองก็เหนื่อยมาทั้งคืนแล้ว ฝั่งนี้ไม่ต้องสนใจหรอก นายกลับไปพักผ่อนได้แล้ว เดี๋ยวถ้ามีอะไรฉันจะโทรหานายเอง “

ลัวย่าวหัวเองก็เหนื่อยแล้วเช่นเดียวกันเขาจึงพยักหน้าก่อนที่จะขอตัวกลับไปพักผ่อน

หลังจากที่ลัวย่าวหัวกลับไปแล้วหยางโปและเสี่ยวหวางก็เดินมาที่ด้านหน้าประตูซึ่งเขาก็เจอแม่ที่กำลังเดินถือแป้งทอดเข้ามา

ทันทีที่แม่เห็นหยางโปเธอก็หยุดเดินในขณะที่แป้งทอดในมือของเธอก็ร่วงลงไปอยู่ที่พื้น ” เสี่ยวโปกลับมาแล้วเหรอ ! “

 

พูดจบแม่หยางก็สะอึกสะอื้นออกมา

สองวันมานี้พ่อหยางและหยางหลางเจอแต่ปัญหาและมันทำให้แม่หยางเกิดความกดดันอย่างมาก แม้ว่าเธอจะรู้ว่าสามีและลูกชายของตัวเองเข้าไปลักขโมยของในบ้านหยางโปและเธอก็รู้สึกละอายใจ แต่ทันทีที่เห็นหยางโปแม่หยางก็อดไม่ได้ที่จะร้องไห้ออกมา

ทันทีที่เขาเห็นแม่หยางร้องไห้และเห็นว่าอาหารเช้าของแม่มีแค่แป้งทอดเพียงแค่แผ่นเดียวเขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกบีบหัวใจขึ้นมา ” แม่เข้าไปรอในสถานีตำรวจก่อนเถอะ เดี๋ยวผมเข้าไปพูดกับทางตำรวจก่อน แม่ไม่ต้องห่วงนะทุกอย่างจะเรียบร้อย “

แม่หยางพยักหน้า ” โอเคๆ “

 

พูดจบน้ำตาของแม่หยางก็ไหลลงมาอีกครั้ง

หยางโปไม่ได้พูดอะไรแต่เลือกที่จะเดินตามเสี่ยวหวางไปในทันที

หลังจากนั่งรถตำรวจเดินทางกลับมาถึงหมู่บ้าน หยางโปก็รู้สึกลังเลขึ้นมา อันที่จริงเขาก็ไม่อยากจะต้องเจอหน้าพ่อหยางและหยางหลาง แต่ในที่สุดเขาก็ต้องรีบกลับมาจนได้

หลังจากเสียบการ์ดแล้วหยางโปและเสี่ยวหวางก็ขึ้นลิฟต์มา เสี่ยวหวางหันมามองหยางโปด้วยความแปลกใจ ” คุณหยางทำงานเกี่ยวกับวัตถุโบราณแถมยังอาศัยอยู่ที่นี่ คงจะมีเงินเยอะมากแน่ๆ แต่ทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะครับ ? “

 

หยางโปส่ายหน้า เขารู้ดีว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอะไรอยู่ อีกฝ่ายคงกำลังคิดว่ามีเงินมากขนาดนี้แต่ทำไมถึงไม่ให้เงินพ่อและพี่ชายของตัวเองจนทำให้พวกเขาทำเรื่องแบบนี้ขึ้นมาได้

หยางโปส่ายหน้า ” แต่ละครอบครัวก็มีเรื่องที่ยากเกินกว่าที่จะคาดเดาได้ บางเรื่องมันก็ไม่ได้ง่ายอย่างที่คุณคิดหรอกครับ “

หยางโปไม่ได้อธิบายต่อจากนั้นแต่เสี่ยวหวางเองถึงแม้ว่าอยากจะรู้รายละเอียดแต่เขาก็เลือกที่จะไม่ถามต่อ แต่รีบเดินขึ้นไปด้านบนอย่างรวดเร็ว

เสี่ยวหวางเคาะประตู ในเวลาอันรวดเร็วประตูก็ถูกเปิดออกพร้อมกับชายร่างอ้วนท้วมที่เดินออกมา ” คุณตำรวจหวางยังมีเรื่องอะไรอีกเหรอครับ ? “

 

เสี่ยวหวางหันมาชี้ด้านหลังพร้อมกับพูด ” วันนี้ผมเชิญคุณหยางเจ้าของห้องที่อยู่ห้องด้านบนมาหาคุณครับ เขาอยากจะมาขอโทษเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ “

ชายคนนั้นมองออกมานอกประตู ” คุณตำรวจครับ ไม่ต้องแสดงความขอโทษหรอก เพราะตอนนี้ผมต้องการบทลงโทษสถานหนักเท่านั้น ! “

เสี่ยวหวางพูดโน้มน้าวใจ ” คุณจูครับทุกคนต่างก็อยากจะร่วมมือกับเรื่องนี้ หลังจากนี้ก็อาจจะยังต้องเจอหน้ากันอีก อีกอย่างคุณหยางเองก็รีบเดินทางกลับมาที่นี่เพื่อที่จะมาหาคุณเลยนะครับ “

คุณจูเงยหน้าก่อนที่จะพยักหน้า ” ก็ได้ งั้นเข้ามาก่อนก็ได้ “

 

หลังจากเดินเข้ามาด้านในหยางโปก็มองหน้าอีกฝ่าย ” คุณจูครับ เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ผมเองก็รู้สึกละอายใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นเหมือนกัน “

อีกฝ่ายมองหยางโป ” คุณหยางเองก็เป็นคนมีหน้ามีตา ทำไมถึงมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับคนในครอบครัวของคุณได้ล่ะ ? “

หยางโปยิ้มเจื่อนๆพร้อมกับส่ายหน้า ” คุณจูครับ พวกเราอาศัยอยู่ชั้นล่างเลยทำให้ไม่เคยเห็นหน้ากัน การที่เกิดเรื่องนี้ขึ้นทำให้ผมและคนได้มีโอกาสเจอหน้ากัน อันที่จริงก็ถือว่าเป็นเรื่องของโชคชะตาเหมือนกันนะครับ “

” ถ้าคิดว่ามันเป็นโชคชะตาก็ตามใจ แต่ผมไม่ต้องการ ” คุณจูพูด

 

หยางโปพยักหน้า ” แบบนี้นี่เอง “

” แต่เราก็ยังต้องรักษาความสัมพันธ์ที่มีอยู่นะครับ ” หยางโปพูดพร้อมกับกวาดตามองไปรอบๆ เขาเองก็รู้ดีว่าคำพูดพวกนี้มันไม่ได้ช่วยอะไรหรอก มีเพียงแค่เงินเท่านั้นแหละที่จะสามารถแก้ไขและชดเชยทุกอย่างได้

หยางโปหันไปมองแจกันดอกไม้สีแดงที่วางอยู่ข้างๆโทรทัศน์ในห้องรับแขก ซึ่งในแจกันมีดอกไม้ถูกเสียบเอาไว้อยู่ หลังจากมองเพียงแวบเดียวเขาก็เดินเข้าไป ” คุณจูนี่คือดอกอีหมี่ใช่ไหมครับเนี่ย ? “

คุณจูเกิดความแปลกใจขึ้นมาเพราะความสัมพันธ์ของพวกเขาทั้งสองคนถือว่าไม่ได้มีความสนิทอะไรกันเลยสักนิด แต่ถึงจะเป็นแบบนั้นเขาก็พยักหน้าตอบกลับมา ดอกไม้นี่เป็นดอกไม้ที่เขาเห็นระหว่างทางเป็นเพราะมันสวยดีเขาจึงเด็ดกลับมา แต่เขาไม่ได้รู้เลยว่ามันคือดอกอะไร

 

หยางโปยิ้ม ” ดอกไม้นี้หายากมากเลยนะครับแถมยังมีราคาด้วย ถ้าหากผมขอแลกมันด้วยการซื้อดอกไม้นี้ในราคาสามหมื่นหยวนเพื่อเป็นการขอโทษคุณจะโอเคไหมครับ ? “

คุณจูหันมามองหยางโปพร้อมกับยิ้ม ความโกรธบนใบหน้าของเขาที่เคยมีอยู่ได้มลายหายไปจนหมด เพียงเพราะมีเรื่องเงินหลุดออกมาจากปากของเขา คุณหยางช่างเป็นคนที่เข้าใจคนอื่นซะจริงๆ

คุณจูมองหน้าหยางโป ” ราคานี้ต่ำไปหน่อยรึเปล่าครับ ของหายากแบบนี้ “

หยางโปจ้องอีกฝ่าย ” คุณจูครับ คุณตีราคาสูงไปรึเปล่า ราคาจริงๆของมันคุณเองก็น่าจะรู้ดีอยู่แล้ว ที่จริงผมก็แค่อยากจะสมานฉันท์เท่านั้น เพราะหลังจากนี้เราจะได้ใช้ชีวิตกันต่อไปและทุกคนก็จะได้ไม่มีความบาดหมางต่อกัน “

 

สีหน้าของคุณจูเริ่มเจื่อนลง

เสี่ยวหวางรีบพูด ” ใช่ครับ เรื่องนี้ต้องรีบแก้ไขให้เร็วที่สุดนะครับ “

คุณจูลังเลก่อนที่จะพยักหน้าตอบตกลง ” ก็ได้ครับ “

หยางโปยิ้ม ” ครับ ถ้างั้นผมขอเอาพืชสีเขียวต้นนี้ไปเลยก็แล้วกันนะครับ เอ่อ ที่วางนี่ผมขอด้วยก็แล้วกันนะครับเพราะมันเข้าคู่กันพอดี “

คุณจูพยักหน้าโดยไม่ได้พูดอะไรอีก