ตอนที่ 249 ขอร้อง

ตำรวจเสี่ยวหวางรีบช่วยย้ายต้นไม้สีเขียวในขณะที่หยางโปย้ายชั้นวางที่ทำมาจากไม้เรดวู้ดออกมาก่อนที่จะเดินลงชั้นล่างไป

เสี่ยวหวางหันมาหาหยางโป ” ต้นไม้ถาดนี้มีราคามาก เดี๋ยวผมช่วยย้ายชั้นวางดอกไม้ให้ก็แล้วกันนะครับ “

หยางโปแม้ว่าจะรู้สึกถึงความหนักแต่เขาก็ส่ายหน้า ” อ๋อ ไม่เป็นไรครับ “

เสี่ยวหวางได้ยินอย่างนั้นก็ไม่ได้คะยั้นคะยอแต่เลือกที่จะถือต้นไม้ต่อ ตอนนี้เขารู้แล้วว่าหยางโปเป็นคนฉลาดเพราะเขาเลือกซื้อของชิ้นนี้ในราคาสามหมื่นหยวนเพื่อเป็นการไถ่โทษและชดเชยเรื่องที่เกิดขึ้น อีกทั้งยังเป็นการไว้หน้าอีกฝ่ายโดยที่ไม่ใช้เงินให้อีกฝ่ายแบบตรงๆ

 

หลังจากวางต้นไม้ลงในห้องรับแขกแล้วหยางโปก็หันมา ” คุณจูรอแป๊บนึงนะครับ เดี๋ยวผมไปหยิบเงินก่อน “

คุณจูพยักหน้า ” ได้ครับ “

หยางโปรีบเข้าไปในห้องก่อนที่จะหยิบเงินสดออกมาสามหมื่นหยวน ทันทีที่คุณจูเห็นเขาก็รีบลุกขึ้นจากโซฟาก่อนที่จะยื่นมือมารับ

หยางโปยังคงดึงเงินกลับมาพร้อมกับพูด ” พวกเรานับพร้อมกันตรงนี้เลยดีกว่านะครับ “

หยางโปวางเงินลงบนโต๊ะก่อนที่จะเริ่มหยิบกระดาษนำออกมาเขียน ระหว่างที่เขียนเขาก็หันไปมองอีกฝ่าย ” คุณจูรู้ไหมครับว่าอีหมี่ฮัวคืออะไร ? “

เขาส่ายหน้า ” ไม่รู้สิ “

 

” อีหมี่ฮัวเป็นต้นไม้เขตร้อนที่สามารถผลิดอกออกมาได้สามสีซึ่งสวยงามมากๆ แต่มันก็ยังมีพิษอยู่ในตัวเองด้วย ปกติแล้วจะมีอยู่ในเขตแอฟริกาทางฝั่งตะวันออก ในประเทศไม่ค่อยมีหรอกครับ ” หยางโปพูด

คุณจูที่นั่งอยู่บนโซฟาหน้าเจื่อนลง เรื่องเมื่อคืนทำให้เขารู้สึกอับอายมากแต่เป็นเพราะเงินของหยางโปจึงทำให้เขารู้สึกดีขึ้น ถึงมันจะไม่ได้เยอะแต่ก็ถือว่าไม่ได้น้อย ของชิ้นนี้มันก็เป็นแค่กระถางดอกไม้และจานรองเท่านั้นไม่ได้มีค่าอะไรมากนัก แพงสุดก็แค่พันแปดร้อยหยวนเท่านั้นแหละ ดังนั้นตอนที่หยางโปพูดเขาจึงไม่ได้โต้ตอบอะไร

หยางโปยิ้มก่อนที่จะเขียนรายการลงไปพร้อมกับถามอีกว่า ” คุณจูซื้อชั้นวางนี้มาจากที่ไหนเหรอครับ ผมรู้สึกว่ามันไม่ค่อยจะเหมาะกับดีไซต์บ้านของคุณเท่าไหร่เลย “

 

” ตอนที่ซื้อถาดวางต้นไม้น่ะครับ ผมก็เลยซื้อมันกลับมาด้วยที่ตลาดฮวาเหนี่ยวในราคาหมื่นกว่าหยวน “

หยางโปยิ้ม เขาไม่เชื่อหรอกว่าจะราคาเท่านี้จริงๆ เพราะถ้าหากมันราคาหมื่นกว่าหยวน อีกฝ่ายจะยอมขายให้เขาในราคานี้เหรอ? แต่เขาก็ไม่ได้สนใจอะไร แต่ยังคงก้มหน้าเขียนรายละเอียดและข้อตกลงในการตกลงกันของทั้งสองฝ่าย

คุณจูอ่านข้อความก่อนที่จะเซ็นยอมรับแล้วขอตัวกลับห้องไป

เสี่ยวหวางนั่งอยู่ครู่หนึ่งก็ขอตัวกลับไปเช่นเดียวกัน

ระหว่างที่หยางโปกำลังนั่งอยู่บนโซฟาเขาก็รู้สึกได้ถึงความเบื่อหน่าย มันไม่ใช่ความรู้สึกสับสนแต่มันเป็นความรู้สึกที่ไม่ดีเลย เขารีบกลับมาจากฉางอานโดยไม่ได้พักผ่อน ความเหนื่อยล้าที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้หลายวันก็ยังไม่หายดี มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่เขาจะรู้สึกแบบนี้

 

แต่หลังจากที่หันกลับไปมองชั้นวางหยางโปก็ยิ้มออกมา

อีกฝ่ายได้มันมาจากตลาดฮวาเหนี่ยวแต่คงจะนึกไม่ถึงว่ามันจะมีราคา ไม้ที่เอามาทำเป็นที่วางแจกันนี้ไม่ใช่ไม้ที่หาได้ทั่วไปแต่มันเป็นไม้จื่อถานที่มีราคา !

ก่อนหน้านี้หยางโปไม่ได้คิดอยากจะแก้ปัญหาด้วยวิธีนี้ เขาอยากจะควักเงินแล้วให้อีกฝ่ายต่อหน้าเลยด้วยซ้ำ แต่หลังจากที่เขาเห็นไม้จื่อถานชิ้นนี้ เขาก็เปลี่ยนใจและคิดไม่ถึงด้วยว่าอีกฝ่ายจะไม่รู้เรื่องนี้ จึงทำให้การแลกเปลี่ยนของเขาบรรลุเป้าหมายได้อย่างง่ายดาย

 

หยางโปย้ายชั้นวางดอกไม้ไปที่ห้องทำงานของเขาก่อนที่จะดูมันอย่างละเอียดอีกครั้ง และพบว่ามันมีรอยขูดจำนวนไม่น้อยเลย เขาเองก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเสียดายขึ้นมา ของชิ้นนี้มีราคาอย่างน้อยๆ 4-5 แสนหยวน แต่ถ้าหากมีรอยขีดข่วนก็อาจจะเหลือแค่ครึ่งราคา แถมเส้นที่เป็นรอยข่วนแต่ละเส้นยังมีราคาหลายร้อยหยวนด้วย !

หยางโปหยิบผ้าสะอาดขึ้นมาปูเอาไว้ก่อนที่จะวางมันลง

หลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเขาก็รีบเดินทางไปที่สถานีตำรวจทันที

เขาเจอแม่หยางอีกครั้งแต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าแม่หยางจะดีขึ้นมาแล้ว หลังจากที่เจอหน้าหยางโปแม่หยางก็ยังคงร้องไห้ไม่หยุด เขาจึงทำอะไรไม่ได้นอกจากปลอบใจแม่หยางให้ใจเย็นลง อีกทั้งยังบอกแม่หยางด้วยว่าคู่กรณีไม่คิดจะเอาเรื่องพ่อหยางกับหยางหลางแล้วและคดีนี้ก็จะได้รับโทษสถานเบาเท่านั้น

 

แม่หยางรีบเงยหน้าขึ้นพร้อมกับพูด ” งั้นถ้าคู่กรณีไม่เอาเรื่องแล้ว พ่อกับหยางหลางจะอยู่ในนั้นแค่ไม่กี่วันใช่ไหมลูก ? “

หยางโปส่ายหน้า ” คดีบุกรุกและลักทรัพย์สินไม่ได้เหมือนกับคดีลักขโมยทั่วไป ถ้าหากขโมยตามถนนแต่ไม่สำเร็จก็อาจจะถูกคุมประพฤติแต่ถ้าหากบุกรุกโทษจะไม่เหมือนกัน “

พูดจบหยางโปก็เงียบไป หลังจากที่เขารู้ว่าตัวเองเป็นลูกบุญธรรมความรู้สึกของเขาที่มีต่ออีกฝ่ายก็เริ่มห่างเหินมากขึ้น เขาเองก็รู้ดีว่าทำไมพ่อและแม่ถึงเลือกที่จะทำดีกับหยางหลางมากกว่าเขา อีกอย่างเขาก็รู้ดีว่าแม่หยางไม่มีทางเชื่อเขาได้อย่างสนิทใจอย่างแน่นอน

” แม่ ผมว่าพวกเราไปถามผู้กำกับดูก่อนก็แล้วกัน ” หยางโปพูด

 

แม่หยางไม่รู้ว่าหยางโปรู้จักกับผู้กำกับข่ง ตอนนี้เธอเองก็หมดหนทางแล้วจึงทำได้เพียงแค่พยักหน้าตอบกลับไป ” โอเคๆ พวกเราลองไปขอร้องให้เขาช่วยกันเถอะ ให้เขาช่วยพ่อกับพี่ชายของลูกออกมา ” แม่หยางพูด

หยางโปได้ยินแบบนั้นก็รู้ทันทีว่าแม่ของเขาไม่ได้รู้เรื่องที่เขารู้จักกับผู้กำกับ เขาจึงพูดไปว่า ” โอเค งั้นพวกเราไปกันเถอะ “

ก่อนหน้านี้หยางโปรู้จักห้องทำงานของผู้กำกับข่งแล้ว จึงทำให้เขาสามารถเดินไปถึงที่ห้องได้อย่างสบายโดยไม่มีใครมาดักทางเขาไว้ หลังจากเดินมาถึงหน้าห้องเขาก็เคาะประตูเรียก

” เชิญครับ “

หลังจากเปิดประตูเข้าไปก็พบว่าผู้กำกับข่งนั่งอยู่หน้าโต๊ะทำงานของเขา หยางโปเดินเข้ามาพร้อมกับสีหน้าเกรงใจ ” ผู้กำกับข่งครับ ต้องขอโทษด้วยนะครับที่รบกวน “

 

” อ้าว น้องหยาง นั่งก่อนสิ ! นั่งก่อน ! ” อีกฝ่ายต้อนรับอย่างเป็นกันเอง

พูดจบเขาก็เดินไปหยิบแก้วน้ำชามาก่อนที่จะรินชาใส่แก้วให้ทั้งสองคน

หยางโปยกมือขึ้นก่อนที่จะพูด ” ไม่ต้องก็ได้ครับผู้กำกับ “

” ดื่มก่อนเถอะ ด้านนอกหนาวจะตายดื่มก่อนเถอะร่างกายจะได้อุ่นๆ ” อีกฝ่ายพูด

หยางโปยิ้มก่อนที่จะรีบกล่าวขอบคุณ

แม่หยางร้อนใจจนเอ่ยปากขึ้นมาโพล่งๆว่า ” ผู้กำกับคะ คุณช่วยดูหน่อยเถอะค่ะว่าสามีกับลูกของดิฉันจะออกมาได้ตอนไหน ? “

 

อีกฝ่ายชะงักโดยไม่ได้ตอบ แต่หันมามองหยางโป ” ไปคุยมาแล้วเหรอครับ ? “

หยางโปพยักหน้า ” เรียบร้อยแล้วครับ อีกฝ่ายยอมยกโทษให้แล้วครับ “

ผู้กำกับพยักหน้าก่อนที่จะมองหน้าหยางโป ถึงแม้ว่าคดีนี้จะยังไม่ได้รับการจัดการแต่เขาก็รู้ดีว่าคู่กรณีคงจะเกรงใจหยางโปจนทำให้เขาสามารถเคลียร์ได้รวดเร็วขนาดนี้ ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ

” ถ้าสามารถเคลียร์ได้แล้ว งั้นพวกเราก็จะดำเนินการขั้นต่อไป ” อีกฝ่ายมองหยางโป

” รบกวนหน่อยนะครับผู้กำกับ ” หยางโปพูด

 

” มันเป็นงานทั้งนั้นแหละครับ ” ผู้กำกับตอบก่อนที่จะหันไปหาแม่หยาง ” พวกเราเป็นคนกันเองทั้งนั้นถ้างั้นผมขอพูดตรงๆเลยนะครับ คดีบุกรุกและลักทรัพย์ไม่เหมือนกับคดีลักทรัพย์ทั่วไป และมันจะต้องอ้างตามกฎหมายและระเบียบการนะครับ “

” แต่พวกเขาไม่ได้ขโมยของมีค่าอะไรเลยนะคะ ” แม่หยางเริ่มกังวล

อีกฝ่ายส่ายหน้า ” มันเป็นกฎครับ พวกเราไม่สามารถทำอะไรได้ “

แม่หยางหันมามองหยางโปก่อนที่จะใช้นิ้วโป้งและนิ้วชี้ถูวนไปมา

 

หยางโปส่ายหน้า เขารู้ดีว่าแม่หยางต้องการจะให้เขายัดเงินใต้โต๊ะให้อีกฝ่าย แต่หยางโปไม่มีทางทำแบบนั้นแน่ ถ้าหากอีกฝ่ายสามารถช่วยได้จริงๆ ในฐานะของคนรู้จักของลัวย่าวหัวแล้ว เขาก็ต้องช่วยอยู่แล้วไม่จำเป็นต้องใช้เงินเพื่อแก้ปัญหาพวกนี้

ตอนนี้หยางโปเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าภายในใจของเขามันกำลังเกิดความปั่นป่วนอะไรขึ้นกันแน่ ! ! !