บทที่ 325 - ศึกเฉียบพลัน (4)

The Second Coming of Gluttony

บทที่ 325 – ศึกเฉียบพลัน (4)

คลื่นนนน

เสียงอึกทึกได้ดังเข้าหูทุกคน มันเป็นเสียงที่ซอลจีฮูไม่เคยได้ยินมาก่อน และยังยากที่จะอธิบายออกมาเป็นคำพูดอีกด้วย

เสียงนี้ได้แสดงผลออกมาในทันที

“!”

เท้าทั้งสี่ของยูนิคอร์นได้บิดไปในทันทีจนทำให้มันทรุดลงกับพื้น ในที่สุดความสงบนิ่งอันบ้าคลั่งก็แสดงสัญญาณความเร่งรีบ

“กรอด…”

มันได้ปล่อยเสียงโอดครวญออกมาสั้นๆ โดยที่ร่างกายยังคงส่ายไปมา มันเหมือนกับว่ามันกำลังเผชิญกับแรงโน้มถ่วงอันมหาศาล

“ย่าาาห์!”

ในตอนนั้นเองเงาราตรีหนึ่งในสามที่ถูกปล่อยออกมาในก่อนหน้านี้ถูกดูดกลับเข้าไปในร่างของมัน

ความสงบนิ่งอันบ้าคลั่งได้ยืดหยัดกลับขึ้นมาได้อีกครั้ง

“ฮ่าฮ่า… คิฮ่าฮ่าฮ่า…!”

ทั้งๆที่เหงื่อซก แต่มันกลับปล่อยเสียงหัวเราะออกมา

“ก็สงสัยอยู่เลยว่าเจ้ากำลังทำอะไรอยู่… แต่นี่ก็แค่คำสาปของเจ็ดบาปงั้นเหรอ?”

“ทั้งที่ข้าหวังเอาไว้มากกับการจำแลงลงมา… แต่เจ้าทำได้เพียงเท่านี้เองงั้นเหรอ?”

อวาริเทียไม่ได้ตอบกลับไป เธอเพียงแค่ส่งสายตาเยาะเย้ยอันเย็นชาจนทำให้ทุกๆคนสั่นออกไปเท่านั้น

“ช่างน่าขำจริงๆ อวาริเทีย!”

แม้ว่ายูนิคอร์นจะหัวเราะอย่างเหย่อยิ่ง แต่ไม่ว่าใครก็มองออกว่ามันกำลังหัวเราะกลบเกลื่อน

หรือก็คือคำสาปนั้นส่งผลต่อความสงบนิ่งอันบ้าคลั่ง

“ฮึ่ม ไม่สำคัญหรอก ต่อให้ฉันจะทำอะไรกับพลังอำนาจไม่ได้ แต่ฉันก็แค่ฟื้นคืนความเป็นเทพที่เสียไปก็พอ”

พร้อมกันนั้นเงาราตรีอีกหนึ่งในสามรอบตัวยูนิคอร์นก็ถูกดูดเข้าไป

-เยี่ยม ความเร็วของยูนิคอร์นโรคจิตนี่น่าจะลดลงมากแล้วล่ะ

ซอลจีฮูยังได้ยินเสียงของแบคแฮจูจากภายในหัว

เมื่อเขาได้เห็นพลังของคำสาป เขาก็ต้องเบิกตากว้าง

หนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ผู้บัญชาการกองทัพที่สี่สามารถจะบดขยี้ทีมพวกเขาได้เหมือนของเล่นในการต่อสู้กันครั้งแรกนั่นก็เพราะความเร็วที่อยู่ต่างกันคนละระดับจนทำให้สัมผัสของมนุษย์ตามไม่ทัน

ยังไงก็ตามในตอนนี้ความเร็วของมันได้ถูกจำกัดลงมาก หรือก็คือพลังของผู้บัญชาการกองทัพที่สี่อ่อนแอลงมาก

แน่นอนมันคงยังมีความสามารถอื่นอีกที่ยังไม่ได้เผยออกมา แต่สำหรับพวกเขาแล้วสิ่งต่างๆก็ดีขึ้นอย่างไม่อาจปฏิเสธ

-นักธนูประหลาดจะเปิดช่องว่างให้กับเรา

‘นักธนูประหลาด?’

-ตอนเธอเปิดช่องว่างให้ใช้หอกพิสุจน์ทำการโจมตีได้เลย ไม่ต้องให้มันบาดเจ็บก็ได้ แค่ทำให้มันถอยได้ก็พอแล้ว

เธอได้พูดในสิ่งที่เขาไม่เข้าใจออกมา

-หอกในมือของคุณคือสมบัติล้ำค่า มันอาจจะเป็นอาวุธเทพที่ทรงพลังยิ่งกว่าหอกคถาคตของฉันซะอีก

หลังจากที่มองหอกสีเขียวที่แบคแฮจูถืออยู่ ซอลจีฮูได้จับหอกพิสุจน์แน่นโดยไม่รู้ตัว

-ดูเหมือนคุณจะดึงพลังที่แท้จริงออกมาไม่ได้ แต่ฉันก็มั่นใจว่าได้แน่ ยูนิคอร์นนั่นดูจะพยายามหลบหอกของคุณเต็มที่ คุณน่าจะทำให้มันถอยได้แน่ๆ

ซอลจีฮูพยักหน้าออกมา

ต่อจากนั้นพรรคพวกของเขาได้เริ่มเคลื่อนไหว

เมื่อนักธนูได้เริ่มยิงเป็นสัญญาณการเริ่มแผนการ นักรบที่ลอบลุมล้อมยูนิคอร์นก็ได้พุ่งเข้าไปพร้อมๆกัน

“ชิ ชิ”

ยูนิคอร์นยังคงเยาะเย้ยสิ่งที่พวกเขาทำอย่างไม่แยแส

มันเลือกรอให้พวกเขาเข้ามาใกล้ก่อนจะส่งโชฮงที่พุ่งเข้ามาพร้อมความสามารถสถิตร่างลอยออกไปด้วยเขาของมัน

“วัลฮาลา!!”

หลังจากนั้นก็ใช้ขาหลังส่งฮิวโก้ที่เล็งด้านหลังออกไปอย่างรุนแรง และตอบสนองต่อโอราฮีที่กำลังวิ่งเข้าใส่มันด้วยความเร็วอันน่ากลัว มันงอขาหน้าเป็นมุม 90 องศาเตรียมจะถีบเธอ

ในตอนนั้นเอง

“ย่าห์!”

จู่ๆมีเงาดำปรากฏตัวขึ้นที่ด้านหลังของยูนิคอร์น มือข้างหนึ่งของเธอได้รัดคอ และขาของเธอทั้งสองข้างก็พันตัวมันไว้ คนที่ทำแบบนี้นั่นก็คือโฮชิโนะ อุราระ

ในที่สุดซอลจีฮูก็เข้าใจแล้วว่านักธนูประหลาดนั่นหมายถึงใคร

“ท่าไม้ใต้ลับสไตล์โฮชิโนะ! อุระจู่โจม!”

เธอได้ตะโกนออกมา ก่อนจะชักดาบคาตานะปาดเข้าที่คอของยูนิคอร์น

ไม่สิ เธอพยายามจะปาดคอมัน

ขณะที่เธอกำลังจะแทงคาตานะลงไป ยูนิคอร์นได้หันมามองโฮชิโนะที่อยู่บนหลังมัน ก่อนจะสะบัดร่างอย่างรุนแรง

“เอ๋!!!?”

เนื่องจากยูนิคอร์นได้เริ่มสะบัดเธออย่างรุนแรงทำให้โฮชิโนะ อุราระกลายเป็นเหมือนธงที่ปลิวไปตามแรงลมไม่อาจจะขยับเข้าใกล้มันได้เลย

“อึก!”

ในท้ายที่สุดแล้วโฮชิโนะ อุราระก็ถูกเหวี่ยงออกไป เนื่องจากว่ากีบม้าของยูนิคอร์นได้กระแทกลงบนไหล่เธอ

“อ๊ากกกก!”

เธอรู้สึกเจ็บปวดจากกล้ามเนื้อที่ฉีกขาด และกระดูกที่ถูกบดขยี้ ไม่ว่าเธอจะพยายามกลั้นมันเอาไว้แค่ไหน เธอก็อดไม่ได้ที่จะส่งเสียงร้องออกมา

“หุหุ เป็นจุดจบที่เหมาะสมกับแมลงแบบเจ้านะ”

“อึก! อั๊ก! แอ๊ก! แอ๊ะ!”

“แค่กรีดร้องออกมาก็ได้นี่ ฮ่าฮ่าฮ่า”

ยูนิคอร์นได้หัวเราะอย่างสะใจเมื่อเห็นหญิงสาวกำลังทรมาน ยังไงก็ตามใบหน้าของยูนิคอร์นก็ค่อยๆบิดเบี้ยวไปเมื่อโฮชิโนะ อุราระยังคงเจ็บปวดมากขึ้นอีก

เธอเจ็บปวดแน่นอน แต่ว่าเธอ…

“อิ๊! อ๊า! แอ๊ะ!”

“…”

ยิ่งฟังมันก็ยิ่งรู้สึกแปลกๆ เธอได้แสดงสีหน้าประหลาดๆพร้อมส่งเสียงแปลกๆออกมาจากปากขมุบขมิบ

แทบจะเหมือนกับว่ามันกำลังล้อเลียน ไม่สิ เธอตั้งใจล้อเลียนมันแน่

“ยัยนี่-”

ทันใดนั้นยูนิคอร์นก็โกรธขึ้นโดยไร้เหตุผล และยกขาหน้าขึ้นอีกครั้ง

“ข้าจะขยี้ปากเน่าๆของเจ้า!”

และขณะที่มันกำลังจะกระทืบเท้าลงไป

“อิ๊?”

ทันใดนั้นโฮชิโนะ อุราระก็ลืมตาขึ้น ทันทีที่เธอเห็นหัวของม้าที่กำลังหงุดหงิดและโกรธเคือง เธอได้รีบหันไปมองทางด้านซ้าย และตะโกนออกมาสุดเสีย

“เอาเลย! ตอนนี้แหละ!”

“อะไรนะ?”

หัวของม้าได้รีบหันตามไปมอง

“?”

แต่กลับไม่มีอะไร มันไม่เจออะไรที่รู้อันตรายเลยสักนิด

“แค่ล้อเล่นน่ะ!”

โฮชิโนะ อุราระยิ้มขึ้นก่อนจะจับไหล่ที่แตกเป็นเสี่ยงๆ และกลิ้งออกไป เมื่อยูนิคอร์นเห็นโฮชิโนะ อุราระอีกครั้งใ..

“ช่วยด้วย!”

…เธอได้วิ่งหนีไปแล้ว

ด้ายสีเงินได้พุ่งเข้ามาหาเธอจากระยะไกลราวกับว่าแอ็กเนสพยายามจะช่วยหญิงสาวที่บาดเจ็บ

“นี่…!”

ยูนิคอร์นที่กำลังโกรธจัดได้ย่อตัวลง นี่หมายความว่ามันจะไล่ตามหนอนแมลงที่กล้าทำให้มันอับอาย

มันพยายามจะทำแบบนั้น แต่ว่า…

ทันใดนั้นยูนิคอร์นก็ต้องตัวแข็งทื่อกับที่ จู่ๆมันก็รู้สึกได้ถึงความผันผวนของพลังอันรุนแรงจากทางด้านขวา

พอมันรีบหันหน้ากลับไปมอง มันก็เห็นแบคแฮจูกำลังยืนตั้งท่ารวบรวมพลังอยู่

“บ้าเอ้ย!”

สิ่งที่เกิดขึ้นได้ทำให้ยูนิคอนลืมสองตัวตนที่ควรจะระวังไปเสียสนิท

ยูนิคอร์นได้กัดฟันอย่างโกรธแค้น แต่ว่ามันก็ยังหันกลับไปหาแบคแฮจูก่อนที่จะถอยห่างจากเธอหลายก้าว

นี่คือเหตุผลที่ทำให้มันไม่ได้รู้ตัวเลยว่าด้ายที่แอ็กเนสปล่อยออกมาลอยผ่านตัวโฮชิโนะ อุราระ และกำลังตรงเข้าหามันที่กำลังถอย

มันไม่ได้รู้ตัวเลยว่ามีการโจมตีกำลังเข้ามาหามัน

นี่ก็เพราะความสงบนิ่งอันบ้าคลั่งไม่ได้สนใจแค่แบคแฮจูเท่านั้น แต่มันก็ยังระวังซอลจีฮูที่เตรียมลอบโจมตีตามความคิดที่แบคแฮจูส่งมาอีกด้วย

“เจ้าพวกต่ำช้า!”

ยูนิคอร์นกัดฟันแน่น

เพราะถูกหลอกหลายครั้งได้ทำให้มันโกรธขึ้นจริงๆแล้ว แต่อีกด้านหนึ่งมันก็รู้สึกว่าพวกเขาน่าหัวเราะเช่นกัน โดยมันคิดว่าการซุ่มโจมตีนี้คือทั้งหมดที่พวกเขาเล็งไว้แล้ว

แต่ถึงแบบนั้นมันก็ไม่อาจจะเมินเฉยต่อหอกเทพที่เต็มไปด้วยปราณดาบและพลังต่อต้านปีศาจได้ทำให้มันต้องรีบถอยออกมา

แม้ว่าความเร็วของมันจะถูกจำกัดอยู่เพราะคำสาปของเจ็ดบาป แต่มันก็ไม่ได้โง่พอที่จะเอาตัวเองไปโดนการโจมตีที่ชัดเจนแบบนี้

ซ่าา!

หอกได้พุ่งเฉียดผ่านจมูกของมันไปในแนวทแยงมุม เมื่อเห็นร่างของซอลจีฮูพุ่งผ่านหน้ามันไป ยูนิคอร์นก็ได้แค่นเสียงออกมา

มันได้ใช้ขาของมันกระแทกพื้นลงอย่างรุนแรงด้วยความมุ่งมั่นที่จะโต้กลับ และในตอนที่กีบเท้าทั้งที่ของมันได้เหยียบลงบนพื้นนี้เอง…

“!”

ใบแมงมุมจู่ๆก็ปรากฏขึ้นรัดพันขาทั้งสี่ข้างของมันเอาไว้

ทันใดนั้นเองคลื่นแสงสว่างจ้าได้กวาดลงมา และย้อมเส้นด้ายทั้งหมดให้กลายเป็นสีขาวอ่อน

“ฮ่าห์!”

แอ็กเนสได้สะบัดมือออกจากกันพร้อมตะโกนดังลั่นจนทำให้ขาของยูนิคอร์นที่ถูกมัดอยู่ฉีกแยกจากกัน

“เล่ห์เหลี่ยมเยอะจริงนะ!”

แต่ว่าไม่นานนักยูนิคอร์นก็ต้องประหลาดใจหลังจากที่มันบิดร่างกาย

“อะ อะไรกัน!?”

โดยปกติแล้วด้ายควรที่จะขาดทั้งหมดในคราวเดียว แต่ยังไงก็ตามตอนนี้สถานการณ์มันกลับต่างออกไป

ตึก ตึก ตึก

มีด้ายบางส่วนที่ขาดออกไป แต่ด้ายขาดช้ามากจนเห็นได้ชัด ด้วยแสงสีขาวที่ย้อมด้ายอยู่ได้ป้องกันไม่ให้ด้ายขาดแม้จะตึงมากแล้วก็ตาม

“นี่มัน…!”

ยูนิคอร์นตื่นตระขึ้น และหันหน้ากลับไปมองก่อนจะได้รู้สาเหตุ

ซอยูฮุย ดวงดาวแห่งราคะ และอัครสาวกแห่งลูซูเรียได้ส่งพลังของเธอไปให้กับแอ็กเนสอยู่

และ

ซอลจีฮูที่พุ่งผ่านยูนิคอร์นไปจู่ๆก็หมุนตัว และใช้พื้นถีบตัวออกไป เขาได้พุ่งเข้าใส่ยูนิคอร์นที่ถูกมัดอยู่กลางอากาศโดยที่ไม่อาจขยับได้เลยสักนิด

นี่คือโอกาสเหมาะ!

บางทีเพราะเขากลัวจะพลาดโอกาสนี้ทำให้วงจรมานาของเขาร้อนระอุขึ้น

“ย่าห์!”

เขาได้แทงหอกเข้าใส่ความสงบนิ่งอันบ้าคลั่งที่ตกอยู่ในสถานการณ์ไม่คาดคิดอย่างแม่นยำ

หอกพิสุจน์ได้เปล่งประกายแสงสีทองเจิดจ้าออกมายิ่งกว่าที่เคย และเข้าใกล้ที่คอยาวของยูนิคอร์น

ในจังหวะนั้นเอง!

คว้าง!

สายฟ้าสีน้ำเงินได้พวยพุ่งออกมาจากท่ามกลางกระแสสายฟ้าสีทอง

“…”

ซอลจีฮูที่คิดว่าในที่สุดทุกอย่างก็จบลงแล้วได้แสดงสีหน้าสับสนออกมา

หอกของเขาไม่อาจจะแทงทะลุคอของมันได้

พูดให้ชัดคือหอกถูกหยุดเอาไว้ก่อนที่จะได้แตะโดนคอของยูนิคอร์นซะอีก พอมองดูให้ดีแล้ว เขาก็จะเห็นแผ่นบาเรียบางๆสีน้ำเงินปกคลุมร่างกายของมันอยู่

มันเป็นบาเรียอันเดียวกันกับที่เคยป้องกันร่างมันจากเวทย์ของฟิลิป มูเลอร์มาแล้วครั้งหนึ่ง

คราวนี้มันจะไม่ได้มีรูปร่างครึ่งวงกลมเหมือนคราวก่อน มันได้ปกคลุมทั้งร่างของมันเอาไว้ ยูนิคอร์นคงจะเปิดใช้งานบาเรียนี้ในทันทีที่มันได้รับการโจมตีที่คาดไม่ถึง

บาเรียดูเหมือนจะค่อยๆพังลงทีละนิด แต่ว่ามันก็ไม่ได้ดูเหมือนว่าจะถูกเจาะทะลุในเร็วๆนี้

นี่เป็นโอกาสที่หาได้ยาก จะถอยหรือไม่ถอย ความคิดมากมายได้ปรากฏขึ้นในหัวของเขา

ซอลจีฮูกับยูนิคอร์นได้สบตากันอยู่นานก่อนที่ยูนิคอร์นจะอ้าปากเผยให้เห็นฟันของมัน

“ฮ่าห์!”

กึกกึก

เส้นด้ายที่มัดขาขวามันเอาไว้ได้เริ่มขาดออก

“ตายซะ!”

มันได้กรีดร้องออกมาพร้อมฟาดเท้าขวาเข้าใส่หัวซอลจีฮู

“ฮึบ!”

ยังไงก็ตามมันพลาดเป้าไปเพียงแค่ปลายเส้นผมเท่านั้นเอง นั่นก็เพราะจู่ๆ ได้มีควันดำลอยมาที่เปลี่ยนทิศทางขาของมัน

“คราวนี้อะไรอีก…!?”

ยูนิคอร์นหน้าบึ้งขึ้นเมื่อเห็นวิญญาณสาวกำลังเกาะขามันเอาไว้อยู่

ในตอนนั้นเองสายตาซอลจีฮูเป็นประกายขึ้น เขาได้กัดฟันแน่น และเพิ่มแรงลงไปที่หอกในมือ เมื่อเขาทำแบบนี้หอกพิสุจน์ได้ปล่อยสายฟ้าเพิ่มขึ้น และเริ่มสั่น

“ให้ตายสิ!”

ยูนิคอร์นที่สัมผัสได้ถึงอันตรายรีบทำลายเส้นด้ายที่พันขาข้างซ้ายอยู่โดยไม่สนใจโฟลนอีก เมื่อมันเป็นอิสระ มันได้ออกแรงถีบซอลจีฮูอย่างแรง

ยังไงก็ตามแทนที่จะได้ยินเสียงหัวระเบิด กลับมีเสียงโลหะดังขึ้นแทน

ยูนิคอร์นได้เพ่งมองโล่ตรงหน้าที่ห่อหุ้มด้วยจากพลังของซอยูฮุยที่เธอสร้างขึ้นมาขวางหน้ามันเอาไว้อย่างทันท่วงที

“กรอด-”

เสียงโอดครวญนี้ดังขึ้นจากฟีโซรา หลังจากที่ได้สติกลับคืนมาจากการรักษาของมาเรียทำให้เธอกลับเข้าสู่การต่อสู้อีกครั้งหนึ่ง

“ย๊ากกก!”

ถึงแม้ว่าจะยังมีเลือดไหลจากจมูก แต่ฟีโซราก็ยกดาบยาวขึ้น เมื่อคมดาบได้ถูกเคลือบด้วยเพลิง เธอก็ฟาดมันลงมาที่หอกพิสุจน์สุกำลัง

เสียงโลหะกระทบกันได้ดังขึ้นพร้อมๆกับประกายไฟ

“ทะลุ! แทงทะลุไปให้ได้!”

เคร๊ง! เคร๊ง!

เธอได้ตะโกนขึ้นและเหวี่ยงดาบยาวลงไปหลายครั้งอย่างบ้าคลั่ง ด้วยการเสริมแรงนี้ทำให้หอกพิสุจน์ได้เริ่มขยับไปด้านหน้าทีละนิด

“กะ แก!”

ยูนิคอร์นตกใจพยายามเตะออกไปซ้ำๆ แต่ว่าฟีโซราก็ยังจับโล่ที่ได้รับการเสริมพลังจากซอยูฮุยไว้แน่น

เธอได้พยายามรับแรงกระแทกอย่างสุดกำลัง และเหวี่ยงแขนอีกข้างทั้งๆที่พิงซอลจีฮูอยู่

และเมื่อดาบเพลิงของเธอฟาดลงไปบนหอกพิสุจน์อีกครั้ง ดาบยาวสีแดงเลือดก็พุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว และทับไว้อยู่เหนืออาวุธทั้งสองเล่ม

“จับโล่ให้ดียัยทึ่ม!”

โอราฮีตะโกนออกมาพร้อมใช้มือทั้งสองข้างกดดาบลง

“ย่าาห์!”

แท่งเหล็กหนามของโชฮงก็ยังฟาดตามลงมาด้วยเช่นกัน

“เพื่อวัลฮาลา!”

และเมื่อฮิวโก้ได้วิ่่งเข้ามาเหวี่ยงง้าวที่เขาแบกไว้ลงมา…

เพร้ง!

เสียงแสบหูที่เหมือนแก้วแตกได้ดังออกมา

ดวงตาซอลจีฮูเบิกกว้างขึ้น

ภายใต้อาวุธต่างๆมากมายได้เกิดรูเล็กๆขึ้นบนบาเรียสีฟ้า มันเล็กมาก แต่ก็นับว่าเป็นรอยแตกได้

“กรอดดด!”

ซอลจีฮูได้กัดฟันจับด้ามหอกไว้แน่น

วงจรมานาภายในร่างของเขามันร้อนระอุจนแทบจะละลาย และมานาของภายใต้ตัวเขาก็ปั่นป่วนเหมือนพายุคลั่ง

แต่ถึงแบบนั้นซอลจีฮูก็เค้นพลังทั้งหมดที่เหลืออยู่ในร่างออกมาไว้ที่ปลายหอก

“ย่าาาาาห์!”

และวินาทีต่อมาซอลจีฮูก็รู้สึกได้

บาเรียที่ทนรับการโจมตีมาได้ตลอดจนถึงตอนนี้ได้แตกลง และความรู้สึกที่เหมือนหอกแทงทะลุท่อนไม้แข็งๆก็ถูกส่งมาที่มือเขา

“อ๊ะ…!”

ปากของซอลจีฮูอ้าขึ้น

นี่ไม่ใช่จินตนาการหรือภาพหลอน

หอกพิสุจน์แทงลงไปบนร่างของยูนิคอร์นแล้ว ในที่สุดเขาก็เจาะทะลุบาเรียไปได้

ซอลจีฮูตะโกนขึ้นสุดเสียง

“คุณแบคแฮจู”

ในเวลาเดียวกันร่างของแบคแฮจูก็ย่นระยะห่างเข้ามาอย่างรวดเร็ว

เธอได้เหยียดแขนออกไปอย่างใจเย็นพร้อมออร่ารอบตัว เมื่อเธอทำแบบนี้ออร่าทั้งหมดรอบตัวก็ได้มารวมกันที่ปลายหอก และรวมกันเป็นจุดเล็กๆที่เล็กยิ่งกว่าเล็บนิ้วมือของเด็กทารก

จากนั้น

หอกคถาคตของแบคแฮจูได้ปัดผ่านอาวุธทั้งหมด ลอดผ่านช่องว่างเล็กๆที่หอกพิสุจน์สร้างขึ้น และในที่สุดก็ทะลวงเข้าไปในร่างความสงบอันบ้าคลั่ง

“ย๊ากกก!”

ตูม

เสียงระเบิดดังขึ้นพร้อมๆกับร่างกายของยูนิคอร์นที่พองขึ้นเหมือนหมู เมื่อมันพองขึ้นจนถึงจุดที่กำลังจะระเบิดออก ออร่าสีเขียวก็ได้เริ่มทะลักออกมาจากร่างกายมันเหมือนน้ำมันที่ออกมาจากเนื้อสัตว์

ในตอนนี้เองแบคแฮจูก็ได้ตอบกลับเสียงเรียกซอลจีฮู

“จีฮู!”

ต่อจากนั้นน้ำศักดิ์สิทธิ์ก็ได้ออกมาจากร่างกายเธอเหมือนแม่น้ำที่ไหลผ่านเขื่อน ในเวลาเดียวกันพลังสายฟ้าจำนวนมหาศาลก็ได้หลั่งไหลออกมาจากตัวซอลจีฮูเหมือนฟ้าผ่า

ทั้งสองคนได้เริ่มหลอมรวมพลังเข้าด้วยกันจนกลมกลืนเป็นพลังชนิดเดียวกัน