แดนนิรมิตเทพ บทที่ 438
ว่านฉางหรูจากไปด้วยใบหน้าที่หมองหม่น สายตาของเฉินโม่มองไปยังซุนเฟยเยว่ที่นั่งอยู่บนพื้น

สำหรับเจ้าหน้าที่ทางการ เฉินโม่ยังไม่ได้คิดที่จะลงมือด้วย

ทว่า ซุนเฟยเยว่กลับไม่รู้ว่าเฉินโม่กำลังคิดอะไรอยู่ เขาคิดว่าเฉินโม่จะลงมือกับเขา จึงรีบคุกเข่าลงบนพื้นและอ้อนวอนขอความเมตตาเสียงดัง “ไต้ซือ ผมผิดไปแล้ว ไม่ใช่ว่าผมจงใจที่จะกระทำกับเหม่ยหวา กรุ๊ป ล้วนเป็นสองคนนั้นที่ข่มขู่ให้ผมทำนะ! อย่าฆ่าผมเลย ขอร้องคุณล่ะอย่าฆ่าผม!”

เฉินโม่เอ่ยออกมาเสียงเบาประโยคหนึ่ง “ไปให้พ้น!”

ซุนเฟยเยว่คลายความกดดัน คำนับเฉินโม่สองสามครั้ง กล่าวขอบคุณเสียงดัง แล้วลุกขึ้นอย่างตื่นเต้นยินดี และวิ่งหนีไป

เฉินโม่หันศีรษะไปมองหลี่ซู่เฟิน ราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นอย่างนั้น แล้วยิ้มเรียบเฉยและกล่าวว่า “พวกเราไปกันเถอะ!”

แววตาของหลี่ซู่เฟินสับสน แล้วพยักหน้า “ไป”

“ท่านถัง เชิญ!” หลี่ซู่เฟินกล่าว

หลายคนมาถึงที่ในลานบ้าน พบว่านอกจากก้อนอิฐและดินทรายที่แตกเต็มพื้น แต่กลับมองไม่เห็นกู่ฉางเฟิง

เฉินโม่รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย “เป็นคนที่สัมผัสวิถีต้าเต๋าจริงๆ ถูกหมัดเทพเทียนเสวียนของฉันจู่โจมเต็มกำลัง กลับยังสามารถหลบหนีไปได้!”

“แต่ถึงแม้เขาจะสามารถหนีกลับไป ก็ทนได้ไม่เกินเจ็ดวัน”

“อย่างไรก็ตามเพียงแค่ผู้ดูแลกระบี่คนหนึ่งถึงกับมีความแข็งแกร่งขนาดนี้ หนานกงหยู่คนนั้นจะมีความแข็งแกร่งขนาดไหนกัน? ช่างทำให้คนตั้งตารอจริงๆ!

หลี่ซู่เฟินพาท่านถังและคนอื่นๆกลับมาถึงเหม่ยหวา กรุ๊ป และให้การต้อนรับท่านถังที่ห้องรับแขก

“คุณถัง ไม่รู้ว่าที่คุณมาหาฉัน มีสิ่งใดจะสั่งหรือ?” หลี่ซู่เฟินถามอย่างสุภาพ

ท่านถังเหลือบมองเฉินโม่ที่นั่งอยู่ตรงมุมห้อง มองดูเฉินโม่ที่เหม่อลอยอยู่นอกหน้าต่าง หันสายตากลับ มองหลี่ซู่เฟินแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ไม่ปิดบังประธานหลี่ ไม่กี่วันก่อนผมมาที่ฮ่านหยางเองเที่ยวหนึ่ง และได้นำซุปของหอเซียงหม่านชุดหนึ่งกลับไปทดลอง ดูว่าซุปที่วิเศษขนาดนั้น ใช้ส่วนผสมอะไรกันแน่”

ท่านถังชะงัก ยิ้มอย่างขมขื่นแล้วกล่าวว่า “ช่างน่าเสียดาย ผมตรวจสอบสิ่งใดไม่ออกเลย ดังนั้นที่ผมมาในครั้งนี้ ก็เพื่อเรียนถามประธานหลี่ด้วยตัวเอง ในซุปนั้นใส่ส่วนผสมอะไรบ้างกันแน่!”

ถ้าหากคนอื่นถามแบบนี้ หลี่ซู่เฟินอาจคิดว่าอีกฝ่ายต้องการขโมยสูตรของเธอ แต่เมื่อท่านถังถาม หลี่ซู่เฟินกลับไม่เป็นกังวล ด้วยตัวของท่านถัง ไม่ทำแบบนี้อย่างแน่นอน

สำหรับที่ว่าท่านถังเอาสูตรนี้ไปทำอะไร หลี่ซู่เฟินก็ไม่สามารถเดาได้

“ขออภัยด้วยคุณถัง ถ้าฉันรู้ส่วนผสมในซุป ฉันจะต้องบอกคุณอย่างแน่นอน แต่ซุปนั้นเป็นเฉินโม่ลูกชายฉันคิดขึ้นมา ใช้ส่วนผสมอะไรบ้างฉันก็ไม่รู้ค่ะ” พูดจบ หลี่ซู่เฟินก็เหลือบเฉินโม่

“ที่แท้ก็เป็บแบบนี้!” ท่านถังไม่ได้แปลกใจ กลับเผยความโล่งใจออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาคาดเดาอะไรได้ตั้งนานแล้ว

“ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นผมก็เข้าใจแล้ว ถึงว่าผลลัพธ์ของซุปถึงได้อัศจรรย์ขนาดนี้ ที่แท้ไม่ใช่สิ่งของธรรมดานะ!” ท่านถังถอนหายใจเล็กน้อย

ท่านถังถอนหายใจครู่หนึ่ง ทันใดนั้นก็ลุกขึ้นยืนเดินไปทางเฉินโม่ตรงมุมห้อง

หลี่ซู่เฟินและเวินฉิงตกตะลึงเล็กน้อย ท่าทีครุ่นคิด

เฉินโม่หันศีรษะมา มองดูท่านถังที่เดินมาถึงตรงหน้าเขา หน้าตาสงบนิ่ง

จู่ๆท่านถังโค้งคำนับต่อเฉินโม่ การกระทำนี้ ทำให้คนอื่นๆตกตะลึงมากมายนัก!

หลี่ซู่เฟินก็รีบห้ามปราม “ท่านถังมีคำพูดก็เชิญกล่าว ทำแบบนี้ไม่ได้เด็ดขาด!”

เฉินโม่กลับไม่ได้รั้งเขา มองดูท่านถังอยู่เงียบๆ ดวงตาลึกล้ำ

ท่านถังทำความเคารพพิธีการใหญ่ต่อเฉินโม่ แล้ว จึงยืนตัวตรง มองเฉินโม่ด้วยแววตาที่ร้อนรนและกล่าวว่า “ผมมีคำขอร้องที่ไร้เหตุผล หวังว่าไต้ซือจะส่งเสริม!”

เฉินโม่รู้สึกต่อท่านถัง ในใจก็เคารพอยู่บ้าง แล้วพูดเบาๆว่า “ท่านถังมีคำพูดเชิญกล่าว!”

ท่านถังยกมืออีกครั้ง น้ำเสียงพร้อมการอ้อนวอน “ผมหวังว่าไต้ซือจะให้สูตรซุปนั้นแก่ผม ถ้าหากสามารถนำมาทำเป็นยาได้ จะเป็นการปฏิวัติครั้งแรกของโลกการแพทย์ของหัวเซี่ยเรา ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อชาวหัวเซี่ย!”

พูดจบ ท่านถังก็โค้งคำนับอีกครั้ง แล้วจ้องมองเฉินโม่อยู่เงียบ ๆ ใบหน้าเต็มไปด้วยความหวัง