และเทาเท่ก็ยอมรับเช่นกัน ว่าวันรุ่งขึ้นพอมีข่าวอื้อฉาวที่เขากับซูซีอยู่ด้วยกันทั้งคืนออกมา เขาก็ไม่ได้อธิบายกับหลินจือ ตั้งใจที่จะทำร้ายเธอ
รวมทั้งข่าวอื้อฉาวอีกมากมายระหว่างเขากับซูซี ทั้งๆที่เขารู้ว่าเป็นการสนับสนุนส่งเสริมในสื่อของซูซี ก็ยังคงไม่สนใจ เจตนาที่จะเล่นงานหลินจือ
ในตอนนั้นความเกลียดชังหลากหลายที่เขามีต่อหลินจือ คำพูดและการกระทำที่เป็นเจตนาไม่ดีล้วนแต่คอยจะเล่นงานเธอ
แม้กระทั่งหลายๆครั้งที่ในใจของเขาไม่ได้คิดที่จะทำแบบนั้น แต่พอคิดว่าสามารถทำให้หลินจือเจ็บ เขาก็จะทำ
ไม่ใช่ว่าเธอคิดหาวิธีที่จะได้มาแต่งงานกับเขาหรอกหรือ? ถ้าอย่างนั้นก็จะต้องยอมรับสิ่งตอบแทนที่จะได้รับทั้งหมดหลังจากที่แต่งงานกับเขา
ความเย็นชาของเขา ความหยาบคายของเขา ความไร้ความเมตตาของเขา เขาล้วนแต่ต้องการให้เธอได้รับมัน
และหลังจากที่เขามีเจตนาร้ายที่จะทำร้ายเธอแล้ว ถ้าหากหลินจือมาร้องไห้กับเขา ไม่แน่นว่าเขาอาจจะหยุดก็ได้
สิ่งที่เขาต้องการ ไม่ใช่เพียงแค่เห็นเธอเจ็บปวดเสียใจเพียงเท่านั้น
เธอเจ็บเธอเสียใจ ไฟในใจของเขาก็จะหายไป
แต่เธอไม่ร้องไห้ เขายิ่งคิดว่าเธอไม่เจ็บปวด ความโมโหของเขาก็เลยยิ่งเพิ่มรุนแรงมากขึ้น
จนกระทั่งเมื่อครู่นี้ ความหวั่นไหวของอารมณ์ความรู้สึกหลินจือนั้นได้บอกเขา เขาถึงได้รับรู้ ว่าแท้ที่จริงแล้วเธอเองก็มีความพะวงอยู่ในใจมาโดยตลอด
เทาเท่อยากจะโทรกลับไปอธิบายเรื่องของตัวเองกับซูซีว่าไม่มีอะไร แต่พอนึกถึงเธอที่เอาแต่วางสายใส่เขาครั้งแล้วครั้งเล่า ก็ยอมที่จะไม่อธิบายอย่างไม่สบอารมณ์
ทั้งๆที่เป็นการคุยโทรศัพท์ที่มีความเป็นมิตร แต่สุดท้ายก็กลับจบลงไม่ดีอีกแล้ว
หลังจากที่วางสายไปแล้วหลินจือก็สงบลงอยู่พักหนึ่ง จากนั้นก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเพิ่มเพื่อนในwe chatของเทาเท่
เขาช่วยเธอขนาดนี้ ความจริงแล้วเธอไม่ควรที่จะวู่วามและวางสายเขาอย่างใช้อารมณ์แบบนี้ แต่เธอก็ไม่อยากจะโทรไปขอโทษเขาอีก จึงนึกถึงที่ควีนพูดเอาไว้พอดี ว่าเพิ่มเพื่อในwe chatของใหม่อีกครั้ง
เพิ่มเพื่อนในwe chat เพื่อแสดงความจริงใจของเธอ
หลังจากนั้นก็ส่งข้อความไปขอโทษเขาในwe chat แบบนี้ระหว่างเธอกับเทาเท่จะได้ไม่ต้องทำตัวไม่ถูกต่อกัน
หลังจากที่หลินจือกดอนุญาตเพิ่มเพื่อนแล้ว เทาเท่ทางนั้นจะต้องยืนยันสถานะของเธอด้วยเช่นกัน
เธอรออยู่พักหนึ่ง เทาเท่ก็ยังไม่กดผ่าน หลินจือรู้สึกพูดไม่ออกอยู่บ้าง เขาคงจะไม่โกรธเสียจนไม่รับเธอแล้วนะ?
ทำนิสัยเป็นเด็กเสียจริงๆ
ไม่ได้มีความคิดที่จะคิดเรื่องพวกนี้ เธอรีบเปิดคอมพิวเตอร์แล้วล็อคอินเข้าweiboของตัวเอง แล้วลบเนื้อหาเกี่ยวกับความรักในweiboออกจนหมด
การวิจารณ์บทละครและการแชร์รูปอาหารนั้นเก็บเอาไว้ ในweiboที่ว่างๆโล่งๆไม่มีเนื้อหาเลยก็ดูจะใช้ไม่ได้ เห็นได้ชัดว่าดูเหมือนเป็นบัญชีที่เพิ่งจะเปิดใช้งาน
หลังจากที่เตรียมweiboเสร็จเรียบร้อยแล้วนั้น หลินจือก็โทรหาเจเทาวน์ บอกว่าตัวเองตัดสินใจที่จะใช้บัญชีของตัวเองในการเปิดเผยความจริงออกมา
เจเทาวน์เอ่ยพูดขึ้นมาอย่างนิ่งๆ : “ใช้บัญชีของคุณเองก็ได้ครับ”
จากนั้นเขาก็อธิบายขึ้นอีกครั้ง : “ผมคิดว่าคุณไม่มีบัญชีweibo ก็เลยคิดจะใช้บัญชีที่เป็นที่นิยมของเบลดิ้ง จะได้สามารถช่วยคุณได้”
“ฉันทราบถึงความหวังดีของคุณค่ะ ขอบคุณมาก” หลินจือเอ่ยขึ้น : “แต่ถึงอย่างไรเบลดิ้งก็เป็นบัญชีของบริษัท อีกทั้งในสังกัดของพวกเราก็มีศิลปินดังๆมากมายด้วย ถ้าหากว่าเป็นเพราะเรื่องของฉันส่งผลกระทบต่อพวกเขา นั่นก็คงไม่ดีหรอกค่ะ”
หลินจือบอกกับเจเทาวน์ว่าตัวเองได้รับบัญชีรายรับรายจ่ายรายวันของพ่อลูกชาร์ลีที่เอาเงินมาจากเทาเท่แล้ว เจเทาวน์รู้สึกประหลาดใจทั้งเอ่ยพูดออกมาจากใจอีกครั้ง : “มีหลักฐานพวกนี้แล้ว คุณก็สามารถชนะได้นะครับ ดูแล้วเทาเท่ก็ไม่ได้ไร้ความเมตตาขนาดนั้นเหมือนกัน”
มิน่าล่ะจู่ๆหลินจือถึงได้เปลี่ยนความคิดที่จะใช้บัญชีของตัวเอง เทาเท่ยื่นมือออกมาแทรกนี่เอง
ไม่ใช่ครั้งเดียวที่เทาเท่แอบขัดขวางไม่ให้เขาเข้าใกล้หลินจือ คิดอะไรอยู่กัน?
คงจะไม่ใช่ว่าเทาเท่ไม่ต้องการหลินจือแล้ว ก็จะไม่อนุญาตให้ผู้ชายคนอื่นมาจีบเธอหรอกนะ?
“คงจะเป็นเพราะฉันน่าสงสารจริงๆมั้งคะ” หลินจือเอ่ยขึ้นพลางหัวเราะเยาะตัวเอง
เธอเองก็ไม่รู้ว่าทำไมเทาเท่ถึงใจดีขนาดนี้เช่นกัน อาจจะเห็นว่าเธอน่าสงสารจริงๆก็ได้
“ถ้าอย่างนั้นคุณก็แก้ไขweiboพูดออกมาแล้วกันนะครับ ผมเชื่อว่าจากสำนวนภาษาของคุณ จะสามารถอธิบายเรื่องนี้ออกมาได้อย่างชัดเจน” เจเทาวน์ไม่ได้เอ่ยพูดถึงเรื่องของเทาเท่อีก ส่วนเทาเท่จะคิดอะไรอยู่กันแน่นั้น เจเทาวน์จะไปทำให้ชัดเจนเอง
หลังจากที่คุยกับเจเทาวน์เสร็จแล้วนั้น หลินจือเริ่มพิจารณาไตร่ตรองเขียนweiboเพื่อเป็นการทำให้ความจริงของตัวเองกระจ่างออกมา
เธอเปลี่ยนชื่อweiboเป็น : ใจหลินปลูกอุ่น ความหมายโดยนัยคือหัวใจของเธอจะเติบโตอยู่ในสถานที่ที่อบอุ่น จะไม่ไปในที่ไกลๆอีกแล้ว
บัญชีรายรับรายจ่ายรายวันตรงชื่อผู้โอนเงินนั้นเธอลบออก เนื่องจากว่าคนที่โอนเงินนั้นก็คือบัญชีส่วนตัวของเทาเท่ เธอไม่อยากจะเปิดเผยตัวเองว่าเป็นอดีตภรรยาของเทาเท่ในเวลานี้ ไม่อย่างนั้นแล้วเธออาจจะถูกโจมตีอีกเรื่องหนึ่งก็ได้
ตอนนี้เรื่องดีๆของซูซีกับเทาเท่ใกล้จะมาถึงแล้ว ถ้าหากเธอถูกขุดออกมาว่าเป็นอดีตภรรยาของเทาเท่ แฟนคลับของซูซีคงจะได้มาฉีกเธอออกเป็นชิ้นๆแน่
เธอเพียงแค่อยากจะพิสูจน์ตัวเองถึงการมีสัจจะและความเมตตาพอกับพ่อลูกชาร์ลีแล้ว ส่วนคนอื่นและเรื่องอื่นไม่มีความจำเป็นที่จะดึงเข้ามาเกี่ยวด้วยเลย
หลินจือเรียบเรียงข้อความในweibo เนื้อหาแรกเริ่มนั้นแนบกับรายละเอียดบัญชีรายรับรายจ่ายเหล่านั้น แทบจะทุกๆยอดที่ไม่ต่ำว่าห้าแสน และยังมีอีกหลายยอดที่ถึงหลักล้าน รวมๆกันแล้วนับว่าเป็นเงินจำนวนมากก้อนหนึ่งเลย
เธอประกาศว่าในช่วงการแต่งงานช่วงสามปี พ่อลูกชาร์ลีได้รับเงินทองทรัพย์สินจากสามีของเธอแล้ว
และแนบด้วยหลังจากที่หย่ากันแล้วเธอก็ให้อีกเป็นแสน และสองสามวันก่อนที่ให้อีกสองหมื่น พิสูจน์ว่าตัวเองไม่ได้ละเลยกับหน้าที่ที่จะต้องเลี้ยงดูเขา
เกี่ยวกับเรื่องที่เธอกับพ่อลูกชาร์ลีที่ไม่ได้มีความสัมพันธ์กันทางสายเลือด หลินจือคิดว่าจะวางหลักฐานเอาไว้ตอนท้ายสุด ส่วนพ่อลูกชาร์ลีวางแผนใส่ร้ายเรื่องราวสกปรกโสมมเหล่านั้นกับเธอ เธอไม่ได้พูดถึง เธอเชื่อว่าหลักฐานเหล่านี้เพียงพอที่จะพิสูจน์กับสิ่งที่เธอทำดีที่สุดได้แล้ว
หลังจากที่โพสต์ลงweiboไปแล้ว ทันใดนั้นก็มีการส่งต่อกันอย่างหลากหลาย
สุดท้ายของสุดท้าย เธอประกาศออกมาอย่างมีสัจจะ หวังว่าบัญชีวีไอพีคนนั้นจะลบการสัมภาษณ์ที่ไม่เป็นความจริงในช่วงนั้นไป หวังว่าทุกคนจะหยุดโจมตีเธอด่าว่าเธอ มิเช่นนั้นแล้วเธอจะฟ้องร้องตามกฎหมาย เพื่อปกป้องสิทธิอำนาจที่ถูกต้องของตัวเอง
เป็นเพราะว่าสิ่งที่เธอส่งออกมานั้นล้วนแต่เป็นความจริง คำวิพากษ์วิจารณ์บนอินเตอร์เน็ตนั้นก็ค่อยๆเริ่มเปลี่ยนไป
“ฉันว่าแล้วเรื่องแบบนี้ต้องมีการผกผัน ตอนนี้ทำให้ตัวเองขายหน้าแล้วไหมล่ะ?”
“ดูแล้วweiboเมื่อก่อนของพี่สาวคนนี้ เป็นคนรักชีวิต จิตใจดี จะต้องไม่ทำเรื่องที่ว่าไม่เลี้ยงดูพ่อแม่แบบนี้หรอก”
“ยัยหลินอะไรนี่ อย่าทำเกินไปนะ เอาเงินไปตั้งมากมายขนาดนั้นแล้วยังจะบอกว่าพี่สาวไม่เลี้ยงดูเขาอีก?”
“เชรด ฉันนับดูบัญชีรายรับรายจ่ายแล้ว สุดท้ายตัวเลขที่คำนวณออกมาตกใจเสียจนขากรรไกรเกือบหลุด”
“ใช่ๆ เงินก้อนใหญ่ขนาดนั้น สำหรับคนธรรมดาอย่างพวกเราแล้วพูดได้ว่าสามารถใช้ในครึ่งชีวิตหลังได้อย่างสบายไม่ต้องกังวลเลย กับสองพ่อลูกนั่นทำไมถึงได้ใช้เงินเป็นเบี้ยแบบนี้กัน?”
“เป็นคู่พ่อลูกแวมไพร์นี่เอง!”
“สนับสนุนพี่สาวตัดขาดความสัมพันธ์กับสองพ่อลูกคู่นั้นเลย”
“พี่สาวพยายามช่วยอย่างถึงที่สุดแล้ว ทั้งๆที่รู้ว่าไม่ใช่ลูกไม่ใช่พี่น้องกันแท้ๆ แต่กลับยังคงดูแลพวกเขามาตั้งหลายปีขนาดนั้น”
“จู่ๆก็รู้สึกสงสัยว่าอดีตสามีของพี่สาวนี่ศักดิ์สิทธิ์มาจากไหนกัน เงินก้อนใหญ่ขนาดนี้ก็ให้พ่อตา รักพี่สาวมากจริงๆ”
“สงสัยเหมือนกัน! ขอร้องช่วยขุดอดีตสามีของพี่สาวมาหน่อย!”
“อยากรู้ว่าพี่สาวกับอดีตสามีทำไมถึงหย่ากัน?”
แล้วก็ยังมีที่ยิ่งเกินไปกว่านั้น : “อยากรู้เรื่องราวความรักของพี่สาวกับอดีตสามี”
ตอนที่หลินจือเห็นความวิพากษ์วิจารณ์เหล่านี้แทบจะสำลักน้ำที่อยู่ในปากของตัวเองอยู่แล้ว เทาเท่รักเธอจริงๆ? เป็นเพราะเขาให้เงินพวกนี้อย่างนั้นหรือ?
อยากจะเห็นเรื่องราวความรักของเธอกับเทาเท่?
ถ้าอย่างนั้นพวกเขาอาจจะต้องผิดหวังกันแล้ว ไม่ได้มีเรื่องราวอะไรเลย และยังเป็นการเริ่มต้นที่ผิดพลาดอีกด้วย