ตอนที่ 272

Black Tech Internet Cafe System

ณ พื้นที่นอกเขตเมืองครึ่งท้องทะเลที่สว่างเริ่มมืดลง ก้อนเมฆปรากฏรูปตามจินตนาการเป็นรูปคนเดินตามดวงดวงดาวเจ็ดดวงพร้อมดาบที่ถือในมือ

 

เมฆหมอกทยานขึ้นบนท้องฟ้าขณะเดียวกันสายฟ้าฟาดก็พุ่งกระหน่ำเหมือนมังกรและงู!

 

ฟางฉียังไม่สามารถใช้พลังดาบสายฟ้าได้เสถียรเท่าไรนัก ทุกครั้งเขาต้องใช้บุหรี่เพื่อเป็นตัวช่วยพลังแห่งสวรรค์และดาบเวทย์มนตร์นี้มีพลังมากมันอาจฆ่าเขาได้หากทำผิดพลาดไป

 

ฟางฉีไม่ค่อยกล้าใช้มันเท่าแต่นอกเสียจากกรณีฉุกเฉิน อย่างไรก็ตามเขาได้รับแรงบันดาลใจส่วนหนึ่งจากหนังสือสวรรค์ เขาทำความเข้าใจกับเวทย์มนตร์ในการควบคุมสายฟ้าซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงกล้าใช้มันในตอนนี้

 

“ดูเหมือนฝนจะตก” ในท้องฟ้าอันกว้างและห่างไกลมีเรือวิญญาณขนาดใหญ่อันงามงดกำลังบินในสายลมอย่างต่อเนือง ขณะเดียวกันเมฆที่เคยสดใสกลับมืดมัวจนแสดงให้เห็นถึงความผิดปกติเล็กน้อย

 

“ฝนตกหรือ?” ชายหนุ่มผิวขาวในวัยราวๆ ยี่สิบกำลังยืนมองวิวบนเรือพึมพำกับตัวเอง การแสดงท่าทางของเขาดูลึกลับและเยือกเย็น ข้างหลังเขาคือผู้เพาะปลูกหญิงในรุ่นราวคราวเดียวกัน สังเกตได้ว่าพวกเขามาจากที่เดียวกัน

 

เด็กหฯิงทั้งสองกระซิบกันว่า “โชคดีที่เราเดินทางด้วยเรือมังกรของศิษย์พี่ต้วน! ข้าว่าเรือนี้คงไม่กลัวพายุแลบะฟ้าผ่าเจ้าคิดงั้นมั้ย?”

 

“ได้ยินมาว่าเรือมังกรของพี่ต้วนเป็นของขวัญจากผู้อาวุโส มันเป็นทางจิตวิญญาณที่ผู้อาวุโสนำไม้มาจากปรักหังพังมาต่อเติมและสลักรอยจิตวิญญาณอันแข็งแกร่ง!”

 

“มันทรงพลังมากงั้นสิ! อืม .. งั้นเราก็ตัดสินใจถูกต้องแล้วที่ออกมากับพี่ต้วน!”

 

“ศิษย์พี่ต้วนเป็นตัวอย่างผู้ฝึกฝนที่ดีที่สุดในรุ่น!” ผู้เพาะปลูกร่างอ้วนอีกคนเดินเข้ามา “ข้าได้ยินมาว่าพี่น้องหลายคนชื่นชมเขามากแถมยังกล่าวว่าเรือนี่เป็นเรือจิตวิญญาณที่ยอดเยี่ยมที่สุด!”

 

“แน่นอน!” ชายหนุ่มชุดขาวยิ้มอวดดี “มันเป็นสมบัติที่ลุงของข้าได้รับมาจากซากปรักหักพัง ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องธรรมดา! อ้อ .. แล้วข้าจะบอกพวกเจ้าเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้ มันมีสามคุณสมบัติอย่างแรกคือมันรวดเร็วมากจนไม่มีใครสามารถตามได้ทัน!”

 

ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! ขณะที่พวกเขากำลังพูดคุย จู่ๆ เสียงเคาะก็ดังขึ้น เสียงเคาะช่างดึงดูดความสนใจของทุกคน

 

พวกเขาเงยหน้าขึ้นก็พบเข้ากับเด็กหนุ่มอายุราวๆ เกือบยี่สิบปียืนอยู่ด้านนอกเรือ “พวกท่านช่วยบอกวิธีเดินทางไปยังเมืองมังกรดำทีได้มั้ย?”

 

โดยที่ไม่รู้ตัวผู้ฝึกฝนร่างอ้วนก็ชี้ไปยังทิศทางของเมืองนั้น

 

“เดี๋ยวนะ! เจ้ามาที่นี่ได้อย่างไร?” ชายหนุ่มชุดขาวได้สติเขารีบเอ่ยถามทันทีเพราะนี่มันเรือจิตวิญญาณไม่ใช่ท้องถนนธรรมดา!

 

“ข้าบินขึ้นมา!” ฟางฉีหันมองดาบที่อยู่ใต้เท้าของเขา “ขอบคุณ” เขาเอ่ยก่อนจะบินไปข้างหน้า

 

หญิงสาวที่เพิ่งพูดชมเชยอ้าปางค้างเมื่อเห็น

 

“เมื่อกี้มันคืออะไร?”

 

“เจ้านั่นทรงพลังมาก ..”

 

“และเขาก็ดูเด็กกว่าศิษย์พี่ต้วนอีก ..”

 

หญิงอีกคนที่มีใบหน้าอันงดงามเธอสวมชุดสีน้ำเงินเขียวเดินออกจากห้องโดยสารและมองที่ข้างหน้าด้วยความอยากรู้อยากเห็น “ท่านทั้งสองกำลังพูดเรื่องอะไรกันหรอ?”

 

พวกเขาชี้ไปข้างหน้าทันที “น้องหลินดูนั่นมีคนบางคนกำลังบินผ่านเราไปด้วยดาบ”

 

พวกเขามองดูจนร่างนั้นค่อยๆ หายเข้าไปในกลีบเมฆ เด็กหญิงอีกคนปิดปากของเธอด้วยมือ “ไม่อยากจะเชื่อเลยถ้าข้าไม่เห็นด้วยตาตัวเอง!”

 

ผู้ฝึกฝนร่างอ้วนพูดว่า “ศิษย์พี่ต้วน เราอยู่ไหนกัน?”

 

ทันทีที่เอ่ยถามดูเหมือนว่าเขาจะรู้บางอย่างจึงรีบเงียบชะงักทันที

 

ต้วนหลันกัดฟัน “เจ้าเด็กนั่นมาจากไหน!?”

 

 

ณ เมืองมังกรดำเมืองแห่งการเพาะปลูกที่ใกล้เคียงกับเมืองครึ่งที่สุดในพื้นที่ทะเลดวงดาว

 

ที่นี่ทะเลดวงดาวแตกต่างจากจิวหัวมันประกอบไปด้วยกองกำลังเพาะปลูกที่มีความสัมพันธ์อันซับซ้อนซ่อนเงื่อน ทุกคนที่เป็นบุคคลยอดเยี่ยมสามารถสร้างเมืองในภูมิภาคนี้ได้

 

เมื่อนี้มีชื่อว่ามังกรดำเนื่องจากผู้นำหวังปู่เต๋าได้จัดการกับมังกรดำผู้ดุร้ายด้วยความแข็งแกร่งด้านการเพาะปลูกที่เขาใช้เวลาเป็นพันปีเพื่อฝึกฝนในที่แห่งนี้

 

เช่นเดียวกับเมืองอื่นๆ เมืองมังกรดำได้รับการปกป้องอย่างเข้มงวดและผู้คนต้องเดินทางเข้าเมืองก่อนเวลาหนึ่งทุ่มของทุกวัน ยกเว้นผู้ที่มีตัวตนหรือคำเชิญพิเศษที่สามารถผ่านประตูด้านในเวลากลางคืนได้ สำหรับคนอื่นๆ พวกเขาต้องรอจนถึงเวลาเปิดประตูอีกอีกครั้งในวันถัดไป

 

ขณะนี้เวลาทุ่มหนึ่งแล้ว ยามสองคนกำลังทำหน้าที่ของตนพวกเขากำลังปิดประตูเมืองด้วยความประนีประนอม ขณะเดียวกันร่างหนึ่งบินไปหาพวกเขาด้วยความรวดเร็ว

 

ประตูเมืองที่กำลังจะปิดลงมีช่องทางแคบๆ ที่กว้างพอสำหรับคนคนหนึ่งจะผ่านไปได้

 

ฟิ้ว! ร่างหนึ่งบินเข้ามาเพียงเสี่ยววิประตูได้ปิดลง .. ยามทั้งสองตะลึงงั้นและมองย้อนกลับทันที

 

“เจ้าหนุ่ม เจ้าคือใคร? เจ้าไม่รู้หรือว่ามันได้เวลาปิดพอดี ..”

 

“ข้ารู้”

 

“แต่เจ้าก็ยังเข้ามาในเมืองหรอ?” ยามทั้งสองหน้าเสีย

 

“ข้าไม่ควรเข้าหรอ?” ฟางฉีกล่าวเสียงเรียบ “งั้นท่านช่วยเปิดประตูให้ข้าออกไปข้างนอกได้มั้ย?”

 

ทหารยามพูดไม่ออก

 

อินเทอร์เฟซของระบบเขาตอนนี้แสดงให้เห้นว่าแร่หินอยู่ในเมืองมังกรดำแห่งนี้

 

ขณะเดียวกันหวังซานและปีศาจดำพร้อมด้วยคนอื่นๆ ก็กำลังเล่นเกมเจ้ากระบี่ขั้นเทพเพิ่งเสร็จและกำลังจะออกเกม แต่พวกเขาจำได้ว่ายังไม่ได้เก็บผักจึงรีบเข้าคิวโซนทันที

 

หวังซานเดินเข้าไปในสวนของเขาและกำลังจะเก็บหัวผักกาดอันอวบอิ่ม “ทำไมถึงมีสามรู!?”

 

“หัวผักกาดของข้าทำไมเหลือแค่ครึ่งเดียว!?”

 

ปีศาจดำและคนอื่นๆ ก็เข้าไปดูสวนของตัวเองเช่นกัน ..​ หัวผักกาดของหลายคนหายไปเกือบครึ่ง!

 

ปีศาจดำทำหน้าสับสนมันเกิดอะไรขึ้น? ของข้าอยู่ที่ไหน? วังจินเองก็สงสัยไม่แพ้กัน

 

“ใครเป็นคนทำ!?” พวกเขามองไปรอบๆ มีใครอีกบ้างที่จะมาเหยียบที่นี่

 

ในไม่ช้าพวกเขาก็พบว่าเพื่อนๆ สามารถเข้ามาเยี่ยมชมสวนได้ เมื่อเรียกดูแทบข้างๆ พวกเขาก็เห็นการขอเพิ่มเพื่อนที่เพิ่มขึ้นหลังจากปลูกผัก

 

“…”

 

“ชิบ!”

 

“พวกหัวขโมยจากจิวหัว ขโมยผักของข้า!” ปีศาจดำหัวร้อนเล็กน้อย เขาจำได้ว่าอาจารย์ซงได้ส่งรูปมาหน้าโง่มาให้เขา

 

“บ้าเอ้ย!” เขาส่งอิโมจิรูปมีดกลับไปทันที

 

[ท่านถูกขึ้นบัญชีดำโดยผู้ใช้รายนี้]

 

เขาส่งอิโมจิรูปมีดอีกอัน

 

[ท่านถูกขึ้นบัญชีดำโดยผู้ใช้รายนี้]

 

เขาเบิกตาโพลงจึงลองส่งให้อีกคนหนึ่ง

 

“…”

 

“แม่งเอ้ย!” เขาโกรธมากและรีบเปิด QQ ตามเหล่าผู้คุมให้มารวมตัวกันที่นี่ [ข้าต้องการฆ่าพวกมัน!]

 

[เวลาใช้งานประจำวันนี้ของท่านหมดลงแล้ว โปรดกลับมาใหม่ในวันพรุ่งนี้]

 

“…”