ตอนที่ 311: การรวมตัวของจอมยุทธทั้งห้า (2)
กระบี่ของเจี้ยนเฉินก็ปรากฏขึ้นมาทันทีพร้อมกับสะท้อนเงาวิบวับอยู่ด้านหลัง เงาที่มันสะท้อนออกมากลายเงาของศัตรูอย่างช้า ๆ หลายคนอาจได้ยินเสียงอาวุธปะทะกัน มีการเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องและพลังงานก็กระจัดกระจายไปรอบ ๆ และเหลือไว้แต่ความยุ่งเหยิง
เจ้านั่นแข็งแกร่งมาก เขาถึงกับตรึงเจ๋อกู่เอาไว้ได้ มีดาบไฟที่กำลังถูกแกว่งโดยเด็กหนุ่มขณะที่หลุดปากพูดด้วยตกใจ
เด็กหนุ่มนั่นฝีมือดีทีเดียวที่สามารถต่อสู้กับเจ๋อกู่ได้ในระดับนี้โดยไม่เสียเปรียบ อัจฉริยะผู้นั้นน่ากลัวมาก ถ้าเขาเติบโตกว่านี้เขาจะเป็นคนที่ทรงพลังมากแน่นอน นายน้อย เราควรจะช่วยเหลือให้เขาซาบซึ้งบุญคุณหรือไม่ ? ชายเสื้อคลุมม่วงถามเด็กหนุ่มที่ถือดาบไฟ
กระบี่เริ่มถูกแกว่งอย่างรวดเร็วและเต็มไปด้วยจิตสังหาร ด้วยพละกำลังของเขา เขาจะต้องพยายามสู้เพื่อการเป็นที่หนึ่งในการชุมนุมทหารรับจ้าง เขาเป็นคู่แข่ง
ดังนั้นชายเสื้อคลุมม่วงจึงเข้าใจความหมายของเด็กหนุ่มผู้นั้นและเงียบไป
อีกด้าน มีคนที่ดูอายุ 30 ปีที่สวมเสื้อคลุมขาวและรัดด้วยสายสีทอง มือของเขาทั้งสองกอดอกแน่นขณะที่เขามองการต่อสู้อยู่ ดูเหมือนว่าเจียเต๋อหวูคังจะไปเตะโดนแผ่นเหล็กเข้าแล้ว ข้าไม่คิดว่าเขาจะยังอายุน้อยเช่นนี้
ถูกต้อง เด็กหนุ่มผู้นี้ค่อนข้างเก่ง ถ้าเขาสามารถต่อสู้กับเจ๋อกู่และตรึงเขาเอาไว้ได้ หากว่าเขาไม่แข็งแกร่งพอ เขาจะต้องพ่ายแพ้อย่างแน่นอน ในขณะที่จุดแข็งของเจียเต๋อหวูคังนั้นไม่ดีเท่าเจ๋อกู่ ด้วยยุทธภัณฑ์ผู้คุมกฎเขาสามารถต่อสู้กับคนอื่นด้วยยุทธภัณฑ์เหล่านั้น ไม่มีใครนอกจากเซียนสวรรค์ที่จะต่อกรกับเขาได้ ชายเสื้อคลุมขาวที่อยู่ข้าง ๆ พูด
ดูเหมือนว่าเด็กหนุ่มผู้นี้ต้องตายที่นี่ เมื่อดูจากอารมณ์ของเจียเต๋อหวูคังแล้ว คงไม่มีใครรอดหลังจากที่ไปยั่วยุเขา
นั่นอาจไม่เป็นเช่นนั้น นายน้อยฉินจี๋ ท่านได้เห็นหญิงสาวที่ใส่ชุดสีเหลืองข้างหลังเขาหรือไม่ ? ชายผู้นั้นพูดด้วยรอยยิ้ม
เมื่อได้ยินอย่างนั้นฉินจี๋ก็หันไปมองหญิงสาว เขาไม่อาจละสายตาได้ก่อนที่เขาจะพูดว่า ช่างเป็นหญิงสาวที่น่าทึ่ง ใบหน้าของนางเย็นชาปานน้ำแข็ง ดวงตาของนางก็ทำให้รู้สึกถึงความน่ากลัว นี่ไม่ใช่หญิงสาวธรรมดาแน่นอน
ชายวัยกลางคนหัวเราะและพูดว่า นายน้อยฉินจี๋ ท่านได้เห็นธนูยาวสีทองที่อยู่หลังของนางหรือไม่ ?
ฉินจี๋ละสายตาไปสนใจด้านหลังหญิงสาวและมองไปที่ธนูของนาง เขาไม่พูดอะไรอีกต่อไป
ชายวัยกลางคนพูด ข้าจำไม่ได้ว่ามันคือธนูอะไร แต่ข้าพอจะบอกได้ว่ามันไม่ธรรมดา มันไม่ใช่อาวุธเซียนของนางเพราะข้าไม่อาจตรวจจับพลังเซียนได้ ดังนั้นมันต้องเป็นธนูของจริง…
ลุงรอง ธนูนั่นอาจจะ… ฉินจี๋พูดอย่างตกใจ
ข้าไม่กล้ายืนยัน ชายผู้นั้นส่ายหัว
…..
ทักษะแรกของหอกศักดิ์สิทธิ์ 3 ท่วงท่า-หอกทมิฬ ! มีเสียงตะโกนออกมาจากชายวัยกลางคนและแทงหอกเข้าไปยังเจี้ยนเฉิน มีเงาหอกปรากฏออกมามากมายทำให้ยากจะบอกได้ว่าอันไหนเป็นของจริง อันไหนเป็นของปลอม แต่ละเงาต่างก็เหมือนของจริงเพราะมันปล่อยแรงกดดันออกมาเหมือนกัน
ทักษะนี้เสมอกับการโจมตีของกระบี่เจี้ยนเฉิน
นั่นทักษะการต่อสู้ระดับปฐพี ! มีคนอุทานออกมา
อ๊าาา ทักษะการต่อสู้ระดับปฐพี ? นั่นมันเป็นรองจากทักษะการต่อสู้ระดับสวรรค์เท่านั้น ข้าไม่คิดว่าจะได้เห็นมันในวันนี้ !
ข้าได้ยินมาว่าทักษะการต่อสู้ระดับสวรรค์นั้นเพียงพอที่จะเปลี่ยนกระแสการสู้รบได้หรือแม้กระทั่งบิดเบือนโลกหล้าได้ ใครจะรู้ว่าทักษะการต่อสู้ระดับปฐพีจะมีความสามารถอย่างนี้เช่นกัน ?
เจี้ยนเฉินยิ้มเยาะขณะที่เขาหลับตา มือขวาของเขากลายเป็นเงาราง ๆ ขณะที่กระบี่ในมือของเขาวูบไหวราวกับภูตผีขณะที่ไปปะทะกับหอก
“ติ้ง ติ้ง ติ้ง ติ้ง…”
หลังจากที่มีเสียงดังออกมาหลายครั้งในเวลาสั้น ๆ ชายคนนั้นและเจี้ยนเฉินก็ได้ประมือกันไปกว่า 100 กระบวนท่า ทั้งสองเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วจนแทบจะมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า ความแตกต่างเพียงอย่างเดียวคือในขณะที่ชายคนั้นพึ่งพาทักษะการต่อสู้ของเขาเพื่อที่จะโจมตีด้วยความเร็วสูง เช่นเดียวกับเจี้ยนเฉินซึ่งพึ่งพาความแข็งแกร่งของตัวเองเพื่อโจมตีในความเร็วที่เท่ากัน
ช่างรวดเร็วเหลือเกิน ! เด็กหนุ่มซึ่งถือดาบไฟอุทานออกมาอย่างตกใจ
กระบี่ของเขาเร็วมาก แม้จะเป็นข้า มันก็ยากที่จะหาของจริงได้ ชายชุดคลุมม่วงพูดอย่างประหลาดใจ
ช่างเป็นกระบี่ที่เร็วยิ่งนัก เขาทำอย่างไรถึงได้มีความเร็วสูสีกับทักษะต่อสู้ของเจ๋อกู่ได้ ฉินจี๋ถามอย่างประหลาดใจ
แม้กระทั่งข้าก็อยากจะรู้ เซียนปฐพีวัฏจักรที่ 6 ที่มีธาตุลมก็ยากที่จะเร็วได้อย่างนี้ พลังเซียนของเขาก็ไม่แน่ว่าจะเป็นธาตุลม แต่เขาก็ยังสามารถเร็วได้ขนาดนี้ มันทำให้ข้ารู้สึกประหลาดใจอย่างมาก อะไรที่ทำให้เขาฟันได้อย่างรวดเร็วขนาดนี้ ?
ทักษะที่สองของหอกศักดิ์สิทธิ์-หางมังกรศักดิ์สิทธิ์ !
หอกสีแดงสดในลอยขึ้นไปบนอากาศก่อนที่จะพุ่งลงมาอย่างรุนแรงไปยังเจี้ยนเฉิน ในเวลาเดียวกันความกดดันจำนวนมหาศาลก็กดลงมาบนตัวเขาราวกับว่ามันเป็นก้อนหินที่หนักหน่วง ทำให้เจี้ยนเฉินไม่อาจขยับได้แม้แต่ก้าวเดียว
เจี้ยนเฉินยกกระบี่ขึ้นอย่างไม่กลัวเกรงพร้อมกับโคจรพลังปราณจำนวนมากเข้าไปในกระบี่ หอกได้ตกลงมาถึงหัวของเขาแล้ว
“ปัง ! “
ตามมาด้วยเสียงดังสั่นขนาดใหญ่พร้อมกับการกระเพื่อมของพลังไปรอบ ๆ เจี้ยนเฉินถูกกระแทกให้ถอยหลังออกไปหลายก้าวตามมาด้วยแขนขาที่สั่นน้อย ๆ แรงกระแทกของมันทำให้เห็นรอยเท้าที่ถูกครูดไปทั้งสองข้าง
ในฐานะที่เป็นทักษะการต่อสู้ระดับปฐพี ทักษะที่สองและทักษะแรกนั้นมีความรุนแรงเท่ากันเกือบทั้งหมด
ทักษะที่สาม-หอกศักดิ์สิทธิ์เหนือทุกสิ่ง !
ขณะที่เจี้ยนเฉินทรงตัวได้ เจ๋อกู่ก็ตะโกนอีกครั้งพร้อมกับเพลิงสีแดงสว่างสดใสออกมา พลังงานที่ถูกบีบอัดเข้ามาอย่างบ้าคลั่งได้รวมกันอยู่ที่ปลายหอก เจี้ยนเฉินรู้สึกราวกับว่าตัวหอกนี้ไม่อาจหลบหนีได้ หอกได้ถูกเล็งมาที่เขา สิ่งเดียวที่เหลือคือการเผชิญหน้า
เจี้ยนเฉินหลับตาลงอย่างช้า ๆ ขณะที่คอยสังเกตตำแหน่งของเจ๋อกู่อย่างระมัดระวัง ในตอนนี้ วิญญาณ ของเขาและกระบี่วายุโปรยในมือของเขาได้เชื่อมต่อกันทำให้พลังปราณจำนวนมากไหลมารวมกันและเปล่งประกายออกมา เมื่อกระบี่ถูกห่อหุ้มด้วยพลังปราณอย่างสมบูรณ์ ทันใดนั้นมันก็ผละออกจากมือของเจี้ยนเฉินก่อนที่จะกลายเป็นริ้วแสงสีเงินมุ่งไปด้านหน้า
“ปัง ! “
อีกครั้งที่ได้ยินเสียงดังสนั่น พลังงานที่อยู่ปลายหอกได้สูญเสียการควบคุมและเกิดการระเบิดอย่างรุนแรง การระเบิดของมันราวกับเป็นดอกไม้ไฟที่สวยงามอยู่บนท้องฟ้า มันยังคงกระจายตัวอย่างต่อเนื่องด้วยสีแดงที่สว่างสดใสทำให้ทุกคนที่ได้เห็นตะลึงงัน
ฝุ่นดินกระจายขึ้นมาจากการระเบิดของพลังและทำให้ทุกคนต้องถอยห่างออกไปกว่า 100 เมตร ขณะที่เจี้ยนเฉินและเจ๋อกู่อยู่ตรงกลางระหว่างการระเบิดของพลัง
ไม่นานพลังงานก็หายไปอย่างสมบูรณ์และเผยให้เห็นตำแหน่งของเจี้ยนเฉินและเจ๋อกู่กับทุกคน ชายทั้งสองดูไม่เป็นอะไรหรือบาดเจ็บแม้เพียงเล็กน้อยจากการระเบิดของพลัง มีเพียงเสื้อผ้าที่ยับย่นและเชือกผูกผมของเจี้ยนเฉินที่หายไป ทำให้ผมยาวของเขาปลิวไปตามลม ในมือของเขายังคงถือกระบี่วายุโปรยสีเงินอยู่
ด้านหน้าของเขาเป็นเจ๋อกู่ที่ยังคงยืนด้วยการใช้หอกยันร่างกายอยู่ เขายังคงอยู่ที่เดิมและไม่ได้ขยับไปไหน ผมที่ยาวถึงเอวของเขาถูกตัดออกไปจนสั้นเพียงลำคอ
ทันใดนั้นลำคอของเจ๋อกู่ก็เริ่มมีรอยเส้นของเลือดบาง ๆ ก่อนที่จะเริ่มขยายออกไปจนรอบคอของเขา วินาทีต่อมาก็มีเลือดสีแดงไหลและหัวของเขาก็แยกออกจากกันพร้อมกับร่างกายของเจ๋อกู่ที่ล้มลงพื้น
ทุกคนที่เห็นแบบนี้ต่างก็ตกอยู่ในความโกลาหล ในขณะที่มองดูทั้งเจี้ยนเฉินและศพของเจ๋อกู่ด้วยความตกใจ
ในเสี้ยววินาทีนั้นพวกเขาก็ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น พวกเขาทุกคนเห็นว่าเจ๋อกู่ได้ใช้กระบวนท่าสุดท้ายของทักษะการต่อสู้ระดับปฐพีในการโจมตี แต่ไม่เพียงเจี้ยนเฉินจะไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัส เจ๋อกู่ยังได้ตกตายไปอีกด้วย ผลลัพธ์นี้ยากจะยอมรับในเมื่อเจี้ยนเฉินยังคงไร้รอยบาดแผลหลังจากที่รับทักษะระดับปฐพีอันนี้ ยิ่งไปกว่านั้นสิ่งที่พวกเขาไม่คิดคือ เจ๋อกู่ ที่ดูไร้เทียมทานกลับเป็นฝ่ายที่ต้องหัวขาดเสียเอง
เจ๋อกู่ตายได้อย่างไร?
มีใครบอกได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น?
ทุกคนเริ่มคิดคำถามเหล่านี้อยู่ในใจ
กล้าที่จะฆ่าพี่น้องของเจียเต๋อ เจ้ากำลังรนหาที่ตาย ! ในขณะนั้นเสียงของชายกลางคนที่ดูอายุ 30 ปีได้ตะโกนออกมาอย่างโกรธเกรี้ยว พร้อมกับพุ่งมาทางเจี้ยนเฉินและฟันเปลวไฟออกจากดาบ เปลวไฟที่ถูกปล่อยออกมาไปยังเขานั้นทำให้ทุกคนต่างตกใจ
ช่างเป็นแรงระเบิดที่ทรงพลัง!
มันอาจะเป็นเพราะว่าเขาเป็นเซียนสวรรค์?
….
เซียนปฐพีสองสามคนที่คิดว่าตัวเองแข็งแกร่งที่สุดเริ่มมองอย่างตกใจ
แม้กระทั่งใบหน้าของเจี้ยนเฉินก็ยังกลายเป็นจริงจัง ในขณะที่เขาเห็นยุทธภัณฑ์ผู้คุมกฎที่อยู่ในมือของเขา นี่เป็นคนที่สองที่เขาเห็นยุทธภัณฑ์ผู้คุมกฎอยู่ในมือในสถานที่แห่งนี้ ที่แห่งนี้มีทั้งดาบธาตุไฟ 2 เล่ม
ตายซะ ! ชายหนุ่มมองไปที่เจี้ยนเฉินขณะที่เขาเหวี่ยงยุทธภัณฑ์ไปที่เจี้ยนเฉิน
เจี้ยนเฉินคุ้นเคยกับยุทธภัณฑ์ผู้คุมกฎ ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าเผชิญหน้ากับมันตรง ๆ เขาถอยไปด้านหลัง ในเวลาเดียวกันแสงสีทองที่สว่างพร่างพราวก็มาจากด้านหลังและลอยไปยังยุทธภัณฑ์ผู้คุมกฎ