ตอนที่ 265

Black Tech Internet Cafe System

“เจ้าได้ยินหรือไม่ว่าเราสามารถปลูกผักในคิวโซนใน QQ ได้ด้วยแถมพืชผักทางจิตวิญญาณในเกมยังสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งในด้านการเพาะปลูกของเราด้วยนะ! มันไม่ต้องการอะไรมากแค่ปลูกและรอเวลาเก็บเกี่ยว!” ผู้เล่นเจ้ากระบี่ขั้นเทพพูดคุยกัน

 

“มันวิเศษขนาดนั้นเลยหรือ?”

 

“เราควรจะลองมั้ย? มันฟรี! แถมเราปลูกเสร็จก็ทิ้งไปทำอย่างอื่นฆ่าเวลาได้!”

 

“ตกลง ไปลองกัน!”

 

 

แม้ว่ารายได้ส่วนใหญ่และผลกำไรจะเป็นของระบบทั้งหมด แต่ในเวลานี้ฟางฉีเริ่มทำรายได้ช้าลงหรือแทบพูดได้เลยว่ามันคงตัว อย่างไรก็ตามรายได้ส่วนหนึ่งจากเมืองครึ่งนั้นดูเหมือนจะไม่กระเตื้องเท่าไรนัก แต่โชคดีที่รัานค้าของเขาเต็มไปด้วยลูกค้า วันนี้เองก็เป็นอีกวันที่ได้เงินจำนวนมากคริสตัลทุกๆ ก้อนมีส่วนร่วมเติมเต็มกระเป๋าเงินของเขา

 

หลังอาหารเย็นฟางฉีนั่งผ่อนคลายด้วย่ทาไขว้ห้าง เมื่อนั่งดูจำนวนเงินเขาก็รู้สึกโล่งใจขึ้น เขาคิดว่าหรือเขาควรหาเวลาไปซื้อของ ผ่อนคลายบ้างจะดีมั้ย?

 

แต่ให้ตายเหอะ! แต่เขาก็ยอมแพ้ให้กับความคิดของเขา รอก่อนดีกว่าข้ายังต้องการเงินมากกว่านี้ .. ด้วยความคิดนี้เขาจึงกลับไปนั่งเปิดคิวโซนเพื่อเชิญเพื่อทุกคนให้มาเป็นเพื่อนกับเขา

 

“มีคนส่งคำเขิญเพื่อนมาให้ข้าหรอ?” ตามคำแนะนำและโน้มน้าวของซูเทียนจิ ซัวเต๋าก็เล่นคิวโซนด้วยเช่นกัน เพราะเธอบอกเขาว่ามันใช้เวลาเพียงเล็กน้อย แต่ได้รับประโยชน์มาก ตอนนี้เขาเลยยุ่งอยู่กับการปลูกผัก!

 

เมื่อมองดูคำเชิญเพื่อนเขาเองลังเลใจที่จะกดเข้าไปดูแต่เมื่อกดเข้าไปแล้วพบว่าเป็นเจ้าของร้านเขาจึงรีบกดตกลงทันที!

 

ผู้เฒ่าฟูที่เพิ่งปลูกผักชุดแรกเสร็จเขาหันไปเล่น Diablo กับนาหลันฮงวูเพื่อฆ่าเวลา แต่สายตาดันไปเห็นว่ามีการแจ้งเตือนมีคำเชิญขอเป็นเพื่อน

 

ฟางฉี?

 

ฟางฉีมีนาหลันฮงวูเป็นเพื่อนอยู่แล้วเชื่อมต่อจาก QQ แล้วเขาขอเพื่อนข้ามาทำไม?

 

“นั่นคืออะไร?” นาหลันฮงวูถามด้วยความอยากรู้

 

“อ่อไม่มีอะไร เจ้าฟางฉีขอข้าเป็นเพื่อน” ผู้เฒ่ากล่าว

 

ตงชิงลี่และจางวันยูเองกำลังดูร้านค้าในคิวโซนกันด้วยความเพลิดเพลิน “ข้าต้องการสิ่งนี้!” ตงชิงลี่ชี้ไปที่ปิกกาจูที่ตัวอ้วนขนฟู “หนูตัวเหลืองนี้น่ารักราคาก็ไม่แพง!”

 

“บ้านหลังนี้ดูโบราณไปหน่อย” จางวันยูกล่าว “ข้าว่าข้าจะเก็บเงินและตกแต่งมันจะได้ดูดีเมื่อข้าชวนเพื่อนๆ มาเที่ยว”

 

“เป็นความคิดที่ดี!”

 

“หืม?” จางวันยูขมวดคิ้ว?

 

“มันคืออะไร?” ตงชิงลี่ถาม

 

“เจ้าของร้านต้องการเพิ่มเพื่อนข้า?” จางวันยูกล่าว “เขามีเจ้าเป็นเพื่อนแล้ว ทำไมต้องเพิ่มข้าด้วยละ?”

 

“เขาอาจจะต้องการรู้จักเจ้าก็ได้!” ตงชิงวลี่คาดเดาอย่างไร้เดียงสา

 

“ไร้สาระ!” เธอตอบส่งๆ

 

ใบลังเองที่กำลังเล่นเจ้ากระบี่ขั้นเทพหยุดมองเมื่อเห็นข้อความโผล่ขึ้นจาก QQ “เจ้าของร้าน เพิ่มข้าเป็นเพื่อน?”

 

“ข้าก็ได้รับข้อความ” ซูฮงยิงที่นั่งข้างๆ เขาอ้าปากค้าง

 

“ข้าก็เช่นกัน!” ซานยันก็ทำหน้างง

 

 

ถึงตอนนี้ร้านชื่อเพื่อนของฟางฉีเองก็เพิ่มขึ้นอย่างมากจากยี่สิบคนในตอนนี้มีเกือบร้อยคนและเขายังคงตามเพิ่มเพื่อนเรื่อยๆ

 

[บอกความจริงมาเดี๋ยวนี้ ทำไมเจ้าต้องการที่จะเพิ่มสาวกของข้าเป็นเพื่อน?] ซูเทียนจิรู้สึกระแวงเล็กน้อยจึงส่งข้อความถามเขา นี่เจ้าเด็กหนุ่มคนนี้ต้องการหลอกล่อสาวกของข้าใช่มั้ย? แถมยังล่อลวงทั้งสองคนในเวลาเดียวกัน ช่างน่ากลัวจริงๆ

 

ขณะที่ซูเทียนจิรู้สึกเพลิดเพลินและมีความสุขกับการเล่นกู่เจิงและเสียงเพลงที่เธอชอบอย่างมาก เมื่อลองฝึกไปได้สักพักรู้ตัวอีกทีก็จบเพลงเสียแล้ว

 

เธอเรียกสองสาวกมานั่งฟัง หลังจากที่รู้ว่าเธอทั้งสองรับเพื่อนฟางฉีแล้ว .. นี่เขากำลังทำอะไรอยู่กันแน่!? ซูเทียนจิสร้างลานแสดงกู่เจิงของเธอไว้ข้างบ้าน หลังจากวางกู่เจิงลงเธอก็บรรเลงเพลงระหว่างรอคำตอบจากฟางฉี

 

ตอนนี้เธอคุ้นเคยกับกู่เจิงอย่างมาก เธอเล่นมันด้วยความเชี่ยวชาญตัวโน๊ตที่คมชัดน้ำเสียงที่บรรเลงออกมามันช่างไพรเราะและคมชัด สาวกทั้งสองคนต่างฮัมเพลงไปตามจังหวะของเพลงพวกเขาปล่อยอารมณ์ไปตามสายลมและเสียงเพลง

 

แน่นอนถ้าพวกเขาไม่เห็นฉากต่อไปนี้ .. พวกเขายังคงเพลินเพลิดต่อไปแน่

 

“อาจารย์ .. นั้นคือ ..” จิตใจของเฟงหัวและยูซินในตอนนี้ว่างเปล่า

 

ซูเทียนจิผู้มีความตั้งใจทุ่งมั่นในการเล่นกู่เจิงหันไปเห็นร่างหนึ่งกำลังขุดหัวผักกาดขนาดใหญ่ของเธอ เธอรีบวิ่งตามไปดึงแขนเขาทันที!

 

“หยุดนะ!” เธอคำรามด้วยความโกรธ เธอวางกู่เจิงไว้ด้านหนึ่งและวิ่งไล่ตามร่างนั้นไปด้วยความเร็วเกียร์หมา!

 

เมื่อเธอวิ่งตามเข้าไปในสวนของเธอ จู่ๆ เจ้าหัวขโมยก็หายไป ดวงตาของเธอลุกเป็นไฟ

 

“ฟางฉี!!!!!!!” เธอกัดฟันกรอด เจ้ากล้าขโมยหัวผักกาดของข้า! ข้าปลุกมาตั้งหลายชั่วโมงแต่ถูกชุบมือเปิบไปเช่นนี้หรือ

 

“ท่านอาจารย์!” เฟงหัวและหยูซินตะโกนเรียกเธอ “ผักของเราก็ถูกขโมยเช่นกัน!”

 

“อะไรนะ!?” ซูเทียนจิที่กำลังโมโหหัวของเธอไฟลุกขึ้นเป็นสองเท่า!

 

ขณะเดียวกันฟางฉีที่เพิ่งถึงบ้านและกำลังนับผักจากการปล้น “ซูเทียนจิหนึ่ง, เฟงหัวหนึ่ง, ยูซินหนึ่ง, จางวันยูหนึ่ง ..”

 

เวลานี้ฟางฉีได้ขโมยผักจากฟาร์มของแต่ละคนมาอย่างละเล็กอย่างละน้อยทำให้เขามีเหรียญทองรวมแล้วเกือบพัน! เขารวย!

 

“ฉันควรซื้ออะไรดี?” ฟางฉีผู้มั่งมีในชั่วข้ามคืนดูรายการที่เพ่งเลงไว้

 

“เมล็ดพันธุ์ ข้าจะซื้อมาปลูกต่อ อืม .. เสื้อผ้าสักสองชุด อ่อเสื้อคลุมสีฟ้า” เขาเลือกด้วยความสนุก

 

“ข้าจะซื้อสุนัขด้วย!” ฟางฉีเชื่อว่าสุนัขเป็นสิ่งที่จำเป็นของบ้าน เขากดเข้ามาในโหมดสัตว์เสี้ยงทันที มีสุนัขสองชนิดคือหนึ่งเลี้ยงทั่วไปและสองไว้เฝ้าบ้านหลังฝึกอบรบ แต่อย่างที่สองมีราคาแพงกว่ามาก

 

ฟางฉีเรียกดูรายการ “อืม .. น่าสนใจ” ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจซื้อพันธุ์อาคิตะมา

 

“ฟางฉี!” จู่ๆ เสียงของซูเทียนจิก็ดังขึ้นจากความมืด ร่างของเธอค่อยๆ โผล่ออกมาจากความมืดในสวน “คืนหัวผักกาดข้ามาซะดีๆ!”

 

“ทำไม?” ฟางฉีพูดด้วยความไม่รู้ไม่ชี้ “ข้าขโมยมาด้วยความสามารถของข้า ทำไมข้าต้องคืนมันด้วย!”

 

ซูเทียนจิจิ้ปากของเธอ เธอยกมือขึ้นมาทำท่าจะตีเขา

 

เขายกมือมากันและรีบวิ่งหนีไปทันที!