ชาวไหวเจียงใช้สมุนไพรเหล่านี้ไม่เป็น เป็นไปได้มากว่า ซูจิ่นซีเป็นผู้ใช้มัน
“มีวิธีทำให้รู้ว่าผึ้งเหล่านี้มาจากทางใดหรือไม่? ” เยี่ยโยวเหยาถามอย่างกระวนกระวายใจ
จอมวายร้ายไป๋เฉ่าชักสีหน้าพูดว่า “เจ้าชอบทำเก่งไม่ใช่หรือ? เหตุใดจึงถามข้า? ไปหาเองสิ”
“จอมวายร้าย! ” มู่หรงฉีกระชากเสียงต่ำใส่จอมวายร้ายไป๋เฉ่า “นี่มันเวลาใดแล้ว อย่างี่เง่าปากพล่อยนักเลย”
จอมวายร้ายไป๋เฉ่ามองเยี่ยโยวเหยาด้วยแววตาข่มขู่ “เยี่ยโยวเหยา วันนี้ไม่ใช่เพราะข้าหวาดกลัวเจ้า แต่เป็นเพราะแม่นางพิษน้อย หากไม่ใช่เพราะนาง ข้าก็คร้านจะสนใจเจ้า”
เมื่อสิ้นคำพูดของจอมวายร้ายไป๋เฉ่า เยี่ยโยวเหยาก็กระแทกฝ่ามือไปที่หน้าอกของเขาหนึ่งที
นี่เป็นการสั่งสอนความปากร้ายของเขา ก่อนหน้านี้เยี่ยโยวเหยาเคยเตือนไว้แล้ว
ตอนนี้ทั่วร่างกายของจอมวายร้ายไป๋เฉ่าเต็มไปด้วยบาดแผล บาดแผลเหล่านี้ล้วนเป็นเยี่ยโยวเหยาที่มอบให้
“บัดซบ! เยี่ยโยวเหยา ข้า… ข้า… ” จอมวายร้ายไป๋เฉ่าขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน จากนั้นก็อดพูดไม่ได้ว่า “หลังจากออกไปแล้ว ข้าจะคิดบัญชีกับเจ้าทั้งเก่าและใหม่ ตอนนี้การช่วยแม่นางพิษน้อยสำคัญที่สุด ข้าไม่อยากโต้เถียงกับเจ้า”
“ข้าพร้อมเสมอ” เยี่ยโยวเหยาแสดงท่าทางไม่แยแส ท่ามกลางบรรยากาศอึมครึม เขาไม่ชายตามองจอมวายร้ายไป๋แม้แต่น้อย
จอมวายร้ายไป๋เฉ่าพูดจบก็ลากมู่หรงฉีให้เดินไปไกลจากเยี่ยโยวเหยาสักหน่อย เขานำผึ้งเหล่านั้นวางไว้ในมือของมู่หรงฉี จากนั้นก็หยิบสิ่งของแปลกประหลาดอย่างหนึ่งออกมาจากแขนเสื้อ
ของสิ่งนั้นดูแปลกประหลาด มันเป็นเหมือนหมูน้อยตัวหนึ่งที่ทำขึ้นจากไม้ ทว่ากลับมีปีกสองข้าง ปากของหมูน้อยยังตั้งใจทาเป็นสีชมพู ขนตาและดวงตาล้วนเป็นสีดำ มองแล้วน่ารักยิ่งนัก
“เจ้าตัวน้อย เจ้าตัวน้อย เจ้าต้องช่วยข้าตามหาแม่นางพิษน้อยให้พบ และนำคำพูดของข้าไปบอกนาง! ” จอมวายร้ายไป๋เฉ่าพูดพลางยื่นมือไปที่เจ้าตัวน้อย และพูดข้อความท่อนหนึ่งกับหมูน้อยตัวนั้น
เมื่อได้ยินข้อความนั้น มู่หรงฉีก็ขมวดคิ้วเป็นเกลียว
จากนั้นจอมวายร้ายไป๋เฉ่าจึงนำผึ้งเหล่านั้นที่อยู่บนมือของมู่หรงฉี ยัดเข้าไปในท้องของหมูน้อยที่ทำจากไม้
เมื่อทำทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย จอมวายร้ายไป๋เฉ่าก็ลูบไปที่ศีรษะหมูน้อยเบาๆ ก่อนจะกางฝ่ามือออก นึกไม่ถึงว่าหมูน้อยกลไกตัวนั้นจะกระพรือปีกบิน
“เจ้าฉี มันบินไปแล้ว! ”
จอมวายร้ายไป๋เฉ่าฉุดมู่หรงฉีให้ไล่ตามหมูน้อยกลไกที่ทำจากไม้
มู่หรงฉีหันหลังมาตะโกนเรียกเยี่ยโยวเหยา “โยวอ๋อง ทางนี้! ”
เยี่ยโยวเหยารีบตามพวกเขาไปทันที
ขณะที่เดินไป ภายในใจของพวกเขาทั้งสามก็ปรากฏความประหลาดใจ
คิดไม่ถึงว่าสถานที่ที่พวกเขาอยู่ก่อนหน้านี้ เป็นเพียงมุมเล็กๆ มุมหนึ่งของตำหนักใต้ดินในหุบผาราชันพิษเท่านั้น พวกเขาไม่อาจทราบถึงความกว้างใหญ่ที่แท้จริงของตำหนักใต้ดิน
หมูน้อยกลไกที่ทำจากไม้นำทางพวกเขาไปยังสถานที่แปลกประหลาด หากไม่พบกับผึ้งเหล่านั้น และหากไม่มีหมูน้อยกลไกของจอมวายร้ายไป๋เฉ่านำทาง พวกเขาไม่มีทางหาพบอย่างแน่นอน
ระหว่างทางในตำหนักใต้ดิน มู่หรงฉีพูดกับจอมวายร้ายไป๋เฉ่าด้วยความประหลาดใจ “ข้าว่าสัตว์กลไกตัวน้อยของเจ้าน่าอัศจรรย์ยิ่ง แต่ความสามารถในการทำลายค่ายกลของเจ้ากลับแย่มากจริงๆ ”
จอมวายร้ายไป๋เฉ่าเชิดหน้าขึ้นแล้วพูดว่า “ข้าเพียงไม่ได้ใส่ใจวิชาเหล่านี้ของสำนักถังเหมิน หากข้าต้องการเรียนรู้ ย่อมไม่มีสิ่งใดในใต้หล้าที่ยากเกินความสามารถของข้า”
มู่หรงฉียิ้มแล้วพูดว่า “ใช่ หากกลับออกไปได้ในครั้งนี้ เจ้าจะต้องเรียนรู้เกี่ยวกับด้านกลไกเพิ่มเติม”
“แน่นอน! ”
หลังสิ้นเสียงคำพูดของจอมวายร้ายไป๋เฉ่า เขาก็เพิ่งตระหนักได้ว่าตนเองเป็นเหมือนที่มู่หรงฉีพูด
เมื่อก่อนจอมวายร้ายไป๋เฉ่ามีโอกาสมากมายที่จะเรียนรู้วิชาค่ายกลของสำนักถังเหมิน ทว่าเขาไม่ยอมศึกษา มู่หรงฉีโน้มน้าวหลายต่อหลายครั้งแต่เขาก็ไม่ยอมฟัง
คิดไม่ถึงว่าครั้งนี้ จอมวายร้ายไป๋เฉ่าจะตอบตกลงมู่หรงฉีอย่างง่ายดาย
ขณะที่จอมวายร้ายไป๋เฉ่าหันไปมองอีกครั้ง มู่หรงฉีก็เดินนำหน้าเขาไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม แม้ครั้งนี้มู่หรงฉีจะไม่พูด เขาก็ตัดสินใจแล้วว่า หลังจากกลับออกไปได้จะตั้งใจศึกษาอย่างแน่นอน ไม่ใช่เพื่อสิ่งอื่นใด ทว่าเผื่อในกรณีที่ซูจิ่นซีต้องการในครั้งหน้า เขาจะสามารถช่วยเหลือนางได้ทันที
ทั้งสามคนเดินตามหมูน้อยกลไกมาได้ราวสี่ชั่วยามแล้ว แต่ยากจะคาดการณ์ได้ว่าตอนนี้พวกเขาอยู่ที่ใด พื้นที่ของตำหนักใต้ดินยิ่งซับซ้อนมากขึ้นเรื่อยๆ
ท้ายที่สุด หมูน้อยกลไกก็นำทางพวกเขามาถึงทางออก ทว่าสถานที่ตั้งของทางออกกลับเป็นหน้าผาแห่งหนึ่ง
หน้าผานี้ไม่เพียงสูงชันยิ่งกว่าปากทางเข้าหุบผาราชันพิษเท่านั้น ทว่ายังลึกมากอีกด้วย
เยี่ยโยวเหยากระโดดตามหมูน้อยกลไกลงไปโดยไม่ลังเล
มู่หรงฉีอดขมวดคิ้วไม่ได้ เขาหันไปมองจอมวายร้ายไป๋เฉ่าแล้วพูดว่า “จอมวายร้าย เจ้าไหวหรือไม่? ”
จอมวายร้ายไป๋เฉ่าไม่ค่อยแน่ใจนัก ก่อนหน้านี้เขาได้รับบาดเจ็บจากคมกระบี่ของเยี่ยโยวเหยา และยังได้รับความลำบากตอนที่ลงมายังปากทางเข้าหน้าผา ตอนนี้ยังได้รับบาดเจ็บถึงสองครั้ง หากคิดจะลงไปจากหน้าผานี้… อันตราย!
“บัดซบ ทั้งหมดเพราะถูกเจ้าบ้าเยี่ยโยวเหยาทำร้ายทั้งนั้น! ”
“เจ้าก็พูดจาให้น้อยลงหน่อยเถิด สิ่งที่ทำร้ายเจ้าก็คือปากของเจ้าเอง เจ้ายังไม่รู้จักสงบปากสงบคำอีกหรือ? ”
“ตั้งแต่ข้าเกิดมา ก็ไม่รู้ว่า คำว่ากลัวนั้นเขียนอย่างไร”
มู่หรงฉีส่ายศีรษะอย่างเสียไม่ได้ “ถ้าเช่นนั้น เจ้ารออยู่ตรงนี้ก่อน ข้าและโยวอ๋องจะตามหมูน้อยกลไกไป หากตามจนพบแล้ว ข้าจะให้หมูน้อยกลไกส่งข่าวให้เจ้า”
“ได้อย่างไร? หมูน้อยกลไกเป็นของข้า หากตามหาแม่นางพิษน้อยจนเจอ ก็เป็นความดีความชอบของข้า วันนี้เยี่ยโยวเหยาทำเก่งให้พวกเราออกมาจากห้องลับได้ครั้งหนึ่งแล้ว ข้าไม่ยอมให้เขาแย่งความดีความชอบไปจากข้าต่อหน้าต่อตาแม่นางพิษน้อยหรอก”
จอมวายร้ายไป๋เฉ่าพูดพลาง เตรียมกระโดดลงหน้าผา ตามหมูน้อยกลไกไป
ขณะที่ทั้งสองกำลังสนทนากัน เยี่ยโยวเหยาที่กระโดดตามหมูน้อยกลไกลงไปแล้ว ก็กลับขึ้นมาบนยอดหน้าผาอีกครั้ง
จอมวายร้ายไป๋เฉ่าไม่ต้องการเปิดเผยให้เยี่ยโยวเหยารู้เรื่องที่ตนไม่กล้ากระโดดหน้าผา จึงแสร้งเงยหน้าขึ้นแสดงท่าทีไม่สนใจเยี่ยโยวเหยา
ทว่าเยี่ยโยวเหยากลับเดินมาด้านข้างจอมวายร้ายไป๋เฉ่า และดึงแขนจอมวายร้ายไป๋เฉ่าไว้ พากระโดดลงจากหน้าผาทันที
“เยี่ยโยวเหยา เจ้าคิดจะทำอันใด? ”
เยี่ยโยวเหยาไม่มีท่าทีสนใจ มู่หรงฉีจึงรีบกระโดดตามลงไป เขาคว้าแขนจอมวายร้ายไป๋เฉ่าอีกข้างหนึ่ง ทั้งสองคนพยุงแขนของจอมวายร้ายไป๋เฉ่าและไล่ตามหมูน้อยกลไกลงไปพร้อมกัน
จอมวายร้ายไป๋เฉ่าเพิ่งตั้งสติได้ ทว่ายังคงปากร้าย “เยี่ยโยวเหยา อย่าคิดว่าเจ้าทำเช่นนี้กับข้าแล้วข้าจะรู้สึกซาบซึ้งอันใด บัญชีเก่าระหว่างข้ากับเจ้ายังต้องสะสางกันอยู่ดี”
“หาสิ่งที่ข้าต้องการให้พบ แล้วค่อยว่ากัน”
จากการยั่วยุของจอมวายร้ายไป๋เฉ่าครั้งแล้วครั้งเล่า เยี่ยโยวเหยาอดทนมามากพอแล้ว รอให้เขาหาสิ่งที่ต้องการพบก่อน แม้จอมวายร้ายไป๋เฉ่าจะไม่คิดบัญชีกับเขา เขาก็ต้องคิดบัญชีกับจอมวายร้ายไป๋เฉ่าแน่นอน
แม้พวกเขาทั้งสามจะลงมาถึงก้นเหวแล้ว ทว่าก็เกิดเรื่องลำบากเรื่องหนึ่งขึ้นอีกครั้ง
หมูน้อยกลไกหายไปแล้ว แม้เจ้าของอย่างจอมวายร้ายไป๋เฉ่าจะทำทุกวิถีทางเพื่อเรียกมันกลับมา แต่ไม่ว่าจะเรียกอย่างไร ก็ไม่มีสัญญาณตอบกลับจากหมูน้อยกลไกแม้แต่น้อย
เป็นไปไม่ได้!
หมูน้อยกลไกเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่จอมวายร้ายไป๋เฉ่าภูมิใจมากที่สุด แม้มันจะอยู่ไกลจากเขานับพันลี้ ทว่าเพียงได้รับสัญญาณจากเจ้านายของมัน มันก็จะกลับมาหา หากถูกผู้อื่นทำลาย จอมวายร้ายไป๋เฉ่าก็จะรับรู้ได้ ทว่ามันกลับหายไปอย่างไร้ร่องรอย
เพราะเหตุใดกัน?
มันถูกคนของกูสือซานพบแล้ว หรือเป็นเพราะสาเหตุอื่น?