บทที่ 23 เงื่อนไขการชี้แนะ[รีไรท์] EnjoyBook
บทที่ 23 เงื่อนไขการชี้แนะ[รีไรท์]
เมื่อหลิงตู้ฉิงถามถังชี่หยุนด้วยประโยคเหล่านี้ เด็ก ๆ ที่นั่งฟังอยู่ใกล้ ๆ กลอกตาทันที
โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับหลิงว่านถิง นางอดไม่ได้ที่จะเตือนเขาว่า “ท่านพ่อ นี่เป็นครั้งแรกที่เราได้พบกับครู ท่านไม่ควรตั้งคำถามแบบนี้!”
“เจ้าไม่ต้องพูดมาก” หลิงตู้ฉิงพูดเสียงต่ำ “นั่งเงียบ ๆ เมื่อครูถังกับข้ากำลังพูดคุยกันเจ้าไม่ได้รับอนุญาตให้พูด!”
หลิงว่านถิงทำปากยื่นและสงบลง
ในทางตรงกันข้าม ถังชี่หยุนไม่ถือสาในคำถามของหลิงตู้ฉิง นางหัวเราะและพูด “ข้าแต่งงานแล้วและมีลูกสองคน แต่ลูกของข้าโตกันหมดแล้ว ลูกชายคนโตเข้าร่วมกองทัพ ส่วนลูกสาวคนสุดท้องยังเป็นนักศึกษาอยู่ในสถาบัน ดังนั้นข้าจึงไม่จำเป็นจะต้องวิตกกังวลอะไรเกี่ยวกับพวกเขา”
หลิงตู้ฉิงส่ายหัว “ช่างน่าเสียดายนัก!”
หลิงว่านถิงและคนอื่น ๆ เหลือบตามองพ่อของพวกเขา ท่านพ่อกำลังพยายามจีบครูถังอยู่งั้นเหรอ?
เมื่อได้ยินหลิงตู้ฉิงบ่นเสียดาย สีหน้าของถังชี่หยุนยังคงไม่เปลี่ยนแปลงถึงแม้ว่านางจะรู้สึกแปลก ๆ ในใจก็ตาม นางพยักหน้าและส่งรอยยิ้มจาง ๆ ให้กับหลิงตู้ฉิง
หลิงตู้ฉิงพยักหน้าและถามอีกครั้งว่า “ครูถังข้ามีคำถามที่สำคัญ เจ้าวางแผนไว้ว่าจะมาเป็นครูสอนให้กับบรรดาลูก ๆ ของข้านานเท่าไหร่กัน?”
ถังชี่หยุนยักไหล่และพูดว่า “ในเรื่องระยะเวลาที่ข้าจะสอนบรรดาเด็ก ๆ นั้นข้าให้ท่านหลิงตัดสินใจได้เลยว่าต้องการให้ข้าอยู่นานเท่าไหร่ แต่อันที่จริงแล้วเมื่อแม่นางมี่เชิญข้ามา นางได้จ่ายเงินเดือนให้ข้าล่วงหน้าไปแล้วถึง 10 ปี”
“10 ปี!” หลิงตู้ฉิงเหลือบไปมองหลิงไช่หยุนที่กำลังฝึกโคจรพลังเพลิงอยู่ข้างเขา “ 10 ปีต่อมาเด็กหญิงคนนี้จะมีอายุ 13 ปี เมื่อถึงเวลานั้นนางควรจะดูแลตัวเองได้แล้ว ถ้าอย่างนั้นลองทำตามนี้ ท่านจะเป็นครูสอนของลูก ๆ ข้าเป็นระยะเวลา 10 ปี อย่างไรก็ตามข้าต้องให้ท่านลงชื่อในสัญญาของข้าด้วยเช่นกันว่าท่านจะไม่ออกจากเรือนของข้าในอีก 10 ปีข้างหน้าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากข้า”
ถังชี่หยุนขมวดคิ้วเป็นครั้งแรก นางมองหลิงตู้ฉิงชั่วครู่หนึ่งแล้วมองไปที่เด็กคนอื่น ๆ ที่อยู่รอบ ๆ ในที่สุดนางจึงถามอย่างช้า ๆ “ถ้าครอบครัวของข้าต้องการเจอข้าล่ะ?”
หลิงตู้ฉิงยิ้มและตอบนางกลับ “ท่านสามารถเจอพวกเขาได้ แต่ต้องอยู่ภายในอาณาเขตบริเวณเรือนของข้าเท่านั้น ท่านรับได้ไหม?”
ถังชี่หยุนคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วก็พยักหน้าช้า ๆ “ถ้าเช่นนั้นข้าตกลง ข้าจะทำสัญญากับท่านแล้วเราจะทำสัญญากันอย่างไร?”
หลิงตู้ฉิงตอบอย่างใจเย็น “นั่นง่ายมาก!”
เมื่อพูดจบหลิงตู้ฉิงโคจรพลังวิญญาณและชี้นิ้วขึ้นไปบนอากาศ จากนั้นตัวอักษรต่าง ๆ ก็ปรากฏขึ้น ตัวอักษรต่าง ๆ เริ่มวางตัวเรียงกันจนกลายเป็นเนื้อหาที่ระบุถึงสัญญาการจ้างที่เสร็จสมบูรณ์ ลอยอยู่กลางอากาศ
“ข้าแนะนำว่าให้ท่านอ่านก่อน และถ้าคิดว่าไม่มีปัญหาท่านก็ลงชื่อได้” หลิงตู้ฉิงยิ้ม “แต่ถ้าท่านไม่สามารถเขียนชื่อของท่านลงไปได้ก็ไม่เป็นไร ท่านสามารถใช้หยดเลือดของท่านหยดไปยังสัญญาแทนได้เพื่อเป็นการยอมรับสัญญา”
ถังชี่หยุนมองดูหลิงตู้ฉิงด้วยสีหน้าจริงจัง นางสูดหายใจลึกและเริ่มเขียนชื่อนางลงบนสัญญาที่ลอยอยู่กลางอากาศ
แต่ทันทีที่นางเพิ่งเขียนคำว่า ‘ถัง’ นางก็เริ่มเหงื่อออกและไม่สามารถเขียนอะไรได้อีกต่อไป นางจึงกัดนิ้วตัวเองและใช้หยดเลือดประทับลงในสัญญาเพื่อแสดงว่านางเห็นด้วยกับสัญญา
หลังจากทำสัญญาเสร็จสิ้นอักษรสัญญาที่ลอยอยู่กลางอากาศก็ได้หายไป
หลิงตู้ฉิงเหลือบมองถังชี่หยุนที่เหนื่อยล้าและพูดว่า “เจ้าสามารถเขียนได้หนึ่งคำ ไม่เลวเลย จากนี้ไปเจ้าต้องสอนให้เด็ก ๆ อ่านและเขียนทุกเช้า! หลังจากช่วงเช้าแล้วเจ้าก็หมดหน้าที่ ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับพวกเขาหลังจากช่วงเช้าอีกเพราะหลังจากเรียนกับเจ้าเสร็จ พวกเขาจะต้องมาทำกิจวัตรตามที่ข้ามอบหมายให้พวกเขาทำทุกวันต่อ และนอกจากนี้…เอ่อ….ช่างมันก่อนก็แล้วกัน เราจะพูดถึงเรื่องอื่นกันในโอกาสต่อไป”
ถังชี่หยุนยิ้มอย่างอ่อนแรง “ท่านหลิงชมข้าเกินไปแล้ว! แต่ข้าไม่เข้าใจเลยว่าทำไมท่านไม่สอนเด็ก ๆ ด้วยตัวเอง”
หลิงตู้ฉิงเลิกคิ้วขึ้นและตอบกลับว่า “บางทีการให้คนอื่นมาสอนมันก็ให้ผลลัพธ์ที่น่าสนใจมากขึ้น เจ้าเข้าใจไหม? และอันที่จริงข้าเองก็ได้สอนอะไรบางอย่างไปให้กับพวกเขาแล้วเช่นกัน”
“เป็นแบบนี้นี่เอง เอาล่ะท่านหลิงข้าเข้าใจเจตนาของท่านแล้ว ข้ารู้แล้วว่าข้าควรจะต้องทำเช่นไรต่อ” ถังชี่หยุนหัวเราะ
หลิงตู้ฉิงพยักหน้าและหันไปพูดกับหลิงว่านถิงว่า “ครูถังเพิ่งจะมาถึง ดังนั้นช่วงนี้ครูถังจะนอนร่วมกับเจ้าก่อนชั่วคราวสัก 2-3 วัน เพื่อรอจนกว่าพ่อจะเตรียมห้องพักของครูถังเสร็จ และตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไปชั้นเรียนของครูถังจะเริ่มต้นเวลา 8 โมงเช้า พวกเจ้าทุกคนจะต้องเข้าเรียน เข้าใจกันไหม?
หลิงจากหลิงตู้ฉิงพูดจบพวกเด็ก ๆ ต่างรีบพยักหน้ารับ
หลิงตู้ฉิงเมื่อเห็นว่าลูก ๆ ของเขาเข้าใจแล้วเขาจึงยืนขึ้นและพูดว่า “ครูถังพักผ่อนให้สบาย ข้าจะไปดูก่อนว่าชายผู้นั้นได้ฆ่าต้นไผ่วิญญาณสวรรค์ของข้าไปแล้วหรือยัง”
ขณะที่หลิงตู้ฉิงกำลังจะออกจากลานกลางเรือนไป โม่หยูถังก็พูดว่า “นายท่าน ครูถังผู้นี้ดูเหมือนจะเป็นคนที่มาจากสำนักเที่ยงธรรม มันจะไม่มีปัญหางั้นหรือที่จะมาสอนนายน้อยทั้งหลาย?”
หลิงตู้ฉิงถามว่า “ปัญหาคืออะไร? แนวคิดของสำนักเที่ยงธรรมนั้นไม่เลวเลยทีเดียว เจ้านี่น่าสนใจทีเดียวพ่อบ้านโม่ ที่รู้จักตัวตนอย่างสำนักเที่ยงธรรม โม่หยูถัง เจ้าเคยบ่มเพาะไปถึงระดับไหนแล้ว? “
โม่หยูถังหัวเราะ “พ่อบ้านชราคนนี้ก่อนที่จะมาเจอกับนายท่าน ข้าได้ทะลวงไปถึงขอบเขตนภาแล้ว!”
“ไม่เลว!” หลิงตู้ฉิงพยักหน้า
“แล้วนายท่านล่ะ อยู่ในระดับใด?” โม่หยูถังถามกลับ
หลิงตู้ฉิงยิ้ม “เจ้าไม่มีวันเดาออกหรอก!”
หลังจากหลิงตู้ฉิงพูดเสร็จเขาก็เดินก้าวไปแบบสบาย ๆ ไปที่สวนหลังบ้าน
โม่หยูถังมองดูแผ่นหลังของหลิงตู้ฉิงที่กำลังเดินจากไปด้วยแววตาสงสัย
หลิงตู้ฉิงที่เดินเข้ามายังสวนหลังบ้าน เมื่อมาถึงเขาได้เห็นรอยยิ้มอันเบิกบานของ หวงยี่เฟย ซึ่งขัดกับสภาพของเสื้อคลุมสุดหรูของเขาที่ถูกปกคลุมไปด้วยฝุ่น
หลิงตู้ฉิงส่ายหัวเมื่อมองไปยังสภาพของหวงยี่เฟยตอนนี้ จากนั้นเขาเหลือบดูไปที่ต้นสมุนไพรหลากหลายชนิดที่เพิ่งปลูกล้อมต้นไผ่วิญญาณสวรรค์ เมื่อเห็นเช่นนี้หลิงตู้ฉิงพยักหน้าเล็กน้อย
“เก่งมากที่เจ้ายังไม่ได้ทำให้ต้นไผ่วิญญาณสวรรค์ของข้าตาย” หลิงตู้ฉิงพูดขึ้นเสียงดังให้โม่หยูถังรู้ตัว
เมื่อหวงยี่เฟยได้ยินเสียงของหลิงตู้ฉิง เขายืนขึ้นทันทีและพูดว่า “ปรมาจารย์หลิงขอบคุณสำหรับคำชี้แนะของท่าน!”
หลิงตู้ฉิงมองไปยังหวงยี่เฟยด้วยสายตางุนงง “คำชี้แนะ? ข้ายังไม่ได้ชี้แนะอะไรเจ้าเลย เมื่อครู่ข้าแค่มีธุระติดพันเลยวานให้เจ้ามาช่วยดูไผ่วิญญาณสวรรค์ให้ข้าก่อนก็เท่านั้น หากเจ้าทำต้นไผ่ของข้าตายล่ะก็ต่อจากนี้เจ้าก็ไม่ต้องมาเหยียบเรือนข้าอีก แต่ดูเหมือนเจ้ายังทำได้ดีอยู่เหมือนกันที่ไผ่ของข้ายังไม่ตาย”
หวงยี่เฟยยิ้มแล้วพูดว่า “เมื่อข้าผ่านการทดสอบของปรมาจารย์หลิง ข้าสงสัยว่าปรมาจารย์หลิงจะชี้แนะให้ข้าได้หรือไม่?”
หลิงตู้ฉิงส่ายหัว “นี่ถือว่าเป็นการทดสอบซะที่ไหนกัน นี่มันถือเป็นเกียรติของเจ้าต่างหากที่ได้ดูแลไผ่วิญญาณสวรรค์ให้ข้า”
“ถ้าอย่างนั้นมีอะไรที่จะข้าช่วยปรมาจารย์หลิงได้อีกบ้าง” หวงยี่เฟยถามขึ้น
หลิงตู้ฉิงมองประเมินไปยังหวงยี่เฟยตั้งแต่หัวจรดเท้า หลังจากนั้นเขาก็พูดว่า “ข้าสังเกตได้ว่าเจ้านับถือเทพแห่งโอสถเป็นอย่างมากจริงไหม?”
หวงยี่เฟยพยักหน้าอย่างมีความสุขและกล่าวว่า “เทพแห่งโอสถเป็นแบบอย่างให้แก่นักหลอมโอสถทุกคน แน่นอนว่าข้าเคารพเขามาก”
“นักหลอมโอสถที่ปรับสูตรจากโอสถดี ๆ กลายเป็นพิษออกมาได้เนี่ยนะ? นี่เจ้าคิดว่าเขาสมควรได้รับความเคารพเช่นนี้จริง ๆ งั้นเหรอ?” หลิงตู้ฉิงเยาะเย้ย “ไม่มีปัญหาถ้าเจ้าต้องการให้ข้าชี้แนะเจ้า แต่เจ้าต้องยอมตะโกนดัง ๆ ว่า ‘เทพโอสถมันกระจอก!’ สามครั้งแล้วข้าจะให้คำชี้แนะกับเจ้า!”