แดนนิรมิตเทพ บทที่ 439
เฉินโม่มองไปถังมู่หวา สีหน้าเรียบเฉย ไม่ได้พูดสิ่งใด ไม่รู้ว่ารับปากหรือเปล่า

ความรู้สึกของหลี่ซู่เฟินและเวินฉิงวุ่นวายอยู่บ้าง ท่านถังมีใจเป็นห่วงผู้คนหัวเซี่ย พวกเธอหวังว่าเฉินโม่จะสามารถรับปากท่านถัง

แต่ทว่า พวกเธอก็เข้าใจถึงคุณค่าของสูตรนั้น ด้วยความเห็นแก่ตัวของนิสัยมนุษย์ พวกเธอนั้นไม่ต้องการให้เฉินโม่มอบสูตรนี้ออกมา

ถังซืออวี่มองดูเฉินโม่ ใบหน้าน้อยๆประหม่าตื่นเต้น หวังว่าเฉินโม่จะสามารถรับปากปู่ตัวเองได้ แต่ในขณะเดียวกันเด็กสาวที่มีความรู้สึกชอบธรรมก็รู้สึกว่าข้อเรียกร้องของปู่ตัวเองนั้นมากเกินไป อย่างไรใครก็เข้าใจในคุณค่าของสูตรนั้น

“ไต้ซือ ผมรู้ว่าคำขอนี้ค่อนข้างกะทันหัน แต่ท่านได้โปรดเห็นแก่ประโยชน์ของผู้คนหัวเซี่ย รับปากผมเถอะ!” ท่านถังโค้งคำนับเก้าสิบองศาอีกครั้ง บนใบหน้าด้วยกลิ่นไอแห่งความเมตตา

สีหน้าเฉินโม่ยังคงเรียบเฉย แววตาแสดงถึงท่าทีที่ครุ่นคิด ราวกับว่ากำลังพิจารณาอยู่

ใจดวงหนึ่งของท่านถังแอบหมองลง เขารู้ว่าเฉินโม่ไม่ใช่ของโลกมนุษย์ คนอย่างเฉินโม่นี้ ไม่มีความรู้สึกว่าเป็นส่วนหนึ่งของโลกมนุษย์ โอกาสที่จะปฏิเสธเป็นไปได้มากกว่า

จริงตามนั้น เฉินโม่ค่อยๆเอ่ยปากว่า “ขออภัย ผมไม่สามารถให้สูตรกับคุณได้”

ท่านถังหน้าตาสิ้นในทันใด เสียใจราวกับไว้ทุกข์เช่นนั้น คนทั้งคนดูราวกับอายุแก่ไปสิบปีทันควัน

แต่ว่า ท่านถังไม่ยอมแพ้ เขายังต้องการสู้สักหน่อย

“ไต้ซือ ถือว่าผมขอร้องท่านล่ะ!” ท่านถังถอยหลังหนึ่งก้าว คุกเข่าข้างหนึ่งลง มองเฉินโม่ราวกับเป็นคนที่จมน้ำคนหนึ่ง ทันใดนันก็พบฟางเส้นสุดท้ายที่ช่วยชีวิต ใบหน้าเต็มไปด้วยความปรารถนา!

“คุณปู่!”

ถังซืออวี่อุทานขึ้น เมื่อครู่ท่านถังคำนับเฉินโม่ ในใจของเด็กสาวก็ไม่สามารถยอมรับได้แล้ว ตอนนี้ เห็นคุณปู่ของตัวเองถึงกับคุกเข่าลงต่อเฉินโม่ ในใจถังซืออวี่ตกใจนัก แล้วเกิดความเศร้าเสียใจเล็กน้อย

“ได้โปรดรับปากคุณปู่เถอะค่ะ คุณปู่ไม่เคยขอร้องใครมาก่อนเลย เขาทำแบบนี้ไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง เพียงแค่ต้องการใช้สูตรนั้นเพื่อประโยชน์ของมวลมนุษยชาตินะ!” เสียงของถังซืออวี่เต็มไปด้วยความสะอื้น มองไปยังท่านถังอย่างทุกข์ใจ

หลี่ซู่เฟินและเวินฉิง ก็ตกใจกับการกระทำด้วย ฐานะของท่านถังสูงส่งขนาดไหน ถึงกับยอมกล้ำกลืนฝืนคุกเข่าอ้อนวอนนักเรียนมัธยมปลายคนหนึ่ง ท่าทีและจิตใจแบบนี้ ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ทุกคนประทับใจ!

“เสี่ยวโม่ ถ้าเป็นไปได้ ลูกก็ให้สูตรแก่ท่านถังเถอะ!” หลี่ซู่เฟินพูดเกลี้ยกล่อม

มือหนึ่งของเฉินโม่ประคองท่านถังที่คุกเข่าอยู่บนพื้นขึ้น ยิ้มและกล่าวว่า “คุณท่านได้โปรดรีบลุกขึ้น คุณเข้าใจความหมายของผมผิดแล้ว”

ท่านถังลุกยืนขึ้น มองเฉินโม่อย่างงุนงง เมื่อครู่เฉินโม่ปฏิเสธชัดๆ คำพูดนี้หมายความว่าอะไร?

หลี่ซู่เฟินและคนอื่นๆก็มองเฉินโม่อย่างสงสัย ไม่เข้าใจว่าในน้ำเต้าของเฉินโม่ขายยาอะไร

เฉินโม่เหลือบมองคนทั้งหลาย สายตาสุดท้ายหันไปทางท่านถัง แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ไม่ใช่ผมไม่ได้ให้สูตรกับคุณ แต่เป็นเพราะไม่มีสูตรที่ว่าเลย”

ท่านถังดูงุนงง ไม่เข้าใจว่าทำไม

หลี่ซู่เฟินและคนอื่นๆก็แอบขมวดคิ้ว มองดูเฉินโม่ รอคำพูดต่อไปอยู่อย่างสงบ

เฉินโม่กล่าวต่อว่า “ผมก็ไม่ปิดบังท่าน เหตุผลที่ซุปนั้นมีผลลัพธ์ที่อัศจรรย์ ไม่ได้ใช้สูตรลับวิเศษอะไร เพียงแค่ใช้น้ำที่นำมาเคี่ยวซุป ไม่ใช่น้ำประปาธรรมดา แต่เป็นชี่ฟ้าดินที่ควบแน่นเป็นน้ำชี่ทิพย์”

“โลกที่พวกเราอาศัยอยู่ ชี่ทิพย์แห้งแล้งหนักหนา มลพิษร้ายแรง คนอาศัยอยู่ในสถานที่แบบนี้เป็นเวลานาน ก็เจ็บป่วยได้ง่ายเป็นธรรมดา น้ำชี่ทิพย์สามารถซ่อมแซมส่วนที่เสียหายของร่างกายมนุษย์ได้พอดี เมื่อเวลาผ่านไปยาวนานโรคทั้งหมดก็หายไปเป็นธรรมดา”

สายตาของท่านถังปรากฏความครุ่นคิด ทันใดนั้นก็ตระหนักว่า “ผมเข้าใจแล้ว”

“แม้ว่าจะไม่มีสูตรลับสิเศษ แต่ข่าวนี้ดีกว่าสูตรลับวิเศษนับเท่าไม่ถ้วน” ท่านถังหัวเราะหึหึแล้วกล่าวด้วยใบหน้าที่คลายทุกข์ทรมานเป็นเวลานาน

ถังซืออวี่และหลี่ซู่เฟินถอนหายใจด้วยความโล่งอก ปรากฏว่าเฉินโม่ไม่ได้ขี้เหนียว แต่ว่าไม่มีสิ่งที่เรียกว่าสูตรอยู่เลย