ตอนที่ 1802 การขายน้ำยาสมุนไพรพลังฌาน (5) / ตอนที่ 1803 การขายน้ำยาสมุนไพรพลังฌาน (6)

ยอดชายาจักรพรรดิปีศาจ

ตอนที่ 1802 การขายน้ำยาสมุนไพรพลังฌาน (5)

“เจ้ามั่นใจหรือว่าข้าแพ้” ฉีซูยิ้มเย็นแล้วตอบด้วยคำถาม

“ก็เห็นๆ กันอยู่” ใบหน้าคล้ายอิสตรีของฉีมั่วปรากฏความหยิ่งทะนง “เจ้าเชื่อหรือว่าการขายน้ำยาสมุนไพรพลังฌานเพื่อดึงดูดความสนใจของผู้คนจะทำให้พิสูจน์ได้ว่าเจ้าชนะ ข้าบอกความจริงให้ฟัง คนที่ช่วยเจ้าปล่อยข่าวเรื่องน้ำยาสมุนไพรพลังฌานที่ร้านโอสถเจ้าขายก็คือข้า ไม่อย่างนั้นข้าจะมีโอกาสเปิดโปงเจ้าได้อย่างไร”

ฉีซูหรี่ตา “ข้าต้องขอบคุณเจ้าเรื่องนั้น” ถ้าไม่ใช่เพราะฉีมั่วเขาก็ไม่สามารถขายน้ำยาสมุนไพรพลังฌานได้รวดเร็วอย่างนี้

“จนถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่คิดจะยอมรับความพ่ายแพ้อีกหรือ” ฉีมั่วยิ้มเยาะเย้ย “เหตุผลที่น้ำยาสมุนไพรพลังฌานถูกเรียกอย่างนั้นก็เพราะต้องใช้สมุนไพรพลังฌานในการผลิต ถ้าเจ้าใช้สมุนไพรธรรมดาแทนสมุนไพรพลังฌานก็เท่ากับว่าเจ้ากำลังหลอกลวงลูกค้า! ฉีซู ท่านพ่อโกรธมาก ถ้าเจ้ายอมส่งตัวฉีหลิงมาให้ตระกูลฉีด้วยตัวเอง ข้าก็จะโน้มน้าวท่านพ่อให้ยกโทษให้เจ้า”

เขาต้องการให้ฉีซูมอบตัวฉีหลิงมาให้ด้วยตัวเอง เพราะวิธีนี้จะทำให้ฉีซูต้องทนทรมานไปทั้งชีวิต!

ตอนนี้ฉีมั่วไม่ได้สังเกตว่าเมื่อทุกคนที่ได้ยินคำพูดของเขาก็มองฉีมั่วด้วยสายตาเหยียดหยามราวกับว่าเขาพึ่งพูดเรื่องโง่เง่าออกมา

“ฉีมั่ว เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าน้ำยาสมุนไพรพลังฌานของข้าไม่ได้ใช้สมุนไพรฌานผลิต” ฉีซูยิ้มเย็นและถามด้วยน้ำเสียงเหยียดยาม

“ฮะๆ” ฉีมั่วหัวเราะอย่างบ้าคลั่งเมื่อได้ยินคำถาม “สมุนไพรพลังฌานงั้นหรือ ถ้าเจ้ามีสมุนไพรพลังฌานแล้วเจ้าจะมีสภาพเลวร้ายแบบวันนี้ได้อย่างไร ฉีซูเจ้าคิดว่าข้าโง่หรือ”

ยิ่งไปกว่านั้น สมุนไพรพลังฌานทั่วทั้งอาณาจักรหลิวเฟิงก็อยู่ภายใต้การควบคุมของตระกูลฉี แม้แต่คนขายสมุนไพรพลังฌานเล็กๆ ก็ไม่สามารถต่อต้านตระกูลฉีแล้วขายสมุนไพรพลังฌานให้ฉีซูได้ ถ้าอย่างนั้นแล้วสมุนไพรพลังฌานของเขามาจากไหนกันล่ะ

“เร็ว พาข้าไปดูว่าน้ำยาสมุนไพรอะไรที่เจ้าทำออกมา” ฉีมั่วหัวเราะเยาะและเดินตรงผ่านฝูงชนเข้าไปในโถงโอสถ

เมื่อลูกค้าเหล่านี้รู้ตัวตนของฉีมั่วแล้วครั้งนี้ก็เลยไม่ได้หยุดเขา แต่พวกเขากำลังรอดูการแสดงดีๆ อยู่

ฉีหลิงเห็นฉีมั่วเดินเข้ามาในโถงโอสถ ร่างเล็กๆ และบอบบางของนางก็สั่นแล้วรีบไปซ่อนด้านหลังของลุงจ้าว

ฉีมั่วไม่ได้สังเกตเห็นฉีหลิงและเดินเข้ามาโดยไม่สนใจใครทั้งนั้น

“น้ำยาสมุนไพรพลังฌานอยู่ที่ไหน รีบเอามาให้ข้าเดี๋ยวนี้!”

ใครบางคนที่อยู่ในฝูงชนก็ทนดูเฉยๆ ไม่ได้แล้วพูดขึ้น “คุณชายใหญ่ตระกูลฉี ไม่ใช่ว่าสมุนไพรพลังฌานก็อยู่ในอ่างหรอกหรือ ตระกูลฉีของท่านควบคุมสมุนไพรพลังฌานเกือบทั้งหมดแต่ท่านกลับบอกไม่ได้ว่าสิ่งนี้คือน้ำยาสมุนไพรพลังฌานงั้นหรือ”

สีหน้าของฉีมั่วเปลี่ยนไปและเขาก็ส่งสายตามืดมัวไปให้ชายที่พูดเมื่อสักครู่ จากนั้นเขาก็เดินไปที่อ่าง

เมื่อเห็นฉีมั่วเดินเข้าไปหาอ่าง ลุงจ้าวก็ส่ายหน้าอย่างสิ้นหวัง

เทียบกับคุณชายรองที่โดดเด่นแล้ว ฉีมั่วคนนี้ก็เป็นแค่คนไร้ค่า! ลุงจ้าวไม่รู้จริงๆ ว่าผู้นำตระกูลคิดอะไรอยู่ถึงไล่คุณชายที่เก่งกาจออกมาแล้วยกทรัพย์สมบัติของตระกูลให้ฉีมั่ว

เรื่องนี้จะทำให้ตระกูลฉีที่พัฒนาความแข็งแกร่งขึ้นมาอย่างยากลำบากจบสิ้น

“สิ่งนี้น่ะหรือที่เจ้าเรียกว่าน้ำยาสมุนไพรพลังฌาน ก็แค่…” ก่อนที่ฉีมั่วจะพูดจบ สีหน้าเขาก็เปลี่ยนเป็นแข็งค้าง

เขาเป็นคนสมองทึบจริงๆ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็รู้ความแตกต่างระหว่างสมุนไพรธรรมดากับสมุนไพรพลังฌาน ดังนั้นเมื่อเขาสัมผัสได้ถึงพลังฌานที่อยู่ในอ่าง เขาก็แสดงสีหน้าดูไม่ได้อย่างที่สุดแล้วหันไปหาฉีซูอย่างเดือดดาล

“ฉีซู เจ้าไปได้สมุนไพรพลังฌานมาจากไหน เจ้าขโมยมาจากตระกูลฉีงั้นหรือ”

เมื่อฉีซูเห็นฉีมั่วกัดฟันกรอดเขาก็ยิ้มอย่างเฉยชา “ข้าเดินออกมาจากตระกูลฉีโดยไร้อาภรณ์และเจ้ายังค้นตัวข้าด้วยซ้ำ ยิ่งไปกว่านั้นเจ้ายังขโมยธำมรงค์มิติของข้าไปด้วย แต่ตอนนี้เจ้ากลับบอกว่าข้าขโมยของพวกนี้มาจากตระกูลฉีงั้นหรือ”

…………………………

ตอนที่ 1803 การขายน้ำยาสมุนไพรพลังฌาน (6)

ธำมรงค์มิติวงนั้นเป็นอาจารย์ที่มอบให้เขาและสิ่งของที่เก็บอยู่ในนั้นก็ล้ำค่ามาก แต่ว่าตระกูลฉีก็ใช้กำลังขโมยไปจากเขา

พวกเขายังหน้าด้านบอกให้เขาเดินตัวเปลือยเปล่าออกไปเหมือนตอนที่เขาพึ่งเกิดออกมาจากท้องมารดา เขาต้องเดินออกมาโดยไร้อาภรณ์! ของทุกอย่างที่อยู่บนตัวเขาเป็นของตระกูลฉี!

ดังนั้นไม่ใช่แค่ธำมรงค์มิติที่โดนขโมยแต่เขาก็โดนจับแก้ผ้าด้วย โชคดีที่สหายของเขายื่นเสื้อผ้ามาให้ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่สามารถเดินมาที่นครเฟิงหลินได้อย่างสงบสุข

“ในเมื่อเจ้าบอกว่าตัวเองไม่ได้ขโมยอะไรมาจากตระกูลฉีแล้วเจ้าไปเอาตำรับน้ำยาสมุนไพรพลังฌานมาจากไหน” ฉีมั่วจ้องหน้าฉีซูอย่างมาดร้าย

สายตาของเขาคล้ายกับมีอสรพิษกำลังพันอยู่รอบคอฉีซู

“คุณชายใหญ่” บุรุษที่ล้อเลียนฉีมั่วก่อนหน้านี้ก็ยังพูดขึ้นอีก “ในเมื่อท่านบอกว่าตำรับนี้เป็นของตระกูลฉี ท่านมีอะไรมาพิสูจน์ล่ะ ถ้าตระกูลฉีมีตำรับจริงเหตุใดก่อนหน้านี้ถึงไม่เคยใช้”

“เรื่องนี้…” ฉีมั่วเปลี่ยนสีหน้าแล้วพูดอย่างหน้าไม่อายว่า “ตำรับนี้เป็นของอาจารย์ของเขาที่เขาแอบซ่อนเอาไว้! การทำแบบนี้ไม่เท่ากับว่าเขาขโมยไปจากตระกูลฉีหรอกหรือ อีกอย่างสมุนไพรพลังฌานพวกนั้น…ก็ควรเป็นของตระกูลฉี!”

มารดาของฉีซูขโมยตำแหน่งของมารดาเขาดังนั้นเขามีสิทธิ์อะไรได้ครอบครองสิ่งของเหล่านี้

“ฮะๆ!” บุรุษผู้นั้นหัวเราะออกมา “เจ้าบอกเองว่าตำรับนี้มาจากอาจารย์ของคุณชายรอง นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ข้าได้ยินว่าสิ่งของจากอาจารย์จะไม่ได้เป็นของศิษย์อย่างเขา แต่เป็นของที่ควรยกให้เจ้า การยอมรับของวิชาจากอาจารย์ของเขาหมายความว่าขโมยมาจากเจ้าอย่างนั้นหรือ ข้าไม่เคยเจอใครหน้าไม่อายแบบท่านมาก่อนเลย!”

ฉีซูมองบุรุษผู้นั้นอย่างซาบซึ้ง เขาไม่คิดเลยว่าจะมีใครบางคนที่ไม่กลัวอำนาจของตระกูลฉีและกล้าพูดออกมาแบบนี้

แล้วก็เป็นอย่างคิด ทันทีที่เขาพูดแบบนี้ ใบหน้าของฉีมั่วที่เต็มไปด้วยจิตสังหารก็หันไปมองเขาขณะที่แผ่บรรยากาศเย็นเยียบจนถึงกระดูก

“เจ้ากล้าทำให้ตระกูลฉีอับอาย!”

ชายผู้นั้นยิ้มอย่างไม่เกรงกลัว “เมื่อใดที่เจ้าเคารพผู้อื่น ผู้อื่นก็จะเคารพเจ้ากลับ ถ้าไม่ใช่เพราะคุณชายใหญ่ตระกูลฉีทำตัวหน้าไม่อาย แล้วข้าจะพูดแบบนี้ไปทำไม”

ตอนที่ฉีมั่วกำลังจะระเบิดความโกรธ ชายคนนั้นก็เดินเข้าไปหาฉีซูแล้วประสานมือเคารพอย่างเป็นมิตร

“คุณชายรองตระกูลฉี ข้ามาจากอาณาจักรเทียนฉี ท่านจะเรียกข้าว่าพี่รองฉี[1]ก็ได้ การมาที่อาณาจักรหลิวเฟิงครั้งนี้ ข้าตั้งใจจะมาหาประสบการณ์และเมื่อได้ยินว่าที่นี่ขายน้ำยาสมุนไพรพลังฌาน ข้าจึงมาที่นี่”

คนที่มาจากอาณาจักรเทียนฉีงั้นหรือ แล้วยังใช้สกุลฉี?

ดวงตาของฉีซูเป็นประกายตกตะลึง

ไม่แปลกใจเลยที่เขาไม่กลัวฉีมั่ว มีเพียงตระกูลเดียวเท่านั้นในอาณาจักรเทียนฉีที่ใช้สกุลฉีซึ่งก็คือราชวงศ์ของอาณาจักรเทียนฉี!

ฉีมั่วไม่ได้คิดถึงตัวตนที่แท้จริงของเขาแล้วยังพูดเสริมอีกว่า

“ใครจะสนว่าเจ้ามาจากที่ไหน ใครก็ตามที่มีปัญหากับข้าจะต้องถูกสังหาร!”

ตอนนั้นเอง ใบหน้าของลุงจ้าวก็แดงแล้วแดงอีก การที่เขาเป็นคนของตระกูลฉีก็เป็นเรื่องสมควรที่เขาจะเชื่อฟังคำสั่งของตระกูลฉี แต่ถ้าเขามีโอกาสได้เลือก เขาขอเลือกฉีซู

ฉีมั่วคนนี้โง่มาก เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายเป็นถึงราชวงศ์ของอาณาจักรเทียนฉีแต่เขาก็ยังมองข้ามจุดนี้แล้วถึงกลับกล้าทำตัวโอหังต่อหน้าชายผู้นี้

ที่สำคัญการที่เขาเรียกตัวว่าพี่รองฉีก็หมายความได้เพียงอย่างเดียวว่าเขาคือองค์ชายรอง!

ฉีซูรู้เรื่องนี้ดีจึงตอบอย่างเคารพว่า “นายท่านรองฉี ข้าน้อยขอถามได้หรือไม่ว่าท่านต้องการอะไร”

บุรุษผู้นี้ดูอายุราวสามสิบปีขณะที่ฉีซูเป็นแค่เด็กหนุ่มคนหนึ่งเท่านั้น การที่เขาเรียกอีกฝ่ายว่านายท่านรองฉีจึงไม่ถือว่าเกินไป ยิ่งไปกว่านั้นอีกฝ่ายยังสื่อว่าไม่ต้องการถูกเรียกว่าองค์ชาย ไม่อย่างนั้นเขาก็คงไม่แนะนำตัวเองว่าพี่รองฉี

นายท่านรองฉีหรี่ตาและถามพร้อมรอยยิ้มว่า “นายน้อยฉี ข้าอยากให้ท่านเตรียมน้ำยาสมุนไพรพลังฌานจำนวนมากให้ข้าหน่อย แน่นอนว่าข้าจะจ่ายให้ในราคาขายปกติ ท่านว่าอย่างไร”

[1] ฉี (齐) ออกเสียงเหมือน ฉี (祁) จากตระกูลฉีของอาณาจักรหลิวเฟิงแต่เป็นอักษรจีนคนละตัว