บทที่ 77 คนที่เข้ามาจีบ

รักหวานอมเปรี้ยว

มายมิ้นท์กับเปปเปอร์เงยหน้ามองตามไป ทามทอยกำลังควงกุญแจรถเดินเข้าไป

เปปเปอร์หรี่ตา มองทามทอย แล้วก็มองผู้หญิงข้างกายอีกครั้ง ทั้งยังขมวดคิ้วขึ้น

ทำไมเธอต้องให้ทามทอยมารับเธอด้วย

ระหว่างพวกเขา ความสัมพันธ์ดีขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?

ทามทอยเห็นเปปเปอร์ ก็ค่อนข้างประหลาดใจ “เปปเปอร์ ทำไมนายก็อยู่ที่นี่ด้วย แล้วยังนั่งอยู่กับประธานมายมิ้นท์อีก พวกนายสองคนคงไม่ได้กำลังเดทกันใช่ไหม?”

เขากำลังครุ่นคิดแล้วชี้ไปที่ทั้งสองคน

มายมิ้นท์เอาถุงน้ำแข็งวางไว้ข้างๆ มองค้อนใส่เขา “พูดเหลวไหล ฉันมาคุยงานที่นี่ แล้วบังเอิญเจอกับประธานเปปเปอร์ก็เท่านั้น”

“งั้นเหรอ?” ทามทอยลูบๆคางด้วยใบหน้าที่ไม่เชื่อ

เปปเปอร์ไม่พูดไม่จา แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ

ทามทอยเห็นเขาเป็นอย่างนี้ถึงได้เชื่อ เบ้ปากด้วยความเบื่อหน่าย ครั้นแล้วเขาก็เห็นข้อเท้าที่บวมเปล่งของมายมิ้นท์ จึงตะลึงงันไปเลย “ประธานมายมิ้นท์ นี่เท้าคุณเป็นอะไรไป?”

“เคล็ดน่ะสิ” มายมิ้นท์สวมรองเท้าแล้ว ตอบกลับไปอย่างสบายๆ

ทามทอยส่งเสียงออกมาเล็กน้อย “นี่เคล็ดสาหัสอยู่นะ จะบาดเจ็บไปถึงกระดูกหรือเปล่า?”

“งั้นภารกิจต่อไปของนาย ก็คือไปส่งฉันที่โรงพยาบาล” มายมิ้นท์เงยหน้ามองเขา

ทามทอยแสดงท่าทีของผู้ใต้บังคับบัญชาออกมา “รับทราบครับเจ้านาย!”

มายมิ้นท์ก็เข้าถึงบทบาท ยื่นมือออกไปทางเขา “งั้นนายจะอืดอาดทำอะไรอยู่ ยังไม่มาประคองฉันอีก”

“ได้ครับ!”

ทามทอยก้าวเข้าไปใกล้ๆ ประคองมายมิ้นท์ขึ้นมาจากบนโซฟา

เปปเปอร์หน้าตาเคร่งขรึม สายตาเย็นชากำลังมองปฏิกิริยาของทั้งสองคน ริมฝีปากบางๆค่อยๆเม้มแสดงความเย็นยะเยือกออกมาเล็กน้อย

โดยเฉพาะตอนที่เห็นทามทอยเอามือข้างหนึ่งโอบเอวมายมิ้นท์ บรรยากาศรอบๆกายเขาจึงเย็นยะเยือกมากขึ้นจนเพียงพอที่จะทำให้คนรอบๆข้างกลายเป็นน้ำแข็ง

แต่มายมิ้นท์กับทามทอยไม่ได้สังเกตเห็นความผิดปกติของเปปเปอร์เลย

ข้อเท้าข้างที่เคล็ดของมายมิ้นท์ เหยียบลงบนพื้นไม่ได้อยู่แล้ว ถ้าเหยียบลงไปก็จะเจ็บ จะมีอารมณ์สนใจอย่างอื่นได้ที่ไหนกัน

ส่วนทามทอยกำลังประคองเธออย่างตั้งใจ เธอจะได้ไม่ล้มลงไปเพราะยืนได้ไม่มั่นคง ดังนั้นจึงไม่ได้สนใจอย่างอื่นเช่นกัน

ทั้งสองคนถึงกับไม่ได้บอกลาด้วยซ้ำ ก็เดินออกไปนอกโรงแรมเลย

แววตาที่อึมครึมของเปปเปอร์กำลังมองร่างของทั้งสองคนที่เดินออกไป บนใบหน้าที่เย็นชาไม่ได้แสดงความรู้สึกออกมาสักนิด ทำให้คนที่ได้เห็นมองไม่ออกว่ารู้สึกอะไรอยู่

“ไปตรวจสอบทีว่าลิฟต์ตัวนั้นเป็นอุบัติเหตุหรือมีคนทำขึ้น” เปปเปอร์ยืนขึ้น กำชับด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก

หลายปีนี้ ด้วยความก้าวหน้าของบริษัทตระกูลนวบดินทร์ บริษัทตระกูลนวบดินทร์ได้แย่งชิงผลประโยชน์ของบริษัทบางแห่งไปจริงๆ

คนของบริษัทพวกนั้น อาจจะลงมือจัดการเขาก็ได้

“ครับ” ผู้ช่วยเหมันตร์ที่อยู่ข้างๆขานรับ แล้วไปตรวจสอบทันที

เขาตรวจสอบกลับมาอย่างรวดเร็ว “ประธานเปปเปอร์ครับ ตรวจสอบชัดเจนแล้ว เป็นอุบัติเหตุครับ ลิฟต์ตัวนั้นพบว่ามีปัญหาตั้งแต่เช้าแล้ว แต่คนที่รับผิดชอบของโรงแรมกลับไม่งดให้บริการ ทั้งยังไม่แจ้งให้ช่างเข้ามาซ่อมแซม จึงเกิดสถานการณ์ที่พวกเราเจอเมื่อกี้น่ะครับ”

พูดถึงตรงนี้ ผู้ช่วยเหมันตร์ก็รู้สึกเสียวสันหลัง

ดีที่พวกเขาโชคดี สุดท้ายแล้วลิฟต์ตัวนั้นยังลงมาถึงชั้นหนึ่งได้อย่างปลอดภัย

ไม่งั้นผลที่ตามมาคงไม่กล้าจินตนาการจริงๆ

“เฮอะไม่ได้งดให้บริการ” เปปเปอร์กำหมัดแน่นด้วยสีหน้าแย่สุดๆ “แจ้งสำนักงานบุคคล ให้เปลี่ยนคนรับผิดชอบโรงแรมใหม่ แล้วก็รีบซ่อมแซมลิฟต์ที่งดให้บริการเดี๋ยวนี้”

“เข้าใจแล้วครับ” ผู้ช่วยเหมันตร์พยักหน้า

แววตาของเปปเปอร์เป็นประกายออกมาชั่วครู่ “แล้วก็ ไปตรวจสอบว่าระหว่างมายมิ้นท์กับทามทอยเกิดอะไรขึ้น”

ถึงแต่ก่อนทั้งสองคนจะรู้จักกันอยู่แล้ว แต่ความสัมพันธ์กลับธรรมดาๆ แทบไม่ได้แตกต่างจากคนแปลกหน้าเลย

แต่ตอนนี้ความสัมพันธ์ของทั้งสองคนก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว ทั้งยังหยอกเย้ากันอีก ถ้าบอกว่าระหว่างทั้งสองคนไม่มีอะไร เขาไม่เชื่อเด็ดขาด

ผู้ช่วยเหมันตร์เห็นความเจ็บปวดที่ปรากฏในแววตาของเปปเปอร์เพียงชั่วครู่ ก็เข้าใจแล้วว่าประธานเปปเปอร์คงจะหึงคุณมายมิ้นท์กับคุณทามทอยซะแล้ว

แต่ในใจที่คิดอย่างนี้ ผู้ช่วยเหมันตร์กลับไม่กล้าพูดออกไป ทำได้เพียงแสร้งรับคำสั่งอย่างไม่รู้เรื่อง “ครับ”

……

ทามทอยประคองมายมิ้นท์เข้าไปในโรงพยาบาล แล้วลงทะเบียนที่เคาน์เตอร์

อีกด้านหนึ่ง กลุ่มของส้มเปรี้ยวกำลังพูดคุยกันสนุกสนานเดินเข้ามา

คนที่เห็นมายมิ้นท์ก่อนไม่ใช่ส้มเปรี้ยว แต่เป็นขนมผิงเพื่อนสนิทของเธอ

ขนมผิงดึงๆแขนเสื้อของส้มเปรี้ยว แล้วชี้ไปที่ช่องหน้าต่างลงทะเบียน “ส้มเปรี้ยว เธอดูสินั่นมายมิ้นท์ไม่ใช่เหรอ? แล้วก็คุณทามทอยด้วย ทำไมพวกเขาถึงอยู่ด้วยกันที่นี่?”

ส้มเปรี้ยวค่อยๆหุบยิ้ม มองไปตามทางที่เธอชี้ แววตาอึมครึม แต่กลับพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน: “คุณมายมิ้นท์กับคุณทามทอยจริงด้วย แต่เหมือนคุณมายมิ้นท์จะบาดเจ็บนะ”

สายตาของเธอเคลื่อนลงไปด้านล่าง จ้องไปบนเท้าข้างนั้นที่มายมิ้นท์ยกขึ้นมา ด้านบนบวมแดงอย่างเห็นได้ชัด

“คุณเกศวดี นี่ก็เป็นแผนการของคุณงั้นเหรอ?” ส้มเปรี้ยวมองไปทางเกศวดีที่อยู่อีกข้าง

เกศวดีก็กวาดสายตาไปที่ข้อเท้าของมายมิ้นท์ ส่ายหน้าอย่างถือตัว “ไม่ใช่”

“งั้นก็แปลกแล้ว” ส้มเปรี้ยวพึมพำเบาๆ

ขนมผิงพูดขึ้นอีก: “ส้มเปรี้ยว พวกเขาหันมาแล้ว”

ส้มเปรี้ยวมองไปอีกครั้ง

นี่เอง สายตาของเธอกับมายมิ้นท์จึงสบตากันพอดี

มายมิ้นท์อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา

ทามทอยก้มหน้ามองเธอ “ขำอะไรน่ะ?”

“ฉันกำลังขำที่ โลกใบนี้มันแคบจริงๆ อยู่โรงแรมเจอเปปเปอร์ อยู่โรงพยาบาลก็เจอส้มเปรี้ยวอีก นายว่าใครจะมีโชคชะตาแบบนี้บ้างล่ะ?” มายมิ้นท์ตอบ

ทามทอยเห็นพวกส้มเปรี้ยวสามคนเดินเข้ามา บนใบหน้าก็เต็มไปด้วยความสนุกสนาน “พวกเธอมาหาเธอแล้ว”

มายมิ้นท์ฟังออกถึงน้ำเสียงที่มีความสุขบนความทุกข์ของเธอ จึงชำเลืองมองเขาด้วยสายตาเย็นยะเยือก

พวกส้มเปรี้ยวสามคนหยุดลงที่ด้านหน้าของมายมิ้นท์

ส้มเปรี้ยวยิ้มทักทาย “คุณมายมิ้นท์ คุณทามทอย บังเอิญจังนะคะ”

“ใช่ค่ะบังเอิญมากเลย” มายมิ้นท์พยักหน้าอย่างไม่ใส่ใจ สายตาตกไปอยู่บนร่างของเกศวดีที่อยู่ข้างกายเธอ ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่

ส้มเปรี้ยวมองมายมิ้นท์ แล้วก็มองทามทอย ในแววตาเปล่งประกายแสงที่ต่างออกไปเพียงชั่วครู่ จากนั้นก็สลายหายไปอย่างรวดเร็ว แสร้งถามขึ้นด้วยความประหลาดใจ “ทำไมคุณมายมิ้นท์ถึงอยู่กับคุณทามทอยล่ะคะ ถ้าคุณลาเต้รู้เข้า จะไม่โกรธเหรอคะ?”

ทามทอยเลิ่กคิ้วเล็กน้อย

ผู้หญิงคนนี้ กำลังยุยงให้ความสัมพันธ์ของมายมิ้นท์กับลาเต้มีปัญหาสินะ

มายมิ้นท์เสยผมทัดหู ไม่ลนลานสักนิดที่โดนคนเห็นว่าอยู่กับผู้ชายอื่น ตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย: “เขาจะโกรธได้ยังไง คนที่จีบฉันเยอะแยะขนาดนี้ เขาแค่ต้องทำให้ตัวเองยอดเยี่ยมมากขึ้น ฉันจะได้ไม่โดนคนอื่นแย่งไป จะมีเวลาโกรธที่ไหนล่ะคะ”

สีหน้าของส้มเปรี้ยวชะงักงัน ตามมาด้วยเสียงหัวเราะแห้งๆ “คุณมายมิ้นท์นี่ตลกดีนะคะ”

ขนมผิงมองค้อนอย่างเหยียดหยาม “ตลกอะไร เธอก็แค่หน้าไม่อาย มีแฟนแล้ว แต่ยังออกมามั่วกับผู้ชายอื่นอีก”

“ทำไม เธออิจฉาเหรอ?” มายมิ้นท์ยิ้มบางๆมองเธอ “ฉันมีผู้ชายมาจีบตลอดเวลา ส่วนเธอไม่มี เธอก็เลยรำคาญฉันใช่ไหม?”

“ไม่……ไม่ใช่ซะหน่อย” ขนมผิงหน้าแดงไปทั้งใบหน้า

มายมิ้นท์ยิ้มมุมปาก “ไม่ใช่จริงๆเหรอ? อย่าเขินที่จะยอมรับเลยหน่า ถึงยังไงคนขี้เหร่ที่ไม่มีผู้ชายมาจีบอย่างเธอ จะอิจฉาคนสวยๆอย่างฉันที่มีคนมาจีบมันก็เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว ฉันไม่หัวเราะเยาะเธอหรอก”

“เธอ……” ขนมผิงโมโหจนน้ำตาจะไหล แต่ในใจกลับต้องยอมรับ ว่าตนเองอิจฉาจริงๆ

ทามทอยเห็นมายมิ้นท์ตอบโต้ไปไม่กี่ประโยคก็ทำให้อีกฝ่ายพูดไม่ออกแล้ว จึงยิ้มอย่างเพลิดเพลินเต็มที่

ไม่รู้เปปเปอร์รู้ไหมว่าภรรยาเก่าของเขา คารมคมคายขนาดนี้

“คุณมายมิ้นท์” ส้มเปรี้ยวดึงขนมผิงไปที่ด้านหลังของตนเอง “ความหมายของคุณเมื่อกี้ คือจะบอกว่าคุณทามทอยก็เป็นคนที่มาจีบคุณงั้นเหรอคะ?”

“นายบอกเธอสิ ว่านายใช่ไหม?” มายมิ้นท์ใช้ข้อศอกกระทุ้งไปที่ทามทอยเล็กน้อย แล้วใช้น้ำเสียงที่ได้ยินกันแค่สองคนเตือนออกมา “ถ้านายกล้าพูดเหลวไหล ฉันรับรองเลยว่าต่อไปชีวิตของนายจะไม่สงบสุข”

ทามทอยดูดมุมปาก เดิมทีเขาไม่อยากจะยุ่งด้วย แค่อยากดูอะไรสนุกๆเท่านั้น แต่ผู้หญิงพวกนี้ก็ทำให้ไฟลามมาไหม้บนตัวเขาแล้ว เขาต้องอดกลั้นความปวดหัวแล้วก้าวออกมาตอบ: “แน่นอนสิครับ!”

เทียบกับมายมิ้นท์ เขาไม่ชอบส้มเปรี้ยวมากกว่าอีก

ดังนั้น เข้าข้างมายมิ้นท์ดีกว่า