ทว่าในเวลานี้ ชายที่ชื่อพี่หลี่กลับเริ่มหวาดระแวง เพราะเรื่องนี้แปลกเกินไป…
วิ่งตามไปได้ไม่ไกล เขาก็เหลือบเห็นเงาร่างของคนคนนั้นอีกครั้ง เงาร่างนั้นมีรอยเลือดกองใหญ่ข้างหลัง ท่าทางเหมือนกำลังพยายามยืดตัวนั่งพิงกำแพงตรงมุมเลี้ยวอย่างยากลำบาก พี่หลี่ชะลอฝีเท้าช้าๆ จ้องอีกฝ่ายอย่างระแวดระวัง จากนั้นก็ดึงดาบสั้นออกมาเงียบๆ ย่างเท้าเข้าไปใกล้ พลางถามหยั่งเชิง “ทำไมไม่หนีแล้วล่ะ? เมื่อกี้บอกให้หยุดไม่ได้ยินหรือไง?”
สิ้นเสียงถาม เขาพลันตะโกนชื่อของเงาร่างตรงหน้าออกมา “หลี่เฉิงกวง?”
เงาร่างที่ท่อนบนเต็มไปด้วยเลือดนั้น กลับเป็นหลี่เฉิงกวงที่อยู่ๆ ก็หายตัวไป…
ตอนที่พวกเขาวิ่งไปดูที่รถ พวกเขาตกใจกับรอยเลือดบนหน้าต่างก่อน จากนั้นเฮ่อเจิ้นก็เห็นไฟแช็กที่ตกอยู่บนพื้น แต่ในขณะที่พี่หลี่เพิ่งจะรู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากล เขาก็เหลือบเห็นเงาร่างของหลี่เฉิงกวงที่มุมกำแพงซึ่งอยู่ไม่ไกล
ตอนแรกเขายังคิดว่าตัวเองตาฝาด เพราะอีกฝ่ายเอาแต่ยืนนิ่งไม่ขยับอยู่ในความมืด ซึ่งมันแปลกมาก แต่กว่าเขาจะได้สติ และหมายจะตะโกนถามสุดเสียง เงาร่างนั้นพลันขยับ และก้าวถอยหลังหลบเข้าไปหลังกำแพงทันที
หลังจากที่เงาร่างหายไป พี่หลี่ก็ได้สติ นั่นไม่ใช่ผู้ลอบโจมตี แต่เป็น…หลี่เฉิงกวงจริงๆ!
ถึงแม้เขาเลือดท่วมตัว ท่าทีก็แปลกไป แต่ไม่ว่ารูปร่างหรือเสื้อผ้าที่สวมใส่ ล้วนเป็นของหลี่เฉิงกวงอย่างไม่ต้องสงสัย
แต่ปัญหาคือ ทำไมจู่ๆ เขาถึงอยู่ในสภาพนั้นได้ แล้วทำไมเขาต้องซ่อนตัว?
เสี้ยววินาทีนั้น พี่หลี่ไม่มีเวลาให้คิดมาก เขาพุ่งตัววิ่งตามออกมาทันที…
ตอนนี้ในที่สุดก็วิ่งตามมาทัน แต่พี่หลี่ไม่รีบร้อนเข้าใกล้ กลับเคลื่อนไหวช้าๆ อยู่ในระยะที่ห่างออกไปสิบเมตร ปากก็ถามว่า “หลี่เฉิงกวง แกทำบ้าอะไรวะ? เวลาอย่างนี้ยังก่อความวุ่นวายอยู่อีก ไม่กลัวลูกพี่เชือดแกหรอ?” เขาครุ่นคิด พลางพูดเสียงเย็นชา แล้วพูดต่อ “หรือว่าแกคิดจะจับปลาตอนน้ำขุ่น? คิดจะฉวยโอกาสนี้ซ่อนตัวเพื่อแอบดูเรื่องสนุกคนเดียว? ฉันขอเตือนว่าล้มเลิกความคิดดีกว่า หลังเรื่องจบ ลูกพี่เป็นคนแรกที่จะไม่ปล่อยแกไป ไม่แน่ว่าแกอาจทำให้พวกฉันเดือดร้อนไปด้วย…”
พอเห็นว่าหลี่เฉิงกวงไม่คิดจะตอบ พี่หลี่ก็อดหัวเสียไม่ได้ เขาพูดเสียงต่ำ “แกนี่ก็ลงทุนเหมือนกันนะ ไม่คิดเลยว่าจะกล้าลงมือทำตัวเองเจ็บหนักขนาดนี้ คงคิดว่าบาดเจ็บหนักแล้วจะเลี่ยงการต่อสู้ได้ล่ะสิ?”
หลี่เฉิงกวงยังคงเงียบ…
พี่หลี่พูดถึงความเป็นไปได้สองทางติดๆ กัน แต่อีกฝ่ายกลับไม่มีทีท่าจะตอบ หรือแม้แต่หันมามองด้วยซ้ำ
ทว่าพอเห็นเลือดสีแดงสดที่ไหลออกมาไม่หยุดเหล่านั้น พี่หลี่พลันหัวใจกระตุกวูบ
“หลี่เฉิงกวง!”
พี่หลี่ตะโกนอย่างเดือดดาล ทันใดนั้น เขาเห็นหลี่กวงเฉิงขยับเล็กน้อย
พอเห็นอย่างนั้น พี่หลี่ยกดาบสั้นขึ้น และกระโดดถอยหลังหนึ่งก้าว ตั้งท่าเตรียมจู่โจม
แต่ไม่นานเขาก็พบว่า หลี่เฉิงกวงไม่ได้ขยับ แต่…ล้มลงไปข้างหน้า
“สลบงั้นหรอ?”
พี่หลี่สับสนเล็กน้อย พอหลี่เฉิงกวงล้มลงไปอย่างนั้น ร่างกายท่อนบนของเขาก็ล้มลงไปอยู่อีกฝั่งของทางเลี้ยว ทำให้พี่หลี่มองอะไรไม่เห็น
เขารออย่างระมัดระวังอยู่สองวินาที พอมั่นใจว่าลี่เฉิงกวงไม่ขยับแน่แล้ว บวกกับตอนนี้พวกเขาก็ยังอยู่ในระหว่างเตรียมพร้อมต่อสู้ จะเสียเวลาต่อไปไม่ได้อีก…
“แม่งน่ารำคาญชิบ ดีแต่สร้างเรื่อง…”
พี่หลี่ก่นด่าสารพัด พลางวิ่งเข้าไป ตอนแรกเขาถีบหลี่เฉิงกวงหนึ่งทีเพื่อความแน่ใจ จากนั้นจึงค่อยเดินอ้อมไปด้านหลังมุมเลี้ยว เห็นหลี่เฉิงกวงนอนคว่ำอยู่บนพื้น แน่นิ่งไม่ไหวติง บนพื้นมีแต่เลือดเต็มไปหมด
“สลบแล้วหรอวะ?”
พี่หลี่ถาม พอเห็นไม่มีการตอบสนอง จึงยื่นมือไปพลิกร่างหลี่เฉิงกวง
แต่เมื่อใบหน้าของหลี่เฉิงกวงปรากฏสู่สายตา พี่หลี่พลันตกใจสุดขีด
ภายใต้แสงจันทร์ หลี่เฉิงกวงหน้าซีดขาวจนเหมือนกระดาษ ดวงตาที่เหลือเพียงข้างเดียวเบิกกว้าง บนใบหน้ามีรอยข่วนที่ลึกจนเห็นกระดูกอยู่หลายเส้น ชิ้นเนื้อในแผลพวกนี้ปลิ้นออกมา เลือดไหลทะลักออกมาอย่างต่อเนื่อง…ส่วนดวงตาอีกข้างของเขา กลับกลวงโบ๋ว่างเปล่า แมงมุมตัวผู้ที่อยู่ในนั้น หายไปแล้ว…
ในตรอกทางเดินโล่งกว้าง ร่างกายของพี่หลี่ค้างแข็ง นี่มัน…กลับกลายว่าเป็นศพ…
แต่ในตอนนั้นเอง เขาพลันรู้สึกได้ถึงสัมผัสแหลมคม…ราวกับว่ามีบางสิ่งที่กำลังพุ่งเข้ามาจากข้างหลัง พี่หลี่หมุนตัวกลับไปตามสัญชาตญาณ ดาบสั้นในมือกวัดแกว่งออกไปทันที
เสียงดาบสั้นตวัดผ่าอากาศดัง “วูบ” แค่ได้ยินเสียงก็รู้แล้วว่าเรี่ยวแรงมหาศาลขนาดไหน แต่การตอบสนองอันรวดเร็วดาบนี้ กลับพลาดเป้า
ทว่าพี่หลี่ไม่มีเวลามาเสียดาย เพราะเขาเพิ่งค้นพบว่าด้านหน้าตัวเอง มีสัตว์กลายพันธุ์ตัวใหญ่ยักษ์ยืนอยู่หนึ่งตัว…
“พะ…แพนด้า…”
ปฏิกิริยาของพี่หลี่ยังถือว่าสงบนิ่ง แต่แววตาแห่งความตื่นตะลึงกลับปิดไม่มิด
เขามองดาบสั้นในมือตัวเอง…เทียบกับลำตัวใหญ่ยักษ์ของหมีแพนด้ากลายพันธุ์ตรงหน้า ดาบสั้นเล่มนี้เหมือนไม้จิ้มฟันเส้นหนึ่งเท่านั้น ถึงแม้พี่หลี่จะไม่ขว้างมันทิ้งไป แต่เขากลับเผยท่าไม้ตายออกมาทันที…ดวงตาของเขาเริ่มเคลื่อนไหวขยุกขยิก รอบข้างเริ่มมีเส้นเลือดฝอยผุดขึ้นมา ขณะเดียวกัน ในใจของพี่หลี่กำลังคิดอย่างไม่อยากเชื่อ ทำไมแมงมุมตัวผู้จึงไม่รับรู้ถึงการมีอยู่ของสัตว์กลายพันธุ์ตัวนี้? ที่สำคัญคือ สัตว์ประหลาดตัวนี้โผล่มาจากไหน…
ทว่าไม่นาน ม่านตาพี่หลี่หดตัวเล็กลงชั่วขณะ…เขาเหลือบมองตรงคอ…หรือจะเรียกว่าอวัยวะส่วนที่คล้ายลำคอของหมีแพนด้ากลายพันธุ์ตัวนี้ก็ได้ แล้วเห็นซองผ้าใส่มือถือหนึ่งอัน…ซองผ้าอันนั้นกลมตึง เหมือนด้านในใส่ขวดไว้หนึ่งขวด เมื่อนึกถึงแมงมุมตัวผู้ที่หายไปของหลี่เฉิงกวง รวมถึงตัวที่ยังไม่ตายของลู่เหริน…หัวใจของพี่หลี่ พลันไหววูบ….
เจ้านี่ไม่ใช่สัตว์กลายพันธุ์ธธรรมดา…มันเป็นพวกเดียวกับไอ้พวกนั้น!
พวกเขามัวแต่คิดระวังคนกลุ่มนั้น แต่กลับไม่เคยคาดคิดว่ามีสัตว์กลายพันธุ์ตัวใหญ่ยักษ์ตัวหนึ่งถูกพวกเขามองข้ามไป…
มนุษย์นั้นยากหนีฝูงแมงมุมพ้นก็จริง แต่ถ้าหากสัตว์กลายพันธุ์ที่มีความสามารถในการอำพรางตัวทำงานร่วมกับกลิ่นอายที่แมงมุมตัวผู้แผ่ออกมา มันก็มีความเป็นไปได้…
อีกอย่าง ดูออกว่าวิวัฒนาการของสัตว์กลายพันธุ์ตัวนี้ แข็งแกร่งมาก!
พี่หลี่ที่ร่างกายเย็นสะท้านไปทั้งตัวขว้างแมงมุมตัวผู้ออกไปทันที จากนั้นก็รีบถอยหลัง เตรียมลุกขึ้นวิ่งหนี
ให้สู้ตัวต่อตัวกับสัตว์ประหลาดตัวนี้ เขายังไม่มั่นใจถึงขั้นนั้น…แค่ตอนนี้เขาก็นึกเสียใจอย่างสุดซึ้งแล้ว ใครจะไปคิดว่าศพจะเดินได้ แล้วใครจะคิดว่าจะมีสัตว์กลายพันธุ์กำลังดักรอเล่นงานเขาอยู่!
“ต้องรีบรายงานกลับไป…แม่งเอ๊ย! พวกมันเจ้าเล่ห์กว่าพวกเราซะอีก! พวกมันเป็นทั้งต๊กแตน แล้วก็นกขมิ้น!” พี่หลี่คำรามในใจ (ตั๊กแตนและนกขมิ้นมาจากสำนวนจีนที่ว่า ตั๊กแตนจับจักจั่น นกขมิ้นอยู่ด้านหลัง มีความหมายตรงตัวคือ จั๊กจั่นจ้องจับตั๊กแตน โดยที่ไม่รู้ว่านกขมิ้นกำลังจ้องจะกินตัวเองอยู่ข้างหลัง)
แต่ในขณะที่เขาใช้สองฝ่ามือยันพื้น ร่างกายเขาพลันค้างแข็งไปทันที สีหน้าอึ้งงัน
ดวงตาที่เหลือข้างเดียวของเขาค่อยๆ เหลือบมองต่ำ…มือข้างหนึ่งยื่นมาจากข้างหลัง และกอดล็อกตัวเขาไว้แน่น…
ขณะเดียวกันเขารู้สึกได้ ว่าใบหน้าโชกเลือดของอีกฝ่ายแนบอยู่บนลังเขา เขากระทั่งรู้สึกได้ว่า เลือดที่ไหลออกมาจากตัวของอีกฝ่ายกำลังไหลอาบแผ่นหลังเขา…
หลี่เฉิงกวงยังไม่ตาย?
“…จะตายหรือไม่ตายก็ช่างหัวแก! ฉันต้องมาซวยแบบนี้ก็เพราะแก!” พี่หลี่พลันตะโกนเสียงดัง ยกศอกแทงไปยังร่างของหลี่เฉิงกวงที่อยู่ข้างหลัง
เมื่อเสียง “แกร๊ก” ดัง พี่หลี่ก็คำรามอีกครั้ง “รีบปล่อยเดี๋ยวนี้! ไปตายซะๆๆๆ ไปตายซะ!!!”
เขาแทงศอกใส่รัวๆ แต่หลี่เฉิงกวงกลับไม่ปล่อยเขาซักที…ถ้าหากในสถานการณ์ปกติ หมอนี่น่าจะตายตั้งแต่ศอกแรกแล้วด้วยซ้ำ
เวลานั้นเอง พี่หลี่เหลือบเห็นอย่างตะลึงงัน หมีแพนด้ากลายพันธุ์ตะปบแมงมุมตัวผู้ตัวนั้นจนสลบเหมือดไปแล้ว และกำลังเดินมาทางนี้
“อ๊าก…อ๊ากกกกก!”
พี่หลี่อึ้งงัน ไม่นานก็ลั่นร้องอย่างบ้าคลั่ง เขาหมายจะลุกขึ้นยืนทั้งๆ ที่แบกศพไว้ แต่ในตอนนั้นเอง เขากลับค้นพบด้วยความหวาดกลัวว่า…ร่างกายของเขา ขยับไม่ได้!
ราวกับว่ามีเชือกหลายเส้นที่มองไม่เห็นกำลังมัดมือมัดเท้าเขาไว้แน่น และหลังจากที่เขาออกแรงแทงศอกอย่างบ้าคลั่งเมื่อกี้ ตอนนี้เรี่ยวแรงของเขาก็ลดลง…
ถึงแม้แขนข้างหนึ่งของเขาจะหลุดจากพันธนาการอย่างรวดเร็ว แต่ตอนนี้หมีแพนด้าตัวนั้นกลับเดินมาหยุดตรงหน้าเขาแล้ว
ในเสี้ยววินาทีที่สบตากับหมีแพนด้ากลายพันธุ์ พี่หลี่ถึงขั้นยืนนิ่งงันท่ามกลางความสิ้นหวังและบ้าคลั่ง…
นั่นเป็นดวงตาสีแดงเลือดคู่หนึ่ง นอกจากสายตาที่เยือกเย็นเหมือนซอมบี้แล้ว กลับยังมีอีกหนึ่งแววตาที่เหนือความคาดหมายอยู่ด้วย…
แววตาเย้ยหยัน ที่เหมือนกับมนุษย์…
ฉึก!
วินาทีถัดมา พี่หลี่เบิกตากว้าง มองดูเลือดตัวเองพุ่งกระฉูดออกมา…
———————————–