เสี่ยวหลัว ติดตาม กู่ กุ้ยหลิน กลับไปที่สถานีตำรวจ หลังจากที่พวกเขาเสร็จสิ้นการสอบสวนและลงทำบันทึกแล้ว เสี่ยวหลัว ก็ลุกขึ้นยืนและกล่าวคำอำลากับเธอ

“เสี่ยวหลัวคุณเป็นใครกันแน่?” กู่ กุ้ยหลิน จ้องมองไปที่ เสี่ยวหลัว ด้วยดวงตาที่กลมโตของเธอ หลังจากที่เธอถามคำถามเกี่ยวกับแมงป่องแดงเสร็จ

เสี่ยวหลัว ยิ้มแล้วตอบว่า“ฉันเป็นพลเมืองที่ปฏิบัติตามกฎหมาย”

“คุณก็รู้ ว่านั่นไม่ใช่สิ่งที่ฉันอยากจะรู้”

กู่ กุ้ยหลิน พูดต่อว่า“ตามคำให้การของ ฝาง ฉงชิ่ง และคนอื่นๆ คุณอยู่ที่นั่นในวันนั้นที่ ชูเยว่ ถูกลักพาตัว ทหารรับจ้างของกลุ่มแมงป่องแดง ทั้ง 17 คน คุณเป็นคนสังหารพวกเขาใช่ไหม?”

ทันทีที่เธอพูดเรื่องนี้ขึ้นมา ตำรวจทุกคนในสำนักงานก็หันมามองเธอ พวกเขาก็อ้าปากค้างและแสดงสีหน้าที่ตื่นตกใจ กองทหารรับจ้างแมงป่องแดงทั้ง 17 คน เสียชีวิตลงด้วยมือของเด็กคนนี้จริงๆงั้นเหรอ เรื่องนี้มันเป็นไปได้ยังไง เขาก็ดูเป็นคนธรรมดาๆที่ไม่ได้พิเศษอะไร เขาจะฆ่าสัตว์ประหลาดทั้ง 17 คน นั้นไปได้อย่างไร?

“ไม่ใช่!”

เสี่ยวหลัวเขาตอบปฏิเสธอย่างชัดเจน เขาไม่จำเป็นที่จะต้องสารภาพทุกอย่าง

“แต่คุณเป็นผู้ต้องสงสัยคนสำคัญ คุณรู้จักกับ ชู หยุนเชียง ผู้ซึ่งเป็นประธานของ ฉางชาน พาวิลเลี่ยน และคุณยังบังเอิญอยู่ที่นั่นในวันนั้น ฉันมีเหตุผลที่ให้ต้องสงสัยว่า คุณเป็น บอดี้การ์ดของ ชู หยุนเชียง ที่จ้างมาเพื่อปกป้อง ชูเยว่ เพื่อรับประกันความปลอดภัยของเธอ” กู่ กุ้ยหลิน กล่าว

เสี่ยวหลัว หัวเราะออกมาอย่างขำขัน“นั่นมันเป็นเพียงการคาดเดาของคุณ และคุณก็ไม่มีหลักฐานอะไรมาอ้างอิงถึงเรื่องนี้เลย นอกจากนี้ คุณกู่ ทำไมคุณถึงต้องค้นหาว่าใครเป็นคนทำ การที่ทหารรับจ้างที่สมควรตาย พวกนั้นตายไปมันก็เป็นเรื่องที่ดีแล้วไม่ใช่เหรอ?”

“มันเป็นความรับผิดชอบและภาระหน้าที่ของฉันในฐานะเจ้าหน้าที่ตำรวจ ฉันต้องค้นหาความจริง”

“แล้วถ้าคุณรู้ความจริงว่าใครที่เป็นคนทำ คุณตั้งใจที่จะจับเขาเข้าคุกใช่ไหม?” เสี่ยวหลัว ถาม น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความเย็นชา

กู่ กุ้ยหลิน ตกใจเล็กน้อย จากนั้นเธอก็ตอบเสียงดังว่า“ฉันจะไม่ส่งเขาเข้าคุก การค้นหาความจริง ก็คือทั้งหมดที่ฉันแสวงหา”

“ความจริงก็คือ ผู้ชายผู้ต้องสงสัยคนนั้น ช่วยคุณล้างกลุ่มทหารรับจ้างที่เข้ามาในประเทศของเราอย่างผิดกฎหมาย” จากนั้นเสี่ยวหลัวก็พูดเปลี่ยนหัวข้อ “คุณกู่ พวกเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ตามจับกุมเป้าหมายของคุณ เกือบที่จะทำร้ายชีวิตของฉันและรถยนต์ของเพื่อนฉัน ฉันคิดว่าคุณควรคิดถึงจำนวนเงินชดเชยที่เหมาะสมสำหรับพวกเราจะดีกว่านะ ฉันยังมีเรื่องอื่นที่ต้องไปทำ ดังนั้นฉันขอตัวก่อน”

เมื่อเสี่ยวหลัว พูดจบประโยคเขาก็โบกมือและก็เดินจากไป

กู่ กุ้ยหลิน ตะโกนใส่หลังของเขา“เสี่ยวหลัว! สักวันฉันจะต้องรู้ให้ได้ว่าคุณเป็นใคร!”

เสี่ยวหลัวไม่ได้หันกลับไปมองเธอแต่อย่างใด

ตราบใดที่เขายังจัดการกับความรู้สึกผิดชอบชั่วดีของตัวเองได้ แล้วทำไมเขาถึงจะต้องไปสนใจสิ่งที่คนอื่นคิดกับเขาด้วย แม้ว่าบุคคลผู้นั้นจะเป็นตำรวจก็ตาม?

จาง ซูซาน ที่กำลังนั่งรออยู่ในรถ สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยอาการที่ผิดปกติ ตอนนี้เขายังไม่หายจากความตกใจที่เสี่ยวหลัวยิงแมงป่องแดง แม้ว่าเขาจะโหดเหี้ยม แต่เขาก็ไม่เคยคิดฆ่าใคร อย่างไรก็ตามเพื่อนที่ดีที่สุดของเขา เสี่ยวหลัวเขากลับยิงและฆ่าคนต่อหน้าต่อตาของเขา ฉากของเลือดที่สาดกระเซ็นที่กระสุนเจาะทะลุหัวของแมงป่องแดง มันยังคงฉายวนเวียนซ้ำอยู่ในใจของเขาเหมือนกับแผ่นหนังม้วนหนึ่ง

ประตูรถถูกเปิดออก จากนั้นเสี่ยวหลัว ก็เข้าไปนั่งยังที่นั่งผู้โดยสารด้านหน้า

จาง ซูซาน มองไปที่เขาโดยไม่ได้พูดอะไร ตอนนี้เขาดูเหมือนกับคนโง่

“ฉันจะให้แกหยุดพักสองสามวัน เพื่อให้สมองของแกผ่อนคลาย” เสี่ยวหลัว กล่าว

เขารู้ว่า จาง ซูซาน ตอนนี้เขากำลังรู้สึกอย่างไร มันก็เช่นเดียวกับตอนที่เขารู้สึกหลังจากที่เขาฆ่าใครบางคนเป็นครั้งแรก มันจะต้องใช้เวลาในการทำใจ

“แก…คือเสี่ยวหลัว….จริงๆใช่ไหม?” จาง ซูซาน พูดติดอ่างในขณะที่มองไปที่เพื่อนของเขา

“แน่นอน”

“แต่ฉันรู้สึก เหมือนกับว่ามันไม่ใช่แกที่ฉันเคยรู้จัก”

เมื่อได้ยินคำพูดนี้ เสี่ยวหลัวก็ส่ายหัวและหัวเราะอย่างขมขื่น เขาถอนหายใจและพูดว่า“ฉันก็ยังเป็นน้องชายที่ดีของแก เช่นเคย”

ครั้งหนึ่งเสี่ยวหลัวเคยสงสัยว่าระบบเปลี่ยนนิสัยของเขา แต่ในท้ายที่สุด เขาก็ค้นพบว่าระบบไม่ได้เปลี่ยนนิสัยหรือบุคลิกของเขาไปเลย ความจริงก็คือเขามีลักษณะทั้งหมดเหล่านี้ซ่อนอยู่ในตัวของเขาอยู่แล้ว ระบบแค่เพิ่มพละกำลังให้กับเขาในการตัดสินชะตากรรมและชีวิตของศัตรูก็เท่านั้น

******

จาง ซูซาน ต้องการเวลาในการคิดดังนั้น เสี่ยวหลัว จึงให้เวลาเขาคิดได้มากพอ

อย่างไรก็ตามเขาก็คิดว่ามันคงจะดีกว่า ถ้าเขาพาคนไปหานักข่าวที่ทำลายชื่อเสียงของ หลัวฝาง กับเขาด้วย หลังจากคิดเกี่ยวกับมันแล้ว เสี่ยวหลัว เขาก็คิดว่า หลี่ จื่อเมื่ง หัวหน้าแผนกการตลาดนั้นเหมาะสมที่จะไปกับเขา เพราะว่าเธอน่าจะ คุ้นเคยกับร้านค้าหลักๆ และสิ่งสำคัญที่สุดคือ หลังจากข่าวที่ทำลายชื่อเสียงของบริษัทถูกเผยแพร่ออกมา เธอได้ติดตามนักข่าวคนนี้มาเป็นระยะเวลาหนึ่งและรู้จักนักข่าวคนนี้ดี

“ประธานเสี่ยว นี่คือข้อมูลของนักข่าวคนนั้น ค่ะ ”

หลี่ จื่อเมิ่ง เดินเข้ามาในห้องทำงานของ เสี่ยวหลัว และวางเอกสารบนโต๊ะทำงาน เธอสวมสูทสีดำและเสื้อเชิ้ตสีขาวที่มีคอลูกไม้ แขนเสื้อถูกม้วนเผยให้เห็นแขนของเธอ และที่ข้อมือซ้ายเธอสวมนาฬิกาสีขาวที่ละเอียดอ่อนอยู่

ผมของเธอยาวประบ่าและโค้งงอเล็กน้อย เธอมีรูปร่างทรงนาฬิกาทรายและมีใบหน้าที่เหมือนกับภาพถ่าย ตัวของเธอมันปลดปล่อยบรรยากาศของหญิงสาวมืออาชีพที่มีความสามารถและมีประสบการณ์ออกมา

เสี่ยวหลัวตอนนี้เขายังไม่รู้ตัวตนของสายลับของ Taste Buds ที่แฝงตัวอยู่ในบริษัทของเขา ดังนั้นตอนนี้เขาจึงยังไม่ได้เก็บมาคิดว่าใครคือสายลับที่แฝงตัวอยู่

เสี่ยวหลัวมองไปที่เอกสาร มันมีรูปของชายคนหนึ่งที่มีดวงตาที่เรียวเล็ก และมีตุ่มเนื้อเล็กๆอยู่บนใบหน้าของเขา เขาดูค่อนข้างผอม อย่างไรก็ตามหมวกขนสัตว์สีดำที่เขาใส่อยู่นั้นค่อนข้างจะทันสมัย

“คุณหลี่ คุณได้ติดต่อกับ เฉิน เจียนไป่ แล้วใช่ไหม คุณคิดว่าเขาเป็นยังไง?” เสี่ยวหลัว สอบถาม

หลี่ จื่อเมิ่ง คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างจริงจังและตอบกลับว่า“เขาเป็นคนที่ไร้เหตุผล เมื่อเขาได้ยินว่าฉันมาจาก หลัวฝาง เขาก็ไล่ฉันออกไปในทันที”

“เป็นอย่างนั้นเองเหรอ? ตอนนี้ฉันชักอยากจะเจอกับเขาซะแล้วสิ”

เสี่ยวหลัวยกยิ้มขึ้น เขาชักจะอยากรู้ว่า เฉิน เจียนไป่ เขาจะเป็นคนไร้เหตุผลได้ถึงขนาดไหน

……

แทงโก้เรด ออดี้ เคลื่อนตัวออกจากที่จอดรถ คนขับคือ หลี่ จื่อเมิง และมี เสี่ยวหลัว ที่กำลังนั่งอยู่ที่เบาะหลัง

ด้วยความสัตย์จริง ด้วยการที่เธอเป็นคนขับรถให้กับเจ้านายของเธอ มันทำให้เธอรู้สึกเครียดมาก ที่สำคัญที่สุดคือ เสี่ยวหลัว เขาไม่ได้พูดอะไรออกมาเลยแม้แต่คำเดียวตั้งแต่เข้ามาในรถ ซึ่งนั้นมันทำให้บรรยากาศระหว่างการเดินทางของพวกเขาอึดอัดใจมาก เธอรู้สึกเหมือนกำลังนั่งอยู่บนเข็มในขณะที่เธอขับรถอยู่

ในที่สุดเธอก็พยายามที่จะทำลายความเงียบลง”ประธานเสี่ยว คุณตั้งใจจะจัดการกับ เฉิน เจียนไป่ อย่างไร”

เสี่ยวหลัว ตอบเธอไปตามตรงว่า“ฉันจะถามเขาว่า ทำไมเขาถึงต้องทำให้หลัวฝาง สูญเสียชื่อเสียง”

“เขาคงจะไม่ยอมรับการกระทำของเขาแน่ๆ เขาจะพูดเพียงว่า มันมีบางอย่างผิดปกติกับผลิตภัณฑ์ของเรา และนั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้อื่นเสียชีวิต เขาจะยืนยันว่า เขาเพียงแต่รายงานตามความจริงเท่านั้น นอกจากนี้ฉันยังได้ยินมาว่า เขาเป็นพี่น้องกับพวกอันธพาล ฉันกลัวว่าถ้าเราไปหาเขาแบบนั้น …”

“มันจะไม่เป็นไร ฉันจะเป็นคนที่คุยกับเขาเอง”

เสี่ยวหลัวยิ้ม จากนั้นเขาจึงเปลี่ยนหัวข้อการสนทนา“รถยนต์ของคุณมีราคาอย่างน้อย 300,000 ถึง 400,000 หยวน เลยใช่ไหม? มันสะดวกสบายและเงียบสงบดีจริงๆ”

หลี่ จื่อเมิ่ง หัวเราะออกมาอย่างไม่เป็นธรรมชาติ มันแปลกเล็กน้อยที่เจ้านายของเธอกำลังชมรถของเธอ “ประธานเสี่ยว ฉันพนันได้เลยว่ารถยนต์ของคุณคงจะต้องใช้เงินเป็นล้านๆ เพื่อซื้อมัน ”

“รถของฉัน? ฉันไม่มีรถยนต์” เสี่ยวหลัว ตอบ

ไม่มีรถยนต์?

หลี่ จื่อเมิ่ง ประหลาดใจ

“คุณคงกำลังสงสัยในคำพูดของฉันสินะ ฉันไม่มีรถจริงๆ” เสี่ยวหลัว รู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ เขาล้อเลียนตัวเองว่า“ฉันไม่มีรถยนต์ ไม่มีคนขับรถ และยังไม่มีแม้แต่จักรยานเลย”

“ประธานเสี่ยว แล้วทำไมคุณถึงไม่ซื้อมันล่ะ”

“คุณคิดว่าสถานการณ์ในปัจจุบันของ หลัวฝาง มันอนุญาตให้ฉันซื้อหรือไง”

หลังจากได้ยินคำตอบของเสี่ยวหลัว หลี่ จื่อเมิ่ง พูดไม่ออกทันทีและไม่รู้ว่าจะพูดอะไรเธอคิดกับตัวเองว่า: มันไม่ถูกต้องใช่ไหม? เขาเป็นประธานของ บริษัท แต่เขาไม่มีเงินแม้แต่จะซื้อรถได้! อืมมันช่างน่าอึดอัดใจมาก!”

เธอแอบมอง เสี่ยวหลัว ในกระจกมองหลัง ในทันใดนั้นเธอคิดว่าเขาน่ารักดี

ใช่แล้วเขาน่ารัก!