แดนนิรมิตเทพ บทที่ 444
ฉู่เหวินสงพยักหน้า “เฉินไต้ซือคิดรอบคอบมาก!แต่ว่า…..”

ฉู่เหวินสงก็ยังจ้องมองน้ำชี่ทิพย์บนโต๊ะขวดนั้นอย่างน่าสงสาร เหมือนกับเด็กที่เห็นของเล่น ไม่เหลือมาดของเจ้าสัวใหญ่แห่งอู่โจวเลย!

เฉินโม่เหมือนจะทนไม่ได้ เลยจ้องมองฉู่เหวินสง “วางใจเถอะ ในเมื่อผมมาหาคุณแล้ว ก็จะให้อะไรคุณอยู่แล้ว”

“น้ำชี่ทิพย์ขายไม่ได้ แต่สามารถเจือจางได้ น้ำชี่ทิพย์ที่เอาน้ำดื่มมาเจือจาง ถึงแม้สรรพคุณจะไม่ได้มากแล้ว แต่ถ้ากินเป็นเวลานานๆ ก็สามารถรักษาทุกโรคได้เหมือนกัน มีสรรพคุณยืดอายุได้เหมือนกัน”

“และน้ำชี่ทิพย์ที่ถูกเจือจางแล้วนั้น สามารถเอามาขายเป็นปกติได้!”

ฉู่เหวินสงก็ตาโต แล้วก็เข้าใจจุดประสงค์ของเฉินโม่ทันที พูดอย่างดีใจว่า “ดังนั้นที่ไต้ซือเปะรำมาหาผม ก็เพราะอยากจะให้ช่วยขายน้ำชี่ทิพย์ที่ถูกเจือจางนี้ใช่ไหมครับ?”

เฉินโม่พยักหน้า “ถูกต้อง”

“ผมเตรียมจะเปิดบริษัทแห่งหนึ่ง จะให้คุณมาควบคุมดูแล งานขายน้ำชี่ทิพย์พวกนี้ กำไรที่ได้ทั้งหมด คุณจะได้สองส่วน”

“สองส่วนหรือครับ!” ฉู่เหวินสงดีใจขึ้นมาทันที ถ้าน้ำชี่ทิพย์แบบนี้ได้เผยโฉมหน้าขึ้นบนโลก คงจะไม่เพียงพอต่อกำลังซื้อแน่นอน กำไรสองส่วนคงจะต้องมากกว่าทรัพย์สมบัติทั้งตระกูลของเขาเสียอีก

เดิมทีเขาคิดว่าที่เฉินโม่มาหาเขา คงจะต้องให้เขาช่วยเหลือฟรีๆ แน่ๆ คิดไม่ถึงว่าเฉินโม่จะใจกว้างแบบนี้ ให้กำไรเขาตั้งสองส่วน

ที่สำคัญก็คือ ในเมื่อเขามีหน้าที่ควบคุมการขายน้ำชี่ทิพย์ ต่อไปจะขาดน้ำชี่ทิพย์นี้หรอกหรือ? ต่อให้เอาน้ำชี่ทิพย์ที่คนอื่นหาซื้อกันไม่ได้นี้มาโกรกชักโครกก็ยังได้

ฉู่เหวินสงดีใจมาก แต่ในใจก็ยังคงมีความสงสัย

มองดูเฉินโม่ ก็พบว่าเฉินโม่อารมณ์ค่อนข้างดี ฉู่เหวินสงก็เลยถามอย่างระวังว่า “เฉินไต้ซือครับ ผมขอถามหน่อยนะครับ คุณก็ไม่ค่อยสนใจพวกเงินทองของทางโลก ทำไมถึงยังจะต้องมาขายน้ำชี่ทิพย์นี้ด้วยล่ะครับ?”

เฉินโม่เงยหน้าขึ้นเล็กน้อย สายตาจ้องเหม่อออกไป เสียงพูดลอยๆ “เพื่อทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับคนคนหนึ่ง”

เฉินโม่รับปากไว้กับท่านถังว่าจะเอาน้ำชี่ทิพย์นี้ขายออกไป ช่วยเหลือประชาชน ถึงขนาดอยากจะให้ฟรีเสียด้วยซ้ำ แต่เขาไม่อยากให้ผู้คนได้อะไรมาฟรีโดยไม่ขวนขวาย และอีกอย่างของฟรีนั้น ทุกคนก็จะคิดว่าเป็นการหลอกลวง ดังนั้นก็เลยใช้วิธีทางธุรกิจมาขายน้ำชี่ทิพย์นี้ ถือเป็นวิธีการที่เหมาะสมที่สุด

ฉู่เหวินสงไม่เข้าใจความคิดภายในใจของเฉินโม่หรอก แต่ว่าเขาก็ถามไปอย่างนั้นเอง ส่วนเฉินโม่จะทำไปตามที่รับปากกับใครไว้ เขาไม่ได้สนใจเรื่องนี้

ฉู่เหวินสงยกมือคำนับพูดว่า “เฉินไต้ซือครับ เดี๋ยวผมจะให้คนไปจดทะเบียนบริษัทเดี๋ยวนี้เลย แต่ว่าคุณจะตั้งชื่อบริษัทว่าอะไรครับ”

เฉินโม่ครุ่นคิด แล้วพูดว่า “ก็ตั้งชื่อตามทะเลสาบกลับคืนรังก็แล้วกัน ชื่อว่า น้ำชีวิตกลับคืนรัง”

“น้ำชีวิตกลับคืนรัง หรือครับ ดีเลย!” ฉู่เหวินสงดีใจมาก ชื่อนี้เหมาะมาก น้ำชีวิต พอได้ยินแล้วก็รู้สึกยิ่งใหญ่

ฉู่เหวินสงอยากจะไปตั้งบริษัทเสียเดี๋ยวนี้เลย ต่อไปเฉินโม่ก็มีหน้าที่แค่จัดหาทรัพยากร ขั้นตอนการขายทั้งหมด ยกให้ฉู่เหวินสงจัดการ

เฉินโม่ไม่กังวลว่าฉู่เหวินสงจะโกงหรืออะไร เพราะว่าเขาไม่กล้าหรอก

ออกมาจากคฤหาสน์ของฉู่เหวินสง เฉินโม่เดินเท้าขึ้นเขาไป ไม่ได้พลังวิชาอะไร เขาเตรียมจะไปดูเนินเขาวิหคจอดที่ถูกค่ายกลรวมพลังทิพย์ปกคลุมไว้ ว่าจะมีทัศนียภาพเป็นอย่างไร

ระหว่างทาง มีคนเยอะมาก ปากก็กำลังคุยกันเรื่องที่เล่าขานของเนินเขาวิหคจอดกับทะเลสาบกลับคืนรัง

พอได้ยินว่าผู้คนคุยกันเนินเขาวิหคจอดมีเทพเจ้าปกปักรักษาอยู่ เฉินโม่ก็แอบหัวเราะในใจ

ตามหลักจริงๆแล้ว เขาสูงส่งกว่าเทพเจ้าที่เล่าลือกันมากนัก เขาเป็นผู้บำเพ็ญที่แม้แต่ผีสางเทวดาเทพเจ้าก็ยังต้องเกรงกลัว

เดินขึ้นหน้าไป ไม่นานก็มาถึงบริเวณชายขอบของเนินเขาวิหคจอด ถ้าเข้าไปลึกอีกก็จะเป็นขอบเขตของค่ายกลรวมพลังทิพย์แล้ว

ในตอนนี้ ด้านหน้าก็มีหนุ่มสาวหลายคนเดินมา เฉินโม่ผงะ”ได้เจอคนรู้จักที่นี่ด้วยหรือนี่”