ณ ประเทศเล็กๆแห่งหนึ่งที่ถูกคั่นด้วยนานาประเทศและภูเขาแม่น้ำหลายสาย อาเหม็ดที่อยู่ในสภาพนุ่งกางเกงขายาวเปลือยท่อนบนกำลังยืนเอามือเท้าสะเอวหัวเราะร่า
แผ่นหลังของเขามีแต่รอยเส้นๆเต็มไปหมด คล้ายกับเป็นรอยหวดด้วยแส้ เกิดเป็นรอยแดงแต่ไม่เจ็บ
“มีเรื่องอะไรเหรอถึงได้อารมณ์ดีขนาดนั้น?” ซ่งชิงอู๋เข้าห้องมาก็เห็นอาเหม็ดดูมีความสุขมาก เห็นอาเหม็ดอารมณ์ดีเขาเลยพลอยมีความสุขไปด้วย
“ผมส่งของขวัญแต่งงานชิ้นโตไปให้ยัยแม่มดเฉินเสี่ยวเชี่ยนนั่น ฮ่าๆๆ!” อาเหม็ดยังคงหัวเราะต่อ พลางนึกถึงหน้าตาบูดบึ้งของแม่มดจอมวางแผนนั่น เขาก็สะใจ
“หืม?”
“ผมซื้อของเหมือนกับที่คุณเคยใช้กับผมอีกหนึ่งชุดส่งไปให้เขา~” พูดจบก็ฮัมเพลงออกมา คืนนี้มีคนไม่ได้นอนแล้ว~
ยามฟ้าใกล้สางฉันจะชนะ! ชนะ!ชนะ!
ยัยแม่มดจอมวางแผนนั่นเคยทรมานเขานัก! ตอนนี้เขามีโอกาสแก้แค้นแล้ว
“วิธีรักษาของหมอเฉินได้ผลไม่เลว” ซ่งชิงอู่พอใจในคำแนะนำของเสี่ยวเชี่ยนมาก ถึงตอนแรกที่เขาเห็นผลวินิจฉัยของเสี่ยวเชี่ยนจะรู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้เพ้อเจ้อก็ตาม
แต่พอทำตามคำแนะนำไปสักพัก…
ดวงตาของซ่งชิงอู๋มองไปที่อาเหม็ดอย่างลึกซึ้ง ดวงตาเย็นชาคู่นั้นฉายแววอบอุ่นขึ้นมาเล็กน้อย
อืม ผลที่ได้ไม่เลวเลยทีเดียว
จนถึงตอนนี้ซ่งชิงอู๋ยังติดค้างเสี่ยวเชี่ยนอยู่อีกข้อหนึ่ง การรักษาที่ได้ผลเกินคาดนี้เขารู้สึกว่าค่าใช้จ่ายไม่แพง
“ไม่เลวกับผีสิ! ผู้หญิงคนนั้นไร้จรรยาบรรณสิ้นดี ดูซิว่าเขาแนะนำอะไรไร้สาระคุณมา หลอกกันชัดๆ!” อาเหม็ดพูดด้วยท่าทางอวดดี
“หลอกเหรอ? งั้นก็ได้ เดี๋ยวผมเอาของที่เตรียมไว้ใช้กับคุณคืนนี้ไปทิ้งแล้วกัน” ซ่งชิงอู๋ทำท่าจะออกไป อาเหม็ดลนลานทันที
“หยุดนะ! กลับมาเดี๋ยวนี้!”
“ไหนว่าเขาหลอกคุณไง? ผมไม่อยากเห็นคุณถูกหลอก”
“งั้นก็ตั้งใจทำให้ดี ผมจะบอกให้นะ ผมเป็นคนที่หงุดหงิดง่าย ถ้ารับใช้ไม่ดีล่ะก็เตะทิ้งแน่!”
“รับทราบ องค์ชายของผม…”
ซ่งชิงอู่มององค์ชายที่ชอบเป็นรับ ทำตัวได้ใจใหญ่ ในใจกลับคิดว่า อืม ของดีๆแบบนี้ก็ควรจะส่งไปให้พวกเขาได้ใช้บ้างนั่นแหละ
หมอเฉินจะต้องชอบแน่นอน
แต่ไม่ใช่เลย
ในความเป็นจริงเสี่ยวเชี่ยนอยากจะบ้า
เธออุ้มกล่องใบนั้นที่ข้างในบรรจุของที่ไม่อาจบรรยายเตรียมหาโอกาสออกไปโยนทิ้ง
อวี๋หมิงหลางมองเธอด้วยรอยยิ้ม คำพูดของเขาทำให้เธอชะงัก
“คุณอยากเอามันไปทิ้งในถังขยะเหรอ? จากนั้นคนทั้งตึกก็จะรู้ว่าคุณเป็นผู้หญิงที่มีรสนิยมแบบพิเศษ? ถึงคุณจะเป็นภรรยาของหัวหน้าใหญ่ ไม่มีใครกล้าว่าคุณ แต่ต่อไปเวลาคุณออกไปนอกบ้านคงกดดันน่าดู คนอื่นๆจะพากันมองคุณด้วยสายตาแปลกๆ…”
เสี่ยวเชี่ยนยืนตัวแข็ง
เธอไม่อยากให้คนอื่นคิดว่าเธอมีรสนิยมแปลกหรอกนะ
หมู่บ้านของค่ายทหารไม่เหมือนกับหมู่บ้านทั่วไป ในนี้มีแต่คนรู้จักอาศัยอยู่ทั้งนั้น! ของพวกนี้ถ้าถูกคนอื่นเห็นเข้า เหล่าทหารที่มีความสามารถในการสืบเป็นเลิศจะต้องสืบได้แน่ว่าเธอเป็นคนทิ้ง
จากนั้น…
ชื่อSM[1]ภรรยาหัวหน้าใหญ่ไม่แน่อาจถูกใช้กันแพร่หลายแน่
คิดๆแล้วก็น่ากลัว
“ฉันขับรถออกไปทิ้งที่อื่นแล้วกัน”
อวี๋หมิงหลางดึงเธอไว้
“ดึกดื่นป่านนี้ อย่าทำเสียบรรยากาศดีๆของคืนนี้เลยดีกว่า เสียเวลา”
อันที่จริงคืนนี้เป็นคืนเข้าหอของเธอกับเขา เสียเวลาขับรถไปทิ้งขยะก็ดูไม่ค่อยดี
เสี่ยวเชี่ยนจินตนาการตัวเองขับรถออกไปท่ามกลางแสงจันทร์ จอดรถในที่เปลี่ยวทำเหมือนตัวเองเป็นโจร มองซ้ายมองขวาลงจากรถ ขุดหลุม ฝังกลบ…
ชีวิตดีๆของเธอทำไมต้องตกต่ำถึงเพียงนี้ด้วย!
ไอ้อาเหม็ดคนทุเรศ ตอนนั้นเธอไม่น่าใจอ่อนเลยจริงๆ น่าจะเสนอวิธีโหดๆให้ซ่งชิงอู๋ เล่นแรงๆให้อาเหม็ดตายไปเลย!
สุดท้ายก็เกลี้ยกล่อมเสี่ยวเชี่ยนจนยอม กล่องที่มีแต่ของไม่อาจบรรยายเหล่านั้นถูกโยนไว้ใต้เตียง ถึงจะมองไม่เห็นแล้ว แต่ไม่อาจบดบังจิตใจที่อยากค้นหาของเสี่ยวเฉียงได้ บางทีเดี๋ยวเขาควรจะหยิบออกมาลองดู อย่างเช่นกระบองเหล็กยืดหดได้ที่ล็อคข้อเท้าได้ด้วยอันนั้น
อย่าทำเสียน้ำใจเพื่อนสิ โดยเฉพาะเพื่อนต่างชาติ!
เสี่ยวเฉียงวางแผนชั่วร้าย
แต่ก่อนจะได้ทดสอบ ‘ความปรารถนาดี’ของเพื่อนต่างชาติ เขายังมีเรื่องสำคัญต้องทำ
“ลูกเชี่ยน คุณเปลี่ยนไปใส่ชุดแต่งงานสิ”
“หืม?” พอถ่ายภาพพรีเวดดิ้งเสร็จเธอก็เปลี่ยนออกทันที เพราะใส่แล้วทำอะไรลำบาก
“เปลี่ยนเถอะนะคนดี” เขาจูบเบาๆที่หน้าผากเธอ
เสี่ยวเชี่ยนมองชุดนุ่งน้อยห่มน้อยที่สืออวี้ให้มา แล้วมองชุดแต่งงานของตัวเองที่เอากลับมาด้วย แน่นอนว่าเธอเลือกชุดหลัง
ยังแอบคิดว่าวันนี้เขาจะมาในธีมเครื่องแบบ แต่เปล่าเลย พอเธอเปลี่ยนชุดมาแล้วอวี๋หมิงหลางก็จูงเธอไปที่หน้าต่าง ยืนอยู่ภายใต้แสงจันทร์ที่สาดส่องเข้ามา
“วันนี้ผมไม่ได้ทำพิธีผูกผมสาบานกับคุณ ผมจะทำตอนนี้”
“เอ่อ…ไม่ต้องหรอก” อยู่ๆก็จริงจังขึ้นมาเธอแอบเขินนะ โดยเฉพาะสีหน้าที่จริงจังมากของเขาในตอนนี้ ทำให้ใบหน้าของเธอร้อนผ่าว
“ต้อง!”
เขาจับมือเธอ แล้วยกมือที่ประสานกันขึ้นมาสาบานอย่างจริงจังต่อพระจันทร์
“ผมอวี๋หมิงหลางขอรับเฉินเสี่ยวเชี่ยนเป็นภรรยา รักกันตลอดไปตราบจนวันสุดท้ายของชีวิต ชาตินี้จะไม่ทิ้งกันไปไหน ฟ้าดินสุริยันจันทราเป็นพยาน!”
พอเห็นเขาสาบานด้วยท่าทางขึงขันแบบนั้นเสี่ยวเชี่ยนก็จริงจังขึ้นมาทันที
เขาพูดจบก็มองหน้าเธอ ควาหมายคือตาเธอแล้ว
“เหมือนกัน” เสี่ยวเชี่ยนพูดจริงจัง
“…” เสี่ยวเฉียงทำตาตี่ใส่ “เมียจ๋า จริงจังหน่อยได้ไหม?”
“ฉันแค่รู้สึกว่า นายก็พูดได้ชัดเจนดีอยู่แล้ว ความคิดนายก็เหมือนของฉัน ก็เลยบอกว่าเหมือนกัน”
เล่นง่ายจริง คำสาบานในวันแต่งงานยังลอกคนอื่น เสี่ยวเฉียงแสดงออกว่าไม่พอใจ บังคับให้เธอพูดซ้ำอีกรอบ จากนั้นถึงโอบเธออย่างพอใจ ทำพิธีผูกผม
เขาแกะพู่ห้อยสีแดงบนเครื่องหัวของเธอออก ต่างคนต่างตัดผมของตัวเองออกมาเล็กน้อยแล้วใช้พู่สีแดงอันนั้นผูกเอาไว้ด้วยกัน เดิมควรจะใส่ไว้ในถุงผ้าที่ปักด้วยลวดลายอันสวยงาม แต่ตอนเสี่ยวเชี่ยนออกมาจากบ้านที่จัดงานไม่ได้เอาออกมาด้วย อวี๋หมิงหลางจึงไปหาถุงพลาสติคใบเล็กๆมาใส่เส้นผมของพวกเขาไว้ด้วยกัน เป็นการแสดงถึงการอยู่ด้วยกันตลอดไป ไม่แยกจาก
“ผูกผมสามีภรรยา” เขาถือถุงใบนั้นไว้แล้วยิ้มอย่างภูมิใจ
เสี่ยวเชี่ยนมองถุงลายเฮลโหลคิตตี้เงียบๆ จริงๆแล้วมันเป็นถุงใส่ยางลบมา…
“เสร็จพิธีแล้วใช่ไหม?” เสี่ยวเชี่ยนถาม
“อันที่จริงยังต้องขอบคุณพ่อแม่ จากนั้นก็คล้องแขนดื่มเหล้า” ในความคิดของอวี๋หมิงหลาง ขั้นตอนพวกนี้ทำช้าหน่อยได้ แต่ไม่ทำไม่ได้
“ฉันขอบคุณพ่อกับแม่ไปแล้ว ส่วนพ่อแม่ฉันไว้ค่อยทำไหม?” เสี่ยวเชี่ยนไม่ได้จริงจังอะไรขนาดนั้น
“ไม่ได้ ต้องวันนี้!” อวี๋หมิงหลางจัดแจงโทรหาแม่ยายทันที พอปลายสายรับปุ๊บก็พูดขอบคุณ
ยังไม่ทันที่เจี่ยซิ่วฟางจะได้พูดอะไรเขาก็วางสายไปแล้ว เสี่ยวเชี่ยนกลัวอวี๋หมิงหลางเกิดคึกขึ้นมาโทรหาพ่อที่ไม่รู้ไปตกร่องตายที่ไหนแล้วของเธอจึงรีบเปลี่ยนเรื่องคุย
“อาข่าให้เหล้ามาไม่ใช่เหรอ รอฉันเดี๋ยวนะ”
“อย่าขยับ ผมไปหยิบเอง!” ตอนนี้เขาไม่อยากเห็นเธอเหนื่อย
อวี๋หมิงหลางหยิบแก้วเหล้าออกมาสองใบ ถึงนี่จะเป็นพิธีที่มีกันอยู่แค่สองคน แต่ก็ต้องทำอย่างรอบคอบและทำทุกขั้นตอน
ไหเหล้าถูกแปะด้วยกระดาษแดงไว้หนึ่งชั้น พอดึงผ้าแดงที่แสดงถึงความเป็นสิริมงคลออก โฉมหน้าที่แท้จริงของไหเหล้าก็ปรากฏ
“อาข่าไปปล้นธนาคารมาเหรอ?” เสี่ยวเชี่ยนพูดอย่างชื่นชม
นี่คือไหเหล้าเครื่องเคลือบลงสีสมัยราชวงศ์ชิง บนนั้นวาดลวดลายที่เป็นสิริมงคลเอาไว้ เข้ากับบรรยากาศในวันนี้ได้เป็นอย่างดี งานฝีมือชิ้นนี้ประณีตงดงามมาก ถ้าเป็นของจริงไม่แน่อาจเป็นของที่ใช้ในวัง
“ช่วงหลายปีมานี้เขาก็ดูรายได้ดี ดูท่าจะร่ำรวยไม่เบา” อวี๋หมิงหลางไม่สนใจเรื่องมูลค่าของมัน เขาแค่อยากจะรีบๆกินเหล้าในพิธีให้เสร็จ จากนั้นจะได้เข้าเรือนหอรอรักสักที
ตรงปากไหถูกปิดไว้สองชั้น พอเปิดชั้นแรกออกก็พบว่ามีกระดาษซ่อนอยู่ เมื่อกางกระดาษออกก็พบข้อความที่เขียนด้วยพู่กัน ลายมือสวยไม่เบา ดูออกเลยว่าคนเขียนฝีมือไม่ธรรมดา
“สองสกุลเกี่ยวดอง สัญญารักมั่น วาสนาผูกกัน เหมาะสมยินดี ดอกท้อเบ่งบาน ฤกษ์งามยามดี สร้างครอบครัวสุขสันต์ ลูกหลานเต็มบ้าน อยู่กันจนแก่เฒ่า รักกันยืนยาวไม่เสื่อมคลาย ขอร่วมเป็นพยาน!”
อวี๋หมิงหลางอ่านออกมา ถึงเขาจะเกิดในครอบครัวทหาร แต่เนื่องจากย่าเป็นคนดังในแวดวงศิลปะเขาจึงพอจะดูพวกศิลปะการเขียนพู่กันจีนเป็น ต้องยอมรับเลยว่าคนๆนี้เขียนได้สวยมาก ลงน้ำหนักกำลังดี ตัวหนังสือดูมีชีวิต
เสี่ยวเชี่ยนกลับชื่นชมในเนื้อหา “อาข่าไปจ้างคนเขียน? นี่มันคัดลอกคำอวยพรสมัยหมินกั๋วมาเลยไม่ใช่เหรอ? และที่น่าขำที่สุดก็คือ ลอกคำว่าขอร่วมเป็นพยานมาด้วย อะไรจะเป๊ะขนาดนั้น”
[1] หมายถึง ซาดดิสม์กับมาโซคิส