ตอนที่ 1782 ข้าตื่นเต้นมากจริงๆ (2) / ตอนที่ 1783 ข้าตื่นเต้นมากจริงๆ (3)

ยอดชายาจักรพรรดิปีศาจ

ตอนที่ 1782 ข้าตื่นเต้นมากจริงๆ (2)

นางรู้ว่าภายในมิติต้องมีอันตรายมากมายแต่ถึงอย่างไรนางจะกลับมาแบบมีชีวิต!

อวิ๋นเซียวกุมมือของอวิ๋นลั่วเฟิงอย่างอ่อนโยนราวกับต้องการจะสื่อว่าไม่ต้องกังวล ข้าจะอยู่ข้างเจ้าเสมอ

ตูม!

ผู้อาวุโสท่องคาถาบางอย่างเบาๆ จากนั้นแสงสีขาวก็ไหลออกมาจากมิติและเข้าโอบล้อมพวกเขาทั้งคู่เอาไว้ ตอนนั้นเองอวิ๋นลั่วเฟิงก็หมดสติ…

ดูเหมือนนางจะร่วงลงมาจากก้อนเมฆในสภาพงุนงงและร่างกายของนางก็รู้สึกเหมือนว่าไร้น้ำหนัก

โชคดีที่ไม่นานสัมผัสไร้น้ำหนักก็หายไป ข้างหน้ารู้สึกพร่ามัวและนางก็ลืมตาขึ้นช้าๆ

พระอาทิตย์ส่องแสงลงมาจากท้องฟ้าเหนือศีรษะนาง นางนอนอยู่บนพื้นหญ้าและกำลังจ้องผืนนภาสีฟ้าอยู่

ท้องฟ้าผืนนี้…เป็นสีฟ้าเอามากๆ

ราวกับเป็นภาพที่วาดบนท้องฟ้า

อวิ๋นลั่วเฟิงไม่เคยเห็นท้องฟ้าแบบนี้มาก่อนทั้งในชีวิตที่แล้วและชีวิตนี้….

โดยเฉพาะพลังฌานหนาแน่นที่ซึมผ่านรูขุมขนเข้ามาในร่างนางและทำให้นางรู้สึกเบาสบายมาก

“อวิ๋นเซียว” ทันใดนั้นอวิ๋นลั่วเฟิงก็ลุกขึ้นจากพื้นหญ้าแล้วมองไปรอบๆ แล้วก็พบว่านางอยู่คนเดียวในพื้นหญ้าโล่งๆ นี้ ไม่มีคนอื่นอยู่รวมถึงบุรุษที่ถูกสลักอยู่ในใจนางด้วย…

“ถ้าอวิ๋นเซียวอยู่กับข้า เขาไม่มีทางทิ้งข้าไว้ข้างหลัง หรือว่าตอนที่พวกเราเข้ามาในมิติ พวกเราจะถูกส่งไปกันคนละที่” นางขมวดคิ้วเล็กน้อย

หลังจากผ่านไปสักพักนางก็ใจเย็นลง “ด้วยความแข็งแกร่งของอวิ๋นเซียว ชีวิตของเขาคงไม่ตกอยู่ในอันตราย ข้าควรจะยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้น สำหรับข้าการเพิ่มความแข็งแกร่งเป็นเรื่องเร่งด่วนที่สำคัญที่สุด”

เมื่อคิดได้อย่างนั้น นางก็นั่งขัดสมาธิและสายพลังฌานบางๆ ก็ถูกดึงมาจากทั่วทุกทิศทางแล้วซึมเข้าร่างกายของนาง พูดตามตรงพลังฌานที่นี่เทียบไม่ได้กับพลังฌานในโลกคัมภีร์เซียนโอสถแต่พลังฌานในโลกคัมภีร์เซียนโอสถถูกสร้างมาโดยประกอบด้วยสิ่งที่พืชจำเป็นเพื่อปลูกสมุนไพรพลังฌาน ซึ่งแตกต่างพลังฌานสำหรับมนุษย์เล็กน้อย ดังนั้นอวิ๋นลั่วเฟิงจึงกระตือรือร้นที่จะเริ่มฝึกพลังฌาน

เวลาผ่านไป อวิ๋นลั่วเฟิงก็ยังนั่งอยู่บนภูเขา

ท้องฟ้ากลายเป็นสีเข้มขึ้นจากสีฟ้าเดิมเล็กน้อยและก็มีฟ้าผ่าลงมาจากก้อนเมฆสีเทา

ตูม!

ตูม! ตูม! ตูม!

ไม่นานฟ้าร้องก็มาพร้อมสายฟ้า อัสนีสวรรค์ผ่าลงมาบนศีรษะของอวิ๋นลั่วเฟิง

“โอ๊ย!”

อวิ๋นลั่วเฟิงหน้าเปลี่ยนสี นางกัดฟันแน่นแล้วถาม “เสี่ยวโม่ การผ่านด่านขั้นกึ่งเทพต้องผ่านอัสนีลงทัณฑ์ด้วยหรือ”

เหตุใดนางถึงไม่เคยได้ยินมาก่อน

เสี่ยวโม่มาปรากฏตัวที่ข้างกายอวิ๋นลั่วเฟิงและมองฟ้าร้องด้วยความตะลึง

“นายหญิง…นี่…นี่ไม่ใช่อัสนีลงทัณฑ์สำหรับผู้ฝึกฌานขั้นกึ่งเทพ การผ่านด่านขั้นกึ่งเทพไม่มีทางนำอัสนีลงทัณฑ์ที่น่ากลัวขนาดนี้แน่ มีแต่การผ่านด่านขั้นเทพเซียนเท่านั้นถึงจะมีสวรรค์ลงทัณฑ์”

เรื่องนี้เป็นไปได้อย่างไร

นายหญิงเป็นแค่ผู้ฝึกฌานขั้นจักรพรรดิปราชญ์ เหตุใดนางถึงผ่านด่านเลื่อนระดับขั้นเทพเซียน

แล้วขั้นกึ่งเทพล่ะ นางข้ามมาเลยหรือ

แม้แต่เสี่ยวโม่เองก็ไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อน….

“แก่นเลือดของบรรพบุรุษมังกร!”

จู่ๆ ก็มีบางอย่างเกิดขึ้นกับเสี่ยวโม่ “ต้องเป็นเพราะแก่นเลือดของบรรพบุรุษมังกรแน่นอน นายหญิง ท่านได้รับแก่นเลือดของบรรพบุรุษมังกรดังนั้นท่านก็เลยผ่านด่านขั้นเทพเซียนโดยข้ามขั้นกึ่งเทพมาเลย! เร็วเข้า ท่านรีบเรียกเกราะเกล็ดมังกรออกมา!”

นอกจากครั้งแรกที่ใช้ นางก็ไม่เคยเรียกเกราะเกล็ดมังกรมาใช้อีกเลยแต่ว่าตอนนี้นางต้องเรียกออกมา

พรึบ!

อวิ๋นลั่วเฟิงเรียกเกราะเกล็ดมังกรออกมาทันทีโดยไม่ลังเล

…………………………

ตอนที่ 1783 ข้าตื่นเต้นมากจริงๆ (3)

ทันทีที่เกล็ดมังกรปกคลุมทั่วร่างกายของอวิ๋นลั่วเฟิงทำให้ดูเหมือนว่ากำลังสวมเกราะที่แข็งแกร่งและเปล่งประกาย

“นายหญิง เกาะเกล็ดมังกรอยู่ได้สิบห้านาทีเท่านั้น ท่านต้องอดทนนะขอรับ!”

การผ่านด่านขั้นเทพเซียนอันตรายมาก ถ้าไม่ระวังแม้แต่นิดเดียวนางก็จะโดนทัณฑ์สวรรค์กลายเป็นเถ้าถ่านได้

ตูม!

อัสนีสวรรค์ผ่าลงมาที่อวิ๋นลั่วเฟิงอย่างรุนแรงอีกครั้ง

อัสนีสวรรค์ครั้งนี้รุนแรงกว่าครั้งก่อน ถ้าไม่ได้เกราะเกล็ดมังกรช่วย นางอาจจะกระอักเลือดออกมาเมื่อโดนฟ้าผ่าแล้ว

“เสี่ยวโม่ เหตุใดเจ้าไม่บอกข้าก่อนว่าแก่นเลือดของบรรพบุรุษมังกรที่ข้าซึมซับจะมีผลแบบนี้”

ถ้านางรู้มาก่อนว่านางสามารถข้ามขั้นเลื่อนระดับเป็นผู้ฝึกฌานขั้นเทพเซียน นางก็คงไม่หลับหูหลับตาฝึกพลังฌานและนางจะได้เตรียมตัวก่อนที่จะเข้าสู่การผ่านด่านเลื่อนระดับ

เสี่ยวโม่รู้สึกว่ามีบางอย่างแปลกๆ “ท่านควรโทษเสี่ยวฉงสิ เขาก็ไม่ได้บอกข้าเรื่องนี้เหมือนกัน ให้ข้าได้กลับไปที่โลกคัมภีร์เซียนโอสถแล้วข้าจะลากเขาออกมาทุบตี!”

ตั้งแต่ที่เสี่ยวฉงจำศีล อวิ๋นเซียวก็นำเขามาอยู่ในมิติของนางดังนั้นเสี่ยวโม่ถึงพูดอย่างนั้น โชคร้ายที่ตอนนี้อวิ๋นลั่วเฟิงไม่สามารถพูดออกมาได้แม้แต่คำเดียว แม้จะมีเกราะเกล็ดมังกรคอยป้องกันแต่นางก็ยังรู้สึกได้ว่ากระดูกของนางเหมือนกำลังจะแหลกสลาย

ตูม!

สายฟ้ายังคงผ่าลงหาอวิ๋นลั่วเฟิงครั้งแล้วครั้งเล่าไม่หยุด ร่างกายของนางเริ่มสั่นเล็กน้อยแต่นางก็สามารถพยุงตัวเองไว้ได้ด้วยพลังใจแห่งความมุ่งมั่น

“ไม่นะ มีบางอย่างแปลกๆ…” ใบหน้าของเสี่ยวโม่เปลี่ยนไปเล็กน้อย “นายหญิงทัณฑ์สวรรค์ของท่านมีบางอย่างไม่ถูกต้อง”

“อะไรที่แปลก” อวิ๋นลั่วเฟิงพยายามพูดรอดฟันออกมา

“ตอนที่ท่านผ่านด่านขั้นเทพเซียน อัสนีสวรรค์ที่โจมตีท่านจะใกล้เคียงกับความสำเร็จในอนาคตของท่าน ตัวอย่างเช่นยิ่งมีจำนวนอัสนีสวรรค์มากเท่าไหร่ พรสวรรค์ของท่านก็ยิ่งสูงส่งขึ้นเท่านั้น”

ริมฝีปากของเสี่ยวโม่และดวงตาของเขาก็เต็มไปด้วยความหวาดกลัว

“แต่เท่าที่ข้ารู้ คนที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่เคยมีมาก็ทนรับอัสนีสวรรค์แค่สิบแปดครั้งเท่านั้นและความสำเร็จหลังจากนั้นของเขาก็อธิบายเป็นคำพูดไม่ได้!”

อวิ๋นลั่วเฟิงยิ้มอย่างขบขัน “ข้าผ่านครั้งที่สิบแปดไปนานแล้ว”

“นายหญิง เรื่องมีความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียว” หัวใจของเสี่ยวโม่จมลึกลงทีละน้อย “ข้ารู้ว่าท่านอาจจะไม่เชื่อแต่ในแผ่นดินนี้ สวรรค์มีอยู่จริง ดูจากจำนวนอัสนีสวรรค์แล้วข้าคิดว่าสวรรค์…พยายามจะสังหารท่าน!”

อวิ๋นลั่วเฟิงทนได้อีกไม่นานและเกราะเกล็ดมังกรก็ค่อยๆ หายไป ถ้าอัสนีสวรรค์ยังไม่หยุด ไม่แน่…นางอาจจะโดนทัณฑ์สวรรค์จนกลายเป็นเถ้าถ่านก็ได้

ไม่!

ไม่มีทาง!

นางต้องไม่ถูกทัณฑ์สวรรค์สังหาร

นางพยายามมามากเพื่อให้มาถึงจุดนี้ แล้วนางจะยอมให้ตัวเองมาถูกสังหารแบบนี้ได้อย่างไร

เสี่ยวโม่ค่อนข้างกังวล “นายหญิง ถ้าข้าเดาไม่ผิดแม้แต่สวรรค์เอง…ก็กลัวความสำเร็จของท่านในอนาคต! สวรรค์กลัวว่าท่านจะต่อต้านจึงตั้งใจจะสังหารท่านก่อนที่ท่านจะพัฒนาไปมากกว่านี้!”

สวรรค์งั้นหรือ

อวิ๋นลั่วเฟิงลุกขึ้นยืนแล้วยิ้มเยาะ นางแลดูโอหังและท้าทายในขณะที่เสียงทรงอำนาจของดังก้องไปทั่วป่า

“ถึงแม้สวรรค์อยากจะสังหารข้าแล้วอย่างไร ข้าน้อมรับ! เจ้าควรจะสังหารข้าเสียตอนนี้ ถ้าข้าไม่ตาย สักวันหนึ่งข้าจะทำลายเจ้า สวรรค์!”

ข้าเป็นคนกำหนดชะตาของตัวเองไม่ใช่พระเจ้า!

ถึงแม้ว่าแผ่นนี้จะมีสิ่งที่เรียกว่าสวรรค์จริงๆ นางก็ไม่มีทางยินยอม!