ตอนที่ 199 ไม่มีใครในต้าเซี่ยของพวกนาย

Mars เจ้าสงครามครองโลก

“ไม่เจียมเนื้อเจียมตัวจริงๆ ไม่นึกเลยว่าจะกล้าพูดว่าอาจารย์มิยาโมโตะเขียนได้ไม่ดี อาจารย์มิยาโมโตะเป็นบุคคลอันดับหนึ่งในแวดวงศิลปะการเขียนพู่กันจีน อักษรชุดหนึ่งของเขาก็ขายได้สองล้านดอลลาร์สหรัฐ!!”

ชายอ้วนวัยกลางคนพูดด้วยเสียงเย็นชา

“ไอ้หมอนี่เป็นใคร กล้าพูดจาเหลวไหลที่นี่ ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง อาจารย์มิยาโมโตะ อยู่ในศิลปะการเขียนพู่กันจีนทั่วโลก ก็มีอันดับรายชื่ออยู่ด้วย!!”

“ฮ่าๆ คราวนี้มีเรื่องสนุกให้ดูแล้ว เขาไม่รู้หรือว่าอาจารย์มิยาโมโตะเป็นใครเหรอ?”

นักธุรกิจผู้มั่งคั่งหลายคนมีความสุขในทันที กล้าพูดแบบนี้ต่อหน้าของอาจารย์มิยาโมโตะ ไอ้หมอนี้เป็นคนแรก!!

“ศิลปะการเขียนพู่กันจีนแค่เรื่องจิ๊บจ๊อยเท่านั้นเอง ฉันก็พูดไปงั้นๆแหละ พวกคุณทำต่อไปเถอะ”

เย่เซิ่งเทียนยิ้มจางๆ ไม่ได้ตั้งใจที่จะถกเถียงอะไรกับพวกเขา

ลายมือของชายชราคนนี้ก็ดีมากจริงๆ วิธีการลากเส้น แนวโค้ง รัศมี และจุดเด่นของอักษรสิงซูก็แสดงออกมาได้อย่างประณีตยอดเยี่ยม ก็มีความน่าทึ่งมากจริงๆ ก็นับได้ว่าเป็นปรมาจารย์ท่านหนึ่งจริงๆ

ชายชราคนนี้มีความสามารถเป็นทุนเดิมจริงๆ ด้วยระดับความสามารถของอักษรสิงซูแบบนี้ อยู่ในสายตาของโลก บางทีในบรรดาศิลปะการเขียนพู่กันจีนที่ความสามารถเหนือกว่าจาก “อักษรสิงซู”ในปัจจุบัน ก็ยังสามารถติดอันดับหนึ่งในห้าได้

ระดับความสามารถแบบนี้ ห้ามณฑลในเจียงหนาน เป็นหนึ่งต่อหนึ่งที่มีอยู่จริงๆ ในสายตาของงานเลี้ยงการกุศลในคืนนี้แล้ว ไม่มีใครมีคุณสมบัติที่จะแสดงความคิดเห็นได้

แต่ว่า ยังคงขาดความรู้สึกแค่เล็กน้อย

ยิ่งไปกว่านั้น อักษรสิงซูที่สูงที่สุด ถึงตาคนอาทิตย์เป็นใหญ่ตั้งแต่เมื่อไหร่?

เย่เซิ่งเทียนก็ไม่อยากที่จะถือสาพวกเขา เตรียมตัวออกไป กลับถูกอาจารย์มิยาโมโตะห้ามไว้

ฉันชิอิจิโร่ มิยาโมโตะอยู่ในแวดวงศิลปะการเขียนพู่กันจีนมาหลายปีแล้วโจวเมิ่งจือนักเขียนอักษรสิงซูต้าเซี่ยอันดับหนึ่งของพวกนายก็พ่ายแพ้ให้กับฉัน นายเอาความมั่นใจจากไหนมาประเมินอักษรของฉัน? อยากออกไปก็ได้ คุกเข่าลง ขอโทษฉัน

“หืม? คุณแน่ใจนะ?”

เย่เซิ่งเทียนยิ้ม ไม่ใช่รอยยิ้ม แต่ยิ้มเยาะเย้ยต่างหาก หัวเราะเยาะ!

ไม่ได้ซ่อนเร้นการเย้ยหยันเลยสักนิด!

เย้ยหยันอย่างพอดิบพอดี!

“ช่างเป็นเด็กที่หยิ่งผยอง เหิมเกริมต่อหน้าของอาจารย์มิยาโมโตะก็ช่างเหอะ ยังกล้าหัวเราะเยาะ รนหาที่ตายจริงๆ!”

“อาจารย์มิยาโมโตะ ท่านก็ให้ไอ้เด็กที่รู้จักที่ต่ำที่สูงนี้มาเขียนเถอะ วันนี้ถ้าเขาเขียนไม่ได้ เขาได้เจอดีแน่!”

ชายหนุ่มคนหนึ่งพูดอย่างเยือกเย็น: “เด็กเวร แกรู้ไหมว่า อาจารย์มิยาโมโตะได้รับเชิญจากตระกูลโจวของพวกเราด้วยเงินมหาศาล แกกล้าดียังไงถึงได้ดูถูกขนาดนี้ ฉันว่าแกรนหาที่ตาย! มา แกมาเขียน ถ้าแกเขียนได้ไม่ดีเท่าอาจารย์มิยาโมโตะ วันนี้ฉันโจวเทียนฉีจะหักมือข้างหนึ่งของแกด้วยตัวเอง!”

ชิอิจิโร่ มิยาโมโตะวางพู่กันบนที่ใส่พู่กัน และพูดอย่างเย็นชาว่า: “พ่อหนุ่ม พูดจาส่งเดชก็ต้องรับผิดชอบผลที่ตามมาด้วย วันนี้ถ้านายเขียนได้ไม่ดีกว่าอักษรของฉัน ในแวดวงศิลปะการเขียนพู่กันจีนต้าเซี่ยของพวกนาย จะต้องขอโทษฉันต่อหน้าทั่วโลก ยอมรับว่าศิลปะการเขียนตัวอักษรด้วยพู่กันจีนของต้าเซี่ยสู้ศิลปะการเขียนตัวอักษรด้วยพู่กันจีนของประเทศอาทิตย์ไม่ได้!”

“ฮ่าๆๆๆ”

เย่เซิ่งเทียนเงยหน้าหัวเราะอย่ากะทันหัน

“นี่กลัวจนเพี้ยนเหรอ?”

“คงจะกลัวจนเลอะเลือนแน่ๆ รนหาที่ตายจริงๆ”

“ดูเถอะ เขาจะเหลือมือแค่ข้างเดียว”

หลายคนเยาะเย้ย พูดติดตลก ไม่ได้มองเด็กกะโปโลดีด้วยซ้ำ จะสร้างผลงานอะไรในศิลปะการเขียนตัวอักษรด้วยพู่กันจีนได้

แม้ว่าคำพูดของอาจารย์มิยาโมโตะจะทำให้ผู้คนไม่สบายใจ แต่ความสามารถของคนอื่นเขามีอยู่จริง ไอ้หมอนี่อยู่ดีไม่ว่าดี กล้ามาท้าทายอาจารย์มิยาโมโตะ หาเหาใส่หัวตัวเองจริงๆ

โจวเทียนฉีและคนอื่นมองด้วยสายตาที่เย็นชา

อาจารย์มิยาโมโตะพูดอย่างดูถูกเหยียดหยามว่า: “พ่อหนุ่ม ในแวดวงศิลปะการเขียนตัวอักษรด้วยพู่กันจีน ตอนนี้ต้าเซี่ยของพวกนายใช้ไม่ได้ ไม่มีใครในต้าเซี่ยของพวกนาย!”

เย่เซิ่งเทียนไม่ได้สนใจ หยิบพู่กันขึ้นมา หลับตาลง

ทันใดนั้น เขาก็ลืมตาขึ้นอย่างฉับพลัน รัศมีของคนทั้งคน ก็เปลี่ยนไปอย่างฉับพลันในวินาทีนี้ ราวกับกลายเป็นอีกคนหนึ่ง!

แววตา!

ท่าทาง!

รัศมีทั้งหมดเปลี่ยนไปแล้ว!!!

ลงมือเขียนอย่างฉับพลัน!