ตอนที่ 409 เงียบสงบ
“ลุกขึ้นได้” อันหลิงเกอมิได้ใส่ใจเรื่องธรรมเนียมวุ่นวาย เพียงแต่หลิงอวี่หนิงผู้นี้แค่มองก็รู้ว่ามีเป้าหมายอันใด
เพราะแววตาของอีกฝ่ายแฝงความคิดไว้มากมายจนอันหลิงเกออดตกตะลึงมิได้
สตรีผู้นี้ดูอายุน้อยกว่าตนมาก แต่น่าจักดื้อรั้นจนเข้ากระดูกดำเลยทีเดียว ดูเป็นคนที่มิยอมผู้ใดโดยง่าย
“แม่ทัพใหญ่สุขภาพเป็นเช่นไรบ้าง ? ” แม้อันหลิงเกอมิเคยพบแม่ทัพใหญ่ผู้นั้นมาก่อน แต่นางก็รู้ดีว่าการเลือกเช่อเฟยในครั้งนี้คงเกิดมาจากการที่แม่ทัพใหญ่หารือกับฮ่องเต้แล้วเป็นแน่
บอกว่าการเลือกชายารองเป็นรางวัลที่พระราชทานให้ แต่แท้จริงก็แค่บังคับผู้อื่นใจเท่านั้น
เมื่อได้ยินคำถามของอันหลิงเกอ ฝ่ายหลิงอวี่หนิงก็อดมีสีหน้าแปลกใจผสมความตระหนกมิได้เพราะตนรู้เรื่องระหว่างท่านพ่อกับฮ่องเต้ดี แต่ก็ยังกังวลว่าท่านอ๋องจักทราบแล้วมิชอบนางด้วยสาเหตุนี้
“ท่านพ่อชื่นชมท่านอ๋องและพระชายามาก ท่านเคยเอ่ยถึงความกล้าหาญของท่านอ๋องอยู่บ่อยครั้งจึงทำให้อวี่หนิงมีใจเสน่หาในตัวท่านอ๋องไปด้วยเจ้าค่ะ”
ได้ยินคำพูดของหลิงอวี่หนิง อันหลิงเกอก็รู้ทันทีว่าตอนนี้อีกฝ่ายโดนนางตีเปลือกแห่งความยโสจนแตกไปแล้ว ตอนนี้ถึงได้รีบแสดงละครต่อหน้านางเช่นนี้
“ในเมื่อเจ้าเข้ามาอยู่ในจวนอ๋องแล้วข้าย่อมดูแลเจ้าเป็นอย่างดี”
ท่าทางของอันหลิงเกอในยามนี้เหมือนนายหญิงของบ้านที่กำลังเอ่ยกับอนุภรรยาเล็ก ๆ คนหนึ่งเท่านั้น นางเองก็มิรู้จักทำเช่นไรเพราะมู่จวินฮานมีกะจิตกะใจมาสนใจสตรีพวกนี้ที่ไหนกันเล่า เขาจึงโยนเรื่องวุ่นวายทั้งหมดมาให้นางจัดการแทน
หลิงอวี่หนิงนึกมิถึงว่าจักโดนอันหลิงเกอข่มได้ถึงเพียงนี้โดยที่ยังมิทันรู้ตัวด้วยซ้ำ
เจ้าเป็นแค่คุณหนูใหญ่จวนโหวมิใช่หรือ !
“คารวะพระชายาเจ้าค่ะ”
เวลานี้ทัวป๋าถิงฟางก็ค่อย ๆ เดินเข้ามาด้านในเช่นกัน จังหวะที่เดินผ่านหลิงอวี่หนิงก็รู้สึกได้ทันทีว่าหลิงอวี่หนิงตั้งใจเอี้ยวตัวหลบนาง เนื่องจากชาวแคว้นชิงเยว่มักทำให้ผู้คนอดหวาดกลัวมิได้
“เรียนพระชายา ถิงฟางมาช้า ขอพระชายาได้โปรดอภัยด้วยเจ้าค่ะ”
ตอนนี้อันหลิงเกอชินชากับคำประจบเช่นนี้แล้ว ต่อให้เป็นองค์หญิงเยี่ยงทัวป๋าถิงฟาง ตัวนางก็มิได้รู้สึกว่าต้องเกรงใจ
“มิเป็นไร นั่งลงสิ”
การยกน้ำชาครั้งแรกถือเป็นการแสดงอำนาจของอันหลิงเกอ
“ครั้งนี้ท่านอ๋องมอบพวกเจ้าให้ข้าดูแล ต่อไปพวกเจ้าอยู่ภายในจวนแล้วเกิดอันใดขึ้นก็ให้มาหาข้า”
กล่าวจบอันหลิงเกอก็อดรู้สึกขนลุกมิได้
ในเมื่อมู่จวินฮานให้นางจัดการ นางก็มิได้รู้สึกอันใดเพราะเขามิได้สนใจผลที่จักตามมาอยู่แล้ว ขณะเดียวกันเขาเองก็เชื่อมั่นในตัวนางด้วย
ทว่ามู่จวินฮานประเมินนางสูงเกินไปหรือไม่ ? เพราะการให้นางมาเผชิญหน้าศัตรูหัวใจมากมายเช่นนี้ หัวใจนางยังมิได้กล้าแกร่งถึงขั้นว่ามิสะทกสะท้านต่อสิ่งใดหรอก
มู่จวินฮานมิกลัวว่านางจักหึงหวงเขาบ้างหรือไร ?
“เจ้าค่ะ เราจักทำตามคำสั่งของพระชายาเจ้าค่ะ”
เห็นพวกนางสองคนแล้ว อันหลิงเกอก็ต้องยกมือขึ้นนวดตรงระหว่างคิ้ว
“พระชายาเหนื่อยแล้วหรือเจ้าคะ ? ถิงฟางมีใบชาที่ช่วยทำให้จิตใจสงบ เป็นของที่มาจากแคว้นชิงเยว่ พระชายาลองชิมได้เจ้าค่ะ” นางกล่าวถึงเพียงนี้แล้ว อันหลิงเกอจึงมิอาจปฏิเสธได้
“เช่นนั้นก็เอามาให้ปี้จูแล้วกัน” ตอนนี้อันหลิงเกอได้เรียนรู้แล้วว่าอย่าเอาตัวเข้าไปยุ่งกับคนแคว้นชิงเยว่จักเป็นการดีที่สุด
“แต่…” ทัวป๋าถิงฟางราวกับมีบางอย่างที่อยากเอ่ย อันหลิงเกอจึงเงยหน้าขึ้นมองอย่างมิเข้าใจ
“หืม ? มีอันใดหรือ ? ” นางรับน้ำใจของอีกฝ่ายไว้แล้ว หรือต้องการบังคับให้นางดื่มอีกเล่า ?
“พระชายาอาจยังมิทราบว่าใบชาของแคว้นชิงเยว่สำคัญที่การชง ถิงฟางจึงอยากชงชาให้พระชายาด้วยตนเองเจ้าค่ะ”
เมื่อได้ยินสิ่งที่นางเอ่ย มิเพียงแต่อันหลิงเกอเท่านั้น เพราะแม้แต่หลิงอวี่หนิงที่อยู่ด้านข้างก็เงยหน้ามองนางเช่นกัน แววตาแฝงไว้ด้วยความมิเข้าใจ
ผู้ใดก็รู้ดีว่าอาหารภายในจวนอ๋องเป็นเรื่องต้องระมัดระวัง ทัวป๋าถิงฟางผู้นี้กล้าขอชงชาให้อันหลิงเกอเอง มิรู้ว่ามีจุดประสงค์อันใดกันแน่ ?
เพราะคนแคว้นชิงเยว่มิรู้มารยาทหรือเพราะนางมีแผนการอื่นกันแน่ ?
“พระชายา อวี่หนิงขอตัวก่อนเจ้าค่ะ” หลิงอวี่หนิงรู้ดีว่ายามนี้อยู่นิ่ง ๆ เป็นดีที่สุดจึงรีบเอ่ยขึ้นก่อน
หากทัวป๋าถิงฟางเพิ่งเข้ามาในจวนก็ทำร้ายพระชายาเลย ย่อมเป็นเรื่องที่ดีสำหรับนางและถึงตอนนั้นตำแหน่งสูงสุดในจวนนี้ก็จักเป็นของหลิงอวี่หนิงเพียงคนเดียวเท่านั้น !
อันหลิงเกอรู้ทันความคิดของอีกฝ่ายดี หลิงอวี่หนิงผู้นี้แม้อายุยังน้อยแต่ฉลาดมากทีเดียว “อืม เจ้าไปเถิด”
“ขอบพระคุณพระชายาเจ้าค่ะ” ยามที่เดินออกไป หลิงอวี่หนิงก็เหลือบมองทัวป๋าถิงฟางปราดหนึ่ง อีกฝ่ายก็ส่งยิ้มที่แฝงความหมายบางอย่างให้นางเช่นกัน
“พระชายาอนุญาตแล้วใช่หรือไม่เจ้าคะ ? ” ทัวป๋าถิงฟางดูเหมือนดีใจมาก ส่วนอันหลิงเกอมิได้เป็นกังวลเช่นกันเพราะนางเองก็เป็นหมอ หากทัวป๋าถิงฟางอยากวางยาจริงก็เกรงว่าทำมิได้โดยง่าย นอกเสียจากทัวป๋าถิงฟางจักมิประเมินความสามารถของตน
เพียงแต่ต้องคอยระวังเรื่องพิษหนอนกู่ให้มากหน่อย
ชาวชิงเยว่คงโกรธแค้นมู่จวินฮานอยู่ อันหลิงเกอคิดได้ดังนั้นก็เริ่มลังเลขึ้นมา มิรู้ว่าควรอนุญาตตามคำขอของนางดีหรือไม่
“ตามใจเจ้าเถิด”
อันหลิงเกอตัดสินใจตอบตกลงไปแล้วจากนั้นก็มิได้เอ่ยสิ่งใดออกมาอีกและมิให้ความสนใจด้วย ในเมื่อตอนนี้ตนเป็นพระชายาเอกก็ถึงเวลาวางอำนาจเสียบ้าง
“ชานี้มิเลวเลย ขอบใจเจ้ามาก ตอนนี้เจ้าไปได้” อันหลิงเกอเพียงดมกลิ่นหอมของชาเสร็จก็เอ่ยชมพอเป็นพิธี แต่มิได้รับชาถ้วยนั้นไว้
เป็นปี้จูที่รับชาถ้วยนั้นเสียเองแล้ววางเอาไว้ด้านข้างแทน
ทว่าทัวป๋าถิงฟางเหมือนต้องการแสดงศิลปะให้ดูมากกว่า ดูมิได้ต้องการให้อันหลิงเกอดื่มชาจริง ๆ
“เยี่ยงนั้นถิงฟางขอลาเจ้าค่ะ”
หลังจากทัวป๋าถิงฟางเพิ่งก้าวเท้าจากไป มู่จวินฮานก็เดินจากห้องหนังสือเข้ามายังห้องโถงทันที
“วันนี้ลำบากเจ้าแล้ว” ความจริงแล้วมู่จวินฮานมิต้องการเผชิญหน้าสตรีเหล่านั้นจึงให้อันหลิงเกอจัดการเรื่องนี้แทนและเป็นการแสดงให้พวกนางเห็นความสำคัญของอันหลิงเกอด้วย
การที่ท่านอ๋องมู่ผู้มีฐานะสูงส่งมิสนใจสตรีอื่นจึงแสดงให้เห็นถึงความรู้สึกของเขาได้เป็นอย่างดี
นอกจากเป็นการสร้างอำนาจในจวนให้อันหลิงเกอแล้ว เขาก็มิต้องมาวุ่นวายเรื่องพวกนี้ด้วย ถือเป็นการยิงธนูดอกเดียวได้นกถึง 2 ตัว
“ก็ดีเจ้าค่ะ เพียงแต่หลิงเช่อเฟยแสดงความรู้สึกที่มีต่อท่านออกมาชัดเจนยิ่งนัก ข้าแทบจักถูกนางกินเข้าไปเสียแล้วเจ้าค่ะ”
อันหลิงเกอบีบนวดที่ต้นคอของตนเพราะรู้สึกอ่อนเพลียอย่างมาก แต่คาดมิถึงว่ามู่จวินฮานจักเดินอ้อมมาที่ด้านหลังของนางเพื่อช่วยนวดให้อีกแรง
การกระทำของเขาอ่อนโยนจนอันหลิงเกอถึงขั้นตกตะลึงไปเช่นกัน
มิว่าตอนไหนนางก็มิเคยเห็นบุรุษที่อ่อนโยนต่อสตรีเช่นนี้มาก่อน ต่อให้เป็นสามีก็มิเคยได้ยินว่ามีคนอ่อนโยนเยี่ยงนี้อยู่
แต่มู่จวินฮานมิได้ใส่ใจในฐานะของตน เขาแค่อยากมอบความห่วงใยให้นางเท่านั้น
“เจ้าพักผ่อนเถิด วันนี้ข้าจักปรนนิบัติเจ้าเอง”
เมื่อมู่จวินฮานกล่าวจบ มือทั้งสองข้างก็ปัดป่ายไปทั่ว อันหลิงเกอแม้เอือมระอาแต่นางรู้สึกเหนื่อยล้าจนหมดแรงต้านทาน มู่จวินฮานนับวันก็ยิ่งมิสนใจภาพลักษณ์ของตนแล้ว…
นางสัมผัสได้ถึงการกระทำที่ดูล่วงเกินมากขึ้นเรื่อย ๆ ของมู่จวินฮาน ทว่าอันหลิงเกออ่อนเพลียจนมิอาจฝืนอาการง่วงงุนได้แล้วหลับไปในที่สุด
มู่จวินฮานยังมิทันได้ทำตามใจปรารถนาพอหันมาอีกทีก็เห็นนางพิงร่างของเขาหลับไปแล้ว
ชายาคนนี้
เขาถอนหายใจออกมาอย่างอ่อนใจ ก่อนอุ้มนางเดินเข้าไปด้านใน
วันนี้คงทำให้นางเหนื่อยจริง ๆ ดวงตาของมู่จวินฮานเปลี่ยนเป็นเข้มขึ้นทันที ดูท่าตอนนี้ฮ่องเต้ทรงหวาดระแวงและหวาดกลัวเขามากกว่าเดิมมิน้อย