บทที่ 233
ต้องรู้ว่า

คนเฉียนหม่านถังมาหา ไม่มีโอกาสได้นั่งด้วยซ้ำ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงดื่มชา

เสือขาวรินน้ำชาให้ทั้งสองคน

สายตาจางเทียนซานกับไป๋หลิงหลง กลับหดลงทันที

พวกเขาสองคน ก่อนหน้านี้ไม่เคยเห็นเสือขาว

เวลานี้

ทั้งสองคนถึงความผึ่งผายบนตัวเสือขาว รู้สึกได้ถึงความอันตรายอย่างบอกไม่ถูก

ข้างกายเจ้าพันธมิตร มียอดฝีมือขนาดนี้อยู่ด้วย

และดูท่าทีแล้ว ยังให้ความเคารพนับถือหยางเฟิงอย่างมาก

ทั้งสองคนแทบหยุดหายใจ แล้วก็ขยับก้นอย่างระมัดระวัง ไม่กล้านั่งเต็มแรง

ทันใดนั้น ภายในห้องเงียบสงัด

หยางเฟิงดื่มชาหนึ่งคำ พร้อมยิ้มหัวเราะพูดขึ้นว่า “ไม่ทราบว่าเจ้าสำนักทั้งสอง มีธุระอะไรหรือ?”

ทั้งสองคนสบตาให้

ไป๋หลิงหลงเห็นจางเทียนซานไม่พูดอะไร จึงจำต้องพูดขึ้นว่า “เจ้าพันธมิตรหยาง แก๊งฟ้าดินทะเยอทะยานมาตลอด เดิมเฉินป้าเซียนอยากฉวยโอกาสงานประลองบู๊ในครั้งนี้ จัดระเบียนบู๊ใต้…..”

“ตอนนี้ ฝันของเขาแตกสลาย จะต้องไม่ยอมรามือแน่ ทั้งทั่งบู๊ใต้จะเกิดการนองเลือด….”

“เจ้าสำนักไป๋มีความเห็นว่าอย่างไร?” หยางเฟิงพูดขึ้นอย่างเรียบเฉย

ไป๋หลิงหลงมองดูจางเทียนซานแวบหนึ่ง พร้อมพูดขึ้นว่า “ดิฉันปรึกษากับเจ้าสำนักจาง พวกเราวางแผนที่จะก่อตั้งพันธมิตร ร่วมกันต่อต้านแก๊งฟ้าดิน”

“เจ้าพันธมิตรหยาง ท่านคือเจ้าพันธมิตรบู๊แน่นอนว่าก็ต้องเป็นเจ้าพันธมิตรของพันธมิตรนี้ และเจ้าพันธมิตรหยางยังมีจินหลิงหกตระกูลใหญ่ หู้ไห่สำนักหง พวกเราทั้งสองพันธมิตร แก๊งฟ้าดินจะต้องพ่ายแพ้แน่”

หยางเฟิงยิ้มหัวเราะเล็กน้อย พร้อมถามขึ้นว่า “ช่วยพวกคุณรับมือแก๊งฟ้าดิน ผมจะได้ประโยชน์อะไร?”

ได้ยินแบบนี้ จางเทียนซานพูดขึ้นยังค่อนข้างไม่พอใจว่า “เจ้าพันธมิตรหยาง พูดแบบนี้ก็ไม่ถูกต้อง ในฐานะที่คุณเป็นเจ้าพันธมิตรบู๊ปกป้องความปลอดภัยของบู๊ใต้ เป็นหน้าที่ของคุณ…..”

“ฮ่าๆ”

ไม่รอให้จางเทียนซานพูดเสร็จ หยางเฟิงพูดขัดอย่างไม่พอใจว่า “ตำแหน่งเจ้าพันธมิตรบู๊ของผม พวกคุณผลักดันมา หากให้เฉินป้าเซียนเป็นเจ้าพันธมิตรบู๊ชีวิตของพวกคุณ จะดีกว่าตอนนี้ไหม?”

“และหลังจากที่ผมจัดการแก๊งฟ้าดินแล้ว บู๊ใต้นี้ สำนักมังกรพยัคฆ์กับสำนักหลิงหลงจะไม่กลายเป็นอันดับหนึ่งหรือ? อยากให้ผมเข้าสู่สนามรบ แล้วพวกคุณรอรับประโยชน์ พวกคุณเห็นผมโง่หรือ?”

“นี่….”

จางเทียนซานกับไป๋หลิงหลงพูดไม่ออก

พวกเขาตั้งใจแบบนี้จริงๆ

ผลักดันหยางเฟิงออกมา ตั้งพันธมิตรต่อต้านแก๊งฟ้าดิน

หลังจากจัดการแก๊งฟ้าดิน ทั่วทั้งบู๊ใต้พวกเขาเท่านั้นที่ยิ่งใหญ่

สามารถพูดได้ว่า

ถึงตอนนั้น คนที่ได้ผลประโยชน์มากที่สุดก็คือสำนักมังกรพยัคฆ์กับสำนักหลิงหลง

ตอนนี้หยางเฟิงรู้แผนการของพวกเขาทั้งสองแล้ว ทำให้พวกเขารู้สึกแย่

“คุณ…..”

จางเทียนซานยังอยากพูดอะไรอีก

ไป๋หลิงหลงส่งสายตาห้ามเขาไว้

ไป๋หลิงหลงขยิบตา ยิ้มหัวเราะพร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้าพันธมิตรหยาง คุณแย่งตำแหน่งเจ้าพันธมิตรของเฉินป้าเซียน เฉินป้าเซียนจะต้องเกลียดคุณถึงกระดูก หากเราไม่ร่วมมือกัน คุณไม่กลัวเฉินป้าเซียนมาแก้แค้นหรือ?”

หยางเฟิงหัวเราะ พร้อมพูดขึ้นว่า “คุณคิดว่าผมจะกลัวเฉินป้าเซียนหรือ?”

อืม?

ได้ยินแบบนี้ ไป๋หลิงหลงอึ้งไปทันที

อยู่ในวงการโลกบู๊นี้

สถานะของหยางเฟิง เป็นปริศนามาตลอด และมีพลังที่แข็งแกร่งมาก

ร่างสูงสง่าราวกับผู้เป็นเจ้าของโลก

ทั้งสองคิดไม่ถึงว่า หยางเฟิงจะมีความมั่นใจถึงขนาดนี้ ไม่หวาดกลัวเฉินป้าเซียนเลยสักนิด

ความมั่นใจที่แข็งแกร่งของเขานี้ สอดคล้องกับพลังที่แข็งแกร่งไหม?

เวลานี้ หยางเฟิงพูดขึ้นด้วยเสียงถอดใจว่า “เราไม่พูดอ้อมค้อมแล้ว หากแก๊งฟ้าดินถูกกำจัด ธุรกิจสีขาวทั้งหมดของแก๊งฟ้าดิน ผมเอาทั้งหมด ส่วนกิจการสีเทา กิจการผิดกฎหมาย ยกให้ราชสำนักจัดการ ส่วนอย่างอื่น พวกคุณแบ่งกันเอง”

ได้ยินแบบนี้

สีหน้าจางเทียนซานกับไป๋หลิงหลงตกตะลึง

ต้องรู้ว่า ธุรกิจสีขาวของแก๊งฟ้าดิน มีอยู่ไปทั่วทั้งภาคใต้มูลค่านับหมื่นล้าน