ตอนที่ 156 เส้นสาย

บุตรอสูรบรรพกาล

บุตรอสูรบรรพกาล ตอนที่ 156 เส้นสาย

 

“ หมายความว่าไงว่าพวกมันไม่ขาย” หัวหน้าสมาคมแพทย์ต่อว่าอาวุโสจินจู่ด้วยท่าที่ดุร้าย ตอนนี้มันลดราคายาลงจนเหลือกําไรแค่ 50 เหรียญเงินเท่านั้น แถมราคาเท่านี้ยังไม่สามารถดึงตลาดยาทั้งหมดกลับมาเป็นของมันได้อีกต่างหาก

 

“พวกมันฉวยโอกาสเพิ่มราคาตอนพวกเราลําบากขอรับ” อาวุโสจินจู่ว่าพลางกําหมัดแน่น

 

“ไอ้พวกนักล่าอสูร” หัวหน้าสมาคมแพทย์ทุบเก้าอี้เสียงดังปังก่อนจะลุกขึ้นยืนด้วยท่าที่ไม่พอใจ ยามนี้ยาในคลังของพวกมันมีจํานวนจํากัด อาจจะพอส่งขายได้เดือนหรือสองเดือน แต่หากยังไม่สามารถหาซื้อสมุนไพรมาได้ แม้มีสูตรยาก็ไม่อาจทํายาได้

 

“หัวหน้า เรื่องนี้ข้าเห็นว่ากลุ่มนักล่าอสูรกระทําไม่สมควรขอรับ อย่างไรให้องค์ชาย 2 ช่วยพูดให้ดีหรือไม่” อาวุโสจินจู่ถามพลางเหลือบสายตาไปทางวังหลวง อย่างที่ทราบกัน สมาคมแพทย์เป็นทั้งผู้ผลิตยาส่งขายทั่วทั้งอาณาจักรรวมทั้งยังเป็นสถาบันสอนแพทย์ฝีมือดีอีกหลายต่อหลายคน แม้แต่แพทย์วังหลวงยังจบจากสมาคมแพทย์ทั้งสิ้น ทําให้พวกมันพอจะมีเส้นสายกับราชวงก์บ้าง

 

“ช่วยไม่ได้ การฉวยโอกาสขึ้นราคาตอนพวกเราลําบากถือว่าไม่เหมาะสมนัก ข้าจะไปพบองค์ชาย 2 เอง” หัวหน้าสมาคมว่าพลางเดินออกจากห้องประชุมไปด้วยท่าที่มุ่งร้าย แม้จะบอกว่าจะคุย แต่ใจจริงแล้วมันต้องการใช้อํานาจขององค์ชาย 2 กดดันกลุ่มนักล่าอสูรให้ยอมขายสมุนไพรให้พวกมันตามราคาเดิมเท่านั้นเอง

 

“ลุงหัวหน้าสมาคมแพทย์นี่เอง มาทําอะไรในบ้ายของข้างั้นเหรอ” หัวหน้าสมาคมแพทย์เดินเข้ามาในเขตวังหลวงได้ไม่นาน อยู่ๆตรงหน้ามันก็ปรากฏร่างของชายหนุ่มคนหนึ่งที่แต่งกายด้วยเสื้อผ้าหรูหราพร้อมเหล่าองค์รักษณ์อีกจํานวนหนึ่งเดินตามราวกับขบวนแห่

 

“อะ องค์ชาย 4” หัวหน้าสมาคมแพทย์คุกเข่าลงทันทีที่ได้ เห็นเทียนเหวินเดินออกมายืนตรงหน้ามัน

 

“ไม่ใช่ว่าช่วงนี้เจ้างานยุ่งหรือ ทําไมถึงเข้ามาในวังหลวงได้ล่ะ” หญิงงามคนหนึ่งพูดพลางมองหัวหน้าสมาคมแพทย์ที่กําลังคุกเข่าอยู่ตรงหน้า

 

“ขะ…ข้ามีเรื่องจะปรึกษาองค์ชาย 2 ขอรับองค์หญิง 2” หัวหน้าสมาคมแพทย์ตอบด้วยท่าที่นอบน้อม ท่าทางองค์ชาย 4 กับ องค์หญิง 2 คงมาเดินเล่นกระมังถึงได้มาเจอมันที่หน้าวังเช่นนี้

 

“มาหาองค์ชาย 2 งั้นเหรอ”องค์หญิง 2 ว่าพลางกรีดพัด ในมือด้วยท่าทีสง่างาม นางเหมือนครุ่นคิดครู่หนึ่งพลางหันสายตามองน้องชายของนางที่อยู่ข้างๆ

 

“ตอนนี้อู๋ตี้คงยุ่งอยู่ เจ้ามีเรื่องอะไรทําไมไม่ลองเล่าให้ข้าฟังก่อนล่ะ”องค์หญิง 2 ว่าพลางหันหลังเดินไปนั่งที่เก้าอี้ใต้ต้นเหมยที่ตั้งอยู่ในสวนใกล้ๆ

 

“นั่นสิ ท่านหัวหน้าสมาคมแพทย์ ถึงข้าจะเป็นองค์ชาย 4 แต่ข้าก็มีความสามารถพอจะช่วยท่านได้นะ”เทียนเหวินว่าพลางเดินไปนั่งเก้าอี้ฝั่งตรงกันข้ามกับพี่สาวของมัน

 

“ระ.. เรื่องนั้น” หัวหน้าสมาคมแพทย์กลืนน้ำลายลงคออย่างช่วยไม่ได้ องค์หญิง 2 นั้นเป็นบุตรคนที่ 3 รองจากอู๋หมิงกับองค์หญิง 1 แต่ด้วยนางเป็นบุตรีผู้สืบสายเลือดจากมเหสีหยวนหรู่มเหสีคู่กายองค์จักรพรรดิ ทําให้นางมีอํานาจอยู่ในกํามือไม่น้อย ทางด้านการสืบทอดบัลลังก์ แม้นางจะไม่มีสิทธิ์แต่น้องชายของนางที่คลอดจากมารดาเดียวกันอย่างองค์ชาย 3 นั้นมีสิทธิ์ครองราชย์เป็นอันดับ 1 คู่กับเทียนเหวินที่เป็นองค์ชาย 4 เลยทีเดียว ส่วนองค์ชาย 2 นั้นวันๆเอาแต่ท่องกวีดีดพิณ เรื่องการบ้านการเมืองไม่ค่อยได้สนใจเท่าไหร่นัก แม้จะมีอํานาจในมือเพราะฐานะองค์ชาย แต่เพราะมันไม่ได้เข้ามาแทรกแซงอํานาจการเมือง ทําให้มันไม่อาจมีอํานาจเหนือพี่น้องคนอื่นๆได้มากนัก

 

“หากพระองค์ยินดีจะรับฟังเรื่องของกระหม่อม…” หัวหน้าสมาคมแพทย์ยิ้มกว้าง ไม่นึกเลยว่ามันจะได้กราบทูลกับองค์หญิง 2 กับองค์ชาย 4 ที่มีอํานาจมากกว่าองค์ชาย 2 เสียอีก

 

“เรื่องของเรื่องเป็นเพราะศิษย์เอกคนใหม่ของกลุ่มนักล่าอสูรขอรับ” หัวหน้าสมาคมแพทย์ว่าพลางเงยหน้าขึ้นมาเล็กน้อย

 

“ศิษย์เอกคนใหม่…”องค์หญิง 2 พูดทวนอย่างประหลาดใจ ไม่ใช่ว่าศิษย์เอกของกลุ่มนักล่าอสูรคือเหม่ยหลินงั้นเหรอ

 

“จะว่าไป ตอนนี้พี่ไป๋เป็นศิษย์เอกของกลุ่มนักล่าอสูรแล้วนี่นา เรื่องนี้เกี่ยวของกับพี่ไป๋งั้นเหรอ”ได้ยินเทียนเหวินพูดเช่นนั้นปากของหัวหน้าสมาคมแพทย์ก็ชะงักค้างไป

 

“องค์ชายรู้จักมันหรือขอรับ” หัวหน้าสมาคมแพทย์ถามพลางหายใจเข้าลึกๆ

 

“ใช่ ข้ากับพี่ไป๋รู้จักกันมาได้พักหนึ่งแล้ว ท่านเป็นคนที่น่านับถือและคอยช่วยเหลือข้าเสมอ”เทียนเหวินว่าพลางยิ้มกว้าง

 

“ชะ เช่นนั้นเองหรือขอรับ” หัวหน้าสมาคมแพทย์ตาเบิกกว้าง ก่อนจะก้มหัวลงไปมากกว่าเดิม

 

“เช่นนั้นลุงหัวหน้าสมาคมแพทย์มีเรื่องอะไรกับพี่ไป๋งั้นเหรอถึงได้มาปรึกษาพี่ 2”เทียนเหวินถามพลางยิ้มด้วยสายตาเย็นยะเยียบ ทําเอาหัวหน้าสมาคมแพทย์เย็นสันหลังวาบ ไม่นึกเลยว่าไป๋จูเหวินจะเป็นคนรู้จักขององค์ชาย 4 เช่นนี้

 

“ระ เรื่องนั้นข้าเห็นว่าราคาสมุนไพรที่ทางเรารับซื้อจากกลุ่มนักล่าอสูรค่อนข้างต่ำเกินไป ข้าเลยอยากจะเพิ่มราคารับซื้อให้กับกลุ่มนักล่าอสูรขอรับ” หัวหน้าสมาคมแพทย์ว่าพลางกล้ำกลืนยิ้มอย่างสุดจะฝืน

 

“อ้อ เช่นนั้นก็ดีเลย ไม่เห็นต้องมาขอคําปรึกษาจากพี่ 2 เลยนี่นา”เทียนเหวินว่าพลางยิ้มกว้าง

 

“นะ นั่นสินะขอรับ” หัวหน้าสมาคมแพทย์หัวเราะพลางกําหมัดแน่น แบบนี้การใช้อํานาจขององค์ชาย 2 ก็เท่ากับหาเรื่องเข้าตัวแท้ๆ ทําให้หัวหน้าสมาคมแพทย์ได้แต่ถอนตัวกลับไปเท่านั้น

 

“เจ้านี่ชอบทําเป็นไม่รู้เรื่องจริงๆเลยนะ”องค์หญิง 2 ว่าพลางมองเทียนเหวินที่ยังยิ้มไม่หุบ

 

“พี่หญิงพูดเรื่องอะไรกัน ข้าไม่เห็นรู้เรื่องเลย”เทียนเหวินว่าพลางหันหน้าหนีไปทางอื่น ทําให้องค์หญิง 2 ได้แต่ถอนหายใจ เรื่องที่เทียนเหวินไม่พูดต่อให้เค้นปากแค่ไหนก็ไม่ยอมพูด เรื่องนั้นทําให้นางไม่อยากจะเสียเวลาถามเซ้าซี้น้องชายคนนี้เท่าไหร่

 

ส่วนทางด้านเทียนเหวินนั้นก็ได้แต่ถอนหายใจอย่างโล่งอก แม้พี่ 2 จะเป็นองค์ชายผู้ไม่ชอบการบ้านการเมือง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะไม่มีอํานาจเลย ถึงจะเป็นแบบนั้นแต่ก็มีขุนนางหลายคนยอมทําตามคําสั่งเชื้อพระวงค์เพื่อผลประโยชน์ของมันอยู่ และเรื่องอย่างการบังคับกดราคาสมุนไพรของกลุ่มนักล่าอสูรก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไรของคนในวัง หากพี่จะทําจริงๆต่อมให้เป็นมันก็คงเข้าไปยุ่งไม่ได้

 

ต้องบอกว่าโชคดีจริงๆที่ไป๋จูเหวินส่งจดหมายมาบอกมัน ก่อนไม่อย่างนั้นมันคงกลับวังหลวงไม่ทันแล้วปล่อยให้หัวหน้าสมาคมแพทย์เข้าไปพบพี่ 2 ได้แล้วแน่ๆ หากเป็นแบบนั้นเรื่องคงไม่จบแค่สมาคมแพทย์ถอยกลับไปหรอ

 

“จริงสิ ทําไมเจ้าไม่เคยเล่าเรื่องพี่ไป๋ของเจ้าให้ข้าฟังบ้างล่ะ”องค์หญิง 2 ถามพลางยิ้มบางๆ นอกจากอู๋หมิงผู้เป็นพี่ใหญ่ของพวกนางแล้วเทียนเหวินไม่ค่อยนับถือใครเท่าไหร่ ได้เห็นมันกล่าวชื่นชมคนๆหนึ่งอย่างออกหน้าออกตาทําเอานางสนใจไม่น้อย

 

“พี่ไป๋นะเหรอ”เทียนเหวินว่าพลางยิ้มกว้าง

 

“ท่านเป็นคนมีฝีมือนะ ขนาดไม่มีอาจารย์ที่ไปยังฝีมือสูสีกับพี่ใหญ่เลย” เทียนเหวินพูดพร้อมดวงตาที่ส่องประกายระยิบระยับ เพราะไป๋จูเหวินช่วยทําให้มันได้คบหากับเหม่ยฮวาเสียที ทําให้มันนับถือไป๋จูเหวินเทียบเท่ากับอู๋หมิงเลยที่เดียว

 

“คิกๆ เจ้าก็พูดเล่นเกินไป ในรุ่นของเราไม่มีใครเทียบพี่ใหญ่ได้หรอก”องค์หญิง 2 ว่าพลางใช้พัดปิดใบหน้าตนเองยามหัวเราะเอาไว้

 

“จริงๆนะพี่หญิง ขนาดพี่ใหญ่เองยังบอกกับข้าเลยว่า หากจะเทียบฝีมือกับพี่ไป๋ให้รู้ชัดคงต้องตายกันไปข้างหนึ่งเลย” เทียนเหวินตอบตามที่อู๋หมิงเคยบอกมันมาจริงๆ ทําให้องค์หญิง 2 มีสีหน้าไม่พอใจเท่าไหร่

 

“ข้าไม่เชื่อหรอกว่าจะมีคนเก่งกว่าพี่ใหญ่”องค์หญิง 2 ว่าพลางมองไปที่ประตูวังหลวง ไป๋จูเหวินศิษย์เอกของกลุ่มนักล่าอสูร… นางชักอยากรู้เสียแล้วว่ามันจะมีฝีมือแค่ไหนกัน

 

สําหรับนางแล้ว พี่ชายของนางคือคนที่แข็งแกร่งที่สุดในวัยเด็กอู๋หมิงเป็นคนนิ่งที่สุดเสมอ ท่านเป็นอัจฉริยะในการฝึกฝนวิชายุทธ แม้แต่องครักษ์ในวังยังแพ้ให้กับพี่ใหญ่ ตอนท่านอายุ 10 ขวบเท่านั้น แม้แต่ท่านลุงเทียนหมิงยังขอร้องกับท่านพ่อด้วยตนเองเลยว่าอยากให้พี่ใหญ่ของนางเดินทางฝึกฝนวิชากับท่าน

 

“หนอย” หัวหน้าสมาคมแพทย์เผ่นกลับมายังเมืองของมันแทบไม่ทันเพราะได้รู้ข่าวว่าไป๋จูเหวินเป็นคนสนิทขององค์ชาย 4 ทําเอามันหัวเกือบหลุดเสียแล้ว ยิ่งมันไม่ได้เป็นผู้ฝึกฝนพลังวิญญาณที่แข็งแกร่งอะไรนักด้วย หากมันมีพลังวิญญาณเหนือชั้นละก็ จะไปจัดการสั่งสอนไป๋จูเหวินที่เมืองร้อยแปดอสูรเป็นแน่

 

“จริงสิ” หัวหน้าสมาคมแพทย์รําพึงพลางส่งสายตาชั่วร้ายออกมา

 

“จินจู่ นำเงินนี้ไปว่าจ้างยอดฝีมือมา อย่างน้อยต้องอยู่ระดับเทียนเซียนขั้นที่ 2” หัวหน้าสมาคมแพทย์ว่าพลางยิ้มอย่างชั่วร้าย หากใช้อํานาจไม่ได้ก็ต้องใช้กําลัง ตอนนี้คนที่แข็งแกร่งที่สุดในกลุ่มนักล่าอสูรคือหวงหลงผู้อยู่ระดับเทียนเซียนขั้น 1 แม้การว่าจ้างคนระดับเทียนเซียนจะแพง แต่หากมันซื้อสมุนไพรจากกลุ่มนักล่าอสูรไม่ได้มันจะเสียหายมากกว่านั้นแน่นอน