ตอนที่ 1784 ข้าหวาดกลัวจนสติแตกแล้ว (4) / ตอนที่ 1785 ข้าหวาดกลัวจนสติแตกแล้ว (5)

ยอดชายาจักรพรรดิปีศาจ

ตอนที่ 1784 ข้าหวาดกลัวจนสติแตกแล้ว (4)

ถ้าสวรรค์ต้องการให้นางตายถ้าอย่างนั้นนางก็ต่อต้านสวรรค์เอง!

ตูม!

ฟ้ายังคงร้องและอัสนีก็คงผ่าลงมา อวิ๋นลั่วเฟิงตัวสั่นแต่นางก็ยังยืนอย่างมั่นคงโดนไม่ขยับไปไหนเหมือนต้นสน ไม่ว่าอัสนีสวรรค์จะผ่าลงมาที่นางหนักแค่ไหน นางก็ยังยืนอยู่อย่างโอหังและเชิดหน้าขึ้น

นางไม่มีทางยอมรับความพ่ายแพ้ต่อสวรรค์ที่ผู้คนหวาดกลัว!

ถึงแม้ว่าจะตาย นางก็ไม่มีทางยอมจำนนต่อสิ่งที่เรียกสวรรค์!

คล้ายกับว่าสวรรค์รู้ถึงความหัวแข็งของหญิงสาว อัสนีสวรรค์ก็ไม่ได้รุนแรงเหมือนก่อนหน้านี้แล้วแต่…มีร่องรอยของความขลาดกลัว

ใช่แล้ว สวรรค์กำลังหวาดกลัว!

เสี่ยวโม่ตะลึง อัสนีสวรรค์กำลังกลัวคำพูดของอวิ๋นลั่วเฟิงงั้นหรือ

แต่ว่า…

ในขณะที่เสียงคำรามของฟ้าร้องค่อยๆ เงียบลง จู่ๆ เสียงคำรามของมังกรก็ดังขึ้นภายในจิตวิญญาณของนาง…

“นายหญิง เสี่ยวฉงตื่นแล้ว”

เสี่ยวโม่ดีใจที่เห็นอย่างนั้นแล้วรีบปล่อยเสี่ยวฉงออกมาจากโลกคัมภีร์เซียนโอสถ

แต่ว่า…

สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนในทันทีเมื่อเห็นเสี่ยวฉง

“เสี่ยวฉง เจ้ากำลังจะผ่านด่านงั้นหรือ” เสียงของเสี่ยวโม่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว เหตุใดเจ้าตัวเล็กนี้ถึงจู่ๆ ก็มาผ่านด่านเอาตอนนี้

เมื่อคิดได้อย่างนั้น เขาก็รีบตะโกนขึ้นมา “นายหญิง หลีกทางเร็วขอรับ! เร็วเข้า!”

อวิ๋นลั่วเฟิงชะงักเมื่อเห็นอัสนีสวรรค์ที่กำลังจะหายไปกลับมารุนแรงอีกครั้ง อัสนีสวรรค์ส่งเสียงดังแล้วผ่าลงมาที่เสี่ยวฉง

ตูม!

เพราะว่าอวิ๋นลั่วเฟิงอยู่ใกล้เสี่ยวฉงทำให้อัสนีสวรรค์ส่งผลต่อนางเหมือนกัน นางรู้สึกถึงความเจ็บปวดเสียดแทงภายในร่างและใบหน้างดงามของนางก็ซีดเผือด ตอนนั้นเองเกราะเกล็ดมังกรบนร่างของอวิ๋นลั่วเฟิงก็หายไป ต้องขอบคุณเกราะเกล็ดมังกรที่ช่วยรับมือกับอัสนีสวรรค์ แต่ตอนนี้เกราะเกล็ดมังกรหายไปแล้วและนางก็ไม่สามารถทนต่อไปได้อีกแล้ว…

“นายหญิง เร็วเข้า รีบใช้หุ่นเชิด!” เสียงวิตกกังวลของเสี่ยวโม่ดังขึ้นเข้าสู่หูของอวิ๋นลั่วเฟิง

อวิ๋นลั่วเฟิงรีบเรียกอวิ๋นอี้ออกมาโดยไม่ลังเล อวิ๋นอี้รับคำสั่งจากอวิ๋นลั่วเฟิงแล้วเผชิญหน้ากับอัสนีสวรรค์ด้วยร่างกายแข็งแกร่งดุจเหล็กกล้า…

ตูม!

ตูม! ตูม! ตูม!

อัสนีสวรรค์ยังคงผ่าลงมาโดนร่างกายอวิ๋นอี้อย่างต่อเนื่องและรุนแรง ร่างกายของเขาเกิดเสียงดังราวกับว่าอัสนีสวรรค์ผ่าลงมาโดนกำแพงเหล็กหนา

เสี่ยวฉงหวาดกลัวอัสนีสวรรค์แล้วยกมือขึ้นกุมศีรษะและไปแอบอยู่ด้านหลังอวิ๋นลั่วเฟิง เขามองอัสนีสวรรค์ด้วยความหวาดกลัวและเอาแต่บ่นพึมพำ “นี่มันไม่ถูกต้องแล้ว อัสนีสวรรค์ต้องมีบางอย่างผิดปกติแน่ ข้าเคยเห็นอัสนีสวรรค์ตอนคนอื่นผ่านด่าน อัสนีสวรรค์ของพวกเขาไม่ได้รุนแรงเหมือนอย่างนี้ เหตุใดอัสนีสวรรค์ถึงทรงพลังนัก ข้าหวาดกลัวจนสติแตกแล้ว”

มุมปากของอวิ๋นลั่วเฟิงกระตุก นางเมินเสี่ยวฉงแล้วใช้ดวงตาสีนิลของมองอวิ๋นอี้เงียบๆ

“เสี่ยวโม่ เกิดอะไรขึ้นกันแน่” อวิ๋นลั่วเฟิงหันไปถามเสี่ยวโม่

ภายใต้การโจมตีของอัสนีสวรรค์ถึงแม้ว่าอวิ๋นอี้จะดูย่ำแย่แต่ร่างกายที่แตกหักของเขาก็ค่อยๆ ฟื้นฟูภายใต้การโจมตีของอัสนีสวรรค์…

“ข้าเองก็ไม่รู้เหมือนกัน หรือว่าอัสนีสวรรค์จะสามารถบำรุงหุ่นเชิดได้” เสี่ยวโม่ตะลึง

เขาบอกอวิ๋นลั่วเฟิงเรียกอวิ๋นอี้ออกมาเพื่อให้นางใช้หุ่นเชิดเป็นเกราะป้องกันอัสนีสวรรค์ เขาเองก็แปลกใจที่อัสนีสวรรค์สามารถซ่อมบำรุงหุ่นเชิดได้!

อวิ๋นลั่วเฟิงทำหน้าบึ้ง “สรุปก็คือข้าไม่จำเป็นต้องทนรับอัสนีสวรรค์ด้วยตัวเอง”

เสี่ยวโม่ยิ้มอย่างอับอาย “เรื่องนี้ข้าไม่ผิดนะ เป็นเจวี๋ยเชียนต่างหาก เขาสอนวิชาสร้างหุ่นเชิดให้ท่านแต่กลับไม่ได้บอกท่านเรื่องนี้ ท่านควรโทษเขา ข้าบริสุทธิ์นะ”

…………………………

ตอนที่ 1785 ข้าหวาดกลัวจนสติแตกแล้ว (5)

อวิ๋นลั่วเฟิงไม่ได้มองเสี่ยวโม่อีกแล้วหันไปมองอวิ๋นอี้แทน

อัสนีสวรรค์ยิ่งรุนแรงและหนักขึ้น แต่ว่ายิ่งอัสนีรุนแรงมากขึ้นเท่าไหร่ ร่างกายของอวิ๋นอี้ก็ยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้นเท่านั้น…

จากนั้น…

อวิ๋นอี้ที่เป็นผู้ฝึกฌานขั้นปราชญ์ระดับต่ำ จู่ๆ ก็ผ่านด่านเลื่อนระดับ

ขั้นปราชญ์ระดับกลาง ขั้นปราชญ์ระดับสูง ขั้นกึ่งเทพ…

ไม่นานเขาก็ก้าวเข้าสู่ขั้นที่คนส่วนใหญ่ไม่สามารถไปถึงได้ทั้งชีวิต ขั้นเทพเซียน! เพราะว่าเขาเป็นหุ่นเชิดตั้งนั้นการผ่านด่านของเขาจึงไม่ต้องโดนทัณฑ์สวรรค์ไม่อย่างนั้นเขาคงสามารถผ่านด่านได้มากกว่านี้โดยมีทัณฑ์อัสนีที่กำลังจะผ่าลงมาช่วย

เมื่อรู้ว่าไม่สามารถเอาชนะอวิ๋นอี้ได้ อัสนีสวรรค์ก็ค่อยๆ จางลงและหายไปในที่สุด

ทั่วท้องท้องฟ้าก็กลับมาเงียบสงบและกลายเป็นสีฟ้าบริสุทธิ์อีกครั้ง ท้องฟ้าเป็นสีฟ้าสดเหมือนที่ถูกวาดด้วยน้ำหมึกช่างงดงามเหลือเกิน

ในขณะเดียวกัน…

อวิ๋นลั่วเฟิงก็รู้สึกว่าร่างกายของตัวเองเข้าสู่พื้นที่ใหม่ เพราะการเปลี่ยนแปลงกะทันหันและอาการบาดเจ็บที่นางได้รับทำให้นางทนต่อไปไม่ไหว นางรู้สึกมึนงงและสลบไป

ตอนนั้นเองอวิ๋นลั่วเฟิงไม่รู้ว่าสัมผัสยิ่งใหญ่จากการผ่านด่านของนางทำให้เกิดอะไรขึ้นในมิตินี้บ้าง ยอดฝีมือทั้งหลายในมิติต่างตื่นตระหนกและพยายามตามหาว่าใครเป็นคนทำให้เกิดทัณฑ์สวรรค์ที่รุนแรงขนาดนี้… …

“นายน้อย ตรงนี้มีคนขอรับ” ภายในป่า จู่ๆ มีเสียงประหลาดใจดังขึ้น จากนั้นชายหนุ่มคนหนึ่งก็เดินออกมา เมื่อเขาเห็นสิ่งที่อยู่ตรงหน้า ดวงตาของเขาก็เต็มไปด้วยความแปลกใจ

ภายในหลุมลึกด้านหน้า มีสตรีในชุดสีขาวผู้หนึ่งอยู่ ร่างกายของนางเต็มไปด้วยบาดแผลและใบหน้าก็ซีดเผือด แต่ว่าในระยะหนึ่งลี้รอบตัวนาง ไม่มีแม้แต่ต้นหญ้าสักต้น พื้นดินก็เป็นรอยไหม้เหมือนโดนสายฟ้าผ่าลงมา

“สตรีผู้นี้ต้องได้รับผลกระทบจากอัสนีสวรรค์เมื่อครู่” ชายหนุ่มคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดขึ้น “โชคดีที่อัสนีสวรรค์ไม่ได้โดนนางไม่อย่างนั้นนางก็คงถูกบดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยไปแล้ว” ชายหนุ่มคิดอยู่สักพักแล้วพูดต่อ “พานางกลับไปด้วย ในเมื่อนางอยู่ที่นี่ นางต้องเห็นแน่ว่าใครเป็นคนผ่านด่าน”

“นายน้อย เหตุใดท่านถึงมั่นใจว่านางไม่ใช่คนที่ผ่านด่านเลื่อนระดับขอรับ” ข้ารับใช้คนหนึ่งถาม

ชายหนุ่มหัวเราะ “ข้ารู้ว่าทัณฑ์สวรรค์ทำให้คนจำนวนมากตะลึงและบางคนก็ถึงขั้นตามหาว่าใครเป็นคนผ่านด่าน แต่เจ้าคิดว่าจะมีคนรอดจากอัสนีสวรรค์แบบนั้นหรือ”

ข้ารับใช้เห็นด้วย “นายน้อย ท่านฉลาดมากจริงๆ ความจริงแล้วภายใต้อัสนีสวรรค์ ก็ไม่มีใครรอดทั้งนั้น  คนที่ผ่านด่านต้องถูกโจมตีจนกลายเป็นชิ้นๆ ไปแล้วแน่!”

“พวกเราไปกันเถอะ พานางไปให้แพทย์หลินช่วยดู”

“นายน้อย” ข้ารับใช้มองเด็กสาวงดงามที่นอนอยู่บนพื้นอย่างระมัดระวัง “ท่านไม่คิดว่าสตรีผู้นี้ดูคล้ายอาจารย์ของท่านหรือขอรับ”

ชายหนุ่มหยุดแล้วงุนงง

“อาจารย์ไม่ได้มาจากที่นี่ นางมาจากอีกแผ่นหนึ่ง ดูเหมือนว่านางเกือบจะตายจากการต่อสู้และบังเอิญเปิดมิติเข้ามาได้ตอนกำลังหนีดังนั้นนางจึงถูกขังอยู่ที่นี่ ดังนั้นเด็กสาวคนนี้ไม่มีทางเกี่ยวข้องกับอาจารย์”

“อีกอย่าง…” ชายหนุ่มหยุด “อาจารย์สูญเสียความทรงจำ นางเพิ่งได้เห็นประสบการณ์ที่ผ่านมาของนางผ่านความฝันและนางก็ยังจำชื่อของตัวเองหรือครอบครัวของนางไม่ได้เลย พวกเราไปกันเถอะ พานางกลับไปก่อน”

เขาขมวดคิ้วแล้วเดินเข้าไปเด็กสาว เมื่อเห็นใบหน้าของนางเขาก็ตะลึงกับความงามของนาง จากนั้นเขาก็ยกร่างของนางขึ้นจากพื้นแล้วเดินกลับไป…