ซูเทียนจิที่เลื่อนดูร้ายการในร้านค้าพบว่าที่นี่ไม่ได้มีแค่ยาอายุวัฒนะเท่านั้น แต่ยังมีแผ่นเพลงต่างๆ ซึ่งเธอเองไม่เคยเห็นมาก่อน นอกจากนี้เธอยังประหลาดใจเข้าไปอีกว่าร้านค้านี้มีเสื้อผ้าขาย!
เมื่อมองไปที่ผ้าฝ้ายดิบที่เธอกำลังสวมใส่แล้ว ชุดในร้านค้าดูสวยหรูหราขึ้นมาทันตาเห็น แต่ด้วยราคาที่สูงมากแถมยังใช้เหรียญทองในการซื้อขายอีก
ด้วยศักดิ์ศรีของผู้ฝึกฝนที่ยิ่งใหญ่ เธอกล่าวขึ้นด้วยความภูมิใจว่า “นี่ท่านยาอายุวัฒนะอันนี้มีราคาห้าหมื่นเหรียญทองเองหรอเท่ากับว่าข้าสามารถใช้เงินเพียงห้าสิบคริสตัลเท่านั้นใช่มั้ย? ถูกดีจัง!”
เธอกำลังควักเงินและพร้อมที่จะจ่ายออกไป โดยคิดว่ามันช่างเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมอย่างมากที่จะซื้อสูตรอาหารอันโอชะในราคาเพียงห้าสิบคริสตัลเท่านั้น!
“ท่านเข้าใจผิดแล้ว” ฟางฉีกลอกตาหลังจอ “ท่านสามารถซื้อมันด้วยเงินของที่นี่เท่านั้น!”
“หะ?” ซูเทียนจิหันมองกระเป๋าที่ว่างเปล่าของเธอแล้วพูดอย่างเหนียมอาย “ข้าไม่มีเงิน!”
“ปลูกผัก! ขายเป็นเงิน!” ฟางฉีตอบพลางไถทุ่งหญ้า เขาพบเข้ากับเมล็ดพืชปริศนาทางจิตวิญญาณ [ท่านจะปลูกมันมั้ย?]
ฟางฉียืนอ่านคำสั่งก่อนจะ กดตกลง
“…”
สิบนาทีต่อมาเฟงหัวหันมองจอของอาจารย์เธอ ขณะกำลังต่อสู้กับสัตว์ประหลาดในเจ้ากระบี่ขั้นเทพ “ท่านอาจารย์ทำอะไร?”
ซูเทียนจิตอบกลับ “ข้ากำลังทำฟาร์ม!”
“ทำฟาร์ม!?” เฟงหัวกับยูซินได้ยินถึงกับผงะเล็กน้อยเมื่อเห็นซูเทียนจิอยู่ในชุดผ้าฝ้ายดิบ
เนื่องจากความแข็งแกร่งในการเพาะปลูกใดๆ ไม่มีผลต่อคิวโซนเหงือจึงเริ่มปรากฏขึ้นบนหน้าผากและหลังของเธอ
“ฟู่ว! ..” ซูเทียนจิหายใจออกและเช็ดเหงื่อขณะที่กำลังเฝ้าดูหัวผักกาดขาวของเธอพลางคำนวณในหัวว่า หนึ่งหัวขายได้สองร้อยเจ็ดสิบห้าเหรียญ ขายหนึ่งหัวซื้อเมล็ดกลับมาได้สองเมล็ด .. จากนั้นนำมาปลูกและขาย อีกไม่นานข้าก็จะได้ยาอายุวัฒนะ ชุดสวยๆ .. เธอวางแผนและคำนวณต่างๆ นาๆ
“ท่านอาจารย์ ท่านคิดอะไรอยู่!?” เฟงหัวและยูซินรู้สึกงุนงงเมื่อเห็นซุเทียนจินั่งพึมพำด้วยความโลภเล็กน้อยบนหน้าจอ
…
ด้านฟางฉีเองเขายังคงไม่พอใจกับสนามหน้าบ้านเท่าไนนักมีเพียงพื้นที่แค่ห้าแปลงเล็กๆ เท่านั้นสำหรับปลูกหัวผักกาด เขามองดูต้นไม้ทางจิตวิญญาณพลางคิดว่าพวกมันต้องไม่โตเป็นแน่จนกระทั่งสองสามชั่วโมงต่อมา .. เขาค้นพบว่าเขาสามารถกำจัดศัตรูพืชและวัชพืชออกเพื่อให้พืชโตได้ไวขึ้น ถ้าเขาไม่ทำแบบนี้มีหวังรออีกนาน
สำหรับต้นพีชที่อยู่มากมายรอบๆ ตัวบ้านพวกมันเป็นต้นไม้ตกแต่งธรรมดาไม่สามารถนำไปขายเพื่อแลกเป็นเงินได้ หลังจากทำงานบ้านทั้งหมดจนเสร็จแล้วฟางฉีเองนั้นกำลังรอเวลาให้พืชโตเต็มที่ ในช่วงเวลานั้นเขาจึงเลือกทำอย่างอื่นไปพลางๆ และแวะเวียนมาดูเป็นครั้งคราว
ขณะที่แวะเวียนดูเขาเองก็ต้องกำจัดศัตรูพืชที่โตไวราวสายฟ้าแลบ มันไม่ได้สำคัญหรือมีผลกระทบอะไรเท่าไรนัก แต่ส่วนหนึ่งมันดูรกหูรกตา
ซูเทียนจิพบว่าสภาพแวดล้อมที่นี้ค่อนข้างผ่อนคลาย เธอเลือกป่าสนและผ่าไผ่พร้อมสำธาร หากเทียบกับมุมมองที่ยิ่งใหญ่จากวังหลิวหยุนแล้ว สถานที่แห่งนี้ช่างเงียบสงบและเป็นส่วนตัว มันทำให้เธอสัมผัสได้ถึงความสวยงามและความสดชื่นที่ซ่อนเร้นในธรรมชาติ
เมื่ออยู่ที่นี่เธอพบว่าอารมณ์และจิตใจของเธอนั้นสดชื่นขึ้นอย่างมาก เธอไม่ต้องการออกจากที่นี่เลย เธอสามารถปลูกผักจิบชาหอมและฝึกฝนกู่เจิง เพื่อเล่นเพลงโปรดของเธอแค่นี้ก็เพียงพอแล้ว
จากนั้นเมื่อถึงเวลาการเก็บเกี่ยวเธอก็เก็บผักและนำไปขายเพื่อแลกเหรีญ สะสมและซื้อของต่างๆ นี่คือชีวิตของการพักผ่อนที่แท้จริง ใจลึกเธอต้องการเพื่อนเธอจึงชวนสาวกทั้งสองทันที “เฟงหัว! ยูซิน! มาปลูกผักกับข้าสิ!”
“ท่านอาจารย์! ความสนุกในการทำความคืออะไร?” เฟงหัวและยูซินมองหน้ากันพวกเธอถามเพราะยังไม่ได้ลองสัมผัส
“ใช่! มันสนุกกว่าการตามหาไอเทมและเพิ่มความแข็งแกร่งในการฝึกฝนอีกหรอ? มันทำอะไรได้บ้าง?”
“มันไม่เสียเวลามาก!” ซูเทียนจิกล่าว “เจ้าเพียงต้องใช้เวลายี่สิบนาทีต่อวันในการเพาะเมล็ดและรดน้ำมัน เห็นมั้ยง่ายมาก!”
หากพวกเขาทำอย่างเดียวกันกับสิ่งที่ปลูกในชีวิตจริงป่านนี้สมุนไพรในฟาร์มแห่งนี้คงตายไปแล้วแหงๆ ซูเทียนจิรู้สึกประหลาใดจกับการเจริญเติบโตของหัวผักกาดที่นี่อย่างมาก เธอกล่าวเสริมว่า “หลังจากปลูกไปแล้วพวกเจ้าสามารถไปเล่นหรือทำอย่างอื่นเพื่อรอเวลากลับมาเก็บเกี่ยวมันได้”
“ง่ายจัง ..” เมื่อฟังกระบวนการที่เรียบง่ายเช่นนี้แล้วสองสาวรู้สึกอยากลองในทันที ไม่นานนักทั้งสองก็กลายมาเป็นเกษตรกรปลูกผักในคิวโซน
“ศิษย์พี่เฟง! ศิษย์น้องยูซิน! พวกเจ้ากำลังเล่นอะไรกัน?” สาวกของวังหลิวหยุนบางคนเดินผ่านมาเห็นสองสาวกำลังไถนาจึงเอ่ยถาม
“ปลูกผัก!” ไม่นานนักเมื่อสาวกรู้ว่าสวนผักนั้นทำให้พวกเขาได้ประโยชน์แม้จะแลกกับเวลาเพียงเล็กน้อยมันช่างคุ้มค่าและน่าสนุก!
ซงฉิงเฟิงที่กำลังเล่นเกมเจ้ากระบี่ขั้นเทพเมื่อได้ยินเรื่องการปลูกผักเขาจึงทักหาฟางฉีทันที [นี่ท่าน ผักเหล่านี้ทำอะไรได้บ้าง? ท่านปลูกมันบ้างหรือเปล่า?]
“ข้าหรอ?” ฟางฉีผู้กำลังเฝ้าร้านตอบทันที
“หืม? เจ้าของร้านกำลังปลูกผักเหมือนกันหรอ?” ซงฉิงเฟิงตะโกนอย่างสงสัย เขาเรียกเพื่อนๆ ของเขาทันที “หลินเซียว ซูเหลียว! มาลองเล่นคิวโศนกันเถอะ! ข้าได้ยินมาว่าเจ้าของร้านก็กำลังปลูกผักในนั้นเหมือนกัน”
“มันจะรบกวนเวลาเล่นเกมของเรามั้ย?” หลินเซียวที่อยู่ในระดับยี่สิบห้าเอ่ยถามเพราะกลัวว่าคนอื่นจะแซงหน้าเขา
“ไม่! มันไม่รบกวน!” ซงฉิงเฟิงกล่าวว่า “ข้าได้ยินมาว่าใช้เวลาปลูกแค่แปปเดียวและรอเวลาเพื่อกลับมาเก็บเกี่ยว ระหว่างรอเราก็ไปทำอย่างอื่นได้ค่อยกลับมาเก็บมัน”
“ไปกันเถอะ ไปปลูกผักกัน!” ในไม่ช้าฟางฉีก็เห็นรายชื่อพวกเขาในคิวโซน
ขณะเดียวกันซูเทียนจิเองก็กำลังเก็บหัวผักกาดชุดแรกและกำลังจะปลูกชุดที่สองตาม เนื่องจากเธอยังมีเหรียญไม่มานักแต่ด้วยความอยากได้กู่เจิง เธอจึงเลือกอันที่ถูกที่สุดและแผ่นเพลง Wind in Pine เธอบรรเลงเพลงไปพลางจิบชาไปหน้าบ้าน
“เฟงหัว ยูซิน!” มาลองฟังเพลงของข้าสิ เจ้าคิดว่าทักษะของข้าเป็นยังไงบ้าง? เธอลากสองสาวกออกจาเกมเจ้ากระบี่ขั้นเทพเพื่อไปยังสวนในคิวโซนของเธอ
“… ดิ่ง ดิ่ง ด๊อง ด๊อง ~”
ในขณะเดียวกันฟางฉีเองก็เลือกซื้อเพลง The Boundless Sea And Sky ด้วยเหรียญที่มีอยู่
“วันนี้ฉันดูเกล็ดหิมะ ที่ล่วงลงผ่าน ..” เขาเองก็สนุกกับการฮัมเพลงในขณะไถทุ่งนาเช่นกัน