ตอนที่ 1420 ไม่ขาดเงิน (1)
จวินอู๋เสียนึกถึงพวกคนพิษขึ้นมาทันที ดูจากสภาพของพวกคนพิษแล้ว มันเหมือนกับคนที่กินไผ่ขาวมากเกินไป เพียงแต่ว่าผลของมันรุนแรงกว่า
“ดูเหมือนว่าคนจากสิบสองวิหารได้ใส่ไผ่ขาวจำนวนมากลงไปในยาพิษที่พวกเขาใช้สร้างคนพิษ” ฝ่ามือของจวินอู๋เสียมีเปลวไฟสีม่วงลุกพรึ่บขึ้นมา หมั่นโถวถูกเผาจนกลายเป็นขี้เถ้าทันที
จวินอู๋เสียยังตรวจพบร่องรอยของไผ่ขาวในยาที่ได้รับแจกเช่นกัน ปริมาณของมันยังสูงกว่าปริมาณที่อยู่ในหมั่นโถวซะอีก!
ยาพวกนี้จะถูกป้อนให้กับเด็กๆที่ป่วย ระบบประสาทในสมองของเด็กยังอยู่ในช่วงกำลังพัฒนา หากพวกเขายังอยู่ในช่วงพัฒนา แล้วสมองได้รับการกระตุ้นมากเกินไป มันอาจจะทำให้เกิดความเสียหายที่ไม่สามารถแก้ไขได้
ถูกป้อนด้วยยาเช่นนี้ เด็กพวกนั้นจะต้องทุกข์ทรมานไปตลอดชีวิต มันเป็นความเสียหายที่ไม่สามารถย้อนกลับได้
ขนาดคนที่เย็นชาและเฉยเมยอย่างจวินอู๋เสีย เมื่อได้เห็นวิธีการที่ชั่วร้ายเลวทรามเช่นนี้ ความโกรธก็พลุ่งพล่านอยู่ในอก
คนใจบุญบ้าอะไร!? นี่มันปีศาจร้ายที่จ้องจะคร่าชีวิตผู้คนชัดๆ!
ทำเป็นสวมหน้ากากผู้ใจบุญ แต่ผลักผู้คนลงไปในขุมนรก แถมคนพวกนั้นยังถูกหลอกจนถึงที่สุด ความคิดสุดท้ายของพวกเขาก็คือสำนึกในบุญคุณของ “ผู้ใจบุญ” ของพวกเขา!
เทียบกับคนหน้าซื่อใจคดอย่างลั่วซีแล้ว จวินอู๋เสียยังชื่นชมคนที่ชั่วร้ายอย่างโจ่งแจ้งมากกว่า! อย่างน้อยคนพวกนั้นก็ทำความชั่วอย่างเปิดเผย
“เจ้านาย พวกนั้นเอาไผ่ขาวให้ผู้ลี้ภัยกิน เป็นไปได้ไหมว่าพวกนั้นใช้พวกผู้ลี้ภัยสร้างคนพิษ?” เจ้าแมวดำตกใจ โทษมันไม่ได้ที่คิดซะน่ากลัว ข้อเท็จจริงที่อยู่ตรงหน้าทำให้มันได้ข้อสรุปออกมาแบบนั้น
ไผ่ขาวสามารถใช้ทำให้ร่างกายของคนแข็งแรงขึ้นได้ แต่มันจะทำให้สมองได้รับความเสียหายอย่างมาก ถ้าใช้ไผ่ขาววางเป็นฐานก่อนที่จะเปลี่ยนคนพวกนั้นให้กลายเป็นคนพิษ กระบวนการนี้ก็จะเร็วขึ้นไม่ใช่หรือ?
“ต้องเป็นอย่างนั้นแน่” จวินอู๋เสียส่งเสียงอย่างเย็นชา ขยี้เม็ดยาจนกลายเป็นฝุ่น
ตอนนี้นางเกือบจะแน่ใจแล้วว่า แหล่งที่มาของพวกคนพิษมาจากเมืองชิงเฟิง อย่างน้อยส่วนหนึ่งของคนพิษก็ถูกสร้างจากผู้ลี้ภัยพวกนี้ แต่ติดอยู่แค่จุดเดียว แคว้นฟานเป็นเพียงแคว้นเล็กๆ ต่อให้พวกเขาเปลี่ยนคนทั้งแคว้นให้เป็นคนพิษ ก็ยังไม่สามารถสร้างคนพิษจำนวนมากขนาดนั้นได้
ถ้านางไขปริศนานี้ได้ นางก็จะพบกุญแจสู่ความลับเบื้องหลังคนพิษที่แท้จริง!
“เจ้านาย แล้วเราจะทำยังไงดีล่ะ? เราควรหยุดผู้ลี้ภัยจากการกินของพวกนี้รึเปล่า?” เจ้าแมวดำถาม
แต่จวินอู๋เสียกลับส่ายหน้า
มีแค่นางที่รู้เรื่องการเสแสร้งหลอกลวงของลั่วซี ในใจของผู้ลี้ภัยพวกนั้น ลั่วซีคือผู้มีพระคุณที่ยิ่งใหญ่ที่สุดซึ่งช่วยพวกเขาจากความเจ็บปวดและความทุกข์ทรมาน ขณะที่นางเป็นเพียงคนแปลกหน้าสำหรับพวกเขา ถ้านางพยายามเปิดเผยใบหน้าที่แท้จริงของลั่วซีต่อหน้าผู้ลี้ภัย พวกเขาจะไม่มีวันเชื่อสิ่งที่นางพูด และก็จะกลายเป็นว่านางทำให้ศัตรูไหวตัวขึ้นมาแทน
งานที่ได้ไม่คุ้มเสียแบบนี้ จวินอู๋เสียย่อมไม่ทำอยู่แล้ว
จวินอู๋เสียลูบคางอย่างใช้ความคิด ในเมื่อลั่วซีชอบเล่นบท “คนดี” มากนัก งั้นนางก็จะใช้วิธีตาต่อตาฟันต่อฟันจัดการกับเขา ให้เขาได้ลิ้มรสยาของตัวเอง!
“ไป ไปเดินดูรอบๆเมืองกัน” จวินอู๋เสียเลิกคิ้วขึ้น และเดินไปทางถนนที่ผู้คนพลุกพล่านมากที่สุดของเมืองชิงเฟิง
ทั้งๆที่โลกเกิดกลียุคขึ้นแบบนี้ แต่ด้วยเหตุผลพิเศษบางอย่าง เมืองชิงเฟิงกลับไม่โดนอะไรเลย ทุกอย่างในเมืองยังเป็นปกติเหมือนเดิม และเพราะมีพ่อค้าต่างเมืองที่ร่ำรวยกลุ่มหนึ่งเข้ามา เศรษฐกิจของเมืองจึงเติบโตขึ้นเป็นทวีคูณ
ในปัจจุบัน สิ่งที่แพงที่สุดในเมืองชิงเฟิงก็ไม่ใช่อะไรอื่น นอกจากที่ดินของเมืองชิงเฟิงนั่นเอง!
เนื่องจากผู้ลี้ภัยจำนวนมากหลั่งไหลเข้ามาในเมือง ราคาบ้านจึงพุ่งสูงขึ้น สถานที่ที่เดิมทีไม่มีราคาค่างวดอะไร ตอนนี้กลับแพงลิบลิ่วจากการเก็งกำไรของผู้อยู่อาศัย บ้านที่เคยซื้อได้ในราคา 10 กว่าตำลึง ตอนนี้ถึงจะเสนอเงินเป็นพันตำลึงก็ยังไม่มีใครยอมขาย!