ตอนที่ 354 หัวใจสั่นไหว

ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ

— ปัง! —

มู่เฉียนซีถีบเขากระเด็นออกไปอีกครั้ง  นางตัดสินใจที่จะออกไปและแยกกับบุรุษนุ่มนิ่มน่ารำคาญผู้นี้ ทางที่ดีอย่าได้เจอะเจอกันอีกเลย

จักรพรรดิปิงเสว่หลิงตี้กล่าวว่า “ในเมื่อเชียนอ้าวเซี่ยได้กระบี่วิญญาณน้ำแข็งแล้ว สุสานนี้ก็จะจมลงสู่ก้นบึ้งของชั้นน้ำแข็ง พวกเจ้ารีบออกไปเถอะ”

“ไปกันเถอะ”

มู่เฉียนซีและเชียนอ้าวเซี่ยรีบถอยออกไปในทันที  เมื่อพวกเขาเดินออกจากสุสาน งูเหลือมยักษ์ทั้งสองตัวก็รออยู่ด้านนอก พวกมันดูดุร้ายเต็มที่

“เจ้ามนุษย์สารเลวทั้งสอง ในที่สุดพวกเจ้าก็ออกมากันเสียที”

พวกมันจ้องมองมู่เฉียนซีและเชียนอ้าวเซี่ยอย่างดุร้าย

มู่เฉียนซีกล่าวขึ้น “เสี่ยวหง อู๋ตี้ พวกเจ้าไปปะทะกับพวกมันอีกสักหน่อยซิ”

“ได้เลยนายท่าน”

อู๋ตี้และเสี่ยวหงรีบพุ่งออกไป  ต่อสู้กับงูเหลือมหิมะและงูเหลือมเพลิงอีกครั้ง

“เป็นเจ้าสารเลวสองตัวนี้อีกแล้ว รนหาที่ตายแท้ ๆ!”

— ตูม!  ตูม! —

พวกมันทั้งสี่ต่อสู้กันอีกครั้ง

มู่เฉียนซีไม่ได้คิดว่าจะต้องแพ้หรือชนะ เพียงแต่นางต้องได้ดอกบัวผลึกน้ำแข็งเก้าชั้นมาถึงจะยอมจากไป  นางฉวยโอกาสพุ่งเข้าใส่ดอกบัวผลึกน้ำแข็งเก้าชั้นนั้น

เวลานี้งูเหลือมหิมะโกรธยิ่งนัก พายุหิมะอันน่าสะพรึงกลัวพุ่งตรงเข้าใส่มู่เฉียนซี

“โล่วิญญาณวารี!”

งูเหลือมหิมะใกล้เข้ามาแล้ว มันเกือบจะกลืนมู่เฉียนซีลงท้อง แต่แล้วร่างสีขาวหิมะก็พุ่งเข้ามา กวัดแกว่งกระบี่วิญญาณน้ำแข็งเพื่อป้องกันมู่เฉียนซี

“เจ้ากล้าแตะต้องเสี่ยวซีซีของข้าก็ลองดู” เชียนอ้าวเซี่ยกล่าวอย่างเย็นชา

ม่านตาของงูเหลือมหิมะหดเล็กลงทันที “กระบี่วิญญาณน้ำแข็ง เจ้าเป็นลูกหลานของจักรพรรดิปิงเสว่หลิงตี้รึนี่!”

“กล้าดีอย่างไรมาแตะต้องนายท่านของข้า!” อู๋ตี้โกรธกรุ่น มันตะคอกพลางกระโจนเข้าใส่

— ตูม! —

งูเหลือมหิมะถูกตบกระเด็นออกไป ส่วนงูเหลือมเพลิงเพียงมองเชียนอ้าวเซี่ยกับกระบี่เล่มนั้น มันไม่ได้ลงมือทําอะไรบุ่มบ่าม

งูเหลือมหิมะ “พวกข้าไม่รู้ว่าเป็นลูกหลานของท่านจักรพรรดิ หากเป็นลูกหลานของท่านจักพรรดิ เช่นนั้นดอกบัวผลึกน้ำแข็งเก้าชั้นนี้พวกข้าจะใส่พานถวายให้”

เดิมทีคิดว่าจะมีการต่อสู้ที่ดุเดือดแต่ตอนนี้กลับจบลงอย่างสงบ

งูเหลือมหิมะให้มู่เฉียนซีเก็บสมุนไพรอย่างใจกว้าง มู่เฉียนซีดีใจอย่างมาก  นางเก็บดอกบัวผลึกน้ำแข็งเก้าชั้นลงมาอย่างระมัดระวัง พลางเก็บมันไว้อย่างอ่อนโยนราวกับว่ามันคือเด็กที่ต้องการการดูแล

เชียนอ้าวเซี่ยเห็นมู่เฉียนซีเช่นนี้ก็ถึงกับยืนอึ้ง นางหยิ่งยโส เผด็จการ เย็นชา ไร้ความปราณี สิ่งเหล่านี้เขาได้เจอมาหมดแล้ว  แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นเสี่ยวซีซีในมุมอ่อนโยนเช่นนี้ …ราวกับรังสีของแสงแดดที่ทำให้หัวใจของเขาสั่น

มู่เฉียนซีเก็บดอกบัวผลึกน้ำแข็งเก้าชั้นไว้แล้ว ครั้งหน้าหากท่านอาเล็กป่วย นางก็ไม่จําเป็นต้องตื่นตระหนกอีกแล้ว

แต่ทว่า…

มู่เฉียนซีถามขึ้น “พวกเราจะออกไปจากที่นี่ได้อย่างไรรึ ?”

งูเหลือมหิมะ “พวกข้ารู้ทางไปด้านบน พวกเจ้าขึ้นมาบนตัวข้า ข้าจะพาพวกเจ้าขึ้นไปเอง”

พวกมันรู้จักที่จะตอบแทนคุณที่ในตอนนั้นจักรพรรดิปิงเสว่หลิงตี้เคยช่วยพวกมันไว้

มู่เฉียนซียืนอยู่บนหลังของงูเหลือมหิมะอย่างสงบนิ่ง แต่เชียนอ้าวเซี่ยกลับเกาะไว้แน่น เขากล่าวเสียงสั่นว่า “เสี่ยวซีซี ขะ… ข้ากลัว”

คนทั่วไปหากต้องมายืนอยู่บนสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับสาม จะไม่กลัวได้อย่างไร ?

งูเหลือมหิมะรู้สึกจนปัญญาเสียจริง มนุษย์ผู้นี้จะเป็นลูกผู้ชายหน่อยไม่ได้เลยเชียวหรือ ?

หากไม่ใช่เพราะเขาถือกระบี่วิญญาณหิมะในมือ มันคงไม่เชื่อว่าบุรุษผู้นี้เป็นลูกหลานของจักรพรรดิปิงเสว่หลิงตี้จริง ๆ แน่

“เจ้ามายืนหรือไม่ก็นั่งดี ๆ ให้ไวเลย ไม่เช่นนั้นข้าจะไปแล้ว” มู่เฉียนซีกล่าวอย่างเย็นชา

“ไม่เอา” เชียนอ้าวเซี่ยกล่าวทว่าเขาก็รีบปีนขึ้นไป

งูเหลือมหิมะเลื้อยไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วเพื่อพาพวกเขาออกไป เพราะความเร็วที่จัดว่าเร็วมาก เชียนอ้าวเซี่ยจึงเกือบจะตกลงมาอยู่หลายครั้ง

มู่เฉียนซีได้ยินเสียงครวญครางของเขาตลอดทาง “เสี่ยวซีซี นี่มันเร็วมาก ข้ากลัวเหลือเกิน!”

“เสี่ยวซีซี อ๊าก! ช่วยด้วย”

“ฮือ! เสี่ยวซีซีเจ้าไม่สนใจข้าเลย”

เสียงเอะอะโวยวายนั่นทําให้งูเหลือมหิมะแทบอยากจะโยนบุรุษผู้นี้ลงไป  เขาเสียงดังเกินไปจริง ๆ

หากไม่ใช่เพราะเขาเป็นลูกหลานของจักรพรรดิปิงเสว่หลิงตี้ มันคงกลืนกินลงท้องไปนานแล้ว

ในที่สุดพวกเขาก็ขึ้นมาถึงส่วนที่เป็นที่ราบ เชียนอ้าวเซี่ยถูกโยนลงบนพื้น เขาตะโกนออกมาขณะที่มู่เฉียนซีกับงูเหลือมหิมะเข้ามาใกล้

งูเหลือมหิมะ “มนุษย์เอ๋ย… ข้าส่งพวกเจ้าเท่านี้” มู่เฉียนซีพยักหน้าก่อนจะกล่าวว่า “ขอบคุณเจ้ามาก ข้าเอาดอกบัวผลึกน้ำแข็งเก้าชั้นของพวกเจ้าไป เรื่องนั้นข้าต้องขอโทษเป็นอย่างมาก นี่เป็นสิ่งที่ข้าจะขอมอบให้พวกเจ้าเพื่อทดแทน”

“ยาเม็ด ยาแบบฉีด!” งูเหลือมหิมะตะลึงงันเมื่อเห็นสิ่งของเหล่านี้

มันปฏิเสธ “ข้าขอไม่รับไว้  ต้องขออภัย พวกเราไม่ใช่มนุษย์”

“วางใจเถอะ ยาเหล่านี้ก็มีประโยชน์กับพวกเจ้า พวกเจ้าลองดูแล้วจะรู้เอง”

งูเหลือมหิมะรู้สึกถึงความจริงใจของมู่เฉียนซี ดังนั้นมันจึงเก็บของเหล่านั้นเอาไว้ หลังจากงูเหลือมหิมะจากไป มู่เฉียนซีมองไปทางเชียนอ้าวเซี่ยที่นอนอยู่บนพื้นโดยกำลังแกล้งตาย  นางกล่าวขึ้น “ข้าจะไปแล้ว หากเจ้าอยากนอนอยู่ที่นี่ให้สัตว์วิญญาณมากินละก็ เชิญนอนต่อไปได้เลย”

เชียนอ้าวเซี่ย “เสี่ยวซีซี ข้าเหนื่อยแล้ว เจ้าแบกข้าไปหน่อยสิ”

“เจ้าตัวหนักนัก  เดินเองเถอะ”

“ข้าตัวไม่หนัก จริง ๆ นะเจ้าเชื่อข้าเถอะ” เชียนอ้าวเซี่ยมองไปทางมู่เฉียนซีด้วยสายตาเว้าวอน

“เจ้าอย่ามากระทำตัวน่ารำคาญ  เจ้าดูแลตัวเองจะดีกว่า”

จะให้มีอีกกี่พฤติกรรม มู่เฉียนซีก็ยืนยันว่านางคร้านที่จะสนใจเขาผู้นี้แล้วจริง ๆ เมื่อเห็นว่ามู่เฉียนซีกำลังจะเดินจากไปไกล เชียนอ้าวเซี่ยจึงดันร่างลุกขึ้นมา จากนั้นเขาวิ่งอย่างสุดกำลังพุ่งตามมู่เฉียนซีไป

“เสี่ยวซีซี เจ้าอย่าโกรธไปเลย ข้าเพียงแค่ล้อเล่นกับเจ้าเท่านั้นเอง”

“เสี่ยวซีซีน้อย พวกเราจะไปไหนกันหรือ ?”

“เราก็ออกไปให้ไกลจากที่พื้นราบน้ำแข็งนี้อย่างไรเล่า”

นางมายังทุ่งน้ำแข็งแห่งนี้เพื่อที่จะเพิ่มความแข็งแกร่งของตนเอง อีกประการคือเพื่อที่จะตามหาสมุนไพรวิญญาณ

ความแข็งแกร่งของนางนั้นได้เพิ่มขึ้นถึงขั้นปรมาจารย์ภูตระดับเก้าแล้ว ส่วนสมุนไพรวิญญาณนั้น นางก็ได้หาดอกบัวผลึกน้ำแข็งเก้าชั้นพบแล้ว ต่อจากนี้ต้องไปจากที่แห่งนี้เพื่อหาข่าวของหม้อเทพนิรันดร์หรือไม่ก็ข่าวของหุบเขาหมอเทวดา “ได้สิ เสี่ยวซีซี อย่างไรข้าก็ตามเจ้าไปแน่นอนอยู่แล้ว”

ในตอนที่มู่เฉียนซีกำลังจะออกไปจากทุ่งน้ำแข็งนั้น องครักษ์ของเชียนอ้าวเซี่ยก็หาตัวเขาพบ “คุณชาย ในที่สุดพวกเราก็พบท่านแล้ว”

“ฮืมมมม! คุณชาย โชคดีที่ท่านไม่เป็นอะไร มิเช่นนั้นพวกเราก็ไม่รู้ว่าจะอธิบายให้นายทานใหญ่ฟังเช่นไรขอรับ”

“คุณชาย…”

พวกคนเหล่านั้นร้องไห้โฮออกมา เชียนอ้าวเซี่ยขมวดคิ้วทันที “พวกเจ้าร้องไห้ทำไมกัน ? ข้าเพียงแค่ไปโลกที่มีเพียงสองคนกับเสี่ยวซีซีเท่านั้นเอง พวกเจ้ากังวลอะไรนักหนาหรือ ?”

“ฮืออออ… คุณชาย”

……

มู่เฉียนซีและเชียนอ้าวเซี่ยกลับมาถึงที่เมืองปิงเฟิงอีกครั้ง มู่เฉียนซีนั้นจะเข้าพักในโรงเตี๊ยม คุณชายเซี่ยเมื่อได้รู้ เขาก็รีบเหมาทุกห้องในโรงเตี๊ยมโดยที่ตัวเขาเองเลือกพักอยู่ห้องข้าง ๆ มู่เฉียนซี

ปรากฏว่าเมื่อถึงตอนกลางคืน คุณชายเซี่ยปีนข้ามไปห้องนางจากทางหน้าต่าง หวังจะได้ทำบางสิ่งกับนาง

มู่เฉียนซีลืมตาตื่นขึ้นมา เดิมทีนางนั้นกะจะฆ่าผู้ที่บุกรุกเข้ามาทุกคน แต่เวลานี้เห็นใบหน้าหนึ่งที่คุ้นเคย นางกะพริบตา มองไปยังใบหน้าที่งดงามไร้ที่ติเหมือนดั่งปีศาจหิมะก่อนจะกล่าวขึ้นอย่างเย็นชา “หยุดเดี๋ยวนี้! เจ้าไสหัวกลับไปซะ!”

ทว่าเชียนอ้าวเซี่ยไม่ฟัง เขาเข้าไปใกล้นางอย่างไม่เกรงกลัวความตาย ปากก็กล่าวขึ้น “เสี่ยวซีซี เจ้าต้องเชื่อใจข้า ข้าจะไม่ทำให้เจ้าเจ็บ”

มู่เฉียนซีกล่าว “ได้! เช่นนั้นอาภรณ์ทั้งหมดของเจ้า เจ้าถอดออกก่อน”

ผิวขาวราวหิมะเวลานี้เจือด้วยสีแดงระเรื่อ  เขากล่าวขึ้นอย่างเขินอายว่า “อืม ข้ารู้ว่าเสี่ยวซีซีนั้นยังคงชอบข้า ข้าดีใจเป็นอย่างมาก”

จากนั้นเขาก็ถอดผ้าอาภรณ์ทุกชิ้นออกอย่างสง่างาม รอจนเมื่อเขาถอดเสร็จ มู่เฉียนซีก็ผูกเขาไว้กับสายรัดเอวของเขาและแขวนมันไว้บนคานห้อง

นางหัวเราะหยอกล้อ “ฮ่า ๆ ๆ คุณชายเซี่ย คืนนี้พระจันทร์งดงามไม่เลวเลย เจ้าค่อย ๆ เชยชมมันไปแล้วกัน  ห้องนี้นั้นข้าอยู่ไม่ได้แล้ว”

มู่เฉียนซีผลักประตูห้องเปิดออกเตรียมย้ายห้อง  ทว่าทันใดนั้น นางถูกเงาร่างสีดำเงาหนึ่งโฉบเอาตัวไป

.

.

.