บทที่ 457 พอใจหรือยัง

Myth Online ฮีลเลอร์สายบู๊ [网游之奶个锤子]

บทที่ 457 พอใจหรือยัง?

บทที่ 457 พอใจหรือยัง?

ผลทำลายล้าง ถือเป็นค่าสถานะพิเศษ ที่จะได้รับก็ต่อเมื่อสกิลดังกล่าวสามารถสร้างความเสียหายแก่ผู้เล่นหรือมอนสเตอร์รวมไปถึงสิ่งมีชีวิตในบริเวณที่สกิลส่งผลถูกกำจัดได้ในทันที นั่นหมายถึง ผลทำลายล้างนี้ มีค่าเท่ากับตายทันที!

รวมถึงมันยังสามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างของผู้เล่นได้ด้วย ชัดเจนเลยว่าสิ่งนี้ถือเป็นหนึ่งในสิ่งที่ยากเกินกว่าจะต้านทานได้ในเกมไปแล้ว!

ตั้งแต่เมื่อครั้งที่ทัพแห่งความมืดโต้กลับแล้ว ตอนนี้เสี่ยวไป๋มีพลังโจมตีเพียง 100 นิด ๆ ถึงอย่างนั้นเธอยังสามารถปราบบอสระดับเทพเจ้าเลเวล 50 ได้ด้วยสกิลที่มีสถานะทำลายล้างเช่นกัน ดังนั้นทุกคนต่างก็รู้ถึงความน่ากลัวของสถานะทำลายล้างตั้งแต่นั้นมา!

ยิ่งกับสิ่งปลูกสร้างทั้งหลาย สถานะทำลายล้างนี้ก็ยิ่งถือเป็นหายนะระดับใหญ่หลวง มันสามารถทำลายทุกอย่างได้ด้วยความเสียหายจริงโดยไม่สนใจค่าความทนทานและพลังป้องกันของสิ่งนั้น ๆ เลยด้วยซ้ำ!

เลเวลของเมืองไอรอนครอสซิตี้คือ 12 เมื่อเทียบกับแคมป์กิลด์ผู้ปกครองกิลด์อื่น ๆ แล้ว เมืองนี้ก็ไม่ได้ด้อยไปกว่ากันเลย ไม่ว่าจะด้วยความทนทานหรือพลังป้องกัน มันก็มีมากมหาศาลจนไม่มีใครอยากพูดถึง! หากเป็นการต่อสู้กันระหว่างกิลด์ทั่ว ๆ ไป ต่อให้โถงหลักนี้จะถูกห้อมล้อมไว้ด้วยผู้เล่นนับพัน มันก็ยังต้องใช้เวลากว่าครึ่งชั่วโมงเพื่อจะทำลายมันให้ราบคาบเลยแท้ ๆ

ทว่าด้วยความรุนแรงของหอกศักดิ์สิทธิ์ลองกินัส พลังชีวิตที่มากมายของโถงเมืองเลเวล 12 นั้นก็หายฮวบ รวมไปถึงพื้นที่บริเวณโดยรอบนั้นก็ยังถูกผ่าออกเป็นสองส่วนอีกด้วย!

ยามที่หอกศักดิ์สิทธิ์เล่มยักษ์สลายไป มันก็ทิ้งไว้เพียงหุบเหวลึกราวกับไร้ที่สิ้นสุดอยู่กลางเมือง พื้นดินบริเวณนี้มันหายไปหมดเลย!

[ประกาศจากระบบ! สงครามได้จบลงแล้ว! โถงหลักของเมืองไอรอนครอสซิตี้ได้ถูกทำลาย ดังนั้นกิลด์กางเขนเหล็กจึงถือว่าเป็นฝ่ายพ่ายแพ้และต้องถูกลงโทษโดยการลดระดับกิลด์ลง 1 เลเวล! ผู้ชนะได้แก่ เมืองแห่งความโศกเศร้า! รางวัลคือค่าประสบการณ์เทียบเท่ากับที่ผู้พ่ายแพ้ถูกลดไป!]

เมื่อโถงหลักถูกทำลาย ระบบก็ประกาศบทสรุปของสงครามตามลำดับซึ่งผลมันก็ถูกคาดเดาไว้แล้วอย่างไม่ต้องสงสัย เซียวเฟิงสามารถเห็นได้ชัดว่าค่าประสบการณ์ของเมืองแห่งความโศกเศร้านั้นเพิ่มขึ้นจากชัยชนะในครั้งนี้ แม้ว่ามันจะค่อนข้างน้อยก็ตาม

“ขนาดเมืองหลักระดับ 3 ยังสามารถทำลายได้ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียวเลยเหรอเนี่ย…”

ทุกคนที่มารับชมสงครามครั้งนี้ต่างเงียบสงัดกันไปหมด เสียงประกาศของระบบที่ดังไปทั่วบริเวณทำเอาพวกเขาที่เป็นถึงกิลด์ระดับสูงจากทั่วทั้งฮัวเซียพากันพูดไม่ออก ไม่เพียงแต่ผู้เล่นหลักล้านคนของกิลด์กางเขนเหล็กภายในเมืองไอรอนครอสซิตี้ที่อ้ำอึ้งอยู่กับร่างที่กำลังบินอยู่เหนือเมืองเท่านั้น

ร่างที่ว่า คือร่างของยูนิคอร์นแห่งแสงศักดิ์สิทธิ์ที่กำลังสยายปีกอันกว้างใหญ่ของมันบินผ่านฟ้าไปมา มันเป็นภาพในฝันของใครหลายคนที่จะได้นั่งบนหลังสิ่งมีชีวิตอันสง่างามและโบยบินไปบนฟากฟ้าไกล

ในขณะเดียวกันนั้น ร่างสีดำของผู้ที่นั่งอยู่บนสัตว์ในตำนานตนนั้นกลับเปรียบเสมือนฝันร้ายที่กำลังย้ำขย้ำหัวใจของพวกเขาทุกคน ร่างที่เต็มไปด้วยเกราะกระดูกภายใต้กระโหลกที่เปล่งแสงจากดวงตา ชื่อตัวละครที่เด่นชัดให้ทุกคนสามารถจดจำได้ และเจ้าของชื่อนั้นกำลังสั่นคลอนฮัวเซียทั้งเขตอีกครั้ง เผลอ ๆ ก็น่าจะสั่นคลอนทั่วทั้งโลกของเกมด้วย!

“นี่คือ…ความแข็งแกร่งของเจ้าแห่งฮีลเลอร์…ผู้ที่ครอบครองอันดับ 1 ของอันดับความแข็งแกร่งจากทั่วทุกเซิร์ฟเวอร์…”

“แค่การโจมตีครั้งเดียวก็สามารถทำลายโถงหลักของเมืองหลักระดับ 3 ได้! สกิลระดับตำนานนั่นน่ากลัวจริง ๆ!”

“แต่เจ้าแห่งฮีลเลอร์จะหายโกรธหรือยังนะ? วิธีการของกางเขนเหล็กก็ดีแหละ แต่มันจะคุ้มเหรอ?”

หลังจากที่ความเงียบเข้าปกคลุมบริเวณรอบเมืองไปพักใหญ่ ๆ เสียงกระซิบกระซาบถึงเหตุการณ์เมื่อครู่ก็ดังไปทั่ว ในขณะเดียวกัน บริเวณเหนือกำแพงเมืองไอรอนครอสซิตี้ ชินห่าวผู้ที่มองไปยังหุบเหวบริเวณกลางเมืองของตนก็ถึงกับมุมปากกระตุก กระนั้นเขาก็ยังปั้นหน้ายิ้มและหันไปหาเซียวเฟิงที่บินอยู่บนฟ้า

[ประกาศจากเมือง : เจ้าแห่งฮีลเลอร์ หายโกรธแล้วสินะครับ จริง ๆ แล้วพวกเรากางเขนเหล็กรู้สึกอับอายกับสิ่งที่ได้กระทำลงไปกับคุณเซียวหลิงมาก ๆ กระนั้นพวกเราก็เชื่อมั่นว่าท่านคงจะได้เห็นความจริงใจในการขอโทษของพวกเราแล้ว ดังนั้นตอนนี้ถึงเวลาที่เราจะกลับมาปรองดองกันได้หรือยัง? อันที่จริงผมต้องการจะเป็นเพื่อนกับท่านเจ้าแห่งฮีลเลอร์ด้วยซ้ำ! – ชินห่าว]

[ประกาศจากระบบ : นี่มันแค่เริ่มต้น ใครบอกว่าฉันจะหยุด? เรื่องบางเรื่องมันก็ต้องจ่ายด้วยเลือด! – แด๊ด]

ท้ายที่สุด เซียวเฟิงก็พูดตอบกลับไป เขามองไปยังความวุ่นวายภายในเมืองไอรอนครอสซิตี้ด้วยแววตาที่ไม่มีการแยแสใด ๆ ทั้งสิ้น

ทันใดนั้นเอง นักบวชหนุ่มก็โบกมือซ้ายขึ้นพลันปรากฏวงเวทอัญเชิญลอยขึ้นมากลางอากาศข้าง ๆ เขา มันเปล่งแสงศักดิ์สิทธิ์อันแรงกล้าออกมาก่อนที่ร่างของเด็กสาวที่ประดับประดาไปด้วยสีขาวและสีเงินจะถูกอัญเชิญออกมา การที่วงเวทอัญเชิญถูกสร้างขึ้นกลางอากาศนี้ ทำให้เด็กสาวตัวน้อยจำต้องสยายปีกทั้งหกเพื่อกระพือประคองตนเองไว้ และภายใต้ขนนกที่ลอยฟ่องทั่วฟ้าหลังปีกทั้งหกถูกสะบัดแล้ว แววตาสีเงินสวยก็หันไปมองเซียวเฟิงด้วยความตื่นเต้น

“นายท่าน…”

ใบหน้าของเสี่ยวไป๋ที่ห่างหายไปจากเซียวเฟิงเป็นเวลาเนิ่นนานนี้แสดงออกถึงความสุข นางฟ้าตัวน้อยบินด้วยปีกทั้งหกลงไปยืนอยู่บนหัวเสี่ยวเสวีย และด้วยความสูงของเสี่ยวเสวีย มันจึงทำให้เธอสามารถเข้าไปโอบกอดคอของเซียวเฟิงได้พอดี

“ฮึ่ม!”

ทว่าเสี่ยวเสวียดูจะไม่พอใจนักที่หัวของเธอถูกใช้เหยียบแทนทางเดิน ยูนิคอร์นยักษ์เพศเมียจึงส่ายหัวไปมา แต่เมื่อพบว่าไม่สามารถสลัดเสี่ยวไป๋ออกได้ เธอจึงจำใจหันหน้าไปทางอื่นด้วยความหงุดหงิดแทน

“โอเค ๆ กลับมาแล้ว”

เซียวเฟิงลูบเรือนผมสีเงินของนางฟ้าตัวน้อยอย่างอ่อนโยน หลังจากที่เห็นว่าเสี่ยวไป๋ดูจะชื่นมื่นกับความสุขจนเอิบอิ่มแล้ว เขาจึงค่อย ๆ ยกเธอออกจากหัวเสี่ยวเสวียและให้มานั่งตรงหน้าเขาแทน ปีกทั้งหกถูกเก็บลงทันทีหลังไม่ต้องใช้งาน และมันก็ทำให้เซียวเฟิงสามารถโอบร่างของเสี่ยวไป๋ไว้ได้ด้วย

แต่แล้วแววตาของเซียวเฟิงก็กลับมาเย็นชาอีกครั้ง เขามองไปยังเมืองไอรอนครอสซิตี้ที่อยู่เบื้องล่าง จากนั้นก็เปิดเมนูฟังก์ชั่นของเมืองแห่งความโศกเศร้าอีกครั้ง

“นั่น! สัตว์เลี้ยงของเจ้าแห่งฮีลเลอร์!”

“สัตว์เลี้ยงระดับตำนานของเขาก็อยู่ที่นี่ด้วยงั้นเหรอ!? อย่าบอกนะว่าเขาอัญเชิญมาเพื่อจะเปิดศึกต่อน่ะ!”

“พระเจ้า! แค่เจ้าแห่งฮีลเลอร์คนเดียวก็น่ากลัวมากพอแล้ว! เท่าที่ฉันรู้มาจากการต่อสู้รอบล่าสุดของเธอ…สัตว์เลี้ยงเทพตัวนี้ไร้เทียมทานสุด ๆ เลยนะ!”

“ฉันเพิ่งจะตระหนักขึ้นได้ ว่าพวกเราดูถูกเจ้าแห่งฮีลเลอร์มากเกินไป ฉันคิดมาตลอดว่าเขาน่ะแค่ทรงพลังอย่างเดียว และการที่เขาสามารถเอาชนะคนนับหมื่นแสนได้ก็เพราะชุดอาร์ติแฟกต์ที่สวมอยู่ แต่ฉันลืมไปเลยว่าเขายังมีสัตว์เลี้ยงด้วย! และสัตว์เลี้ยงอันดับ 1 ของทุกเซิร์ฟเวอร์ที่สามารถฆ่าผู้เล่นหลักล้านคนได้ด้วยสกิลด้วยก็มาอยู่ต่อหน้าพวกเราแล้ว!”

“หมดหวังแล้วล่ะ เรื่องในวันนี้จบไม่สวยแล้ว กางเขนเหล็กโชคร้ายสุด ๆ ไปเลย!”

หลังจากที่ผู้เล่นที่มาชมด้านนอกพูดคุยกันได้ไม่นาน เสียงของระบบก็ดังขึ้นอีกครั้งจากบนฟากฟ้า

[ประกาศจากระบบ! เมืองแห่งความโศกเศร้าได้ทำการประกาศสงครามกับกิลด์กางเขนเหล็กแล้ว! สงครามมีระยะเวลา 12 ชั่วโมง! ภายใน 12 ชั่วโมงนี้ หากกิลด์กางเขนเหล็กสามารถรักษาฐานที่ตั้งกิลด์เอาไว้ได้ จะถือว่าเป็นผู้ชนะ แต่ถ้าหากถูกทำลายจนหมด จะถือว่าเป็นผู้แพ้! หลังจากสงครามจบลง ผู้พ่ายแพ้จะถูกลงโทษจากระบบโดยการลดเลเวลของกิลด์ลงมา 1 เลเวล และถ้าฝ่ายที่แพ้มีเลเวลต่ำกว่าเลเวล 1 กิลด์หรือกองกำลังนั้นจะถูกยุบ! ผู้ชนะจะได้รับรางวัลจากระบบรวมถึงได้รับค่าประสบการณ์จากฝ่ายที่ถูกลดเลเวล! ระหว่างที่สงครามดำเนินอยู่ ค่าความเกลียดชังจะไม่เพิ่มขึ้นแม้จะผู้เล่นจะสังหารผู้เล่นด้วยกันเอง!]

ความเงียบสงัดเข้าปกคลุมผืนดินที่ราบกว้าง ก่อนที่บรรยากาศอื้ออึงจะกระจายไปกัดกินทั่วทั้งเมืองที่พังย่อยยับ

เหนือกำแพงเมืองไอรอนครอสซิตี้ ชินห่าวผู้ยืนฟังเสียงประกาศด้วยความมืดมนและเรรวน เขาไม่ได้พูดอะไรออกมา มันทำให้เซียวเฟิงที่บินอยู่เหนือเมืองดังกล่าวไม่สามารถเดาได้ด้วยว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอะไรอยู่

สมาชิกกิลด์ที่ห้อมล้อมชินห่าวไว้ไม่กล้าทำอะไรล้ำหน้า พวกเขาได้แต่มองชินห่าวผู้เงียบขรึมโดยที่ต่างฝ่ายต่างก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา เมื่อพวกเขาไม่ได้รับคำสั่ง พวกเขาก็จะไม่ทำอะไร ไม่เว้นแม้แต่โต้กลับ เพราะศัตรูในครั้งนี้คือเจ้าแห่งฮีลเลอร์ที่บินอยู่บนท้องฟ้า มันเป็นเรื่องยากมาก ๆ ที่พวกเขาจะโจมตีอย่างมีประสิทธิภาพ

“เสี่ยวไป๋ เห็นอาคารหลังนั้นไหม? เรียกดาบศักดิ์สิทธิ์มาแล้วสับมันซะ”

ทว่าแม้จะไม่มีใครพูดอะไร เซียวเฟิงก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรนัก เขาไม่สนใจว่าอีกฝ่ายคิดอะไรกันอยู่ นักบวชหนุ่มกระซิบข้างหูเสี่ยวไป๋ที่นั่งอยู่ด้านหน้าพร้อมกับชี้ไปยังโถงหลักของเมืองไอรอนครอสซิตี้ที่อยู่เบื้องล่างไปด้วย

หลังจากที่สงครามครั้งก่อนจบลง โถงหลักเมืองที่ถูกผ่าออกเป็นสองซีกก็ค่อย ๆ ฟื้นฟูโดยอัตโนมัติ กระนั้นบาดแผลที่เมืองนี้ได้รับก็ยังคงหลงเหลืออยู่ สิ่งเหล่านี้ต้องให้ฝ่ายซ่อมแซมของเมืองมาจัดการเอง ซึ่งในตอนนี้พวกเขาที่เป็นผู้เล่นไม่สามารถทำได้ เพราะเซียวเฟิงได้ประกาศสงครามรอบใหม่ไปแล้ว

“เข้าใจแล้วค่ะ…นายท่าน…”

เสี่ยวไป๋ตอบรับคำสั่งของเซียวเฟิงด้วยเสียงเบา เด็กสาวทำท่าเหมือนจะไม่อยากออกจากอ้อมแขนของเซียวเฟิงสักเท่าไหร่ แต่ท้ายสุดก็ยอมออกมา ปีกทั้งหกสยายกว้างปล่อยขนนกให้ฟุ้งกระจายไปตามอากาศ เธอกลับมาเป็นนางฟ้าตัวน้อยผู้งดงามอีกครั้ง พลันเมื่อปีกทั้งหกโบกสะบัด ร่างของเสี่ยวไป๋ก็ทะยานออกไปบนท้องฟ้าทันที

ชุดเกราะสีเงินปรากฏขึ้นตามตัวของเด็กสาว ปกปิดเรือนร่างที่เป็นเด็กเอาไว้ มันเปล่งแสงออร่าออกมาก่อนที่ดาบศักดิ์สิทธิ์ที่ขนาดใหญ่พอ ๆ กับบานประตูก็โผล่ขึ้นมาในมือของเสี่ยวไป๋ เธอจับด้ามดาบเล่มนั้นไว้ให้กระชับมือแล้วยกมันชี้ขึ้นฟ้า

แก๊ง…

เสียงระฆังแห่งสรวงสวรรค์ดังกังวานไปทั่วฟ้าไกล จากนั้นภาพที่คุ้นเคยก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง ผืนฟ้าแยกออกจากกันและฉายแสงศักดิ์สิทธิ์ที่สว่างจ้าลงมายังพื้นโลก แสงนั้นหนาแน่นขึ้นราวกับเป็นลำแสงนำทาง จากนั้นมันก็แปรเปลี่ยนเป็นดาบเล่มยักษ์ผ่าลงมากลางโถงหลักแห่งเมืองไอรอนครอสซิตี้ที่อยู่บนพื้นดิน!

ดาบศักดิ์สิทธิ์เล่นโตนั้นมีกำลังมากพอจะผ่าโลกให้เป็นร่องเหวได้เลย! สีทองที่เปล่งออกมาจากตัวดาบนั้น ราวกับว่ามันถูกสร้างขึ้นจากทองคำ และท้องฟ้าที่แยกออกจากันก็เหมือนว่าคมดาบมันผ่าผืนฟ้าเพื่อดิ่งลงมาด้วย

ตู้ม!

ไม่น่าประหลาดใจนักที่สกิลนี้มีพลังรุนแรงระดับทำลายล้างเช่นเดียวกับสกิลหอกศักดิ์สิทธิ์ลองกินัสของเซียวเฟิง นั่นเพราะทั้งสองเป็นสกิลระดับตำนานเหมือนกัน การโดนสกิลเหล่านี้โจมตีเข้าใส่โดยตรง ต่อให้เป็นสิ่งปลูกสร้างก็ยังไม่สามารถต้านทานได้!

โถงหลักของเมืองไอรอนครอสซิตี้ถูกผ่าแยกออกเป็นสองส่วนอีกครั้ง!

เช่นเดียวกับที่บนพื้นก็กลายเป็นหุบเหวรอยใหม่ ทั้งสองหุบเหวที่เกิดขึ้นในเวลาไล่เลี่ยกันนี้ตัดกันได้อย่างสวยงามราวกับเป็นรูปกางเขนก็มิปาน!

[ประกาศจากระบบ! สงครามได้จบลงแล้ว! โถงหลักของเมืองไอรอนครอสซิตี้ได้ถูกทำลาย ดังนั้นกิลด์กางเขนเหล็กจึงถือว่าเป็นฝ่ายพ่ายแพ้และต้องถูกลงโทษโดยการลดระดับกิลด์ลง 1 เลเวล! ผู้ชนะได้แก่ เมืองแห่งความโศกเศร้า! รางวัลคือค่าประสบการณ์เทียบเท่ากับที่ผู้พ่ายแพ้ถูกลดไป!]

มันเป็นเวลาเพียง 2 นาทีเท่านั้นหลังจากระบบประกาศเริ่มสงครามรอบใหม่แท้ ๆ ในตอนนี้ระบบก็ประกาศสิ้นสุดสงครามเป็นที่เรียบร้อยแล้ว! กระนั้นก็ไม่มีใครประหลาดใจอะไรกับผลลัพธ์เช่นนี้ จะมีก็แต่ความรู้สึกกดดันที่เพิ่มมากขึ้น

[ประกาศจากเมือง : เจ้าแห่งฮีลเลอร์ เท่านี้ท่านก็พอใจแล้วใช่ไหม? – ชินห่าว]

เสียงประกาศจากเมืองที่หายไปเป็นเวลานานดังขึ้นมาอีกครั้ง และคราวนี้มันก็ชัดเจนด้วยว่าน้ำเสียงของชินห่าวดูจะเสียความมั่นใจแบบสุด ๆ ถึงแม้ว่าตัวเขาจะไม่กล้าเปลี่ยนสีหน้า แต่จากน้ำเสียงนั้นก็เพียงพอแล้วที่จะยืนยันว่าเขาใกล้จะตบะแตกเต็มที

เหตุผลหลักก็เพราะ กิลด์กางเขนเหล็กอันน่าภาคภูมิใจของเขา มันถูกทำลายจนเลเวลลดลงมาเหลือเพียง 10 แล้ว! หากปล่อยให้โถงหลักเมืองถูกผ่าอีกครั้งหนึ่งล่ะก็ เมืองไอรอนครอสซิตี้ได้เหลือเพียงชื่อแน่ ๆ!

[ประกาศจากระบบ : พอใจเหรอ? นี่มันแค่เริ่มต้น ฉันก็บอกไปแล้วไงว่า บางสิ่งบางอย่าง ถ้ามันผิดพลาดไปแล้ว สิ่งที่จะชดใช้ได้ก็มีแค่เลือดเท่านั้น! – แด๊ด] น้ำเสียงของเซียวเฟิงไร้ซึ่งความแยแสใด ๆ ดังเดิม และเมื่อเสียงของเขาเงียบไป ระบบก็ประกาศข้อความขึ้นมาด้วยเสียงระบบเองอีกครั้ง

[ประกาศจากระบบ! เมืองแห่งความโศกเศร้าได้ทำการประกาศสงครามกับกิลด์กางเขนเหล็กแล้ว! สงครามมีระยะเวลา 12 ชั่วโมง! ภายใน 12 ชั่วโมงนี้ หากกิลด์กางเขนเหล็กสามารถรักษาฐานที่ตั้งกิลด์เอาไว้ได้ จะถือว่าเป็นผู้ชนะ แต่ถ้าหากถูกทำลายจนหมด จะถือว่าเป็นผู้แพ้! หลังจากสงครามจบลง ผู้พ่ายแพ้จะถูกลงโทษจากระบบโดยการลดเลเวลของกิลด์ลงมา 1 เลเวล และถ้าฝ่ายที่แพ้มีเลเวลต่ำกว่าเลเวล 1 กิลด์หรือกองกำลังนั้นจะถูกยุบ! ผู้ชนะจะได้รับรางวัลจากระบบรวมถึงได้รับค่าประสบการณ์จากฝ่ายที่ถูกลดเลเวล! ระหว่างที่สงครามดำเนินอยู่ ค่าความเกลียดชังจะไม่เพิ่มขึ้นแม้จะผู้เล่นจะสังหารผู้เล่นด้วยกันเอง!]