บทที่ 21‌ ประตูประหลาด[รีไรท์]

พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)

บท‌ที่‌ ‌21‌ ประตูประหลาด[รีไรท์] EnjoyBook

 

**ในบทนี้การจัดบรรทัดจะแปลกไป เนื่องจากมีปัญหาทางเทคนิค หากทางเราสามารถแก้ไขได้แล้วจะกลับมาแก้ไขให้นะคะ ต้องขออภัยด้วยค่ะ**

บท‌ที่‌ ‌21‌ ประตูประหลาด[รีไรท์]

 ‌

หลัง‌จา‌กมี่ไล‌จาก‌ไป‌‌ หลิง‌ตู้‌ฉิง‌ได้‌นำ‌แหวน‌มิติ‌ที่‌มี่‌ไล‌มอบ‌ให้‌ขึ้น‌มา‌ตรวจ‌ดู‌สิ่งของ‌ภายใน‌นั้น‌‌ และ‌ทำการ‌ย้าย‌เหรียญ‌ทอง‌ส่วน‌ใหญ่‌ลง‌ใน‌แหวน‌อัน‌เก่า‌ที่‌เขา‌ซื้อ‌มา‌ก่อน‌หน้า‌นี้‌ ‌

 ‌

‌เมื่อ‌หลิง‌ตู้‌ฉิง‌ย้าย‌เหรียญ‌ทอง‌ลง‌ใน‌แหวน‌วง‌เก่า‌เสร็จ‌ ‌เขา‌เรียก‌โม่‌ห‌ยู‌ถัง‌ให้‌เข้า‌มา‌หา‌และ‌ส่ง‌แหวน‌ต่อ‌ไป‌ให้‌ที่‌พ่อ‌บ้าน‌โม่‌‌ ‌“‌‌นี่‌สำหรับ‌เจ้า‌ ‌เจ้า‌จง‌นำ‌เงิน‌เหล่า‌นี้‌ไป‌จ้าง‌คน‌งาน‌มา‌ปรับปรุงทุกอย่างภายในเรือนให้เหมือนใหม่‌ทั้งหมด‌ ส่วน‌เหรียญ‌ที่‌เหลือ‌เจ้า‌จงเก็บ‌พวกมันไว้‌เป็น‌ค่า‌ใช้‌จ่าย‌ของ‌เรือน‌เรา‌ใน‌อนาคต‌”‌

 ‌

‌ตลอด‌หลาย‌ปี‌ที่‌ผ่าน‌มา‌ชีวิต‌ความ‌เป็น‌อยู่‌ของ‌คนใน‌เรือน‌หลิง‌ค่อน‌ข้าง‌ยากจนข้นแค้น ไม่‌ว่า‌จะ‌เป็น‌กำแพง‌ ‌สวน‌หย่อม ลานกลางเรือน‌ ‌หรืออื่น ๆ ต่าง‌‌ชำรุด‌ทรุด‌โทรม‌ไป‌หมด‌ ‌

ตอน‌นี้‌เมื่อ‌หลิง‌ตู้‌ฉิ‌งมี‌เงิน‌ ‌เขา‌จึง‌ต้องการ‌เปลี่ยน‌สภาพ‌แวดล้อม‌ของที่อยู่อาศัยทั้งหมด

 ‌

“ข้าจะทำตามที่ท่านสั่งเดี๋ยวนี้‌ นาย‌ท่าน‌”‌ ‌โม่‌ห‌ยู‌ถัง‌รับ‌แหวน‌มา‌ด้วย‌ความ‌เบิก‌บาน‌ใจ‌ ‌

โม่‌หยู‌ถัง‌ไม่‌ได้‌ถาม‌หลิง‌ตู้‌ฉิง‌‌เกี่ยว‌กับ‌ความ‌สัมพันธ์‌ระหว่าง‌ตระกูล‌มี่‌ ‌เขา‌ไม่‌ได้‌ถาม‌ว่า‌เงิน‌ทอง‌ของ‌เหล่า‌นี้‌มา‌จาก‌ไหน เพราะ‌ถ้า‌หาก‌คน‌ที่‌ไม่‌สามารถ‌บ่ม‌เพาะ‌ได้‌มา‌นาน‌กว่า‌ 20 ปี‌จู่ ๆ‌ กลับ‌บ่ม‌เพาะ‌ขึ้น‌มา‌ได้‌อย่าง‌กะทันหัน‌ เรื่อ‌งอื่น ๆ‌ จึง‌ไม่มี‌อะไร‌ที่‌น่า‌แปลก‌ใจ‌ได้‌อีก‌ต่อ‌ไป‌

“‌ถ้า‌พวก‌เจ้า‌มี‌อะไร‌ที่‌ต้องการ‌ พวก‌เจ้า‌สามารถ‌บอก‌พ่อ‌บ้าน‌โม่‌ให้‌ซื้อ‌มา‌ให้‌พวก‌เจ้า‌ได้เลย” หลิง‌ตู้‌ฉิง‌พูด‌กับ‌ลูก ๆ‌ ของ‌เขา‌ ‌

‌นอก‌จาก‌หลิง‌ยู่‌ชาน‌และ‌หลิง‌ไช่‌หยุ‌นที่‌กำลัง‌ฝึกฝน‌อยู่‌ ‌เด็ก ๆ‌ ที่‌เหลือ‌เมื่อ‌พวก‌เขา‌รู้‌ว่า‌ตอน‌นี้ครอบครัว‌ของ‌พวก‌เขา‌มี‌เงิน‌ถึง‌ 1 ล้าน‌เหรียญ‌ทอง‌ พวก‌เขา‌จึง‌รีบ‌บอก‌สิ่ง‌ที่‌พวก‌เขา‌อยาก‌ได้‌กับโม่‌ห‌ยู‌ถัง‌ทันที‌‌

โม่‌ห‌ยู‌ถัง‌มอง‌ไป‌ยัง‌เห‌ล่า‌เด็ก ๆ‌ ที่‌กำลัง‌ตื่น‌เต้น‌และ‌ยิ้ม‌อย่าง‌มี‌ความ‌สุข‌ ‌ใน‌ขณะ‌ที่‌เขา‌กำลัง‌จด‌บันทึก‌คำขอ‌ทั้งหมด‌ ‌

 ‌

ทาง‌ด้าน‌ของ‌หลิง‌ตู้‌ฉิง‌ ‌ตอน‌นี้‌เขา‌กำลัง‌เริ่ม‌เลือก‌สิ่งของ‌ที่‌มี่‌ไล‌พึ่ง‌นำ‌มา‌ให้‌ออก‌จาก‌แหวน‌มิติ‌ ‌

 ‌

เมื่อเลือกของทุกอย่างเสร็จ ‌เขาจึง‌เริ่ม‌วาด‌ค่าย‌กล‌ที่‌ลาน‌กลาง‌เรือน ‌ ‌

 ‌

หลัง‌จาก‌วาด‌เสร็จ‌ ‌หลิง‌ตู้‌ฉิง‌จึง‌เริ่ม‌เปิด‌ใช้‌งาน‌ค่าย‌กล‌ที่‌วาด‌ไว้‌ ‌ส่ง‌ผล‌ให้‌บริเวณ‌ค่าย‌กล‌บังเกิด‌เปลว‌เพลิง‌ลุก‌ท่วม‌ขึ้นอย่างรุนแรง‌ ‌

 ‌

แม้ว่า‌เปลว‌เพลิง‌ของ‌ค่าย‌กล‌จะ‌ดู‌รุนแรง‌ ‌แต่‌ไม่มี‌ใคร‌ใน‌บริเวณ‌ใกล้‌เคียง‌รู้สึก‌ถึง‌ไอ‌ความ‌ร้อน‌ที่‌แพร่‌ออก‌มา‌จาก‌ค่าย‌กล‌ ‌

 ‌

เมื่อ‌เห็น‌ว่า‌ทุก‌อย่าง‌พร้อม‌แล้ว‌ ‌หลิง‌ตู้‌ฉิง‌จึง‌โยน‌แท่ง‌เหล็ก‌สี‌ดำ‌ไป‌ยัง‌ค่าย‌กล‌ ‌ส่ง‌ผล‌ให้‌มัน‌ละลาย‌กลาย‌เป็น‌ลูกบอล‌หลอมเหลว‌ลอย‌อยู่‌เหนือ‌ค่าย‌กล‌ทันที‌ ‌

 ‌

เด็ก ๆ‌ ‌ที่‌อยู่‌รอบ ๆ‌ ไม่‌ได้‌ตระหนัก‌ถึง‌อำนาจ‌ของ‌ค่าย‌กล‌ ‌พวก‌เขา‌แค่‌เห็น‌ว่า‌มัน‌เป็น‌ของ‌ที่‌น่า‌สนใจ‌ ‌

 ‌

มี‌เพียง‌โม่‌ห‌ยู‌ถัง‌เท่านั้น‌ที่‌สูด‌หายใจ‌ลึก‌และ‌ถาม‌หลิง‌ตู้‌ฉิ‌งด้วย‌น้ำ‌เสียง‌จริงจัง‌ว่า‌ “นาย‌ท่าน‌ ‌เพลิง‌นี่สามารถหลอมละลาย‌เหล็ก‌ทมิฬ‌ได้‌เร็ว‌มาก‌ ‌มัน‌คือ‌เพลิง‌ระดับ‌นภา‌ใช่‌ไหม‌‌ นายท่าน?‌”‌ ‌

 ‌

‌หลิง‌ตู้‌ฉิง‌เงย‌หน้า‌ขึ้น‌ ‌มอง‌ไป‌ที่‌โม่‌ห‌ยู‌ถัง‌และ‌พูด‌ว่า‌ “‌สายตา‌เจ้า‌เยี่ยม‌มาก‌!‌ แต่น่าเสียดายที่ในตอนนี้ระดับการบ่มเพาะของข้ายังไม่สูงพอไม่เช่นนั้นเพลิงที่เจ้าเห็นอยู่มันจะไม่ใช่แค่ระดับนภาแน่นอน และข้าคงจะสามารถสร้างอะไรต่อมิอะไรดี ๆ ได้เพิ่มขึ้นอีกหลายอย่าง”‌

ระหว่าง‌ที่‌เขา‌อธิบาย‌ให้‌โม่‌ห‌ยู‌ถัง‌เข้าใจ‌‌ ‌‌มือ‌ของ‌เขา‌ก็‌ยัง‌ไม่‌หยุด‌เคลื่อนไหว‌ ‌

‌หลิง‌ตู้‌ฉิง‌ยัง‌คง‌โยน‌แท่ง‌เหล็ก‌เข้าไป‌อย่าง‌ต่อ‌เนื่อง‌ ตอน‌นี้‌ก้อน‌เหล็ก‌หลอม‌ที่‌อยู่‌ด้าน‌ใน‌ค่าย‌กล‌จึง‌เริ่ม‌ขยาย‌ใหญ่‌ขึ้น‌เรื่อย ๆ‌ ‌ ‌

 ‌

เมื่อ‌หลิง‌ตู้‌ฉิง‌เห็น‌ว่า‌วัสดุ‌ที่‌โยน‌เข้าไป‌ทุก‌อย่าง‌หลอม‌รวม‌กัน‌เสร็จ‌เรียบร้อย‌ ‌เขา‌จึง‌เริ่ม‌ควบคุม‌ค่าย‌กล‌เพื่อ‌เปลี่ยน‌ก้อน‌เหล็ก‌หลอมเหลว‌นั้น‌ให้‌ค่อย ๆ‌ ก่อ‌ตัว‌เป็นก‌รอบ‌ประตู‌ ‌กว้าง‌ 1 เมตร‌และ‌สูง‌ 2 เมตร‌ ‌

 ‌

กรอบ‌ประตู‌ที่‌สร้าง‌ขึ้น‌นี้‌มี‌ลวดลาย‌ลึกลับ‌มากมาย‌ที่‌สลัก‌อยู่‌บน‌มัน‌ ‌

 ‌หลัง‌สร้าง‌เสร็จ‌หลิง‌ตู้‌ฉิง‌จึง‌ควบคุม‌กรอบ‌ประตู‌ให้‌ลอย‌อยู่‌เหนือ‌ค่าย‌กล‌และ‌โยน‌สิ่งของ‌เข้าไป‌หลอม‌รวม‌กับ‌มัน‌ต่อ‌ ‌

เมื่อหลิงตู้ฉิงโยนวัสดุนานาชนิดเข้าไปหลอมรวมกับประตูประหลาดนี้จนครบ ในบริเวณขอบ‌‌บนด้านใน‌ของ‌กรอบ‌ประตู‌นั้น‌ค่อย ๆ‌ ปรากฏ‌เส้น‌ใย‌หนา ๆ‌ เรือง‌แสง‌สี‌ขาว‌ ‌คล้าย‌หนวด‌ของ‌‌สัตว์‌ประหลาดโผล่‌ออก‌มา แต่ถึง‌แม้‌เส้นใย‌เหล่า‌นี้‌จะ‌ดู‌เหมือน‌จริง‌มาก‌ ‌แต่‌ถ้า‌มี‌ใครได้ลอง‌สัมผัส‌พวก‌มัน‌ก็‌จะ‌พบ‌ว่า‌มัน‌เป็นเพียง‌แค่‌ภาพลวงตา‌ ‌ ‌

เมื่อ‌เส้นใย‌ดัง‌กล่าว‌ปรากฏขึ้น ‌หลิง‌ตู้‌ฉิง ‌โบกมือ‌ให้‌กับ‌หลิง‌ฟ่าง‌หัว‌เดิน‌เข้า‌มา‌หา‌และ‌พูด‌ว่า‌ “‌ฟ่าง‌หัว‌มา‌ตรง‌นี้‌และ‌นำ‌เลือด‌เจ้า‌มา‌ให้‌พ่อ”‌

 ‌

หลิง‌ฟ่าง‌หัว‌ซึ่ง‌มีอายุ‌ 5 ขวบ‌แล้ว‌นาง‌ไม่‌เหมือน‌กับ‌หลิง‌ใช่‌หยุ‌นที่‌ไม่รู้‌ประ‌สี‌ประสา‌ ‌

 ‌

‌นาง‌รีบ‌วิ่ง‌ไป‌หยิบ‌มีด‌จาก‌ใน‌ครัว‌และ‌กรีด‌นิ้ว‌ของ‌นาง‌ ‌และ‌ส่ง‌เลือด‌หยด‌หนึ่ง‌ให้‌หลิง‌ตู้‌ฉิง‌ ‌จาก‌นั้น‌นาง‌มอง‌หลิง‌ตู้‌ฉิ‌งด้วย‌ความ‌สงสัย‌ ‌เนื่องจาก‌ไม่รู้‌ว่า‌พ่อ‌ของ‌นาง‌กำลัง‌จะ‌ทำ‌อะไร‌ ‌

หลิง‌ตู้‌ฉิง‌รับ‌เลือด‌ของ‌หลิง‌ฟ่าง‌หัว‌มา‌และ‌บังคับ‌หยด‌เลือด‌นี้‌ให้‌ลอย‌ไป‌หยด‌ลง‌ที่‌ประตู‌ ‌ ‌

เมื่อ‌หยด‌เลือด‌ของ‌หลิง‌ฟ่าง‌หัว‌ถูก‌ประตู‌หลอม‌รวม‌ ‌เส้นใย‌ที่‌กำลัง‌โบก‌สะบัด‌ออก‌มา‌จาก‌ด้าน‌ใน‌ประตู‌ก็‌ค่อย ๆ เลือนหายไป‌ ‌และ‌กรอบ‌ประตู‌นั้น‌เกิด‌การ‌เปลี่ยนแปลง‌อีก‌ครั้ง‌หนึ่ง บริเวณ‌กรอบ‌ของ‌มัน‌กลาย‌เป็น‌โปร่งใส‌คล้าย‌กับ‌แก้วผลึก‌ ‌

หลัง‌จาก‌กรอบ‌ประตู‌แก้วผลึก‌ถูก‌สร้าง‌ขึ้น‌ หลิง‌ตู้‌ฉิ‌งจึงยกเลิก‌ค่าย‌กล‌ออก‌ไป‌และ‌เปลว‌เพลิง‌ที่‌อยู่‌รอบ ๆ‌ ก็‌ดับ‌ลง‌

 ‌

จาก‌นั้น‌หลิง‌ตู้‌ฉิง‌จึง‌ยก‌กรอบ‌ประตู‌ไป‌ตรึง‌ไว้‌ที่‌มุม‌หนึ่ง‌ของ‌ลาน‌กลาง‌เรือน‌และ‌พูด‌กับ‌หลิง‌ฟ่าง‌หัว‌ว่า‌ “‌ตั้งแต่‌วัน‌นี้‌เป็นต้น‌ไป‌เจ้า‌ต้อง‌เดิน‌ผ่าน‌เข้า‌ออก‌ประตู‌นี้‌วัน‌ละ‌ร้อย‌ครั้ง”‌

 ‌

หลิง‌ฟ่าง‌หัว‌ถาม‌ด้วย‌ความ‌งุนงง‌ “ท่าน‌พ่อ‌ ‌นี่‌คือ‌วิธี‌การ‌บ่ม‌เพาะ‌ของ‌ข้า‌งั้น‌เหรอ‌?‌ ‌ข้า‌แค่‌ต้อง‌ผ่านประตูนี้‌วัน‌ละ‌ร้อย‌ครั้ง‌เพื่อ‌ฝึก‌เท่านั้น‌ใช่‌ไหม‌‌?‌‌ แล้ว‌ข้า‌ต้อง‌ฝึก‌แบบ‌นี้‌ไป‌อีกถึงเมื่อไหร่ ท่านพ่อ‌‌?” ‌

 ‌

“‌ใน‌ตอน‌นี้‌เจ้า‌แค่‌เดิน‌เข้า‌ ออก‌ประตู‌นี่‌จนถึง‌วัน‌ที่‌เจ้า‌ไม่‌สามารถ‌เดิน‌ผ่าน‌มัน‌ได้‌ก่อน‌ก็พอ”‌ ‌หลิง‌ตู้‌ฉิง‌ตอบ‌ด้วย‌รอย‌ยิ้ม‌ ‌

 ‌

ภาย‌ใต้‌การ‌มอง‌ด้วย‌ความ‌สนใจ‌ของ‌ทุก‌คน‌ ‌หลิง‌ฟ่าง‌หัว‌จึง‌เริ่ม‌เดิน‌ไป‌ที่‌ประตู‌ ‌

 ‌

แต่‌เมื่อ‌นาง‌พยายาม‌เดิน‌เข้าหา‌ประตู‌ ‌ใบหน้า‌ของ‌นาง‌ก็‌เริ่ม‌แดง‌ขึ้น‌ทันที‌ นาง‌รู้สึก‌ว่า‌ทุก‌ย่าง‌ก้าว‌ของ‌นาง‌ที่‌เคลื่อน‌เข้าไป‌หา‌ประตู‌นั้น‌หนัก‌อึ้ง‌ขึ้น‌เรื่อย ๆ‌ ‌ราวกับ‌นาง‌กำลัง‌แบก‌น้ำ‌หนัก‌หลาย‌สิบ‌กิโลกรัม‌ไว้‌บน‌หลัง‌ ‌

 ‌

“‌อดทน‌ไว้”‌ ‌หลิง‌ตู้‌ฉิง‌ตะโกน‌ “‌ถ้า‌เจ้า‌ต้องการมีอนาคตที่ดีและสามารถเป็นที่พึ่งพาให้น้อง ๆ ของเจ้าได้ เจ้าจะต้อง‌พยายามฟันฝ่าความลำบากนี้ไปให้ได้” ‌

 ‌

หลิง‌ฟ่าง‌หัว‌พยายาม‌ออกแรง‌ขืน‌เต็ม‌ที่‌จน‌ใน‌ที่สุด‌ก็‌ผ่าน‌ประตู‌ได้‌ 1 รอบ‌ ‌นาง‌หอบ‌หายใจ‌อย่าง‌หนัก‌หน่วง‌ ‌นาง‌เหนื่อย‌จน‌เดิน‌ไม่‌ได้‌อีก‌ต่อ‌ไป‌!‌ ‌

 ‌

“พักให้พอ‌จน‌เจ้า‌หาย‌เหนื่อย ‌จาก‌นั้น‌เจ้า‌จง‌เดิน‌เข้า‌ออก‌ประตู‌นี้‌ต่อ‌ไป”‌ ‌หลิง‌ตู้‌ฉิง‌สั่ง‌นาง‌และ‌เดิน‌ทะลุ‌ประตู‌ไป‌ราวกับ‌ว่า‌ไม่มี‌อะไร‌เกิด‌ขึ้น‌ ‌

 ‌

‌หลิง‌ว่าน‌ถิง‌ นาง‌มอง‌พ่อ‌ของ‌นาง‌เดิน‌ผ่าน‌ประ‌ตู‌แปลก ๆ‌ นั่น‌อย่าง‌สบาย ๆ‌ ด้วย‌แวว‌ตา‌สงสัย‌ ‌จาก‌นั้น‌นาง‌สลับ‌หัน‌ไป‌มอง‌น้อง‌ของ‌นาง‌ที่‌กำลัง‌นั่ง‌เหนื่อย‌หอบ‌อยู่‌ ‌ ‌

ด้วย‌ความ‌ข้องใจ‌นาง‌จึง‌ยืน‌ขึ้น‌และ‌ลอง‌เดิน‌ไป‌ที่‌ประตู‌ผลึก‌แก้ว‌เพื่อ‌ทดสอบ‌ด้วย‌ตัว‌เอง‌ดู‌ ‌

เมื่อ‌นาง‌ลอง‌เดิน‌ผ่าน‌ประตู‌นาง‌กลับ‌ต้อง‌แปลก‌ใจ‌ ‌เนื่องจาก‌นาง‌ไม่รู้‌สึก‌อะไร‌เลย‌ใน‌ระหว่าง‌ที่‌นาง‌เดินทะลุประตูไป ‌

 ‌

เมื่อ‌เห็น‌ว่า‌หลิง‌ว่าน‌ถิงลองเดินผ่านทะลุประตูไป‌แล้วโดยที่ไม่ได้แสดงอาการยากลำบากอะไร‌ ‌เด็ก ๆ คนอื่น‌ก็‌ลุก‌ขึ้น‌มา‌ลอง‌เดิน‌เข้า‌ออก‌ประตู‌แก้วผลึกเช่นกันและทุกคนที่ลองเดินผ่านประตูนั้นก็ไม่รู้สึกถึงความผิดปกติอะไรเลยเช่นกัน‌ ‌

 ‌

หลิง‌ว่าน‌ถิง‌จึง‌เริ่ม‌มี‌ความ‌คิด‌แปลก ๆ‌ กับ‌ประตู‌ปริศนา‌นี่‌ใน‌หัว‌ ‌นาง‌คิด‌ว่า‌ประตู‌นี้‌ดู‌เหมือน‌จะ‌ตั้งใจ‌กลั่น‌แกล้ง‌หลิง‌ฟ่าง‌หัวเพียงแค่คนเดียว‌ ‌ ‌

 ‌

ส่วน‌ทุก‌คน‌ที่พึ่งลองเดินผ่านประตู‌ ‌พวก‌เขา‌ทุก‌คน‌ก็‌รู้สึก‌ว่า‌มัน‌แปลก‌ ‌เห็น‌ได้‌ชัด‌ว่า‌หลิง‌ฟ่าง‌หัว‌ใช้‌ความ‌พยายาม‌อย่าง‌หนัก‌มาก‌ใน‌การ‌เดินทะลุ‌ประตู‌แก้วผลึก‌ ‌แต่‌ทำไม‌พ่อ‌ของ‌พวก‌เขา‌ถึง‌สั่ง‌ให้‌นาง‌เลิก‌ฝึก‌เดินทะลุ‌ประตู‌‌เมื่อ‌นาง‌ไม่‌สามารถ‌ผ่าน‌ประตู‌ไป‌ได้‌อีก‌‌?‌ ‌

 ‌

ถึง‌แม้ว่า‌พวก‌เขา‌จะ‌งุนงง‌แต่‌พวก‌เขา‌ต่าง‌ก็เดินเข้าไปให้‌กำลัง‌ใจ‌หลิง‌ฟ่าง‌หัว‌เดินทะลุ‌ประตู‌ต่อ‌ไป‌ ‌

 ‌

หลัง‌จาก‌หลิง‌ฟ่าง‌หัว‌พัก‌อยู่‌ครู่‌หนึ่ง‌เพื่อ‌ฟื้นฟู‌พละ‌กำลัง‌ ‌นางจึง‌ลอง‌อีก‌ครั้ง‌และ‌พบ‌ว่า‌ครั้ง‌นี้‌ใช้‌พลังงาน‌น้อย‌กว่า‌ครั้ง‌แรก‌ ‌ความ‌รู้‌สึก‌แปลก ๆ‌ นี้‌ทำให้‌นาง‌อดทน‌และ‌เดิน‌ผ่าน‌ประตู‌อีก‌ครั้งจนเมื่อนางลองเดินทะลุประตูอีกในครั้งต่อ ๆ ไป ก็เริ่มง่ายขึ้นจนเหมือนกับนางเดินโดยใช้แรงปกติ ‌

 ‌

‌อย่างไร‌ก็ตาม‌ทุก‌ครั้ง‌ที่‌นาง‌เดิน‌ผ่าน‌ประตู‌นี้‌นาง‌จะ‌มี‌ความ‌รู้‌สึก‌แปลก ๆ‌ ‌ราวกับ‌ว่า‌สาย‌สัมพันธ์‌ของ‌นาง‌กับ‌ประตู‌นี้‌เริ่ม‌แน่นแฟ้น‌กัน‌มาก‌ขึ้น‌เรื่อย ๆ‌

เมื่อ‌เวลา‌ผ่าน‌ไป‌ ใน‌สายตา‌ของ‌เด็ก‌คน‌อื่น ๆ‌ ที่‌มอง‌นาง‌เดิน‌เข้า‌ออก‌ประตู‌อยู่‌ ‌พวก‌เขา‌รู้สึก‌ว่าการ‌เคลื่อนไหว‌ของ‌หลิง‌ฟ่าง‌หัว‌เริ่ม‌ช้า‌ลง‌เรื่อย ๆ‌

นี่‌มัน‌หมายความ‌ว่า‌อย่างไร‌‌?‌ ‌เด็ก ๆ‌ ไม่‌เข้าใจ‌อย่าง‌หนัก‌

ไม่‌เพียง‌แค่‌เด็ก ๆ ที่ไม่เข้าใจ ‌แม้‌แต่‌โม่‌ห‌ยู‌ถัง‌ที่‌เพิ่ง‌กลับ‌มา‌จาก‌การ‌ซื้อ‌ของ‌ก็‌ไม่‌เข้าใจ‌ เมื่อ‌เขา‌เห็น‌สีหน้า‌ของ‌หลิง‌ฟ่าง‌หัวและประตูประหลาดบานนี้‌ ‌ ‌

 ‌

‌โม่‌ห‌ยู‌ถัง‌พึมพำ‌ “ประตู‌นี้‌มัน‌คือ‌อะไร‌กัน‌ ‌ทำไม‌ข้า‌ถึง‌มอง‌ไม่‌ออก‌เลย‌ว่า‌มัน‌คือ‌อะไร‌?‌”‌ ‌

 ‌

จาก‌นั้น‌โม่‌ห‌ยู‌ถัง‌จึง‌เริ่ม‌แจก‌จ่าย‌สิ่งของ‌ที่‌เขา‌เพิ่ง‌ซื้อ‌ให้‌กับ‌เห‌ล่า‌เด็ก ๆ‌ ที่‌กำลัง‌ว่าง‌อยู่‌และ‌รายงาน‌กับ‌หลิง‌ตู้‌ฉิง “‌‌นาย‌ท่าน‌ ‌ตอนที่ข้าออกไปซื้อของข้า‌พบกับ‌ปัญหาบางอย่าง‌ ข้าพบว่าตอนนี้‌หอการค้า‌จำนวน‌มาก‌‌พวก‌เขา‌ไม่‌ยอม‌ขาย‌ของ‌ให้‌เรา‌อีก‌ต่อ‌ไป‌ ‌ไม่‌ว่า‌ข้า‌จะ‌เสนอ‌ราคา‌ให้‌พวก‌เขา‌มาก‌ขนาด‌ไหน‌ก็ตาม‌ ‌พวก‌เขา‌ก็‌ไม่‌ยอม‌ขาย”‌

 ‌

หลิง‌ตู้‌ฉิง‌พยัก‌หน้า “‌ไม่‌เป็นไร‌ ‌ต่อ‌ไป‌นี้‌ถ้า‌เจ้า‌ต้องการ‌ซื้อ‌สิ่งของ‌ต่าง ๆ‌ ‌เจ้า‌จง‌ไป‌ที่‌หอ‌การ‌ค้า‌มี่‌ตั้วตั้วที่เดียวก็พอ”‌ ‌

 ‌

โม่‌ห‌ยู‌ถัง‌‌พยัก‌หน้า‌รับ‌ทราบ‌