นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น ตอนที่ 435 จะไม่ทำให้เธอต้องเสียใจ
พ่อแม่ที่ไหนต่างก็รักลูกตัวเอง ไม่ต้องพูดถึงแม่ยวี๋ที่เคยพักอยู่บ้านตระกูลหลินสองวันแล้ว แม่หลินปฏิบัติตัวยังไงกับยวี๋น่านั้นเธอรู้ดี ตอนนี้มาพูดกับพ่อยวี๋ก็มีสีหน้าลังเล
พ่อยวี๋ที่ได้ยินก็ไม่มีความสุข ตั้งแต่ยวี๋น่าเกิด เขาก็คอยประคบประหงมและปกป้องมาตลอด คอยแต่กลัวว่าจะเป็นอะไรไป แล้วตอนนี้จะไปให้ถูกบ้านตระกูลหลินได้ยังไง?
แต่เมื่อเทียบกับแม่ยวี๋ เขานั้นยังสงบนิ่งกว่า เพียงวางของในมือและขมวดคิ้วถามอย่างจริงจัง “จริงเหรอ? ไม่ใช่บอกว่าหลินหนานฟื้นแล้วเหรอ?”
“ใช่น่ะสิ…” แม่ยวี๋ถอนหายใจ “หลินหนานฟื้นแล้ง แม่เขาถึงได้ทำดีกับเราขึ้นมาหน่อย ไม่งั้นไม่ต้องพูดถึงเลยว่าน่าน่าจะลำบากแค่ไหน”
“พวกเขาจะรังแกกันแบบนี้ได้ยังไง!” พ่อยวี๋พูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น แม้ว่าเรื่องของหลินหนานจะเป็นเพราะยวี๋น่าจริง แต่เรื่องของความรู้สึก ใครจะบอกได้อย่าแน่นอนล่ะ?
บ้านตระกูลหลินจงใจกลั่นแกล้งกัน นี่คือสิ่งที่พวกเขาว่ามันไม่ถูก
สักพักก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น
“ใครคะ?” พ่อยวี๋และแม่ยวี๋มองหน้ากัน และสุดท้ายแม่ยวี๋ก็ถามขึ้น
ประตูถูกเปิดออก และคนที่เข้ามาคือพ่อหลิน เมื่อเห็นพ่อหลิน ท่าทีของแม่ยวี๋ก็อ่อนลง เมื่อเทียบกับแม่หลิน สามีของหล่อนก็ยังมีเหตุผลมากกว่า
“นี่คือพ่อของหลินหนานค่ะ” แม่ยวี๋ยืนขึ้น และก้มหน้ากระซิบกับพ่อยวี๋ แล้วยิ้มให้พ่อหลิน “ทำไมคุณหลินถึงมาที่นี่ล่ะคะ? สุขภาพหลินหนานดีขึ้นไหมคะ? วันนี้ฉันไปรับสามีมาเลยไม่ทันไปเยี่ยมเลยค่ะ”
“ที่แท้คุณก็คือพ่อของน่าน่า สวัสดีนะครับ ผมคือพ่อของหลินหนาน—” พ่อหลินหันไปมองพ่อยวี๋ ก่อนจะยิ้มและจับมือทักทายอีกฝ่ายตามมารยาท
“สวัสดีครับ” พ่อยวี๋เผยรอยยิ้ม แต่เมื่อเทียบกับความกระตือรือร้นของพ่อหลิน ก็ดูเหมือนเขาจะนิ่งกว่า เพียงพยักหน้าน้อยๆ
“คือแบบนี้ครับ ผมได้ยินน่าน่าบอกว่าเธอจองห้องไว้ให้พวกคุณ ตอนนี้หนานหนานฟื้นแล้ว ผมเลยคิดว่าให้ทุกคนมาทานข้าวกันที่บ้านและคุยเรื่องการแต่งงานของเด็กทั้งสองคนน่ะครับ”
พ่อหลินสูดหายใจเข้าลึกๆ นี่เป็นทางออกที่ดีที่สุดที่เขาคิดได้ในตอนนี้ ไม่ต้องพูดถึงว่ายวี๋น่าช่วงนี้เป็นยังไงบ้าง เขาเองก็เห็นแล้วว่าเป็นเด็กดี
“อย่างนั้นเองเหรอคะ ได้ค่ะ” แม่ยวี๋ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เธอที่คิดว่าจะเผชิญหน้ากับแม่หลิน ในก็ยังลังเล แต่เรื่องนี้ก็ต้องคุยกันทั้งสองฝ่าย และหลังจากเห็นแววตาของพ่อยวี๋แล้ว เธอที่ครุ่นคิดอยู่สักพักก็พยักหน้า
ในที่สุดพ่อหลินก็โล่งใจและพูดพร้อมรอยยิ้มว่า “ในเมื่อพวกคุณสองคนตกลงแล้ว งั้นเรากลับไปตอนนี้เลยดีไหมครับ หนานหนานบอกว่าก่อนที่เขาและน่าน่าจะกลับบ้านน่ะครับ ว่าตอนนี้คิดถึงพวกคุณทั้งคู่มากเลย”
…
พ่อยวี๋และแม่ยวี๋ไปซื้ออาหารเสริมเพราะหลินหนานหายจากอาการป่วยหนัก หลังจากมาถึงบ้านตระกูลหลินแล้ว แม่หลินที่เห็นหัวหน้าครอบครัวของยวี๋น่าก็รักษาสีหน้าแต่ยังไม่พูดอะไรสักคำ
เมื่อยวี๋น่าเห็นพ่อแม่ของเธอก็มีความสุขมาก หลินหนานเองก็ด้วย เขาเห็นพ่อแม่เข้าประตูมาก็ตั้งแต่ตอนอยู่ชั้นบน และเอ่ยด้วยรอยยิ้ม
“คุณอาคุณน้า ในที่สุดพวกคุณก็มาถึงแล้ว คุณอาครับ ได้ยินจากน่าน่าว่าคุณเพิ่งมาถึงเมือง A วันนี้เลย เหนื่อยไหมครับ คุ้นชินยังครับ?”
“ก็โอเคดีแล้วล่ะ เสี่ยวหลิน เธอเพิ่งออกจากโรงพยาบาลเมื่อไม่กี่วันเอง ต้องดูแลร่างกายให้ดีนะ”
เมื่อพ่อยวี๋เห็นหลินหนาน สีหน้าก็ยังคงนิ่งสงบ เขารู้ว่าหลินหนานเป็นเด็กดี ทักสองยังทักทายกันเหมือนเดิม เขาตบไหล่ของหลินหนานเบาๆ
แม่หลินมองท่าทางมีความสุขของคนหลายคน แต่ในใจกลับไม่สบายใจ แม้ว่าฉียวี่ชูจะเป็นที่ยวี๋น่าพามา แต่ก่อนหน้านี้ที่หลินหนานจะรอดหรือไม่เพราะยวี๋น่าแล้ว เธอก็ยังรู้สึกถึงกำแพงขวางกั้น
ไม่นานก็ถึงเวลาอาหารเย็น เหล่าพ่อแม่นั่งเผชิญหน้ากัน หลินหนานและยวี๋น่านั่งที่ด้านข้าง ไม่รู้ทำไมยวี๋น่าที่เห็นบรรยากาศก็รู้สึกกังวลเล็กน้อย
ทำไมเหมือนสองทัพกำลังสู้กัน…
“อาหารพร้อมแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นพ่อของยวี๋น่าก็เพิ่งลงจากเครื่อง คงจะหิวแล้วใช่ไหมล่ะครับ? ลองชิมอาหารบ้านเราสิครับว่าเป็นยังไงบ้าง คุณชอบไหมครับ?”
สายตาพ่อหลินเสมองไปเล็กน้อย อาจไม่คุ้นเคยกับท่าทีจริงจังแบบนี้ จึงยิ่มพอเป็นพิธี
ต่างคนต่างขยับตะเกียบ ยวี๋น่ามองหลินหนานราวกับขอความช่วยเหลือและพูดด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลว่า “ทำไมฉันถึงรู้สึกกังวลจัง…”
เธอรู้ว่าคราวนี้มาเพราะคุยเรื่องการแต่งงาน และพ่อหลินเองก็คุยกับเธอล่วงหน้าแล้ว แต่พอเห็นท่าทีของพ่อแม่ตัวเอง ยวี๋น่าก็อดรู้สึกไม่สบายใจไม่ได้
หลินหนานเหลือบมองด้านข้าง ส่ายหัวเบาๆ และบีบฝ่ามือยวี๋น่าที่อยู่ใต้โต๊ะเป็นการบอกว่าไม่ต้องกังวล
“ไม่เป็นไร ไม่ต้องเป็นห่วงนะ”
ทานอาหารกันไปได้ซักพัก พ่อหลินก็คาดการณ์เวลาไว้พอควรแล้วจึงพูดออกมาช้าๆ “ที่จริงคราวนี้ที่ผมเชิญพวกคุณสองคนมาทานอาหารเพราะอยากคุยเรื่องแต่งงานด้วยของลูกๆ ทั้งสองด้วยครับ เพราะยังไงตอนนี้ที่หนานหนานฟื้นมาได้นั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่าย และน่าน่าก็ท้องลูกของเขา ถ้ายังยื้อเวลาแต่งงานไปคงไม่ดีต่อตระกูลของพวกเราใช่ไหมล่ะครับ?”
ยวี๋น่าหลุบตาลงและขยับตะเกียบช้าลงเล็กน้อย ไม่ช้าก็เร็ววันนี้จะต้องมาถึง แต่ใจเธอทำไมถึงรู้สึกไม่สบายใจนัก
“ผมรู้แล้วล่ะครับ” คราวนี้พ่อยวี๋วางตะเกียบแล้วเช็ดปากด้วยทิชชู่ ก่อนจะพูดกับพ่อหลินอย่างจริงจังว่า “พ่อหลินหนานครับ คุณเองก็รู้ว่าผมและแม่ของเธอประคบประหงมน่าน่ามาอย่างดี เรื่องที่เกิดขึ้นก็เป็นอุบัติเหตุ แต่เรารู้ว่าหลินหนานเป็นเด็กดี หากจะพูดถึงเรื่องแต่งงานนั้น…เราสองคนเองก็วางใจที่จะส่งน่าน่าให้เขาครับ”
“แต่ว่าผมขอเพียงเรื่องเดียวเท่านั้นครับ” พ่อยวี๋เงยหน้าขึ้น “ตราบใดที่หลินหนานและคุณทั้งสองปฏิบัติต่อน่าน่าเป็นอย่างดี ปฏิบัติต่อเธอเหมือนลูกสาวของคุณเองก็โอเคครับ เพราะลูกเราแต่งไปไม่ใช่เพราะไปรับความทุกข์ครับ”
แม่หลินที่นั่งถัดจากพ่อหลินมีสีหน้านิ่งลงอย่างเห็นได้ชัด กินข้าวก็ไม่มีความสุขอยู่แล้ว ตอนนี้มาได้ยินพ่อยวี๋พูดแบบนี้อีก จะไม่รู้ได้ไงว่าคนเขาจงใจพูดถึงเธอ
“เข้าใจแล้วครับๆ ลูกใครใครก็รัก ผมเองก็รู้ว่าน่าน่าเป็นเด็กดี ช่วงนี้เธอวิ่งวุ่นเพราะหนานหนานมาก เรื่องนี้คุณวางใจได้เลยครับ เราบ้านตระกูลหลินยังไงก็เป็นตระกูลที่มั่งคั่ง จะดูแลเรื่องงานแต่งเองครับ หลังจากที่น่าน่าแต่งเข้ามาแล้วก็จะไม่ทำให้เธอต้องเสียใจครับ”
“งั้นก็ดีครับ”
หลังจากที่พ่อยวี๋พูดจบก็ไม่พูดอะไร แต่เป็นแม่หลินที่เริ่มไม่พอใจมากขึ้นเรื่อยๆ
“พ่อยวี๋น่าคะ คุณจะพูดแบบนั้นไม่ได้นะคะ ถ้าไม่ใช่เพราะยวี๋น่า แล้วหนานหนานของเราจะเกิดอุบัติเหตุได้ไงคะ? ถึงแม้ว่าตอนนี้หนานหนานจะดีขึ้นแล้ว…”