ตอนที่ 1800 การขายน้ำยาสมุนไพรพลังฌาน (3) / ตอนที่ 1801 การขายน้ำยาสมุนไพรพลังฌาน (4)

ยอดชายาจักรพรรดิปีศาจ

ตอนที่ 1800 การขายน้ำยาสมุนไพรพลังฌาน (3)

หนึ่งขวดสามารถใช้ได้ห้าครั้งและทุกครั้งก็สามารถใช้ได้นานครึ่งเดือน

ซึ่งหมายความว่าน้ำยาสมุนไพรพลังฌานหนึ่งขวดสามารถใช้ได้เพียงสองเดือนครึ่งเท่านั้นดังนั้นบุรุษแข็งแกร่งคนนี้ถึงสั่งน้ำยาสมุนไพรพลังฌานสองขวด

“นายน้อยฉี ข้าเองก็อยากสั่งเหมือนกันแต่ข้ามีทุนไม่พอดังนั้นข้าเอาแค่ขวดเดียวก็พอ”

“ชิ เจ้าพวกผู้ฝึกฌานยาจก น้ำยาสมุนไพรพลังฌานขวดเดียวจะไปทำอะไรได้ นายน้อยฉี เอามาให้ข้าห้าขวด แต่แน่นอนว่าข้าจะนำเงินส่วนที่เหลือมาให้เมื่อข้ากลับมาอีกครั้ง”

เมื่อฉีซูเห็นฝูงชนตรงหน้า เขาก็ตื่นเต้นแล้วยกมือเพื่อส่งสัญญาณให้เหล่าคนที่วุ่นวายตรงหน้าหยุด

“ทุกท่าน น้ำยาสมุนไพรพลังฌานนี้ใช้ได้กับผู้ฝึกฌานขั้นปราชญ์เท่านั้น ต่อให้ผู้ฝึกฌานขั้นเซียนเอาไปใช้ผลลัพธ์ที่ได้ก็จะน้อยนิด” ทันใดนั้นทุกคนก็เงียบลงทันทีและตั้งใจฟังคำพูดของฉีซู

ผลลัพธ์เพียงเล็กน้อยงั้นหรือ

ถึงอย่างนั้นทุกคนก็ยังเชื่อว่าก็เชื่อว่าน้ำยาสมุนไพรยังเพิ่มความเร็วในการฝึกพลังฌานให้ผู้ฝึกฌานขั้นเซียนได้อยู่ดี ส่วนเหตุผลที่พวกเขาไม่ขัดขึ้นมาก็เพราะมั่นใจว่าฉีซูมีบางอย่างจะพูดอีก

“แต่ว่า…” เป็นอย่างที่ทุกคนคิด ฉีซูเริ่มพูดต่อ “น้ำยาสมุนไพรพลังฌานสูตรปรับปรุงนี้ไม่สามารถใช้กับผู้ฝึกฌานที่ต่ำกว่าขั้นปราชญ์ได้ไม่อย่างนั้นพวกเขาจะตัวระเบิดจนตายทันที”

“อะไรนะ” ทุกคนหน้าซีดและชายคนหนึ่งก็เริ่มท้อแท้ “ตอนแรกข้าว่าจะซื้อน้ำยาสมุนไพรไปให้บุตรชายบ้าง แต่เขาพึ่งอายุสิบปีเท่านั้นเองและยังไม่ได้เป็นผู้ฝึกฌานขั้นปราชญ์เลย ถ้าเขาสามารถใช้น้ำยาสมุนไพรนี้ได้ เขาจะต้องผ่านด่านเลื่อนระดับเป็นผู้ฝึกฌานขั้นปราชญ์ได้ในเวลาอันสั้นแน่นอน”

“ข้าเองก็เหมือนกัน ถึงแม้ว่าบุตรชายข้าจะพึ่งเกิดแต่ข้าก็ต้องเตรียมการไว้ให้เขา…”

เมื่อเห็นสีหน้าท้อใจของพวกเขา ฉีซูก็ยกยิ้ม “พวกท่านลืมแล้วหรือว่าน้ำยาสมุนไพรพลังฌานนี้ชื่ออะไรน้ำยารวบรวมพลังฌานสูตรปรับปรุงซึ่งหมายความว่าเป็นน้ำยาสูตรที่พัฒนาขึ้นมาใหม่ดังนั้นก็ต้องมีสูตรปกติเป็นเรื่องธรรมดา น้ำยาสมุนไพรสูตรปกติจะถูกกว่าสูตรปรับปรุงโดยขายเพียงขวดละสามสิบล้าน หนึ่งขวดสามารถใช้ได้แปดครั้งและน้ำยาสมุนไพรพลังฌานสูตรปกตินี้ก็สามารถใช้กับผู้ฝึกฌานที่ต่ำกว่าขั้นปราชญ์ได้”

ผู้คนที่ตอนแรกเศร้าซึมก็เปลี่ยนเป็นตื่นเต้นทันทีที่ได้ยินคำพูดของฉีซู

“นายน้อยฉี ท่านยังจะรออะไรอยู่อีก ข้าขอสั่งน้ำยารวบรวมพลังฌานสูตรปรับปรุงสามขวด ส่วนสูตรปกติ…ข้าขอสั่งสิบขวดเลย!”

“น้ำยารวบรวมพลังฌานสูตรปรับปรุงแพงเกินไปดังนั้นข้าสั่งให้ตัวเองแค่ขวดเดียว แต่ข้าขอสั่งสูตรปกติอีกยี่สิบขวด!”

ตอนแรกทุกคนมาที่เพื่อชมการแสดงและไม่มีใครคาดคิดว่าจะมีวันที่ร้านยาตระกูลฉีรุ่งเรือง

สมุนไพรพลังฌานคืออะไร เทียบกับน้ำยาสมุนไพรพลังฌานแล้วก็ไม่มีค่าพอให้พูดถึงหรอก!

ไม่ว่าสมุนไพรพลังฌานจะให้ผลมากมายแค่ไหนก็ทำได้อย่างมากที่สุดแค่เร่งการฝึกพลังฌานและเพิ่มความแข็งแกร่งทางกายภาพหรือรักษาโรคภัยไข้เจ็บเท่านั้น แต่การทำให้คนสามารถผ่านด่านเลื่อนระดับได้ทันทีน่ะหรือ แน่นอนว่าเป็นไปไม่ได้

“หลีกทางไป หลีกทาง!” ระหว่างที่ฝูงชนกำลังวุ่นวาย เสียงระเบิดอารมณ์ก็ดังขึ้นมาจากด้านหลัง “เจ้าไม่เห็นหรือว่าคุณชายใหญ่ของพวกเรามาแล้ว เหตุใดยังไม่หลีกไปอีก”

ฉีมั่วกำลังโบกพัดในมือเบาๆ อยู่ในด้านหลังฝูงชนพร้อมเผยรอยยิ้มชั่วร้ายบนใบหน้าคล้ายอิสตรีของเขา เมื่อเขาเห็นว่าห้องโถงร้านยาเต็มไปผู้คน รอยยิ้มเย้ยหยันก็ปรากฏขึ้นบนริมฝีปาก ตอนแรกการขายสมุนไพรพลังฌานของฉีซูรู้กันแค่ภายในนครเฟิงหลินเท่านั้นส่วนนครอื่นๆ ไม่มีใครทราบ เขาเป็นคนปล่อยข่าวนี้ออกไปเองเพื่อที่วันนี้เขาจะได้มาเห็นเหตุการณ์เช่นตรงหน้า

อีกไม่นานเขาเปิดโปงฉีซูต่อหน้าทุกคนแล้วอีกอย่าง…เขาจะขโมยตำรับน้ำยาสมุนไพรพลังฌานกลับไปด้วย!

ทันทีที่ฉีมั่วตั้งใจจะเบียดเข้ามาในห้องโถงโอสถ เขาก็ถูกบุรุษร่างสูงใหญ่กำยำที่กำลังโกรธจัดคนหนึ่งขวางทางเอาไว้ ชายคนนั้นผลักฉีมั่วออกไปแล้วพูดอย่างดุร้าย

…………………………

ตอนที่ 1801 การขายน้ำยาสมุนไพรพลังฌาน (4)

“เจ้าคิดจะแซงแถวงั้นหรือ ไสหัวกลับไปต่อแถวข้างหลังเดี๋ยวนี้!”

ใบหน้าของฉีมั่วแข็งค้าง เขากดความโกรธเอาไว้ภายในขณะที่กัดฟันกรอด “เจ้ารู้ไหมว่าข้าเป็นใคร”

บุรุษแข็งแกร่งผู้หนึ่งเป็นคนไม่กลัวสิ่งใดดังนั้นเมื่อได้ยินคำพูดของฉีมั่ว เขาก็มองฉีมั่วอย่างเหยียดหยาม “ใครจะสนว่าเจ้าเป็นใคร ไม่ว่าอย่างไรข้าก็ไม่มีทางยอมให้เจ้าแซงแถวแน่นอน ถ้าเจ้าไม่คิดจะต่อแถวก็ไสหัวไป!”

ตอนนั้นเองเสียงของชายแข็งแกร่งผู้นี้ก็ดึงดูดความสนใจของทุกคนให้หันมามอง พวกเขาใช้สายตาดูถูกและโกรธเกรี้ยวมองไปที่ฉีมั่ว

ใครจะรู้ว่าฉีซูมีน้ำยารวบรวมพลังฌานมากน้อยแค่ไหน ถ้าเกิดว่ามีคนอื่นสั่งน้ำยาสมุนไพรจำนวนมากพร้อมกันก็อาจจะไม่เหลืออะไรให้พวกเขาก็ได้ น้ำยาสมุนไพรพลังฌานนี้สามารถทำให้ผู้ฝึกฌานขั้นปราชญ์เลื่อนระดับได้เชียวนะ พวกเขาจะไปยอมให้มีคนอื่นมาแทรกแถวได้อย่างไร ไม่ว่าคนคนนั้นจะเป็นใครก็ต้องมาต่อแถวรอเท่านั้น!

ฉีมั่วหน้าซีดด้วยความโกรธจัด “ข้า ฉีมั่ว มีชีวิตอยู่มาหลายปีและไม่เคยมีใครพูดกับข้าแบบนี้มาก่อน ผู้คุ้มกัน ไล่พวกมันออกไปให้หมด!”

คำพูดของเขาทำให้ทุกคนโมโห

ท่ามกลางฝูงชนมีชายคนหนึ่งตะโกนขึ้นเพื่อสร้างความวุ่นวาย “ไอ้โง่ที่ทำตัวโอหังคนนี้มาจากไหนเนี่ย ไม่ว่าเจ้าจะเป็นใคร พวกเราก็ไม่ยอมให้เจ้ามาแทรกแถวหรอกนะ! เจ้ากล้าไล่พวกเรางั้นหรือ อย่าบอกข้านะว่าเจ้าตั้งใจจะกันไม่ให้พวกเราได้น้ำยาสมุนไพรพลังฌาน”

ตอนแรกฉีมั่วตั้งใจจะไล่พวกเขาออกไปเพื่อระบายความโกรธของเขาแต่คำพูดของเขาทำให้คนอื่นคิดว่าฉีมั่วตั้งใจเก็บน้ำยาสมุนไพรพลังฌานทั้งหมดไว้เองโดยไม่เหลือไว้ให้คนอื่น แล้วคนอื่นๆ จะยอมได้อย่างไร

ฝูงชนจ้องหน้าฉีมั่วอย่างโกรธเคืองราวกับว่าถ้าเขาก้าวเข้ามาอีกเพียงก้าวเดียว เขาจะสับฉีมั่วเป็นชิ้นๆ!

อันที่จริงเรื่องนี้เขาต้องโทษตัวเองที่ปล่อยข่าวให้ฉีซู ผู้ฝึกฌานในนครเฟิงหลินไม่เก่งกาจดังนั้นผู้คุ้มกันที่เขาพามาก็เพียงพอที่จะจัดการ

แต่ว่า…ตอนนี้เขาสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายทรงพลังออกมาจากคนบางคนในฝูงชนกลุ่มนี้และกลิ่นอายนี่ก็ทำให้ตัวเขาหวาดกลัว เห็นได้ชัดว่ายอดฝีมือสองสามคนนี้ไม่ได้เป็นคนของนครเฟิงหลิน!

ฉีมั่วกัดฟันและพูดขึ้น “ฉีซู เจ้าควรรีบออกมาที่นี่ อย่าคิดว่าการที่เจ้าซ่อนอยู่ข้างในแล้วข้าจะทำอะไรไม่ได้ ตอนนี้ก็ครบกำหนดหนึ่งปีแล้วและร้านโอสถตระกูลฉีที่เจ้าดูแลก็ใกล้จะล้มละลาย เจ้าแพ้แล้ว รีบส่งตัวฉีหลิงมาแล้วข้าจะไว้ชีวิตเจ้า!”

ภายในโถงโอสถ ฉีซูและน้องสาวก็ได้ยินเสียงของฉีมั่วแล้วแต่พวกเขาก็เลือกที่จะไม่สนใจ ตอนนี้เมื่อได้ยินเสียงหยิ่งยโสของเขาขึ้นอีกครั้ง ฉีหลิงก็ตัวแข็งแล้วเผลอจับมือฉีซูด้วยสายตาที่ปรากฏความหวาดกลัว

“เสี่ยวหลิง อย่ากลัวไปเลย” ฉีซูปลอบฉีหลิงแล้วลูบหัวนางเบาๆ “ข้าจะออกไปดูเอง เจ้ารอข้าอยู่ที่นี่ล่ะ” หลังจากพูดจบเขาก็หันไปมองลุงจ้าว “ท่านลุงจ้าว ได้โปรดดูแลเสี่ยวหลิงด้วย”

เมื่อฉีซูฝากฝังฉีหลิงแล้วเขาก็ปล่อยมือนางและเดินออกไปด้านนอกโถงโอสถ

ฉีมั่วยังคงส่งเสียงตะโกนจนคอแหบแห้งขณะที่ใบหน้าของเขาแดงก่ำ “ฉีซู เจ้ามันพวกชอบหนีปัญหา เป็นแค่ไอ้ขี้ขลาดที่ไม่ยอมรับความพ่ายแพ้! ข้าล่ะสงสัยจริงๆ ว่าเหตุใดอวิ๋นเยว่ชิงรับคนโง่อย่างเจ้าเป็นศิษย์ นางควรจะรับข้าไว้มากกว่าอีก!”

ใช่แล้ว ในหัวใจของฉีมั่ว เขาคิดอยู่เสมอว่าฉีซูต่ำต้อยกว่าเขา เขาอิจฉาที่ฉีซูมีอาจารย์ที่เก่งกาจ! เป็นเหตุผลว่าทำไมหลังจากที่อวิ๋นเยว่ชิงหายตัวไป ฉีมั่วจึงปฏิบัติกับฉีซูแบบนี้

“เจ้าเรียกข้างั้นหรือ” มีเสียงดังขึ้นจากโถงโอสถแล้วเมื่อฉีมั่วเงยหน้ามองก็เห็นฉีซูในชุดผ้าไหมปักดิ้นทองกำลังเดินออกมา ใบหน้าหล่อเหลาของเขาเฉยชาและมองฉีมั่วด้วยสายตาเย็นเยียบ

“ฉีซู ในที่สุดเจ้าก็ปรากฏตัวเสียที” ฉีซูยิ้มเยาะและพูดขึ้น “เจ้าแพ้แล้ว ส่งตัวฉีหลิงมา”