บทที่87 อาจารย์พ่ายแพ้

วีจิ้งไห่จะเป็นบ้าแล้ว!

เขามีชื่อเสียงทั่วไป คนที่อยู่ในงานไม่มีใครไม่ให้เกียรติเขา แต่เป็นเด็กนี่ที่โอหังไม่หยุด ขัดขวางเขามาสามครั้ง ช่างน่าโมโหจริงๆ!

สิ่งที่เกินไปก็คือ เขายังว่าตนว่าเป็นไอ้บ้าอีก!

นี่มันรนหาที่ตายชัดๆ!!!

คนที่อยู่ในงานตกใจเป็นอย่างมาก!

เชี้ย ไอ้เด็กนี่มันเป็นใคร! ช่างกล้า? ด่าอาจารย์วีว่าไอ้บ้า? อยากตายมากสินะ?

อาจารย์วีเก่งฮวงจุ้ย สามารถทำให้ตายโดยไร้สาเหตุด้วยนะ!

แต่ แม้อาจารย์วีจะโมโห แต่เพื่อได้หอยวงศ์ย่อยหอยมือเสือในราคาถูก เขาก็ยังคงรักษาหน้าไว้ ยิ้มพลางกล่าว “สหาย เมื่อกี๊ตอนที่อยู่หน้าประตูนั้นเกิดเรื่องเข้าใจผิดนิดหน่อยระหว่างคุณกับฉัน แต่มันก็แค่เรื่องเล็กๆน้อยๆพูดให้เข้าใจกันก็จบแล้ว ถ้าเพียงเพราะล้างแค้น แล้วมาแข่งราคากับฉัน ก็ใจแคบเกินไปแล้วเปล่า?”

โดยส่วนตัวอาจารย์วีเตรียมเงินสิบห้าล้านเพื่อมาเอาวงศ์ย่อยหอยมือเสือโดยเฉพาะ ถ้าตัวเองแข่งกับเย่เฉินล่ะก็ ครั้งต่อไปให้ราคาต้องเกินสามสิบล้านแล้ว

เขาไม่ต้องการจ่ายเงินมากขนาดนี้!

ดังนั้น ต้องอดทนอดกลั้น และหวังว่าเย่เฉินจะถอนราคาออก

รอให้ตนเองได้วงศ์ย่อยหอยมือเสือมาในราคาสิบห้าล้านก่อน แล้วค่อยจัดการกับเขาก็ยังทัน!

เย่เฉินรู้ทันเขา จึงกล่าวอย่างเหยียดหยามว่า “หยุดไร้สาระได้ล่ะ ผมก็ชอบวงศ์ย่อยหอยมือเสือนี้เหมือนกัน ถ้าคุณมีปัญญาเสนอราคาก็เสนอมา ถ้าไม่มีปัญญาก็ไปตายซะ!”

หน้างานเต็มไปด้วยความอลหม่าน!

เชี้ย!

ไอ้สหายนี่มันไล่อาจารย์วีให้ไปตายซะ……

หน้าด้านเกินไปแล้ว?

อาจารย์วีหน้านิ่ง แต่เพื่อประหยัดเงิน จึงพูดต่อว่า “ผมชอบวงศ์ย่อยหอยมือเสือนี่จริงๆ ให้เกียรติผมหน่อยได้ไหม?”

เย่เฉินเหลือบไปมองเขา แล้วกล่าวอย่างสงบว่า “ให้เกียรติคุณ? ผมรู้จักคุณหรอ?”

พูดจบ เย่เฉินก็ถามต่อ “เอ๊ะ คุณพูดมาตรงๆ ว่าคุณไม่มีปัญญาจ่ายเพิ่มแล้วใช่ไหม?”

สีหน้าของอาจารย์วีดูไม่ดีอย่างที่ดี ตั้งแต่ไหนแต่ไรไม่มีใครกล้าพูดกับเขาแบบนี้!

และดูอายุของอีกฝั่งก็น่าจะประมาณยี่สิบปี อ่อนวัยก่อนลูกศิษย์หรือหลานศิษย์ของเขาเสียอีก!

ภายใต้ความแค้นเคือง อาจารย์วีก็เบื่อที่จะรักษาภาพพจน์ตัวเองแล้ว จึงกล่าวอย่างเยือกเย็นว่า “ไม่คาดคิด ว่าเกียรติของวีจิ้งไห่อย่างฉัน จะถูกคนมองข้ามได้ขนาดนี้! ได้! ในเมื่อสู้กันอย่างเป็นธรรม งั้นใครให้ราคาสูงกว่าก็ได้ไป! ฉันก็อยากจะรู้ ว่าแกมีเงินเท่าไหร่ ที่จะมาแย่งวงศ์ย่อยหอยมือเสือกับฉัน!”

พูดจบ เขาก็พูดอย่างฮึกเหิมว่า “ฉันให้ห้าสิบล้าน!!”

เสียงเฮดังลั่น ผู้คนในงานเชียร์กันอีกครั้ง!

งานประมูลเปลี่ยนเป็นการพนัน บรรยากาศในงานครึกครื้นขึ้นมา!

กฏง่ายๆ!

ใครมีเงินมากกว่า!

คนนั้นก็คือราชาในการประมูลครั้งนี้!

อาจารย์วีคิดแบบง่ายๆ ถ้าตนค่อยๆเพิ่มราคาสู้กับเขา เกรงว่าจะต้องเสนอราคาไปเรื่อยๆไม่จบไม่สิ้น ดังนั้น ตนเองต้องให้ราคาที่ทำให้เขาตะลึง จึงเสนอไปเลยว่าห้าสิบล้าน เขาไม่กล้าตามแน่นอน!

แต่ ไม่มีใครนึกถึง สีหน้าเย่เฉินไม่เปลี่ยนแปลง พูดออกมาสองคำ

“ร้อยล้าน!”

ราคาประมูลเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว!

บรรยากาศในงานครึกครื้น!

เพียงแค่ไม่กี่นาที ราคาของสิ่งนี้ได้สูงขึ้นเป็นสิบเท่าตัว กลายเป็นจุดโฟกัสในประวัติศาสตร์ของการประมูลเลยก็ว่าได้!

ฉินเอ้าตงอดไม่ได้ที่จะพูดเสียงดังขึ้นมาว่า “เย่เฉิน หยุดโอ้อวดได้ล่ะ แกมีเงินขนาดนั้นหรอ?”

เย่เฉินอดที่จะตอบกลับไปไม่ได้ว่า “มีจริง จะทำไม? แกไม่พอใจ? ฉันจะบอกอะไรให้ บัตรที่ฉันใช้ ก็เป็นของตระกูลฉินของพวกแก ลุงรองของแกให้ฉันมากับมือ ไง แปลกใจป่ะล่ะ? ตกใจใช่ไหม?

“แก! แก!” ฉินเอ้าตงโมโหจนหน้าแดงก่ำ“มึงไอ้เลว กล้าหลอกใช้เงินตระกูลฉินของกู! อีกไม่นานกูจะฆาตกรรมหั่นศพมึงไอ้โจรสิบแปดมงกุฏซะ!”

อาจารย์วีมองผ่านไป ยังฉินเอ้าตง แล้วถาม “คุณชายฉิน คุณรู้จักคนนี้?”

ฉินเอ้าตงกล่าว “เขาคือลูกเขยของตระกูลเซียว ไม่มีงานทำ เป็นแมงดาอยู่บ้านเกาะเมียกิน ช่วงนี้ใช้วิธีหลอกลุงรองของผม ถึงได้มีเงิน……”

“หรอ?”

อาจารย์วรขมวดคิ้ว ราวกับมั่นใจมากขึ้น แล้วเยาะเย้ย

“อวดรวยนี่เอง วัยรุ่นฉันเตือนแกไว้นะว่าอย่าผยองให้มันมากนัก มิเช่นนั้นคนที่จะลำบากก็คือแก ฉันไม่ได้ดูถูกแกนะ ร้อยล้าน แกมีเงินหรอ?”

เย่เฉินเยือกเย็น แล้วกล่าวอย่างเรียบง่ายว่า “ผมจะมีหรือไม่มี ก็ไม่ใช่ธุระอะไรของคุณ ถ้าคุณแน่จริงก็สู้ราคาต่อ ถ้าไม่แน่ก็หุบปากไปซะ!”

อาจารย์วีทนไม่ไหว ด่าว่า “ไอ้นี่! รนหาที่ตายใช่ไหม!”

เย่เฉินหัวเราะเสียงดังแล้วกล่าว “ผมหาที่ตาย? คุณ? แค่เงินจะซื้อของยังไม่มี แล้วจะจัดการผม? ฮ่าฮ่าฮ่า ไอ้โง่เอ้ย!”

อาจารย์วีถูกเย่เฉินดูถูกรัวๆ รักษาภาพพจน์ต่อไปไม่ไหวอีกแล้ว จึงได้ตะคอกออกมาว่า “เด็กน้อย พอเหมาะพอควรนะ! เอาของให้แต่โดยดีจะดีกว่า มิเช่นนั้นแกจะได้แค่ซื้อ แต่ไม่มีทางได้ใช้นะ!”

เมื่อพูดไป สีหน้าของเป่าฟู่กุ้ยถอดสี นี่มันกำลังทำลายกฎของเจินเป่าเก๋อชัดๆ!

เขาหน้าซีด แต่ก็ไม่กล้าต่อต้านอาจารย์วี เขารู้สึกแย่อย่างบอกไม่ถูก

เย่เฉินกลับยิ้มแล้วกล่าว “อยากได้ชีวิตผม คุณก็ต้องรอให้จบงานประมูลก่อนแล้วค่อยว่ากัน? ตอนนี้งานประมูลยังไม่จบ เมื่อกี๊ผมให้ราคาร้อยล้าน เชิญคุณให้ประมูลราคาต่อ!”

ซ่งหวั่นถิงแปลกใจอย่างมาก อาจารย์วีไม่ใช่คนธรรมดา แม้จะเป็นตระกูลซ่ง ก็ไม่รับรองว่าจะสามารถต่อกลอนอาจารย์วีได้

แต่เย่เฉินทำผิดต่ออาจารย์วีขนาดนี้ หมายความว่ายังไงกันแน่? เอาความหล้ามากมายขนาดนั้นมาจากไหน?

เซียวฉางควนล้มลงบนโซฟา หัวใจแทบวาย หายใจแทบไม่ทัน คิดในใจ “หมดกันหมดกัน พังหมดแล้ว จบแล้วลูกเขย ตระกูลของตนก็ต้องพังลงไปด้วยแน่ๆ”

อาจารย์วีแข็งทื่อ เย่เฉินไม่มองเขาอยู่ในสายตาเลย คำพูดเหล่านี้ ตบหน้าเขาอย่างรุนแรงโดยตรง!

แต่ เย่เฉินพูดถูก นี่อยู่ในงานประมูล อยากได้วงศ์ย่อยหอยมือเสือนั้น ก็ต้องประมูลต่อ

แต่ ร้อยล้านแล้วนะ…..

ใครแม่งจะจ่ายไหว!

สายตาของทุกคน จ้องไปที่อาจารย์วี ดูว่าเขามีปฏิกิริยาอย่างไร

อาจารย์วีหน้าซีด แต่เพื่อวงศ์ย่อยหอยมือเสือนั่น เขาต้องอดทนอดกลั้น พูดเสียงดีๆกับเย่เฉิน

“สหาย ถ้าเมื่อกี๊ฉันทำอะไรผิดไป ไม่ได้ตั้งใจ ขอคุณยกโทษให้ด้วย”

“แต่วงศ์ย่อยหอยมือเสือมีประโยชน์ต่อฉันจริงๆ ขอตุณได้โปรดให้การสนับสนุน ถอยให้ฉัน ถือว่าฉันติดหนี้คุณ หนี้ของฉัน มีค่ามากกว่าวงศ์ย่อยหอยมือเสือเสียอีก!”

จาเขาเป็นประกาย ไอ้เด็กนี่กล้าทำให้เขาเสียหน้า รอให้จบเรื่องนี้ก่อน ตนจะต้องฆ่าเขาให้ตาย!

เยาเฉินกล่าวอย่างเยือกเย็นว่า “ขอโทษนะ มันก็มีประโยชน์ต่อผมเหมือนกัน ดังนั้นผมให้คุณไม่ได้!”

“แล้ว เมื่อกี๊ผมก็ได้พูดแล้ว ในสายตาผม คุณก็เป็นแค่ไอ้โง่ หนี้ของคุณสำหรับผมแล้ว ไร้ค่า!”

อาจารย์วีจิตใจพังทลาย!

ตอนนี้เขามีแค่ความคิดเดียว รอให้งานประมูลจบ คิดหาวิธีฆ่าเย่เฉินซะ!

ต้องฆ่ามัน!!!

เห็นอาจารย์วีเกรี้ยวกราด ผู้คนในงานก็ไม่กล้าอุทานใดๆ ไม่คาดคิดจริงๆ ว่าวัยรุ่นคนนี้จะสู้ชนฝาจริงๆ แม้แต่อาจารย์วีก็ต้องแพ้ให้กับเขา!

จากนั้นกรรมการประมูลทุบค้อน ราคาสุดท้ายคือร้อยล้านของเย่เฉิน ประมูลของล้ำค่าวงศ์ย่อยหอยมือเสือสำเร็จ

อาจารย์วีโมโหสุดๆ มองเย่เฉินอย่างเกลียดแค้น แล้วออกจากงานประมูลในที่สุด

ตอนนี้เขาอยากฆ่าเย่เฉิน แต่สถานการณ์ไม่ให้ เรื่องนี้ ต้องค่อยๆวางแผน!

ซ่งหวั่นถิงกำลังมองไปยังแผ่นหลังของอาจารย์วี เตือนเย่เฉินว่า “อาจารย์ไม่ใช่คนธรรมดา ฉันว่าเขาไม่จบง่ายๆหรอกนะ จะต้องหาเรื่องแกแน่นอน ช่วงนี้แกต้องระวังให้มากๆนะ”

เยาเฉินยิ้ม แล้วกล่าว “กลัวว่าเขาจะไม่มานะสิ!”