ตอนที่ 1418

Genius Doctor Black Belly Miss

ตอนที่ 1418  ผู้ใจบุญ (3)

“ท่านผู้ใจบุญ!  ท่านเป็นคนดีจริงๆ  ถ้าไม่ใช่เพราะท่าน  เด็กๆพวกนี้คงทรมานมาก  ข้าขอขอบคุณท่านผู้ใจบุญแทนทุกคนด้วย  พวกเราเป็นหญิงแก่กับเด็กที่อ่อนแอ  ไม่มีอะไรตอบแทนท่านได้เลย  ขอท่านรับการคารวะจากข้าด้วย!”  พูดจบหญิงชราก็จะคุกเข่าลงคำนับ  แต่ชายคนนั้นก็รั้งแขนทั้งสองข้างของนางเอาไว้

“คำพูดของแม่เฒ่าทำให้ข้าละอายใจนัก  โลกเกิดกลียุคขึ้น  แต่ข้ากลับอ่อนแอเกินกว่าจะต่อสู้กับศัตรูเพื่อปกป้องประเทศ  ทำได้แค่อยู่ที่นี่คอยช่วยเหลือคนที่ต้องการความช่วยเหลือ  แม่เฒ่าไม่ต้องเกรงใจ  ถ้าในอนาคตต้องการอะไรก็ไปหาข้าที่ฝูหยวนถังที่อยู่ทางตะวันออกของเมืองได้ทุกเมื่อ  ข้าชื่อลั่วซี  เป็นเจ้าของฝูหยวนถัง”  ลั่วซีพูดด้วยรอยยิ้ม

หญิงชรารู้สึกซาบซึ้งใจมาก  นางมองลั่วซีที่หน้าตาดีและอ่อนโยน  เชื่ออย่างแท้จริงว่าเขาคือคนที่ดีที่สุดในโลก

หลังจากผู้หญิงที่มีลูกป่วยคนอื่นๆได้ยินคำพูดของลั่วซีก็รู้สึกประหลาดใจมาก  ตั้งแต่หนีภัยมา  พวกนางไม่ได้พบเจอคนดีมีน้ำใจเช่นนี้มานานแล้ว

“ท่านผู้ใจบุญเป็นเจ้าของฝูหยวนถังนี่เอง  ฝูหยวนถังเป็นร้านขายยาที่ใหญ่ที่สุดในเมืองชิงเฟิง  ข้าเคยได้ยินมาว่าฝูหยวนถังมักจะช่วยผู้ลี้ภัยบ่อยๆ  ไม่นานมานี้เด็กของครอบครัวหนึ่งป่วยหนัก  พวกเขาเป็นผู้ลี้ภัยที่หนีมาจากเมืองอื่น  ไม่มีเงินติดตัวเลย  แต่หลังจากขอร้องฝูหยวนถัง  ฝูหยวนถังก็ช่วยเด็กโดยไม่เก็บเงินเลยสักอีแปะ  แถมยังรับครอบครัวนั้นให้ช่วยงานที่ร้านด้วย  ตอนนี้ครอบครัวนั้นก็สบายเลย”  คนที่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นก็ประกาศความดีของลั่วซีให้ผู้คนรับรู้ทันที

กลุ่มคนที่เพิ่งเข้าเมืองรู้สึกอิจฉาอย่างมากเมื่อได้ยินเช่นนั้น  ดูจากการแต่งกายของลั่วซีก็รู้ได้ว่าธุรกิจบ้านเขารุ่งเรืองทีเดียว  แถมยังเป็นคนใจดีอีกด้วย  พวกเขาจึงไว้ใจลั่วซีอย่างเต็มที่โดยไม่รู้ตัว

ถึงยังไง  พวกเขาที่เป็นผู้ลี้ภัยก็ไม่มีทั้งเงินและอำนาจ  ดังนั้นลั่วซีจึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเสแสร้ง  เนื่องจากพวกเขาไม่มีอะไรจะให้เขาได้

ลั่วซีอยู่ในค่ายผู้ลี้ภัยอีกพักหนึ่งก่อนจะจากไปพร้อมผู้ติดตาม  ตอนที่เขากลับออกไป  ผู้ลี้ภัยต่างพากันมาส่งเขาตลอดทาง  คำพูดขอบคุณดังเข้าหูลั่วซีอย่างต่อเนื่อง

แต่ทว่า  หลังจากลั่วซีเดินออกจากค่ายผู้ลี้ภัยได้ไม่นาน  รอยยิ้มอ่อนโยนบนใบหน้าของเขาก็หายไปอย่างรวดเร็ว  เขาขมวดคิ้วมองมือทั้งสองข้างของตัวเองพร้อมพูดด้วยความรังเกียจว่า  “สกปรกชิบหาย!”

“นายน้อย  นี่ขอรับ”  ผู้ติดตามคนหนึ่งส่งผ้าเช็ดหน้าสะอาดให้เขาทันที

ลั่วซีดึงผ้าจากมือของผู้ติดตามและเช็ดมืออย่างโกรธเกรี้ยวอยู่พักหนึ่ง  “สะอิดสะเอียนจนแทบอ้วก  ทำไมที่นี่มันถึงได้เหม็นขนาดนี้?  ให้ตายเถอะ  ยัยแก่หนังเหี่ยวนั่นจะคุกเข่าทำบ้าอะไร  บังคับให้ข้าต้องแกล้งพยุงมันขึ้นมา  โคตร……ขยะแขยง”

ใบหน้าของลั่วซีแสดงความรังเกียจออกมาอย่างโจ่งแจ้ง  แตกต่างจากภาพลักษณ์ที่อ่อนโยนในค่ายผู้ลี้ภัยก่อนหน้านี้ราวกับคนละคน

“นายน้อยระงับความโกรธหน่อยเถอะขอรับ  ทำไมต้องทำให้ตัวเองหัวเสียกับยัยแก่แบบนั้นด้วย?  เดี๋ยวพรุ่งนี้ข้าน้อยจะให้คนมาจัดการนางนะขอรับ”  ผู้ติดตามที่ยืนอยู่ข้างๆพูด

ลั่วซียังคงขมวดคิ้ว  “ไม่ต้อง”

“ปล่อยให้ยัยแก่นั่นมีชีวิตอยู่ต่อไปอีกหน่อย  รอจนกว่าคนใหม่ที่เข้ามารู้ว่าข้าดีแค่ไหนก่อน  ตอนนั้นค่อยฆ่ามันก็ยังไม่สาย  ตอนนี้มันยังมีประโยชน์อยู่”

“ขอรับ”

“เอาล่ะ  รีบกลับกันเถอะ  อย่าปล่อยให้นายท่านรอนาน”  ลั่วซีโยนผ้าเช็ดหน้าลงบนพื้นถนนแล้วก้าวยาวๆจากไป

พวกลูกสมุนของเขาก็รีบตามไปอย่างกระตือรือร้น

น่าเสียดายที่ลั่วซีผู้ชั่วร้ายไม่ได้สังเกตเห็นเลยแม้แต่นิดเดียวว่า  ทุกคำพูดและทุกการกระทำของเขา  ถูกคนอื่นเห็นเข้าซะแล้ว

จวินอู๋เสียยืนอยู่ในเงามืด  เฝ้ามองลักษณะท่าทางที่แตกต่างกันทั้งก่อนและหลังของลั่วซี  มุมปากของนางยกขึ้นเป็นรอยยิ้มเย็นชา

“พวกหน้าไหว้หลังหลอก”  เจ้าแมวดำที่นอนอยู่บนไหล่ของจวินอู๋เสียพูดขึ้น  “ผู้ชายคนนี้จิตใจชั่วร้ายจริงๆ  นางแค่แสดงความขอบคุณ  แต่เขากลับอยากฆ่านาง  เลวจริงๆ!  เจ้านาย  เจ้าหมอนี่ต้องมีอะไรสักอย่างแน่  เขาต้องเป็นไอ้สารเลวจากสิบสองวิหารแน่ๆ!”