แดนนิรมิตเทพ บทที่ 445
หนุ่มสาวเหล่านั้นไม่ใช่ใครที่ไหน คือพวกของอานเข่อเยว่กับมู่หรงยานเอ๋อร์

หางตาของหยางเชี่ยนเชี่ยน ก็มองเห็นเฉินโม่ เลยพูดอย่างตกใจว่า “ทุกคนรีบดูสิ ด้านหน้าเหมือนจะเป็นเฉินโม่”

“เฉินโม่ เขามาที่นี่ได้อย่างไรกัน?” จางเสี่ยน แฟนของหยางเชี่ยนเชี่ยน พูดอย่างตกใจ

หยางเชี่ยนเชี่ยนก็คิดๆ แล้วพูดว่า “คงจะได้ยินข่าวลือที่นี่เหมือนกัน เลยเข้ามาเที่ยวเล่นล่ะมั้ง!”

“เฉินโม่จริงๆ ด้วย!” มองดูเฉินโม่ที่กำลังเดินอยู่บนเส้นทางบนเขา มู่หรงยานเอ๋อร์ก็มีสีหน้าดีใจ

สีหน้าเป็นมิตรของเจิ้งหยวนฮ่าว ก็เปลี่ยนเป็นนิ่งขรึมทันที

อานเข่อเยว่มองเฉินโม่ สีหน้าก็ดูสับสน

“ได้ยินว่าเฉินโม่ลาเรียนยาว ฉันก็นึกว่าจะมีเรื่องด่วนอะไร คิดไม่ถึงว่าเขาจะมีเวลาว่างมาเดินเล่นที่นี่!” หยางเชี่ยนเชี่ยนเบ้ปาก สายตาดูถูก

จางเสี่ยนแอบยิ้ม แล้วพูดว่า “อาจจะเป็นเพราะรู้สึกว่าคงไม่มีโอกาสสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ เลยใจแตกไปเสียเลย อย่างไรเสียก็สอบไม่ได้อยู่แล้ว ตอนนี้ลายาวไปก่อน พอถึงตอนที่สอบไม่ผ่านจะได้มีข้ออ้างได้”

มู่หรงยานเอ๋อร์ก็พูดอย่างค่อนข้างโมโหว่า “พวกเธอสองคนอย่าพูดพล่อยๆ ได้ไหม เฉินปะรำไม่ใช่คนแบบนั้น ที่เขาลาเรียนยาวจะต้องมีเรื่องอะไรสำคัญแน่นอน”

ในหมู่พวกเธอทั้ง5คน มีเพียงมู่หรงยานเอ๋อร์คนเดียวที่เคยเห็นพลังที่แท้จริงของเฉินปะรำ มู่หรงยานเอ๋อร์รู้ว่าเฉินโม่ไม่ใช่คนธรรมดา การสอบเข้ามหาวิทยาลัยนั้น สำหรับพวกเขาแล้วอาจจะเรียกได้ว่าเป็นเส้นทางที่จะเปลี่ยนชีวิต แต่สำหรับเฉินโม่นั้น มันไม่ได้มีความสำคัญอะไรเลย ด้วยพลังของเฉินโม่ เกรงว่าทั้งโลกนี้ก็ไม่มีสิ่งใดที่เขาต้องให้ความสำคัญ แค่การสอบเข้ามหาวิทยาลัยจะสักเท่าไรกันเชียว?

แต่ว่ามู่หรงยานเอ๋อร์ก็จะไม่เอาเรื่องพลังของเฉินโม่ไปบอกใคร ถ้าเฉินโม่ยังไม่อนุญาต และต่อให้พูดออกไป พวกของอานเข่อเยว่ก็ไม่เชื่อหรอก

ดังนั้นสายตาของพวกอานเข่อเยว่กับหยางเชี่ยนเชี่ยนที่มองเฉินโม่ ยังคงเป็นสายตาที่มองคนธรรมดา แต่เฉินโม่ไม่ใช่คนธรรมดา ก็เลยไม่ได้อยู่ในขอบเขตระดับนี้

หยางเชี่ยนเชี่ยนหันไปมองมู่หรงยานเอ๋อร์อย่างตกใจ แล้วพูดว่า “ยานเอ๋อร์ เธอคงจะไม่ได้ชอบเฉินโม่เข้าจริงๆ ใช่ไหม? ทำไมเธอถึงได้พูดแก้ตัวแทนเขาตลอดเวลา!”

มู่หรงยานเอ๋อร์หน้าแดง แล้วก็นึกถึงอ้อมกอดในวันงานเฉลิมฉลองโรงเรียนอีกครั้ง แล้วก็รู้สึกเขินอาย เลยดุไปว่า “เชี่ยนเชี่ยน วันๆ เธออย่าเอาแต่พูดจามั่วซั่วได้ไหม!ฉันกับเฉินโม่เป็นแค่เพื่อนกันเท่านั้น”

หยางเชี่ยนเชี่ยนเอียงหัวทำหน้าแปลกๆ “เป็นแค่เพื่อนธรรมดา แล้วต้องหน้าแดงไหม?”

“ยังจะพูดอีกนะ……” มู่หรงยานเอ๋อร์มองบนใส่หยางเชี่ยนเชี่ยน แล้วก็หันหน้าหนีไม่สนใจเธอ

อานเข่อเยว่ก็มองมู่หรงยานเอ๋อร์อย่างกังวล ถึงแม้อายุของเธอจะไม่ห่างกับพวกมู่หรงยานเอ๋อร์มากนัก แต่อาจจะเป็นเพราะว่าได้รับอิทธิพลการเลี้ยงดูจากพ่อแม่ เลยมองปัญหาออกอย่างชัดเจน เธอรู้ว่ามู่หรงยานเอ๋อร์รู้สึกดีกับเฉินโม่

ก่อนหน้านี้เธอกังวลกับเรื่องนี้ ถึงขนาดไปเอ่ยปากเตือนเฉินโม่ แต่ก็ถูกเฉินโม่ดูถูกกลับมา

ต่อมา พอเฉินโม่ลาเรียนไป หายตัวไปจากโรงเรียน อานเข่อเยว่ก็ค่อยๆลืมเรื่องนี้ไป

แต่คิดไม่ถึงว่า วันนี้พวกเธอตกลงกันว่าจะมาดูความมหัศจรรย์ของทะเลสาบกลับคืนรัง แต่ก็ได้มาเจอเฉินโม่เสียนี่!

ทันใดนั้น อานเข่อเยว่ก็เริ่มกังวลขึ้นมาอีกครั้ง

ขณะที่พูด เฉินโม่ก็ได้เดินมาตรงหน้าพวกเธอแล้ว

มู่หรงยานเอ๋อร์ยิ้มทักทาย “เฉินโม่ นายได้ข่าวของที่นี่ ก็เลยมาเข้ามาเที่ยวดูใช่ไหม?”

เฉินโม่ยิ้มเบาๆ “ไม่ใช่ ผมพักอยู่ด้านบน”