บทที่ 234
คำพูดประโยคเดียวของหยางเฟิง ก็จะฮุบเอากิจการสีขาวทั้งหมดของแก๊งฟ้าดิน เผด็จการจริงๆ

จางเทียนซานลุกขึ้นมา พร้อมพูดขึ้นด้วยสีหน้าย่ำแย่ว่า “หยางเฟิง คุณโลภมากไปหรือเปล่า ฮุบเอากิจการสีขาวทั้งหมดของแก๊งฟ้าดิน คุณไม่กลัวตนเองกระอักตายหรือ?”

“บังอาจ กล้าเสียมารยาทกับท่านแม่ทัพ”

ทันใดนั้น

เสือขาวลุกขึ้นมาพูดตำหนิ

หยางเฟิงโบกมือ เสือขาวถอยกลับไป

เขามองดูจางเทียนซาน หัวเราะเยาะพร้อมพูดขึ้นว่า “ผมโลภมากไปหรือ? ต้องรู้ว่า กำจัดแก๊งฟ้าดิน คนที่ได้ผลประโยชน์มากที่สุดก็คือพวกคุณ พวกคุณไม่เพียงสามารถฮุบกิจการสีเทาของแก๊งฟ้าดิน ยังสามารถแบ่งเขตบริเวณอำนาจของแก๊งฟ้าดินเข้าสู้จินหลิง”

“ที่สำคัญที่สุดคือ สำนักใหญ่ทั้งสองของพวกคุณ สามารถครอบครองบู๊ใต้ได้อย่างแท้จริง ถึงตอนนั้นสำนักย่อยมากมายล้วนอยู่ภายใต้อำนาจพวกคุณ ทรัพยากรนับไม่ถ้วนไหลเข้ามาในกระเป๋าของพวกคุณอย่างต่อเนื่อง สิ่งที่ผมได้มา สำหรับพวกคุณแล้ว เป็นเพียงน้ำจิ้มเท่านั้น”

ไป๋หลิงหลงยิ้มหัวเราะพร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้าพันธมิตรหยาง กิจการสีเทาของแก๊งฟ้าดิน พวกเราแบ่งกันคนเยอะขนาดนั้น คงไม่เพียงพอ…..”

หยางเฟิงพูดขึ้นอย่างไม่เกรงใจว่า “พอหรือไม่พอเป็นเรื่องของพวกคุณ ไม่เกี่ยวอะไรกับผม หากผมไม่ทำความร่วมมือกับพวกคุณ อาศัยกำลังของพวกคุณ สามารถรับมือแก๊งฟ้าดินได้หรือ?”

“นอกจากนี้ แก๊งฟ้าดินจะข่มเหง คนแรกก็คือพวกคุณ ตอนนั้นอย่าว่าแต่พวกคุณครอบครองภาคใต้ สามารถมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ไหมยังเป็นปัญหา”

ไป๋หลิงหลงกับจางเทียนซานมองตากัน

ทั้งสองคนต่างคิดไม่ถึงว่า หยางเฟิงจะมีอำนาจขนาดนี้

ทั้งสองคนมองตากันสักพัก

หลังจากครู่หนึ่ง ไป๋หลิงหลงลุกขึ้นมา พร้อมพูดขึ้นหน้าเคร่งขรึมว่า “เจ้าพันธมิตรหยาง พวกเรายอมรับเงื่อนไขของท่าน หวังว่าท่านจะให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี”

หยางเฟิงพูดขึ้นอย่างเรียบเฉยว่า “วางใจเถอะ ในเมื่อรับปากพวกคุณแล้ว ผมก็จะทำความร่วมมือกับพวกคุณเป็นอย่างดี”

“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นพวกเราก็ขอลา”

ทั้งสองฝ่ายคุยเงื่อนไขกันเรียบร้อยแล้ว ความร่วมมือเป็นไปอย่างประสบความสำเร็จ

จางเทียนซานกับไป๋หลิงหลงอยู่ที่นี่ต่อไป ก็ไม่มีธุระอะไร ดังนั้นจึงขอตัวกลับก่อน

หยางเฟิงไม่พูดอะไร ปล่อยให้ทั้งสองกลับไป

หลังจากออกมาจากโรงแรม

จางเทียนซานพูดขึ้นด้วยสีหน้าโกรธโมโหว่า “หยางเฟิงคนนี้ โลภมากราวกับงูกลืนช้าง เขาคนนี้ ไม่แสดงให้เห็นถึงกำลังความสามารถ ก็คิดจะทานเค้กก้อนโตทั้งก้อน มีอย่างนี้ที่ไหนกัน”

ไป๋หลิงหลงยิ้มหัวเราะ พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้าสำนักจางไม่ต้องโมโห หยางเฟิงพูดถูก แก๊งฟ้าดินถูกกำจัด คนที่ได้ผลประโยชน์มากที่สุดก็คือพวกเรา รอเมื่อพวกเราได้ครอบครองบู๊ใต้ หยางเฟิงเจ้าพันธมิตรบู๊คนนี้ จะไม่เหลือเพียงชื่อเท่านั้นหรือ”

ได้ยินแบบนี้ จางเทียนซานค่อยอารมณ์ดีขึ้นมาหน่อย

แต่ว่า ไป๋หลิงหลงกับจางเทียนซานต่างมองตากัน

แล้วภายในสายตาก็เผยให้เห็นถึงแววแปลกๆ

หากแก๊งฟ้าดินถูกกำจัดแล้ว

ถึงตอนนั้น สำนักพวกเขาทั้งสองก็จะต้องต่อสู้กันเองแล้ว

ในใจทั้งสองต่างคิดไม่ซื่อ ต่างก็ไม่รู้ความคิดที่แท้จริงของอีกฝ่าย

ภายในโรงแรม

เสือขาวพูดขึ้นอย่างไม่พอใจว่า “ท่านแม่ทัพ จางเทียนซานเสียมารยาทกับท่านครั้งแล้วครั้งเล่า ให้ข้าน้อยไปสั่งสอนเขาสักหน่อยไหม?”

หยางเฟิงส่ายหัว ยิ้มหัวเราะพร้อมพูดขึ้นว่า “ไม่ต้องแล้ว จางเทียนซาน พฤติกรรมไร้ความปราณี ให้พวกเขากัดกันเอง สุดท้ายแพ้ทั้งคู่ พวกเราแค่ต้องมองไฟจากอีกด้านหนึ่งก็พอ”

หยางเฟิงอารมณ์ค่อนข้างดี

มาจินหลิงในครั้งนี้ ไม่เพียงได้เป็นเจ้าพันธมิตรบู๊ยังสามารถเอาบริษัทมหาชนจำกัดมูลค่านับหมื่นล้านมาได้

ที่สำคัญที่สุดก็คือ ชื่อจินหลิงนี้ ถูกเขาทำให้ปั่นป่วนแล้ว

“ที่รัก”

เวลานี้

เย่เมิ่งเหยียนที่นอนหลับอยู่ในห้องตื่นลุกเดินออกมา

เห็นแบบนี้ เสือขาวออกไปอย่างรู้ตัว

หยางเฟิงเดินไปกอดเย่เมิ่งเหยียนไว้ พร้อมพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มอ่อนโยนว่า “ทำไม นอนอิ่มแล้วหรือ?”

เย่เมิ่งเหยียนเอนพิงบนไหล่หยางเฟิง พยักหัวอย่างว่าง่าย พร้อมพูดขึ้นว่า “อืม”