ตอนที่ 155 ราคาขึ้น

บุตรอสูรบรรพกาล

ตอนที่ 155 ราคาขึ้น

“หืม…”ไป๋จูเหวินลืมตาตื่นขึ้นมาในตอนเช้าบนเตียงภายใน ห้องพักของมันที่ไม่ค่อยได้กลับมานอนนัก เพียงแต่ยามนี้เบื้องหน้าของมันกลับพบเพดานสีขาวสะอาดที่ไม่คุ้นเคยเสียอย่างนั้น

“นี่มัน…”ไป๋จูเหวินมองเพดานตรงหน้าพลางขมวดคิ้วเล็กน้อย

“ปิงปิง เจ้าอย่ากลายร่างเป็นแมงมุมตอนอยู่ในห้องสิ”ไป๋จูเหวินว่าพลางใช้มือตีท้องของปิงปิงไปสองสามที ทําให้นางตื่นขึ้นมากลายร่างเป็นมนุษย์อีกครั้งอย่างรวดเร็ว 

“คุณชาย อรุรสวัสดิ์เจ้าค่ะ” หงเย่ที่นอนอยู่ไม่ห่างจากไป๋จูเหวินนักกล่าวทักทายพลางมองหลินหลินกับปิงปิงที่กลับไปหลับอีกรอบแล้ว

“วันนี้ก็ฝากดูแลเด็กๆด้วยนะ”ไป๋จูเหวินว่าพลางลูบหัวแมงมุมเด็กทั้งสองนางที่นอนอยู่บนเตียงของมัน

“เจ้าค่ะ” หงเยว่รับคําอย่างเคยชินเพราะ 2 เดือนมานี้ ไป๋จูเหวินยุ่งกับงานของกลุ่มนักล่าอสูรตลอดเวลา จนแทบจะไม่มีเวลามาดูแลพวกนางเลย ทําให้หงเยว่ต้องทําหน้าที่พี่เลี้ยงเด็กไปก่อนจนกว่างานในครั้งนี้จะเสร็จ แม้พวกเด็กๆจะงอแงกันบ้าง แต่ก็ยอมเชื่อฟังไป๋จูเหวินอยู่ดี 

“นายน้อยยย”ยังไม่ทันเดินออกมาพ้นหน้าประตูห้องดี ร่างของคนส่งสารจากหน่วย 10 ก็ทะยานเข้ามาหาไป๋จูเหวินอย่างรวดเร็ว

“มีเรื่องอะไรงั้นเหรอ”ไป๋จูเหวินถามพลางเดินมาทางผู้ส่งสารด้วยท่าที่คุ้นเคย

“ยาของสมาคมแพทย์ปรับราคาลงแล้วขอรับ”ได้ยินคนส่งสารรายงาน ไป๋จูเหวินก็ไม่มีท่าที่ประหลาดใจนัก เรียกได้ว่านั่นเป็นการรับมือขั้นพื้นฐานที่ควรจะมีเลยก็ว่าได้

“ปรับเหลือเท่าไหร่ล่ะ”ไป๋จูเหวินถามขณะเดินไปยังหน่วยที่ 10 อย่างเคยชิน

“เหลือ 1 เหรียญทองเท่ากับยาของเราขอรับ”ได้ยินรายงานไป๋จูเหวินก็พยักหน้ารับรู้เล็กน้อย

“นายน้อย ทําไมท่านไม่ประหลาดใจเลยหรือ” คนส่งสารถามพลางเลิกคิ้วอย่างสงสัย กว่าข่าวจะมาถึงกลุ่มนักล่าอสูรก็ผ่านไปแล้ว 3 วัน จํานวนยาที่กลุ่มนักล่าอสูรขายได้ลดลงอย่างมากเพราะหากให้เลือกยาที่ราคาเท่ากันคนเราย่อมต้องเลือกยาที่สร้างจากสมุนไพรชั้นกลางมากกว่าไม่ใช่หรืออย่างไร 

“จะเรียกว่าคิดเอาไว้อยู่แล้วก็ได้ละมั้ง”ไป๋จูเหวินยิ้มบางๆพลางกระโดดไปยืนบนกําแพงของวังมังกรอย่างรวดเร็ว ยามนี้การเดินทางระหว่างเขตสําหรับไป๋จูเหวินนั้นราวกับเป็นเรื่องธรรมดาไปเสียแล้ว เพราะมันแทบจะต้องเดินไปยังหน่ว ยต่างๆจนครบเลยก็ว่าได้

“นายน้อย ท่านทราบข่าวแล้วสินะขอรับ” รองอาวุโสหน่วย 10 ว่าพลางยิ้มรับที่ไปจเหวินเดินทางมายังห้องประชุมของหน่วยมัน

“อย่างน้อยพวกนั้นก็รู้จักตอบโต้ล่ะนะ” ผู้ช่วยอาวุโสว่าพลางหัวเราะออกมา

“ช่วยไม่ได้หรอก จะคาดหวังให้แพทย์มาทําการค้าแข่งกับพ่อค้าได้อย่างไร” รองอาวุโสหัวเราะพลางพาไป๋จูเหวินไปนั่งที่เก้าอี้

“นอกจากปรับราคาลงแล้วไม่มีอย่างอื่นเลยงั้นเหรอ”ไป๋จูเหวินถาม เพราะเรื่องปรับราคาลงนั้นเป็นเรื่องที่ควรจะทําอยู่แล้ว หากไม่ทํายาของสมาคมแพทย์ก็จะขายไม่ออก และขาดทุนไปเฉยๆเท่านั้น

“ขอรับ นอกจากลดราคายาแล้วก้มีการปล่อยข่าวลือเรื่อง ยาตัวใหม่ขอรับ”ผู้ช่วยอาวุโสรายงาน

“ข่าวลือ? เป็นข่าวลือเช่นไร”ไป๋จูเหวินถามพลางเลิกคิ้วอย่างสนใจ

“เป็นข่าวลือเรื่องความน่าเชื่อถือของผู้ผลิตยาขอรับ”ผู้ช่วยอาวุโสว่าพลางพยายามกลั้นขําเอาไว้

“ไม่ใช่ว่าเราประกาศออกไปแล้วหรอกหรือว่าผู้ขายคือกลุ่มนักล่าอสูร”ไป๋จูเหวินมีท่าที่งุนงงทันที เพราะพวกมันไม่ได้ปิดบังเรื่องนี้เอาไว้เลย ตรงกันข้ามพวกมันแทบจะใช้ชื่อของกลุ่มนักล่าอสูรเพื่อกระจายยาออกไปเสียด้วยซ้ำ

“นั่นสิขอรับ ข้าถึงได้บอกไงว่าจะให้แพทย์มาทําการค้าแข่งกับพ่อค้าคงยากสักหน่อย” รองอาวุโสว่าพลางส่ายหน้าช้าๆ หากสืบสักหน่อยคงจะรู้เรื่องของกลุ่มนักล่าอสูรได้ไม่ยาก แต่ท่าทางพวกมันจะไม่ได้ตรวจสอบอะไรเลยเพราะมัวแต่หลงระเริงกับการครอบครองสูตรยาเอาไว้คนเดียวมานานกระมัง ถึงขนาดปล่อยข่าวลืออกมาว่าผู้ที่สร้างยาชนิดใหม่เป็นกลุ่มน่าสงสัยที่ไม่มีความน่าเชื่อถือนี่มัน…”

“ท่าทางพวกมันจะไม่ได้รู้เป้าหมายที่แท้จริงของนายน้อยเลย”ผู้ช่วยอาวุโสว่าพลางส่ายหน้าอย่างเอือมระอา

“อีกอาทิตย์นึ่งพวกมันก็จะรู้แล้ว ไม่ต้องรีบไปหรอก”รองอาวุโสว่าพลางทํางานของตนต่อราวกับจํานวนยาที่ขายได้น้อยลงในครั้งนี้เป็นเรื่องปกติเสียอย่างนั้น

.

.

“เป็นอย่างไรบ้าง” หัวหน้าสมาคมแพทย์ถามขณะลูกน้องของตนเดินทางกลับเข้ามาในห้องประชุม

“เป็นไปตามแผนขอรับท่านหัวหน้ายาของเรากลับมาขายได้อีกครั้งหลังจากปรับลดราคาลงขอรับ”แพทย์ฝึกหัดผู้ทําหน้าที่รายงานพูดด้วยท่าทียินดี

“หึหึ ยาจากสมุนไพรระดับต่ําจะมาสู้ยาชั้นยอดของพวกเราได้อย่างไรกัน” หัวหน้าสมาคมแพทย์ว่าพลางหัวเราะออกมา แม้จะต้องลดราคาลงกว่า 4 เหรียญทองแต่ยาของมันก็ยังสร้างกําไรได้เม็ดละ 50 เหรียญเงิน ด้วยจํานวนที่มันมีในตอนนี้คงจะสร้างกําไรให้สมาคแพทย์ได้อีกนับล้านเหรียญทองเลยที เดียว

“ท่านหัวหน้า” ขณะกําลังฟังรายงานจากแพทย์ฝึกหัดอยู่ๆ ก็มีชายคนหนึ่งในชุดแพทย์อาวุโสเร่งเดินเข้ามาในห้องประชุม

“มีอะไรหรืออาวุโสจินจู่” หัวหน้าสมาคมถามพลางยิ้มออกมาอย่างอารมดี

“สมุนไพรที่เราเตรียมเอาไว้ใกล้จะหมดแล้วขอรับ”อาวุโสจินจู่ว่าพลางคุกเข่าลงกับพื้น

“มัวรออะไรอยู่ล่ะ ก็ไปซื้อมาสิ” หัวหน้าสมาคมว่าพลางโยนเงินให้กับอาวุโสจินจู่

“ขอรับ”อาวุโสจินจู่ตอบรับพลางยิ้มออกมา ความจริงมันชอบทําหน้าที่รับซื้อสมุนไพรมากเพราะนอกจากจะได้เงินทอนมานิดหน่อยจากการกดราคาของมันแล้ว มันยังชอบเวลาที่พวกกลุ่มนักล่าอสูรทําท่าที่ไม่พอใจเวลามันกดราคาอีกต่างหาก แถมพวกมันยังทําอะไรไม่ได้เสียอีกทําเอามันแทบจะหัวเราะออกมา

การเดินทางจากสมาคมแพทย์มายังเมืองร้อยแปดอสูรจําเป็นต้องใช้เวลา 1 อาทิตย์ ทําให้กว่าอาวุโสจินจู่จะเดินทางมาถึงเมืองร้อยแปดอสุรก็เป็นเวลานัดส่งสมุนไพรของเดือนที่ 3 แล้วนั่นเอง

“ไม่ได้พบกันนานนะเจ้าศิษย์เอก”อาวุโสจินจู่ที่เดินทางเข้ามาในห้องประชุมของหน่วย 10 พูดพลางมองไปจูเหวินที่นั่งรอมันอยู่แล้วด้วยท่าที่ยิ้มเยาะ

“ไม่ได้พบกันนานจริงๆท่านอาวุโสจินจู่”ไปจูเหวินยิ้มพลาง ประสานมือรับอย่างเป็นมิตร

“วันนี้ข้ามารับสมุน ไพรตามที่ตกลงกันเอาไว้”อาวุโสจินจู่ว่าพลางนําเงินออกมาวางไว้บนโต๊ะของหน่วย 10

“รับทราบขอรับ”ไปจูเหวินยิ้มพลางรับเงินมานับอย่างรวดเร็ว หลังจากนับเสร็จไป๋จูเหวินก็ส่งสมุนไพรไปให้อาวุโสจินจู่ อย่างที่หน่วย 10 เคยทําไม่มีผิด เพียงแต่จํานวนสมุนไพรนั้นน้อยกว่าปกติมาก นี่มันเหลือแค่ 1 ใน 8 เองไม่ใช่หรืออย่างไร

“นี่มันหมายความว่าอย่างไร”อาวุโสจินจู่ถามพลางมองสมุนไพรที่ไป๋จูเหวินนาออกมาจากแหวนมิตอของหน่วย 10 

“ก็..สมุนไพรที่ท่านอาวุโสสั่งซื้อไงขอรับ”ไป๋จูเหวินยิ้มพลางหันไปสบตากับรองอาวุโสและผู้ช่วยอาวุโส

“ล้อข้าเล่นหรืออย่างไร นี่มันไม่ใช่ที่ตกลงกันเอาไว้”อาวุโสจินจู่ว่าพลางตบโต๊ะเสียงดัง

“น่าเสียดายนะขอรับที่ตอนนี้สมุนไพรราคาขึ้นอย่างมาก ราคาที่เราขายให้ท่านอาวุโสจินจู่นับว่าเป็นราคามิตรภาพที่สุดแล้วขอรับ”ไปจูเหวินตอบพลางยิ้มอย่างอ่อนโยนราวกับมันกําลังพยายามช่วยเหลือสมาคมแพทย์อย่างหนักจริงๆ 

“ราคาขึ้น…พวกเจ้ามีสิทธิ์กําหนดราคาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน” อาวุโสจินจู่ว่าพลางกัดฟันแน่น

“พวกเราไม่ได้เป็นผู้กําหนดราคานะขอรับท่านอาวุโส เพราะราคานี้เป็นราคาที่เมืองอื่นๆยินดีจะซื้อกับพวกเรา หากไม่ใช่เพราะสมาคมแพทย์ทําการค้ากับพวกเรามานานพวกเราคงไม่สํารองสมุนไพรเอาไว้ให้พวกท่านเป็นแน่” รองอาวุโสหน่วย 10 ว่าพลางหลุดขําออกมานิดหน่อย

“เมืองอื่น… มันมีเมืองไหนกล้าซื้อสมุนไพรจากพวกเจ้ากัน” อาวุโสจินจู่ถามพลางเบิกตากว้าง การซื้อสมุนไพรจากกลุ่มนักล่าอสูรถือเป็นข้อห้ามของสมาคมแพทย์ หากเมืองไหนเข้ามาซื้อสมุนไพรจากกลุ่มนักล่าอสูรสมาคมแพท ย์จะไม่ขายยาฟื้นฟูให้อีกต่อไป

“นี่เป็นรายการของสมุนไพรจากเมืองต่างๆขอรับ หากท่านอาวุโสจินจู่ยังไม่อยากรับสมุนไพรจากพวกเราสมุนไพรตรงหน้านี้ก็จะถูกขายให้กับผู้จองรายต่อไปขอรับ” รองอาวุโสว่าพลางยิ้มอย่างเป็นมิตร ตรงกันข้ามกับคําพูดว่าหากไม่รี บซื้อพวกมันก็ไม่ได้สนใจจะรอและมีลูกค้าอีกมากมาย กําลังรอซื้อสมุนไพรชั้นดีจากพวกมันอยู่

“ได้ ฝากบอกพวกที่มารับสมุนไพรด้วยว่านับจากนี้ไปสมาคมแพทย์จะไม่ส่งยาให้เมืองของพวกมันอีก” อาวุโสจินจู่ขู่พลางลุกขึ้นยืนด้วยท่าทีขุ่นเคือง

“ขอรับ”ไปจูเหวินรับคําพลางส่งแขกอย่างเป็นมิตร ตรงข้ามกับใบหน้าแดงกําของอาวุโสจินจู่เลย

“ฮ่าๆๆ” ทันทีที่ประตูปิดลง รองอาวุโสและผู้ช่วยอาวุโสก็หัวเราะออกมาในทันที

“เจ้านั่นยังเชื่อว่าคําขู่นั่นจะได้ผลอีกงั้นเหรอ” รองอาวุโสว่าพลางกุมท้องของมันเอาไว้อย่างช่วยไม่ได้

“จนป่านนี้พวกมันยังคิดว่าเราทําสงครามขายยากันอยู่เลยมั้ง”ผู้ช่วยอาวุโสหัวเราะพลางเดินไปหยิบแหวนมิติของหน่วย 10 แล้วเก็บสมุนไพรที่นาออกมาเมื่อครู่กรับเข้าแหวนไป

“จะเรียกว่าสงครามไม่ได้หรอกเพราะพวกเราชนะมาตั้งแต่แรกแล้ว” รองอาวุโสว่าพลางมองไปัจูเหวินด้วยท่าที่ชื่นชม สงครามครั้งนี้มันจบตั้งแต่ไป๋จูเหวินนสูตรยาออกมาแล้ว เมื่อสมาคมแพทย์สูญเสียอํานาจที่เรียกว่าการถือครองแต่เพียงผู้เดียวไป มันก็ไม่สามารถกดดันเมืองต่างๆได้อีกต่อไปแล้ว เมื่อในตลาดมียาชนิดอื่นที่สามารถใช้แทนยาของสมาคมแพทย์ได้ ทําไมพวกมันจะไม่ซื้อขายกับกลุ่มนักล่าอสุรเล่า และในเมื่อมีเมืองมากมายเข้ามาซื้อสมุนไพรทําไมกลุ่มนักล่าอสูรจะต้องสนใจว่าสมาคมแพทย์จะได้สมุนไพรหรือไม่ และพวกมันก็ สามารถสร้างยาระดับเดียวกันส่งท้องตลาดได้ในราคาถูก ทํา ให้ชาวเมืองไม่ต้องเดือดร้อนอีกต่างหากงานนี้นอกจากสมาคมแพทย์แล้วแทบจะไม่มีใครเดือดร้อนเลย

“ที่เหลือก็ฝากพวกท่านทําตามแผนต่อไปด้วยนะขอรับ”ไป๋จูเหวินว่าพลางยิ้มออกมา

“แน่นอนขอรับ” รองอาวุโสว่าพลางยิ้มอย่างชื่นใจ หลังจากนี้เมืองต่างๆจะเข้ามาซื้อขายกับกลุ่มนักล่าอสูรมากขึ้น นี่เป็นโอกาสดีที่จะระบายของอย่างอื่นนนอกจากสมุนไพรออกไปได้แล้ว ในครั้งของกลุ่มนักล่าอสูรมีสมบัติมากมาย แต่ไม่อาจขายได้เพราะโดนสมาคมแพทย์กดหัวเอาไว้ แต่ยามนี้เส้นทางการค้าทั้งหมดเปิดโล่งพร้อมรับคู่ค้าหน้าใหม่ที่กําลังพากันตบเท้าเข้ามาแล้ว แบบนี้จะไม่ให้คนของหน่วย 10 พากันคึกคักได้อย่างไร